จ.อุตรดิตถ์ รถเก๋งเสียหลักข้ามเกาะชนรถหกล้อ ดับ 6 รวมกับพระและได้รับบาดเจ็บ อีก 2 ราย คาดว่าอาจเกิดจากอาการหลับใน

จ.อุตรดิตถ์ รถเก๋งเสียหลักข้ามเกาะชนรถหกล้อ ดับ 6 รวมกับพระและได้รับบาดเจ็บ อีก 2 ราย คาดว่าอาจเกิดจากอาการหลับใน

ร.ต.อ.อริชัย อาริยะทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งอุบัติร้ายแรงบ้านซำบอน หมู่ 1 ต.นายาง อ.พิชัย ถนนอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ทางหลวงหมายเลข 11 ระหว่างกิโลเมตรที่ 285+400 มีถยนต์เก๋ง แบบ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Avanza สีขาวทะเบียน ขห 2496 เชียงใหม่ ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-8773 สมุทรสาคร

ในที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ กำลังนำอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บออกจากรถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย 1. นายสมชาย รักษา อายุ 62 ปี ที่อยู่ 124/1 หมู่ 1 ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ 2. นายธวัชชัย เจริญพัฒนกุล อายุ 60 ปี อยู่ที่ 92 หมู่ 5 ต.เวียง .อ พร้าว จ.เชียงใหม่ 3. นายณรงชัย อินธิยา 4. นายนวะพัฒน์ บัวเจนธรรม 5. นายฉลอง นาถ้ำ อายุ 64 ปี ที่อยู่ 54 หมู่ 5 ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และผู้บาดเจ็บ 1 ราย พระครูโสภณ กิตติญาณ วัดหนองอ้อ ต.เวียง อ.พร้าว เบื้องต้นคาดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นญาติพี่น้องกัน และมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 2 รายคือ เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุก 6 ล้อ ชื่อ นายประสิทธ์ นินสิงห์ขร อายุ 36 ปี ที่อยู่ 276 หมู่ 1 ต.ตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และนางวันนิดา บุตประลาด ภรรยา นำตัวส่งโรงพยาบาลพิชัย

ร.ต.อ.อริชัย อาริยะทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาอิน อ.พิชัย เผยว่า ทราบเบื้องต้นว่า รถยนต์เก๋งแบบ 7 ที่นั่ง เดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ หรือขาขึ้นเหนือ ซึ่งเป็นไปได้ว่า ถึงที่เกิดเหตุผู้ขับขี่อาจเกิดอาการหลับใน เนื่องจากถนนสาย 11 เป็นถนน 4 ช่องทางจราจร และส่วนใหญ่เป็นทางตรง และมีความยาวมาก ทำให้รถเสียหลักวิ่งข้ามเลนไปชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ ที่วิ่งสวนทางมาถนนอีกฝั่งหนึ่ง ที่ทราบว่ากลับมาจาก จ.น่าน มุ่งหน้า กรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งสภาพรถเก๋งด้านคนขับพังทั้งแถบตกลงข้างทาง ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ ด้านคนขับยุบ ทำให้คนขับขาหัก

ล่าสุด พระครูโสภณ กิตติญาณ วัดหนองอ้อ ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพ รวมมีผู้เสียชีวิต 6 ศพ

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

อุทัยธานี ระทึกกลางเมือง 2 หนุ่มรับจ้างตัดหญ้ารอบฮวงซุ้ยจุดไฟเผาหญ้าไฟเกิดลามเผารถกระบะแล้วลามไปทั่วกว่า 100ไร่

อุทัยธานี ระทึกกลางเมือง 2 หนุ่มรับจ้างตัดหญ้ารอบฮวงซุ้ยจุดไฟเผาหญ้าไฟเกิดลามเผารถกระบะแล้วลามไปทั่วกว่า 100ไร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20นาย รถดับเพลิง 10 คัน กู้ภัย ชาวบ้านช่วยกันดับวุ่นกว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

เมื่อเวลา 15.30. น.วันที่ 26 มีนาคม 2556 กู้ภัยพระชนกอุทัยธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนที่สัญจรอยู่บนถนนสายวัดโค้ง -วัดเนินตูม ว่ามีเหตุเพลิงไม้หญ้ากำลังลุกลามไปทั่วอยู่ที่บริเวณหน้าฮวงซุ้ย บ้านคลองลึก ต.อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงวิทยุแจ้งไปยัง สภ.เมืองอุทัยธานี เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเมืองอุทัยธานี รีบไปสกัดเพลิงยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับแจ้ง ร.ต.อ.มานพ ด้วงรักษา ร้อยเวรปราบปราม พร้อมกำลังไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รวม 20 นาย เพื่อไปช่วยสกัดเพลิง

เมื่อไปถึงพบไฟได้ลุกไหม้หญ้าแห้ง เป็นวงกว้าง กระจ่ายไปทั่วบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว จึงได้วิทยุแจ้งไปยังศูนย์วิทยุของ สภ.เมืองอุทัยธานี ขอกำลังรถดับเพลิงเพิ่มอีกจำนวนหลายคัน โดยมีรถดับเพลิงของ อบจ.อุทัยธานี อบต.ทุกตำบลในเขตเมืองอุทัยธานี รวม 10 คันรีบมายังที่เกิดเหตุ ทั่วบริเวณต้นเพลิงบริเวณฮวงจุ้ย ได้ลุกไหม้หญ้าแห้ง ลามไปยังรถกระบะยี้ห้อฟอร์ด ทะเบียน ก จ 8554 อุทัยธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างช่วยกันแบกสายยางน้ำดับเพลิงดับรถยนต์คันดังกล่าว แต่ได้รับความเสียหายทั้งคัน

หลังจากนั้นไฟได้ตีวงกว้างลุกลามไปทั่วป่าบริเวณนั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้วางกำลังให้รถดับเพลิง เข้าตามซอยต่าง ๆ ที่ถึงป่าหญ้า ตีวงกลม เพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกลามแต่ละจุด และไฟได้ลามไปยังหลังสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุทัยธานี ทำให้เจ้าหน้าที่ ทีเข้าเวร ต่างแตกตื่น เนื่องจากมีควันไฟลอยเป็นจำนวนมากลอยเข้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ในพื้นที่ ที่เป็นหญ้าแห้งเกือบร้อยกว่าไร่ สร้างความหวาดผวากับชาวอุทัยธานี

ด้านนายอภิชาต ดอนโพธิ์ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 42 /1 หมู่ 1 ต.หาดทะนง อ.เมือง จ..อุทัยธานี กล่าวว่า ตนเองพร้อมกับเพื่อน 2 คน ได้รับจ้างมาตัดหญ้า ที่หน้าฮวงซุ้ย พอตัดเสร็จ ตนเองก็ทำหญ้าแห้งเป็นกองเล็ก ๆ หลังจากนั้นก็จุดไฟเผาหญ้าที่ตัด ทีละหน่อย หลังจากนั้นได้เกิดลมกระโชกอย่างรุนแรงมาที่กองไฟ ไฟได้เกิดลุกลาม ไปทั่ว พอไฟลามขึ้นมา ตนเองก็เป็นห่วงบ้านของชาวบ้านในระแวกนั้น จึงรีบไปดับสกัดไฟ แต่ลมได้ย้อนกลับมาหารถยนต์ โดยพาไฟมาด้วยแล้วไฟได้ไหม้ รถยนต์ของตนเองวอดทั้งคัน แต่ตนเองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปก่อนแล้ว เพื่อขอกำลังรถดับเพลิงมาช่วย แต่ไฟได้ไหม้ลุกล่ามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพอาการร้อนจัด ประกอบกับมีหญ้าแห้งที่สะสมไว้นานดังกล่าว

สำเนา ทองศรี รายงาน 0987817019

สุราษฎร์ธานี// รถนักท่องเที่ยวขึ้นอุทยานเขานาในหลวง ประสบอุบัติเหตุ ตาย-เจ็บระนาว กู้ภัยระดมกำลังช่วยเร่งด่วน.

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

วันที่ 26 มีนาคม 2566
เวลาประมาณ 07.30 น. สภ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตกข้างทางทำให้มีผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากนั้นได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสาน จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาตาขุน-พนม ร่วมเดินทางไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางขึ้นอุทยานเขานาในหลวงพื้นที่ ม.8 บ้านเขานาใน ต.ต้นยวน อ.พนม พบรถกระบะสีฟ้าเป็นรถสองแถววิ่งประจำทางสายบ้านส้อง-บางสวรรค์ ยี่ห้อนิสสัน สภาพเก่า ป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 10-3170 สฎ. ตกข้างทางสภาพเสียหายยับเยิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก สอบถามทราบว่ารถคันดังกล่าวได้บรรทุกผู้โดยสารจาก อ.พระแสง และ อ.เวียงสระ เพื่อเดินทางมาที่อุทยานธรรมเขานาในหลวง ซึ่งเป็นทางลาดชันขึ้นภูเขา ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากคนขับไม่ชำนาญทาง และรถสภาพเก่าทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 13 ราย สาหัส 4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

โดยรายชื่อผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ดังนี้
1.น.ส.ศิริพรรณ ป้อมนารถ (เสียชีวิต)
2.นางต่อเนื่อง เข็มกำเนิด
3.น.ส.ทัศนีย์ จงอัคคเดชโภคิน
4.น.ส.ดรุุณี แซ่หย่าง
5.น.ส.ปวริศสา สวัสดิ์มูล
6.นายชัยพร สุขเสริม
7.นายวาดเขียน เข็มกำเนิด
8.น.ส.พรนภัส ทองไฝ
9.นาย ปภังกร จาติเทศะ
10.น.ส.ขอขวัญ เจริญศุข
11.นาย โสภณ มุ่งสิริกุล
12.นาง มุทิตา ใจดี
13.น.ส.วนิจรีน พงษ์พยัฆค์

ด้านนายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของพนักงานสอบสวน และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

ภาพ-ข่าว : กุศลศรัทธา สฎ.

สุราษฎร์ธานี// รถนักท่องเที่ยวขึ้นอุทยานเขานาในหลวง ประสบอุบัติเหตุ ตาย-เจ็บระนาว กู้ภัยระดมกำลังช่วยเร่งด่วน.

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

วันที่ 26 มีนาคม 2566
เวลาประมาณ 07.30 น. สภ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตกข้างทางทำให้มีผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากนั้นได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสาน จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาตาขุน-พนม ร่วมเดินทางไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางขึ้นอุทยานเขานาในหลวงพื้นที่ ม.8 บ้านเขานาใน ต.ต้นยวน อ.พนม พบรถกระบะสีฟ้าเป็นรถสองแถววิ่งประจำทางสายบ้านส้อง-บางสวรรค์ ยี่ห้อนิสสัน สภาพเก่า ป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 10-3170 สฎ. ตกข้างทางสภาพเสียหายยับเยิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก สอบถามทราบว่ารถคันดังกล่าวได้บรรทุกผู้โดยสารจาก อ.พระแสง และ อ.เวียงสระ เพื่อเดินทางมาที่อุทยานธรรมเขานาในหลวง ซึ่งเป็นทางลาดชันขึ้นภูเขา ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากคนขับไม่ชำนาญทาง และรถสภาพเก่าทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 13 ราย สาหัส 4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

โดยรายชื่อผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ดังนี้
1.น.ส.ศิริพรรณ ป้อมนารถ (เสียชีวิต)
2.นางต่อเนื่อง เข็มกำเนิด
3.น.ส.ทัศนีย์ จงอัคคเดชโภคิน
4.น.ส.ดรุุณี แซ่หย่าง
5.น.ส.ปวริศสา สวัสดิ์มูล
6.นายชัยพร สุขเสริม
7.นายวาดเขียน เข็มกำเนิด
8.น.ส.พรนภัส ทองไฝ
9.นาย ปภังกร จาติเทศะ
10.น.ส.ขอขวัญ เจริญศุข
11.นาย โสภณ มุ่งสิริกุล
12.นาง มุทิตา ใจดี
13.น.ส.วนิจรีน พงษ์พยัฆค์

ด้านนายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของพนักงานสอบสวน และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

ภาพ-ข่าว : กุศลศรัทธา สฎ.

สุราษฎร์ธานี// เด็กหนุ่มวัย 15 ออกทะเลหาปลากับพ่อ โทรศัพท์ตกน้ำรีบกระโดดตามจมหายกลางทะเล กู้ภัยรุดจัดทีมค้นหาด่วน .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

วันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 12.00 น. สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนตกทะเลสูญหายในพื้นที่ หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสาน จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา ร่วมตรวจสอบ

จากการสอบถามทราบว่าเรือลำดังกล่าวออกจากท่ากระจาย พื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าที่เกิดเหตุอยู่กลางทะเลห่างจากฝั่ง อ.ท่าชนะ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล ( 36 กม.) โดยเรือลำดังกล่าวได้ออกจากปากน้ำบ้านท่ากระจาย อ.ท่าชนะ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อออกไปตกปลา โดยไปกันสองคนพ่อ-ลูก ทราบว่าระหว่างที่เรือแล่นอยู่โทรศัพท์ได้ตกทะเลผู้เป็นลูกจึงได้กระโดดตามลงไปเพื่อคว้าโทรศัพท์ จึงโดนเรือชน และคาดว่าโดนใบพัดเรือฟัน ผู้เป็นพ่อจึงพยายามลงดำน้ำเพื่อค้นหาแต่ไม่พบตัว จึงแจ้งขอความช่วยเหลือมายังศูนย์กู้ภัยท่าชนะ

ล่าสุดทีมกู้ภัยได้ประสานนักประดาน้ำเพื่อจัดทีมเข้าค้นหา ข่าวแจ้งว่าได้พบร่างของผู้สูญหายแล้วจมอยู่ที่ความลึก 24 เมตร ทราบชื่อคือนายนพดล ตลอดเมฆ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/65 ม.5 ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี สำหรับความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ภาพ-ข้อมูล : กุศลศรัทธา สุราษฎร์ฯ

สุราษฎร์ธานี// เด็กหนุ่มวัย 15 ออกทะเลหาปลากับพ่อ โทรศัพท์ตกน้ำรีบกระโดดตามจมหายกลางทะเล กู้ภัยรุดจัดทีมค้นหาด่วน .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

วันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 12.00 น. สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนตกทะเลสูญหายในพื้นที่ หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสาน จนท.กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา ร่วมตรวจสอบ

จากการสอบถามทราบว่าเรือลำดังกล่าวออกจากท่ากระจาย พื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าที่เกิดเหตุอยู่กลางทะเลห่างจากฝั่ง อ.ท่าชนะ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล ( 36 กม.) โดยเรือลำดังกล่าวได้ออกจากปากน้ำบ้านท่ากระจาย อ.ท่าชนะ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อออกไปตกปลา โดยไปกันสองคนพ่อ-ลูก ทราบว่าระหว่างที่เรือแล่นอยู่โทรศัพท์ได้ตกทะเลผู้เป็นลูกจึงได้กระโดดตามลงไปเพื่อคว้าโทรศัพท์ จึงโดนเรือชน และคาดว่าโดนใบพัดเรือฟัน ผู้เป็นพ่อจึงพยายามลงดำน้ำเพื่อค้นหาแต่ไม่พบตัว จึงแจ้งขอความช่วยเหลือมายังศูนย์กู้ภัยท่าชนะ

ล่าสุดทีมกู้ภัยได้ประสานนักประดาน้ำเพื่อจัดทีมเข้าค้นหา ข่าวแจ้งว่าได้พบร่างของผู้สูญหายแล้วจมอยู่ที่ความลึก 24 เมตร ทราบชื่อคือนายนพดล ตลอดเมฆ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/65 ม.5 ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี สำหรับความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ภาพ-ข้อมูล : กุศลศรัทธา สุราษฎร์ฯ

พะเยา อากาศร้อนไฟฟ้าลัดวงจร ไหม้ห้างนาเก็บฟางข้าววอดทั้งหลัง

วันที่ 23 มี.ค 66 เวลา 08.00 น. พ.ต.ท.กริชไชย ไพฑูรน์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมือง พะเยารับแจ้งเกิดเพลิงไหม้ห้างนา บ้านทุ่งต้นศรี หมู่ 3 ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมรถดับเพลิง เทศบาลตำบลบ้านตุ่นเทศบาลตำบลบ้านสาง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ใส กว่า 5 คันช่วยกันระดมฉีด น้ำสกัดเพลิงใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้กลางทุ่งนาชั้นเดียวมุงด้วยสังกะสีซึ่งเก็บอุปกรณ์การเกษตร และก้อนฟาง ของ ของนายสมมี ยาดี อายุ 60 ปีหมู่ 3 ต. สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา ชาวบ้านที่ปลูกไว้ เพื่อ เก็บก้อนฟางจำนวนมากจนเช้าตรู่วันนี้ได้เกิดไฟฟ้า ขึ้น ทำให้เพลิงโหมลุกไหม้ ขึ้นทางเจ้า หน้าที่ต้องใช้รถดับเพลิงกว่า 5 คันใช้เวลาขอ 3 ชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้

สำหรับสาเหตุที่เกิดเหตุในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน จะตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง

ปทุมธานี ตร.เร่งจับกุมผู้วัยรุ่นเขมรก่อเหตุไล่ยิงกัน กระสุนถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย

วันที่ 23 มีนาคม 2566 จากกรณีเหตุใช้อาวุธปืนยิงทำให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าลานผักสดท้ายตลาดใหญ่ชื่อดัง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อ นายโกวิทย์ เนตรศรีไพบูลย์ อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 4 ม.3 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี มีร่องรอยบาดแผลถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด บริเวณกลางหน้าอก จำนวน 1 นัด ตำรวจติดตามสืบทราบผู้ต้องหาคือ นายบุนริน วาดี หรือ BUNLIN VADY สัญชาติ กัมพูชา

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 2 กลุ่ม ขับขี่รถจักรยานยนต์รวมประมาณ 5 คัน มาเจอกันและมีการใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่พกติดตัวมายิงใส่กลุ่มคู่อริ ทำให้กระสุนปืนจำนวน 1 นัด ไปถูกบริเวณหน้าอกของนายโกวิทย์ เนตรศรีไพบูลย์ เสียชีวิต จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสืบสวนหาข่าว ได้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงนายโกวิทย์ฯ คือ นายบุนริน (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) อายุประมาณ 20 ปี สัญชาติกัมพูชา ทำงานขับวินมอเตอร์ไซส์ สีส้ม ส่งของภายในตลาด หมายเลข 578 และมีนายแรมรัน (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) ซึ่งเป็นบิดาของผู้ก่อเหตุได้อยู่บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ผลการสืบสวนได้ทราบตัวคนร้ายแล้วเป็นคนกัมพูชา อยู่ระหว่างพนังงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ ทั้งสืบจังหวัดและสืบภาคได้รวมกันออกไปสืบสวนจับกุมคนร้ายอยู่ ส่วนมูลเหตุเป็นความขัดแย่งระหว่างคนกัมพูชาด้วยกัน โดยมีการขับรถวิ่งไล่กันมาแล้วยิงใส่กันจนกระสุนพลาดไปถูกคนไทยตาย ซึ่งผู้ตายไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่ต้องมาตาย

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

พะเยา กระบะหลับในชนต้นไม้เกาะกลางถนนหวิดดับเจ็บ 2

พะเยา กระบะหลับในชนต้นไม้เกาะกลางถนนหวิดดับเจ็บ 2

วันที่ 22 มี.ค 66 เวลา 16.30 น.พ.ต.ท. กริชไชย ไพฑูรย์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งเหตุ เกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนต้นไม้ร่องกลางถนนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2ราย บริเวณถนน พหลโยธินสาย เชียงราย – นครสวรรค์ บ้านร่องคือหมู่ 4 ตำบลแม่ปืมอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดกู้ภัย ทต.แม่ปืม ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะตู้ทึบชนกับต้นไม้ได้รับความเสียหายด้านหน้าและ ต้นไม้หักโค่นล้ม 2 ต้นและเสาไฟฟ้าอีก 1 ต้น

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะตู้ทึบ โตโยตัา สีขาว ทะเบียน 3 ฒญ.6795 กทม. สภาพด้านหน้ารถพังเสียหายกระจกแตกกระจายไปทั่วบริเวณต้นตะแบกหัก 2 ต้นและเสาไฟฟ้าอีก 1 ต้น มีผู้บาดเจ็บ 2 รายเป็นผู้ขับขี่ชื่อ นายกิตติชัย เทพศิริ อายุ 32 ปีคนขับ ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพะเยาและนาย กิตติพงษ์จินะโสตติ อายุ 29 ปีผู้โดยสาร ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบถามนายกิตติพงษ์ผู้โดยสารทราบว่าได้เดินทางจากจังหวัดลำปางเพื่อจะมาขนสินค้าที่จังหวัดเชียงรายหลังจากที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านร่องคือหมู่ 4 ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา คนขับได้เกิดอาการวูบและหลับในทำให้รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้เกาะกลางถนนและเสาไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บและเสียหายดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานและตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ต่อไป

ปทุมธานี ตร.น้ำใจงามช่วยคนเจ็บขับจยย.ตกท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง

วันที่ 22 มี.ค.66 ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกลงไปในท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้างและได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่องทางคู่ขนานหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้าง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถกู้ชีพบัวเพชร เจ้าหน้าที่อาสาหง
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย1รายทราบชื่อนายวสาร มีแก้ว อายุ 59ปี นอนอยู่ในท่อระบายน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีกำลังช่วยเหลืออยู่ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟหมายเลขทะเบียน พกษ87กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในท่อระบายน้ำด้วย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันช่วยเหลือผู้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากท่อระบายน้ำและนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต

จากการสอบจากการสอบถามส.ต.อ.ณัฐวุฒิ เพชรคุ้ม ผบ.หมู่งานกองกำกับการศูนย์ข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ บอกว่าตนเองกำลังขับรถจักรยานยนต์ไปทำงาน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงได้เข้าไปช่วยเหลือและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวงและกู้ภัยให้มาช่วยนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน