หมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม

ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

วันที่ 12 มกราคม 2565 นายสุรินทร์ ชูเพชร ผู้อำนวยการฝ่าย บ.โตโยต้าสุราษฎร์ธานี จำกัด ได้เปิดเผยว่าขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้สร้างลิ้งค์ โดยอ้างว่า “โตโยต้าฉลองครบรอบ 80 ปี” และจะมีลิ้งค์กดเพื่อให้ประชาชนตอบแบบสอบถาม และแจ้งข้อมูลส่วนตัวต่างๆ หากโชคดีจะได้รับรางวัลเป็นรถยนต์ โตโยต้าโคโรลล่า

ล่าสุดโลกโซเชี่ยลใน จ.สุราษฎร์ธานี แอปพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มต่างๆ หรือไลน์ส่วนตัวได้มีการส่งต่อลิ้งค์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้าไปตอบแบบสอบถาม ซึ่งทำให้มิจฉาชีพสามารถล้วงข้อมูลบัญชีทางการเงิน หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ทำให้เกิดความเสียหายได้

จึงขอแจ้งเตือนมายังประชาชนว่า “อย่าหลงเชื่อ” กับลิ้งค์ข้อความที่ส่งมาในลักษณะดังกล่าวเนื่องจากทางบริษัทโตโยต้า ไม่ได้มีนโยบายดังกล่าว แต่อย่างใด .

ลูกฆ่าพ่อหนีไม่รอดถูกตำรวจรวบทันในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้ไม่ถึง 20 นาที

เมื่อเวลา 08.20 น วันที่ 11 มค 2565 รตอ วิชิต ลาชัย ร้อยเวร สถ น้ำโสม ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุฆ่ากันตาย ที่ บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 1 บ้านโสมเยี่ยม ต โสมเยี่ยม อ น้ำโสม จ อุดรธานี ตน จึงรายงานไปยัง พตอ เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก สภ น้ำโสมทราบ เมื่อรับรายงานแล้ว ผกก นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ ทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีชายผู้หนึ่งถึงตึกด้วยเหล็กท่อน นอนคว่ำ นอนจมกองเลือดอยู่ ผกก สั่งการให้รีบหามือฆ่า ต่อมาประมาณ 10 นาที สามารถรวบตัวชายมือฆ่าได้ทันควันในที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม ทราบว่ามือฆ่า คือนายธีรพงษ์ คำเกิด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 1 บ้านโสมเยี่ยม ต โสมเยี่ยม คือบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ตายถูกตึด้วยท่อนเหล็กท่อแป๊ป ตายนั้นคือ นายประไพ คำเกิด อายุ 47 ปีซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของ นายธีรพงศ์ฯมือฆ่า อยู่บ้านเดียวกัน จากการสอบถามนายธีรพงษ์ฯมื ฆ่าพ่อ ในที่เกิดเหตุ รับว่า สาเหตุมาจากว่า ตนได้เอารถจักรยานยนต์ พ่อ(ผู้ตาย)ไปขี่ ต่อมาผู้ตายเห็นเบาะรถขาดจึงสอบถามตน และเกิดโต้เถียงกันอย่างรุ่นแรง ในขณะที่โต้เถียงกัน

นั้น นายธีรพงษ์ฯให้การว่า ผู้เป็นพ่อ คือผู้ตายได้ใช้ท่อแป๊ปที่เป็นท่อนเหล็กมาตีตน ตนจึงเอามือมารับหลายทีและต่อมาตนได้ผลักผู้ตายออก ทำให้ผู้ตายล้มลง ตนจึงหยิบเหล็กฉากที่อยู่ตรงนั้นขึ้นมาแล้ว กระหน้าตีไปที่ศีรษะ ถึงแก่ความตาย ทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และทาง พตอ เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก กล่าวว่าพรุ่งนี้จะทำแผนประกอบคำว่าสารภาพ ช่วงเช้าและทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีจะเดินทางมาร่วมในการทำแผนประกอบคำสารภาพ และแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้
นายวรเชษฐ์ ธรรมเขต ผู้สื่อข่าว จ อุดรธานีรายงาน ,0817993021

ปัตตานี_070165 – ระทึก คลิปนาทีระเบิดรถทหารพรานเจ็บ 4 นาย

คลิปเหตุการณ์ระทึก คนร้ายลอบวางระเบิดรถบรรทุกหกล้อของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4304 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ครั้งนี้ เกิดขึ้น เมื่อเช้าเวลา 09.30 น. วันที่ 7 มค. 65 โดยเป็นคลิปหน้ารถยนต์ ของประชาชนที่ขับตามรถเจ้าหน้าที่ บนถนนสาย 418 เส้นทางบ้านมะพร้าวต้นเดียว-แยกดอนยาง ม.6 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งในภาพเป็นรถบรรทุกหกล้อของเจ้าหน้าที่ขับบนถนนที่กำลังปรับปรุงถนนใหม่และบังคับใช้เส้นทางเดียว โดยอีกเส้นทางปิดใช้งาน ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง กองทรายและหินได้ปะทุขึ้นท้องฟ้ากระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้รถของเจ้าหน้าที่ถูกแรงระเบิดบริเวณด้านซ้ายทำให้รถเสียการทรงตัว แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามขับต่อไปให้พ้นระยะระเบิดก่อนจะจอดริมถนนเพื่อวิทยุขอความช่วยเหลือ ขณะที่รถยนต์เจ้าของคลิปซึ่งขับตามหลังถูกเศษดินและก้อนหินตกลงหลังคารถจำนวนมาก แต่คนภายในรถปลอดภัยและได้ขับต่อไปข้างหน้า

ซึ่งหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สราวุธ นุชรังค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้นำกำลังพร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 พ.ต.อ.คมกฤช ศรีสงค์ ผกก.สภ.หนองจิกไปถึงได้ทำการปิดเส้นทางทันทีเพื่อความปลอดภัยก่อนจะเข้าตรวจสอบ พบบรรทุกหกล้อของเจ้าหน้าที่จอดข้างทาง สภาพถูกแรงระเบิดทำให้ตัวรถด้านซ้ายมีรูสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง ผ้าใบหลังคารถขาด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ถูกนำส่ง รพ.หนองจิก ทราบชื่อ 1.อส.ทพ ธีระ ลิมปสกุล อายุ 27 ปี อาการแน่นหน้าอก 2.อส.ทพ.สุรศักดิ์ อุไรรักษ์ อายุ 43 ปี บาดเจ็บตาข้างซ้าย 3.อส.ทพ.กรีฑาพล พรหมประดู่ อายุ 25 ปีอาการแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ และ 4.อส.ทพ.ปิยณัฐ พรรณดวง อายุ 25 ปี อาการแน่นหน้าอก ซึ่งทั้ง 4 นายอาการปลอดภัย นอกจากนี้ยังพบรถกระบะยี่ห้ออีซุซุ สีขาว 4 ประตู ทะเบียน กน 8295 สภาพกระจกหน้าร้าว ไฟหน้าแตกจากแรงระเบิด โดยมี นายวาทยุทธ พิชิตเวชยัน อายุ 42 ปี เป็นนายช่าง อบต.ยาบี อ.หนองจิก เป็นคนขับ อาการแน่นหน้าอกถูกนำส่ง รพ.หนองจิก เช่นกัน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณกองทรายข้างทางและมีชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารดังกล่าวเดินทางออกมาจากฐานปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ อ.แม่ลาน และกำลังเดินทางเพื่อไปรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่หน่วยในค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนคาดว่าน่าจะหลบซ่อนตัวในป่าข้างทางก่อนจะกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมบรรจุในถังแก๊สปิคนิคที่ฝังไว้ในกองทรายข้างทางจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเป็นช่วงที่ นายวาทยุทธ ขับรถสวนทางมาพอดี
ด้าน พอ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 ได้สั่งระดมกำลังและประสานหน่วยกำลังใกล้เคียงสนธิกำลังร่วมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุทันทีในรัศมี 500 เมตร คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และมีความเชียวชาญเส้นทางหลบหนี พร้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยทุกหลังที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องความมั่นคง เชื่อว่าน่าจะมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในการหลบซ่อนตัวและหลบหนี สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มก่อความไม่สงบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการวิสามัญคนร้ายและจับกุมหลายรายทีกทั้งต้องการแสดงศักยภาพในการสร้างสถานการณ์ความในสงบในพื้นที่

// ภาพข่าว- ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี //

ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

รายงาน : ชูเกียรติ บุญพร้อม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 มกราคม 2565 ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.วันชัย เอกพรพิชญ์ รองผบก.ภ.8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ฯ นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8 ,พันเอกประธาน ตลับทอง รองเสฯ มทบ.45 ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้ปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันได้สร้างผลกระทบและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำนโยบายของรัฐไปสู่หน่วยปฏิบัติการ ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ฯ เป็นพื้นที่จุดพักยาเสพติด และเป็นเส้นทางลำเลียงผ่านของยาเสพติด ไปสู่ภาคใต้ตอนล่าง และส่งต่อไปยังต่างประเทศ โดยได้บูรณาการระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน ในการปราบปรามยาเสพติด และอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องตลอดห้วงระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.64 – 3 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยการระดมกวาดล้างอาชญากรรมมีผลการจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทั้งหมดรวม 496 ราย ได้ผู้ต้องหารวม 551 คน จำแนกเป็นความผิดตามประเภทต่างๆคือ
– ยาเสพติด
– การพนัน
– พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
– อาวุธปืน
– สถานบริการ
– ผู้ต้องหาตามหมายจับ
– อายัดทรัพย์สินในความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดได้รวมมูลค่า 9,465,000 บาท

ด้านมาตรการป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดที่เกี่ยวข้อง,ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยสามารถจับผู้กระทำความผิดได้จำนวนหนึ่ง และดำเนินการตามคำสั่ง หัวหน้า ค.ส.ช.ที่ 22/2558 และ46/2558 ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน,ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ 28 คัน,จัดทำประวัติผู้กระทำผิด และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทางจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ สภ.บางสวรรค์ ได้ผู้ต้องหาคือ นายโชคชัย พรมดนตรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/5 ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ยึดของกลางเป็นยาบ้า 370,272 เม็ด,รถยนต์เก๋งยี่ห้อ TOYOTA SOLUNA สีน้ำตาล ทะเบียน กง 2758 นราธิวาส แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านการประชาสัมพันธ์การป้องกันเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประชาสัมพันธ์ไปยังร้านทอง,ธนาคาร พร้อมกำชับ รปภ.ฯ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์สถานที่จุดเสี่ยงเช่น ในห้างสรรพสินค้า,ร้านทองที่ไม่มีแผงเหล็กกั้น และกำชับให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกร้าน สำหรับการปฏิบัติตามนโยบายของ ผบช.ภ.8 เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถือ มาตรการในการป้องกันเหตุฯ เช่น โครงการตำรวจมาแล้ว,การตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด,การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ และการตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นการป้องปรามผู้ที่กระทำความผิดอีกทางหนึ่ง

โดยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจ ธนาคาร,ร้านทอง มีหน้าที่หลักในการตรวจตราธนาคารร้านทองโดยเฉพาะ และมี QR-code ตู้แดง 4.0 ทุกร้าน,โครงการฝากบ้าน 4.0 ก่อนเริ่มโครงการฯ ได้มีการประชาสัมพันธ์ ทุกทางช่องทางมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 40 หลัง และขณะนี้ สามารถคืนบ้านตามโครงการฯได้อย่างปลอดภัยทุกหลัง และได้รับความชื่นชมจากผู้เข้าร่วมโครงการ,นโยบายการตรวจตู้แดงร้านสะดวกซื้อ สายตรวจ จยย. และร้อยเวร 20 ตรวจตู้แดงร้านสะดวกซื้อในเขตพื้นที่รับผิดชอบพร้อมกับการ ปชส.เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน การก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อทุกผลัดตรวจ และสามารถตรวจสอบได้ทางแบบรายงาน อ.7 ของ Police 4.0 ซึ่งต้องส่งแบบรายงาน อ. 7 หลังออกเวรทุกผลัดตรวจ .

ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

รายงาน : เอก อนุชา

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาศูนย์วิทยุ 191 สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนเวรได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยกู้ภัยกุศลศรัทธาเพชรพนมวัง ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุในโรงจอดรถบ้านเลขที่ 21/1 ม.3 บ้านหน้าเขาล่าง ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พบรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อฟอร์ดสีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน ผต 221 สุราษฎร์ธานี ในรถมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพอยู่ด้านเบาะที่นั่งคนขับใส่ชุดสีกากี มีบาดแผลถูกยิงคาดว่าเป็นอาวุธปืนชนิดออโตเมติกไม่ทราบขนาด เข้าบริเวณศรีษะ เลือดไหลท่วมไปทั้งตัว และยังพบว่ามีรูกระสุนปืนทะลุออกบริเวณแคปหลังด้านซ้ายของตัวรถทำให้กระจกแตกทั้งบาน

ทราบชื่อผู้ตายคือนายนุกูล เรืองแท้ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “อบต.เล็ก” อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.3 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งเพิ่ง ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา โดยผู้ตายมีอาชีพทำสวนเป็นคนมีอุปนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นสมาชิก อบต.มาหลายสมัยต่อเนื่อง

แหล่งข่าวแจ้งว่าในวันเกิดเหตุได้มีการเรียกประชุมสมาชิกสภา อบต.ป่าร่อน ซึ่งในที่ประชุมก็ไม่มีปัญหาใดๆ กระทั่งประชุมเสร็จผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะคู่ใจกลับบ้านเมื่อเข้าจอดในโรงรถก็เกิดเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายมีความเครียดในเรื่องปัญหาส่วนตัว และปัญหาด้านสุขภาพ จึงก่อเหตุดังกล่าวสร้างความเสียใจให้กับชาวบ้าน และบรรดาญาติๆ เป็นอย่างมากเนื่องจากผู้ตายเป็นคนดี ส่วนรายละเอียดของคดีทางพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จะทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

ขอบคุณ : มูลนิธิกุศลศรัทธา

ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

รายงาน : น้อย บางใหญ่

วันที่ 3 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่ามีคนก่อเหตุฆ่าตัวตายในวันเดียวถึง 4 ราย ทำให้หลายๆคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยรายแรก เวลา 09.00 น.ร.ต.อ.ณัฐดนัย รุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตาย จึงได้ประสานศูนย์กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธากาญจนดิษฐ์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหลังบ้านเลขที่ 41 ม.9 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ใส่เสื้อยืดสีส้ม กางเกงยีนส์ขาสั้น ใช้ผ้าขาวม้าพันคอต่อด้วยเชือกไนล่อนผูกคอบริเวณเชิงชายหลังคาทราบชื่อคือนายศักดิ์นรินทร์ จินดารักษ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว พงส.ได้มอบหมายให้กู้ภัยนำร่างชันสูตรโดยละเอียดที่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

รายที่ 2 วันเดียวกัน เวลา 11.42 น. สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิต จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 230 ม.8 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อคือ นายประสาน ขานทอง อายุ 65 อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน สันนิษฐานว่าคนตายมีความเครียดจึงตัดสินใจตัดช่องน้อยเพื่อยุติปัญหา พนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้ จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเวียงสระ นำศพส่งชันสูตรโดยละเอียดที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ ต่อไป

รายที่ 3 เวลา 16.53 น. ร.ต.อ.ประจักษ์ สุ้นกี้ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบผู้เสียชีวิตลอยน้ำ ในแม่น้ำตาปี บริเวณศาลกรมหลวงชุมพร ม.5 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้เสียชีวิตเป็นชายสภาพศพลอยน้ำคว่ำหน้า ใส่เสื้อยืดมัดย้อม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ รูปร่างท้วม ผิวขาวทราบชื่อคือนายธีระยุทธ์ บุญซ้วน อายุ 37 ปี (ไม่ทราบที่อยู่) ส่วนสาเหตุจะทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป

รายที่ 4 รับแจ้ง เวลา 21.55 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในรถ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 27/1 ม.5 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี พบผู้เสียชีวิตเป็นชายในรถนั่งอเนกประสงค์ยี่ห้อเชฟโรเลต แคปติวา สีดำ ป้ายทะเบียน กอ 1640 สุราษฎร์ธานี ผู้เสียชีวิตสภาพศพนอนหงายบนที่นั่งคนขับปรับเอนเบาะไว้ ทราบชื่อคือนายสุทธิสิน ชีวะวิริยะนนท์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264 ม.1 ต.ตลาดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ ด้านท้ายรถพบเตาเหล็กมีเศษถ่านที่มอดแล้ว คาดว่าผู้ตายใช้วิธีรมควันตัวเองจนขาดอากาศหายใจในที่สุด

ตรวจสอบพบหลักฐานเป็นจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือใจความโดยสรุปเขียนว่า “ไม่มีความเศร้า ไม่มีใครบังคับ แต่มีปัญหาสะสมมากมาย ขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง” จากนั้นพนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้ จนท.กู้ภัยนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

ขอบคุณ : มูลนิธิกุศลศรัทธาฯ

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

โจรใต้ซุ่มยิงฐานทหารพรานที่ระแงะพลีชีพ 1 บาดเจ็บ 2

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 3 ม.ค. 65 ร.ต.อ.ชลทิศ เขียวอ่อน รองสารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4513 กรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลาแป ม.2 ต.บองอ และได้เกิดปะทะกันเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.ระแงะ พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณด่านจุดตรวจหน้าฐาน มีกองเลือดและปลอกกระสุนปืนจำนวนหนึ่งตกอยู่ ส่วนที่บริเวณป่ารกทึบข้างฐานห่างจากจุดด่านจุดตรวจประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบรอยเหยียบย่ำกิ่งไม้หักเป็นบริเวณกว้าง และพบปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16 อา.ก้า.ของคนร้ายตกอยู่จำนวนกว่า 30 ปลอก และบริเวณป่ารกทึบตรงข้ามฐาน เจ้าหน้าที่พบสภาพพื้นที่มีร่องรอยของเท้าคนเหยียบย่ำเป็นวงกว้างเช่นกัน และพบปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16 และ อา.ก้า.รวมทั้งปลอกกระสุนปืนลูกซอง ตกอบู่จำนวนกว่า 40 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิต 1 นาย คือ ส.ต.เอกชัย กูเก็ม และได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ อส.ทพ.มงคล อัญประเสริฐ รวมทั้ง อส.ทพ.นันธวัฒน์ ทองใหญ่ เพื่อนทหารได้นำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะไปก่อนหน้า
จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่ ส.ต.เอกชัย หัวหน้าชุด ได้นำกำลังพล รวม 6 นาย ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณหน้าฐาน ได้มีคนร้ายจำนวนประมาณ 10 คน

พร้อมอาวุธปืนครบมือ โดยแยกออกเป็น 2 ชุด ซึ่งชุดที่ 1 แอบแฝงตัวเดินลัดเลาะมาจากด้านหลังของฐาน และชุดที่ 2 แอบลัดเลาะเดินย่องมาจากป่าฝั่งตรงข้ามของฐาน เมื่อสบโอกาสคนร้ายทั้ง 2 ชุด ได้ใช้อาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 6 นาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านจุดตรวจหน้าฐาน จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกัน และเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในฐานก็ได้เข้าจุดกำบังใช้อาวุธปืนยิงสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ด้านนอก เป็นเวลานานกว่า 30 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเบิกทาง และอาศัยความชำนาญพื้นที่สามารถหลบหนีไปได้ ต่อมาเมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบว่า ส.ต.เอกชัย ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ส่วน อส.ทพ.มงคล และ อส.ทพ.นันทวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมา พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 45 จึงได้จัดกำลังแยกออกเป็น 4 ชุด คือ ชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ส่งแกะรอยเส้นทางกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งมุงหน้าขึ้นไปยังเทือกเขาหลังหมู่บ้าน ส่วนชุดที่ 3 และ 4 ใช้กฎอัยการศึกในการตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่บ้านลาแป ม.2 และบ้านสาเมาะ ม.1 ต.บองอ ซึ่งผลการปฏิบัติยังไม่มีรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้แต่อย่างใด

คืบหน้า หนุ่มพม่าซ้อมแฟนสาวดับหลังเห็นภาพบาดตานัวเนียกับเพื่อนเจ้าของห้องเช่าเผยฝ่ายหญิงมาเช่าอยู่ก่อนประมาน 9 เดือน เห็นเป็นคนธรรมมะนุ่งขาวห่มขาวนั่งสมาธิประจำส่วนฝ่ายชายเพิ่งมาอยู่ด้วย 2 เดือน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 3 ม.ค.65 จากเหตุการณ์ที่เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 2 มกราคม 2564 ร.ต.อ.นิติภูมิ รัตนวรรณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเข้าควบคุมตัวนายเมา ซอ มิน ทะ อายุ 40 ปี ชาวพม่า หลังจากที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางสาว say mar ryaw อายุ 30 ปี แฟนสาวชาติเดียวกันอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งตัว รพ.บ้านบึง แต่เนื่องจากอาการสาหัสถูกส่งรักษาต่อที่ โรงพยาบาลชลบุรี อาการเบื้องต้นกะโหลกศีรษะแตกหลายที่ มีเลือดออกในช่องท้อง ความดันต่ำ ชีพจรเร็ว ผู้บาดเจ็บหัวใจหยุดเต้น ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและทำ cpr จนกลับมามีชีพจร ประสานงานส่งต่อ โรงพยาบาลชลบุรี แรกรับที่โรงพยาบาลชลบุรี หัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง แพทย์ทำการ cpr จนมีชีพจรแต่อาการไม่ค่อยดี ความดันต่ำ ภายหลังเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลชลบุรี

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 3 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 710/1 หมู่ 9 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้พบกับ นายกาญตะวัน นามลักษณ์ อายุ 62 ปี เจ้าของห้องเช่าได้เปิดเผยว่า ตั้งแต่ผู้หญิงที่เสียชีวิตมาอาศัยเช่าอยู่ประมาณ 9 เดือนแล้ว ส่วนผู้ชายเป็นผู้ก่อเหตุได้ตามมาทีหลังมาอยูาด้วยกันประมาน 2 เดือน ตลอดระยะเวลาตนเห็นฝ่ายหญิงนุ่งขาวห่มขาวนั่งสมาธิสวดมนต์เป็นประจำ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้เพราะตลอดเวลาที่ห้องเช่าไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ตนจะคอยปรามและห้ามตลอดเวลาไม่ให้ทะเลาะกันถ้าตนอยู่คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน แต่วันเกิดเหตุตนไปทำธุระที่อำเภอบ้านบึง พอกลับมาอีกทีก็มีคนเล่าให้ฟังตนก็ยังเสียใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นส่วนใหญ่กลุ่มแรงงานที่มาพักอาศัยเป็นพม่า จะพูดไทยและฟังไทยไม่ค่อยได้ ตนจะเก็บค่าเช่าแต่ละทีต้องเอาล่ามมาพูดและแปลให้ทุกครั้ง

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี

ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

รายงาน : ชูเกียรติ บุญพร้อม

วันที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 11.40 น. เกิดเหตุระทึกที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างที่สิบเวรได้นำผู้ต้องหาหลังจากพนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จเปิดประตูเพื่อส่งตัวเข้าห้องควบคุม ปรากฎว่ามีผู้ต้องหาที่อยู่ในห้องควบคุมตัวประกอบด้วย

• นายสรรเสริญ หรือ ตั้ม ชูเกิด อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด,อาวุธปืน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

• นายธานินทร์ สุวรรณพาณิช อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา พ.ร.บ.อาวุธปืน

• นายเอกนรินทร์ สุวรรณพาณิช อายุ 18 ปี (น้องชายนายธานินทร์) โดยทั้งหมดได้ร่วมกันผลักประตูห้องควบคุมจากด้านในสวนออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ล้มลง จากนั้นได้ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และพากันวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว โดยสามารถจับตัวนายเอกนรินทร์ เอาไว้ได้บริเวณหน้า สภ.กาญจนดิษฐ์หลังรับรายงาน พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกไล่ล่าออกค้นหาผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนละแวกใกล้เคียงให้แจ้งเบาะแสอย่างเร่งด่วน ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันตำรวจรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบชายมีลักษณะใกล้เคียงกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเดินออกมาจากป่ามาขอน้ำกินที่บริเวณหลัง รพ.สต.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.กาญจนดิษฐ์ ประมาณ 500 เมตร สภาพไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นจึงนำกำลังเข้ากระชับพื้นที่ และพบว่าผู้ต้องหาได้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ตำรวจจึงเข้าค้นหาพบว่าหลบหนีขึ้นไปอยู่บนฝ้าเพดานคือนายสรรเสริญ ชูเกิด และได้จับกุมตัวเอาไว้ได้ในสภาพอิดโรย ต่อมาตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีได้ขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านไป และส่งเจ้า หน้าที่ชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัว นายธานินทร์ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในคลองได้เป็นรายสุดท้าย ปิดคดีลงได้อย่างงดงาม ซึ่งทางผู้บังคับการฯ ได้กล่าวชื่นชม จนท.ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง รวดเร็ว

หนุ่มโหดควงมีดบุกแทงสาวถึงในห้องพักเลือดแดงฉานเต็มพื้นและมานอนเสียชีวิตที่หน้าลิฟท์

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 26 ธันวาคม 2564 พ.ต.ท.ไชยยณัฐ มาพงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 7 อาคารเมืองทองคอนโด ตึก B2 เลขที่ 164 หมู่ 7 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก. สภ.บางพลี กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 10 ชั้นที่บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 7 ได้พบร่างของ น.ส.อินทุอร กอหาร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 10 ต.วังตะกู อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่หน้าลิฟท์ โดยมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่บริเวณต้นขาซ้ายซึ่งเป็นบาดแผลฉกรรจ์และมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากแดงฉานเต็มพื้นซึ่งไหลนองออกมาจากห้องที่ 164 / 143 ซึ่งอยู่ห่างจากลิฟท์ประมาณ 10 เมตร และเป็นห้องพักของผู้เสียชีวิตภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของกระจัดกระจายและมีเลือดไหลนองเต็มพื้นห้องและได้พบมีดสแตลเลทยาวประมาณ 10 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ และที่พื้นบริเวณนอกห้องได้พบรอยเท้าเปื้อนเลือดวิ่งออกไปจากห้องหลบหนีไปลงทางบันใดหนีไฟซึ่งอยู่ก่นข้างเชื่อว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของผู้ก่อนที่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบางพลี ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ
จากการสอบถามนายวราวุฒิ ขวัญมา อายุ 37 ปี ซึ่งพักอยู่ห้องเยื้อง ๆ กับห้องผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงคล้ายมีการทะเลาะกันข้างของตกกระแทกพื้นออกมาจากในห้องของผู้เสียชีวิต ตอนแรกตนก็ไม่ได้ออกมาดู เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน ก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตูออกมาและได้ยินเสียงผู้ตายร้องตะโกนว่าช่วยด้วย ตนจึงมันใจว่าไม่น่าจะใช่เรื่องผัวเมีย ตนจึงเปิดประตูออกมาดู ได้เห็นรอยเลือดแดงฉายเป็นทางออกจากห้องไปที่หน้าลิฟท์ ตนจึงรีบตามไปดูได้เห็นผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัวไปยืนอยู่ที่ระเบียงด้านหน้าก่อนที่จะเดินมาล้มลงที่หน้าลิฟท์ แต่ไม่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้นหญิงคนดังกล่าวยังพอมีสติอยู่ได้บอกว่า ช่วยหนูด้วยหนูถูกทำร้ายมันงัดห้องเข้ามา ที่ตนเห็นหญิงคนดังกล่าวมีบาดแผลถูกแทงที่ต้นขาเป็นแผลขนาดใหญ่เลือดไหลออกมาจำนวนมาก ตนจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน น.ส.ธิติมา อินคำแหง อายุ 22 ปี ซึ่งมีห้องพักอยู่ที่ชั้น 6 ได้เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนอนอยู่ได้ยินเสียงข้าวของตกกระแทกพื้นดังมาจากห้องด้านบนและเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ ตนและแฟนจึงเปิดประตูออกมาดู ระหว่างที่กำลังเดินหาที่มาของเสียง ก็ได้มีชายรูปร่างผอมสูงประมาณ 165 เซนติเมตร ใส่เสื้อกีฬาสีแขนสั้นสีน้ำเงิน ใส่กางเกงสีดำขาสามส่วน ซึ่งคากว่าไม่น่าจะเป็นคนไทย วิ่งลงมาทางบันใดหนีไฟ ในสภาพเนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยเลือดและวิ่งมาประจันหน้ากับตนก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะมีอาการตกใจและวิ่งย้อนกลับไปลงบันใดหนีไฟลงไปทางด้านล่าง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เปิดภาพกล้องวงจรที่ติดตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารดังกล่าว ได้พบเห็นผู้เสียสวมลงมาซื้อของที่ชั้นล่างก่อนที่จะเดินกลับมาขึ้นลิฟท์ในเวลาประมาณ 22.55 น.ของวานนี้ และในเวลา 23.25 น.มีคนมาพบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าลิฟท์ หลังจากนั้นก็ไม่พบเห็นใครลงมาที่ชั้นล่างอีกเลย จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะซ้อนตัวอยู่ในอาคารที่เกิดเหตุและผู้ก่อเหตุก็ไม่สวมใส่รองเท้าเดินทางเท้าเปล่าแล้วเข้าไปก่อเหตุก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกมาในสภาพเท้าเปล่าและไปเหยียบกองเลือดในขณะหลบหนีจนมีรอยเท้าเปื้อนเลือดเป็นทางยาวตั้งแต่ชั้นที่ 7 ที่เกิดเหตุและรอยเท้าเปื้อนเลือดหายไปที่บริเวณทางบันใดหนีไปที่บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังทำเคาะประตูเรียกเข้าไปตรวจดูแต่ละห้องแต่ก็ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ แต่ก็ยังมีบางห้องที่เปิดไม่ได้เนื่องจากเป็นห้องเปล่าเจ้าของได้ปิดล็อกเอาไว้
พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ได้กล่าวว่า เชื่อว่าคนที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกันกับที่เกิดเหตุ เนื่องจากการตรวจสอบรอยเลือดตามทางพบว่าคนร้ายเดินเท้าเปล่าวนขึ้นลงตามบันไดหนีไฟ และมีการแอบฉกเสื้อของชาวบ้านสีเหลืองที่ตากไว้ที่ราวด้านนอกระเบียนข้างลิฟท์ชั้นสามไป 1 ตัว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ก่อเหตุ หนึ่งตัวคาดจะใช้ในการอำพรางตัวหลบหนี โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20นาย กระจายกำลังค้นหาผู้ต้องสงสัยตามห้องต่างๆทุกชั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวคนร้าย เนื่องจากที่เกิดเหตุภายในคอนโดแห่งนี้พบว่ามีกล้องวงจรปิดที่ชั้นหนึ่งด้านหน้าเพียงอย่างเดียวไม่มีกล้องตามชั้นแต่อย่างใด ขณะนี้สั่งสแกนคนเข้าออกจัดทำประวัติไว้ทุกรายหลังจากนี้ ส่วนประเด็นของการก่อเหตุตั้งไว้หลายประเด็น ไม่ว่าจะเรื่องชู้สาว พยายามบุกมาข่มขืนแต่ผู้ตายขัดขืนจึงเกิดการตู่สู้รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง

*** ก๊วก สมุทรปราการ ***