สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 บริเวณหมู่ 12 ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี พร้อมด้วย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร) ,ปกครองท้องที่ จิตอาสาภาคประชาชน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ตำบลคันธุลี เดิมเป็นเมืองโบราณ ชื่อ ต้นไพรลี มีภูมิประเทศเป็น ป่าเขา เดิมที่เป็นเมืองในสมัยโบราณ ข้าศึกเข้าโจมตีโดยใช้ภูเขาเป็นทางเดินทัพ และใช้เป็นสถานที่ตั้งกองทัพก่อนเข้าโจมตี ภูมิประเทศของเมืองเสียเปรียบข้าศึก ปัจจุบันเป็นตำบลคันธุลี มี 14 หมู่บ้านสภาพทั่วไปของตำบล
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม ชายฝั่งทะเล มีภูเขาเตี้ย ๆ กระจายทั่วไป

สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 บริเวณหมู่ 12 ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี พร้อมด้วย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร) ,ปกครองท้องที่ จิตอาสาภาคประชาชน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ตำบลคันธุลี เดิมเป็นเมืองโบราณ ชื่อ ต้นไพรลี มีภูมิประเทศเป็น ป่าเขา เดิมที่เป็นเมืองในสมัยโบราณ ข้าศึกเข้าโจมตีโดยใช้ภูเขาเป็นทางเดินทัพ และใช้เป็นสถานที่ตั้งกองทัพก่อนเข้าโจมตี ภูมิประเทศของเมืองเสียเปรียบข้าศึก ปัจจุบันเป็นตำบลคันธุลี มี 14 หมู่บ้านสภาพทั่วไปของตำบล
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม ชายฝั่งทะเล มีภูเขาเตี้ย ๆ กระจายทั่วไป

สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 บริเวณหมู่ 12 ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี พร้อมด้วย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร) ,ปกครองท้องที่ จิตอาสาภาคประชาชน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ตำบลคันธุลี เดิมเป็นเมืองโบราณ ชื่อ ต้นไพรลี มีภูมิประเทศเป็น ป่าเขา เดิมที่เป็นเมืองในสมัยโบราณ ข้าศึกเข้าโจมตีโดยใช้ภูเขาเป็นทางเดินทัพ และใช้เป็นสถานที่ตั้งกองทัพก่อนเข้าโจมตี ภูมิประเทศของเมืองเสียเปรียบข้าศึก ปัจจุบันเป็นตำบลคันธุลี มี 14 หมู่บ้านสภาพทั่วไปของตำบล
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม ชายฝั่งทะเล มีภูเขาเตี้ย ๆ กระจายทั่วไป

สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 บริเวณหมู่ 12 ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี พร้อมด้วย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร) ,ปกครองท้องที่ จิตอาสาภาคประชาชน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ตำบลคันธุลี เดิมเป็นเมืองโบราณ ชื่อ ต้นไพรลี มีภูมิประเทศเป็น ป่าเขา เดิมที่เป็นเมืองในสมัยโบราณ ข้าศึกเข้าโจมตีโดยใช้ภูเขาเป็นทางเดินทัพ และใช้เป็นสถานที่ตั้งกองทัพก่อนเข้าโจมตี ภูมิประเทศของเมืองเสียเปรียบข้าศึก ปัจจุบันเป็นตำบลคันธุลี มี 14 หมู่บ้านสภาพทั่วไปของตำบล
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม ชายฝั่งทะเล มีภูเขาเตี้ย ๆ กระจายทั่วไป

สุราษฎร์ธานี// อบต.คันธุลี ร่วมด้วยช่วยกัน ซ่อมแซมถนนชำรุดช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความปลอดภัย

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 บริเวณหมู่ 12 ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนตำบลคันธุลี พร้อมด้วย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร) ,ปกครองท้องที่ จิตอาสาภาคประชาชน ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ตำบลคันธุลี เดิมเป็นเมืองโบราณ ชื่อ ต้นไพรลี มีภูมิประเทศเป็น ป่าเขา เดิมที่เป็นเมืองในสมัยโบราณ ข้าศึกเข้าโจมตีโดยใช้ภูเขาเป็นทางเดินทัพ และใช้เป็นสถานที่ตั้งกองทัพก่อนเข้าโจมตี ภูมิประเทศของเมืองเสียเปรียบข้าศึก ปัจจุบันเป็นตำบลคันธุลี มี 14 หมู่บ้านสภาพทั่วไปของตำบล
ภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม ชายฝั่งทะเล มีภูเขาเตี้ย ๆ กระจายทั่วไป

สุราษฎร์ธานี// กฟภ. เตรียมทุ่ม 1,700 ล้าน เชื่อมเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำสู่เกาะเต่า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเล เผยโรงแรมเตรียมผุดใหม่ 22 แห่ง .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับประสานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ว่าจ้างบริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เพาเวอร์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างสายไฟฟ้า เคเบิลใต้น้ำระบบ 33 KV 1 วงจรจากเกาะพะงัน ไปยัง เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,786 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 เมษายน 2567 สามารถรองรับ โหลดสูงสุดได้ 24 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของ ระบบไฟฟ้าบนเกาะเต่าให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างพอเพียง ลดปัญหาไฟตก-ไฟดับ

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ตามแผนโครงการจะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ ขนาด 300 ตารางมิลลิเมตร (45 วงจร-กิโลเมตร) จากอ่าวหินงาม เกาะพะงัน ไปขึ้นที่บริเวณหาดเทียน เกาะเต่า พร้อมปรับปรุงระบบจำหน่าย หรืองานขยายเขตไฟฟ้าบนเกาะเต่า รวม 21 วงจร-กิโลเมตรและ อุปกรณ์ยกระดับแรงดัน 2 ชุด ซึ่งสายเคเบิลใต้น้ำจะบรรทุกเรือมา ถึงเกาะพะงัน ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเดินสาย เคเบิลใต้น้ำประมาณ 6 เดือน ปัจจุบันเกาะเต่ามีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,554 ครัวเรือน ส่วนราชการ 6 แห่ง กิจการขนาดเล็ก 641 แห่ง โรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท 128 แห่ง และในพื้นที่มีแผนก่อสร้างโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท อีก 22 แห่ง

“ เมื่อมีการเดินสายเคเบิลใต้น้ำและขยายเขตไฟฟ้าแล้วจะรองรับการ เพิ่มขึ้นของโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ทได้อีก 120 แห่งจะเป็นการสนับสนุน พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดีที่สุดอันดับต้นของโลก

โดยปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 550,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ90 ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 63,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 260,000 คน คาดว่าในปี 2566 การท่องเที่ยวจะเติบโตกว่าอย่างแน่นอนและทำได้เข้า ประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ” นายวิชวุทย์ กล่าว.

สุราษฎร์ธานี// กฟภ. เตรียมทุ่ม1,700 ล้าน เชื่อมเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำสู่เกาะเต่า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเล เผยโรงแรมเตรียมผุดใหม่ 22 แห่ง .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับประสานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ว่าจ้างบริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เพาเวอร์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างสายไฟฟ้า เคเบิลใต้น้ำระบบ 33 KV 1 วงจรจากเกาะพะงัน ไปยัง เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,786 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 เมษายน 2567 สามารถรองรับ โหลดสูงสุดได้ 24 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของ ระบบไฟฟ้าบนเกาะเต่าให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างพอเพียง ลดปัญหาไฟตก-ไฟดับ

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ตามแผนโครงการจะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ ขนาด 300 ตารางมิลลิเมตร (45 วงจร-กิโลเมตร) จากอ่าวหินงาม เกาะพะงัน ไปขึ้นที่บริเวณหาดเทียน เกาะเต่า พร้อมปรับปรุงระบบจำหน่าย หรืองานขยายเขตไฟฟ้าบนเกาะเต่า รวม 21 วงจร-กิโลเมตรและ อุปกรณ์ยกระดับแรงดัน 2 ชุด ซึ่งสายเคเบิลใต้น้ำจะบรรทุกเรือมา ถึงเกาะพะงัน ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเดินสาย เคเบิลใต้น้ำประมาณ 6 เดือน ปัจจุบันเกาะเต่ามีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,554 ครัวเรือน ส่วนราชการ 6 แห่ง กิจการขนาดเล็ก 641 แห่ง โรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท 128 แห่ง และในพื้นที่มีแผนก่อสร้างโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท อีก 22 แห่ง

“ เมื่อมีการเดินสายเคเบิลใต้น้ำและขยายเขตไฟฟ้าแล้วจะรองรับการ เพิ่มขึ้นของโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ทได้อีก 120 แห่งจะเป็นการสนับสนุน พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดีที่สุดอันดับต้นของโลก

โดยปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 550,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ90 ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 63,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 260,000 คน คาดว่าในปี 2566 การท่องเที่ยวจะเติบโตกว่าอย่างแน่นอนและทำได้เข้า ประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ” นายวิชวุทย์ กล่าว.

สุราษฎร์ธานี// กฟภ. เตรียมทุ่ม1,700 ล้าน เชื่อมเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำสู่เกาะเต่า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเล เผยโรงแรมเตรียมผุดใหม่ 22 แห่ง .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับประสานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ว่าจ้างบริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เพาเวอร์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างสายไฟฟ้า เคเบิลใต้น้ำระบบ 33 KV 1 วงจรจากเกาะพะงัน ไปยัง เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,786 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 เมษายน 2567 สามารถรองรับ โหลดสูงสุดได้ 24 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของ ระบบไฟฟ้าบนเกาะเต่าให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างพอเพียง ลดปัญหาไฟตก-ไฟดับ

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ตามแผนโครงการจะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ ขนาด 300 ตารางมิลลิเมตร (45 วงจร-กิโลเมตร) จากอ่าวหินงาม เกาะพะงัน ไปขึ้นที่บริเวณหาดเทียน เกาะเต่า พร้อมปรับปรุงระบบจำหน่าย หรืองานขยายเขตไฟฟ้าบนเกาะเต่า รวม 21 วงจร-กิโลเมตรและ อุปกรณ์ยกระดับแรงดัน 2 ชุด ซึ่งสายเคเบิลใต้น้ำจะบรรทุกเรือมา ถึงเกาะพะงัน ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเดินสาย เคเบิลใต้น้ำประมาณ 6 เดือน ปัจจุบันเกาะเต่ามีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,554 ครัวเรือน ส่วนราชการ 6 แห่ง กิจการขนาดเล็ก 641 แห่ง โรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท 128 แห่ง และในพื้นที่มีแผนก่อสร้างโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท อีก 22 แห่ง

“ เมื่อมีการเดินสายเคเบิลใต้น้ำและขยายเขตไฟฟ้าแล้วจะรองรับการ เพิ่มขึ้นของโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ทได้อีก 120 แห่งจะเป็นการสนับสนุน พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดีที่สุดอันดับต้นของโลก

โดยปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 550,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ90 ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 63,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 260,000 คน คาดว่าในปี 2566 การท่องเที่ยวจะเติบโตกว่าอย่างแน่นอนและทำได้เข้า ประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ” นายวิชวุทย์ กล่าว.

สุราษฎร์ธานี// กฟภ. เตรียมทุ่ม1,700 ล้าน เชื่อมเคเบิลไฟฟ้าใต้น้ำสู่เกาะเต่า เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางทะเล เผยโรงแรมเตรียมผุดใหม่ 22 แห่ง .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับประสานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ว่าจ้างบริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เพาเวอร์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างสายไฟฟ้า เคเบิลใต้น้ำระบบ 33 KV 1 วงจรจากเกาะพะงัน ไปยัง เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 1,786 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 เมษายน 2567 สามารถรองรับ โหลดสูงสุดได้ 24 เมกะวัตต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของ ระบบไฟฟ้าบนเกาะเต่าให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างพอเพียง ลดปัญหาไฟตก-ไฟดับ

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ตามแผนโครงการจะเดินสายเคเบิลใต้น้ำ ขนาด 300 ตารางมิลลิเมตร (45 วงจร-กิโลเมตร) จากอ่าวหินงาม เกาะพะงัน ไปขึ้นที่บริเวณหาดเทียน เกาะเต่า พร้อมปรับปรุงระบบจำหน่าย หรืองานขยายเขตไฟฟ้าบนเกาะเต่า รวม 21 วงจร-กิโลเมตรและ อุปกรณ์ยกระดับแรงดัน 2 ชุด ซึ่งสายเคเบิลใต้น้ำจะบรรทุกเรือมา ถึงเกาะพะงัน ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาเดินสาย เคเบิลใต้น้ำประมาณ 6 เดือน ปัจจุบันเกาะเต่ามีผู้ใช้ไฟฟ้า 3,554 ครัวเรือน ส่วนราชการ 6 แห่ง กิจการขนาดเล็ก 641 แห่ง โรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท 128 แห่ง และในพื้นที่มีแผนก่อสร้างโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ท อีก 22 แห่ง

“ เมื่อมีการเดินสายเคเบิลใต้น้ำและขยายเขตไฟฟ้าแล้วจะรองรับการ เพิ่มขึ้นของโรงแรม/บังกะโล/รีสอร์ทได้อีก 120 แห่งจะเป็นการสนับสนุน พัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดีที่สุดอันดับต้นของโลก

โดยปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 550,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ90 ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 63,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2565 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 260,000 คน คาดว่าในปี 2566 การท่องเที่ยวจะเติบโตกว่าอย่างแน่นอนและทำได้เข้า ประเทศจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ” นายวิชวุทย์ กล่าว.

Malaysia// ทสปช.ท่าชนะสานสัมพันธ์สองวัฒนธรรม ไทย-มาเลเซีย สร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่สุด

รายงาน : ปุญญิศา สุวรรณ

วันที่ 29 มีนาคม 2566 ณ วัดโพธิเจติยาราม (วัดทุ่งควาย) รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ไทยอาสาปัองกันชาติ กอ.รมน.ภาค 4 อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังพล 5 นาย ร่วมกับประชาชน เดินทางไปงานสานสัมพันธ์สองวัฒนธรรม ไทย-มาเลเซีย ด้วยการสร้างพระใหญ่หลววปู่ทวด องค์ใหญ่สุดในประเทศมาเลเซีย ประดิษฐานใค้ต้นโพธิ์ ภายในบริเวณวัด

ในการเดินทางมาร่วมงานบุญครั้งนี้ เกิดจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ของพี่นัองประชาขน โดย พระอาจารย์มงคล สำนักสงฆ์ถ้ำวังบาดาล อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ เชื่อมสายสัมพันธ์ ร่วมกันสองประเทศ .