“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย เครือข่ายโคกหนองนามุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด และสวท.มุกดาหาร ร่วมกิจกรรม เอา
มื้อสามัคคี “ดำนาข้าวไรซ์เบอรี่แบบปราณีต” พร้อมปลูกพืช บนคันนาทองคำ ณ สวนหลังจวน เนื่องในวโรกาส วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2566 (หลังจากเก็บเกี่ยว ไปในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา )

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำสวนหลังจวน เป็นศูนย์ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่ตันแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มีการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้ยืนต้น ทำนาปลูกข้าว การเลี้ยงปลา กบ เป็ด ไก่ ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติและจัดการตามบริบทพื้นที่ เพื่อให้เป็นจุดเรียนรู้และศึกษาดูงานของหน่วยงาน องค์กรเครือข่าย และประชาชน บุคคลทั่วไปที่สนใจ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พื้นที่หลังจวนผู้ว่าฯต้องการทำเป็นแบบอย่างเพื่อให้ข้าราชการและประชาชนได้นำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเกษตรผสมผสานตามความเหมาะสมของพื้นที่
สำหรับข้าวที่ปลูกในครั้งนี้ เป็นข้าวไรซ์เบอรี่ จำนวน 5,000 กอ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน จึงจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว และกิจกรรมในวันนี้ยังได้สร้างความรักสามัคคี ทั้งการทำงานและรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข.

Cr. ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย เครือข่ายโคกหนองนามุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด และสวท.มุกดาหาร ร่วมกิจกรรม เอา
มื้อสามัคคี “ดำนาข้าวไรซ์เบอรี่แบบปราณีต” พร้อมปลูกพืช บนคันนาทองคำ ณ สวนหลังจวน เนื่องในวโรกาส วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2566 (หลังจากเก็บเกี่ยว ไปในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา )

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำสวนหลังจวน เป็นศูนย์ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่ตันแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มีการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้ยืนต้น ทำนาปลูกข้าว การเลี้ยงปลา กบ เป็ด ไก่ ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติและจัดการตามบริบทพื้นที่ เพื่อให้เป็นจุดเรียนรู้และศึกษาดูงานของหน่วยงาน องค์กรเครือข่าย และประชาชน บุคคลทั่วไปที่สนใจ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พื้นที่หลังจวนผู้ว่าฯต้องการทำเป็นแบบอย่างเพื่อให้ข้าราชการและประชาชนได้นำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเกษตรผสมผสานตามความเหมาะสมของพื้นที่
สำหรับข้าวที่ปลูกในครั้งนี้ เป็นข้าวไรซ์เบอรี่ จำนวน 5,000 กอ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน จึงจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว และกิจกรรมในวันนี้ยังได้สร้างความรักสามัคคี ทั้งการทำงานและรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข.

Cr. ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย เครือข่ายโคกหนองนามุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด และสวท.มุกดาหาร ร่วมกิจกรรม เอา
มื้อสามัคคี “ดำนาข้าวไรซ์เบอรี่แบบปราณีต” พร้อมปลูกพืช บนคันนาทองคำ ณ สวนหลังจวน เนื่องในวโรกาส วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2566 (หลังจากเก็บเกี่ยว ไปในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา )

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำสวนหลังจวน เป็นศูนย์ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่ตันแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มีการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้ยืนต้น ทำนาปลูกข้าว การเลี้ยงปลา กบ เป็ด ไก่ ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติและจัดการตามบริบทพื้นที่ เพื่อให้เป็นจุดเรียนรู้และศึกษาดูงานของหน่วยงาน องค์กรเครือข่าย และประชาชน บุคคลทั่วไปที่สนใจ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พื้นที่หลังจวนผู้ว่าฯต้องการทำเป็นแบบอย่างเพื่อให้ข้าราชการและประชาชนได้นำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเกษตรผสมผสานตามความเหมาะสมของพื้นที่
สำหรับข้าวที่ปลูกในครั้งนี้ เป็นข้าวไรซ์เบอรี่ จำนวน 5,000 กอ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน จึงจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว และกิจกรรมในวันนี้ยังได้สร้างความรักสามัคคี ทั้งการทำงานและรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข.

Cr. ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

“นาหลังจวน” ผู้ว่าฯมุกดาหาร พื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา เพื่อการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย เครือข่ายโคกหนองนามุกดาหาร นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมคณะฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด และสวท.มุกดาหาร ร่วมกิจกรรม เอา
มื้อสามัคคี “ดำนาข้าวไรซ์เบอรี่แบบปราณีต” พร้อมปลูกพืช บนคันนาทองคำ ณ สวนหลังจวน เนื่องในวโรกาส วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2566 (หลังจากเก็บเกี่ยว ไปในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา )

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำสวนหลังจวน เป็นศูนย์ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่ตันแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มีการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้ยืนต้น ทำนาปลูกข้าว การเลี้ยงปลา กบ เป็ด ไก่ ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติและจัดการตามบริบทพื้นที่ เพื่อให้เป็นจุดเรียนรู้และศึกษาดูงานของหน่วยงาน องค์กรเครือข่าย และประชาชน บุคคลทั่วไปที่สนใจ

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พื้นที่หลังจวนผู้ว่าฯต้องการทำเป็นแบบอย่างเพื่อให้ข้าราชการและประชาชนได้นำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเกษตรผสมผสานตามความเหมาะสมของพื้นที่
สำหรับข้าวที่ปลูกในครั้งนี้ เป็นข้าวไรซ์เบอรี่ จำนวน 5,000 กอ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน จึงจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว และกิจกรรมในวันนี้ยังได้สร้างความรักสามัคคี ทั้งการทำงานและรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข.

Cr. ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัย ม.แม่โจ้ คว้า 3 รางวัลระดับโลกงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023)
ณ สาธารณรัฐโปแลนด์

2 ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน The 16th International Invention and Innovation show (INTARG 2023) ซึ่งจัดโดย Eurobusiness-Haller ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ โดยมีประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย นำผลงานเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ประเทศ โดยผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับ 3 รางวัล ได้แก่

• รางวัล เหรียญทอง ผลงานวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมีเพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก”
โดย รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รศ. ดร.จตุรภัทร วาฤทธิ์ กว่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ มากกว่า 5 แสนตัน/ปี ซึ่งเป็นผลไม้หลักในการส่งออก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ประเทศจีนมีนโยบาย Zero-CoVid ดังนั้นหากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อ Covid-19 ที่ทุเรียน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศอาจสูญเสียรายได้ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งเทคโนโลยีเฮอร์เดิลด้วยโอโซนและเคมี หรือ เทคโนโลยีผสมผสาน โดยการใช้แก๊สโอโซน ร่วมกับสเปรย์โซเดี่ยม ไฮโปครอไรด์ เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าปนเปื้อนในทุเรียนส่งออก เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเฮอร์เดิลระหว่างก๊าซโอโซนและสารเคมี เพื่อลดปริมาณไวรัสโคโรน่าที่ตกค้างปนเปื้อนในผลทุเรียน พบว่าการใช้สเปรย์ NaOCl และตามด้วยการรมก๊าซโอโซนที่ 900 ppm แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณไวรัส PEDV ที่ตกค้างให้ต่ำกว่าเกณฑ์วัดขั้นต่ำ cut-off ของชุดทดลองที่ค่า Ct>36=negative ซึ่งถือว่าเป็นการลดปริมาณไวรัสปนเปื้อนได้ 100% ผลทุเรียนที่ทดสอบมีอัตราสุกตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของทุเรียน ผู้บริโภคทุเรียนปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศอีกครั้ง””

• รางวัล เหรียญทองแดง และ รางวัล certificate of appreciation proudly presentation จาก Research Institute of creative education, Vietnam ผลงานวิจัย เรื่อง “ต้นแบบการพัฒนาระบบผลิตน้ำเพื่อการเกษตรจากอากาศโดยใช้ความเย็นพื้นดินร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์”
โดย ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน และ ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ รองคณบดี วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.นิกราน หอมดวง ให้ข้อมูลว่า “ต้นแบบระบบผลิตน้ำจากอากาศเป็นนวัตกรรมเพื่อสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศ ช่วยปัญหาด้านภัยแล้งของเกษตรกร และส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดในการผลิตน้ำดื่มในพื้นที่โรงเรียนตระเวนชายแดน หรือพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถสกัดน้ำในชั้นบรรยากาศได้ในอัตรา 100-200 ลิตรต่อวัน และใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับระบบนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง”

ด้าน ผศ. ดร.กิตติกร สาสุจิตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของโครงการได้มีการติตดั้งระบบทดสอบจริงให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และในปีถัดไปมีเป้าหมายการติดตั้งระบบให้กับโรงเรียนและชุมชนบนพื้นที่สูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำหรับการผลิตน้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำและน้ำที่ได้จากนวัตกรรมนี้มีผ่านการตรวจค่ามาตรฐานของน้ำดื่ม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคและอุปโภคได้ ซึ่งงานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือมีน้ำน้อย ซึ่งพบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย”.

ทรงวุฒิ ทับทอง