สุราษฎร์ธานี// “เที่ยวสมุย สุขเสมอ” นอภ.เกาะสมุย แถลงข่าวจัดงานประเพณีสงกรานต์นำความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก .

สุราษฎร์ธานี// “เที่ยวสมุย สุขเสมอ” นอภ.เกาะสมุย แถลงข่าวจัดงานประเพณีสงกรานต์นำความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก .

รายงาน : พ.ท.อำนาจ ปาทะกาญจน์

วันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 17.30 น. ที่บริเวณชุมชนซอยกลาง ตลาดหน้าทอน หมู่ที่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานเกาะสมุย ร่วมกับคณะกรรมการชุมชนหมู่ที่ 3 ตำบลอ่างทอง นำโดยนายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย นายปกรณ์ กาญจนโอภาส รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นางถนอมศรี รัตนรักษ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอเกาะสมุย นายวิศาล บรมธนรัตน์ ประธานคณะกรรมการชุมชนหน้าอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาลนครเกาะสมุย สมาชิกสภาเทศบาลนครเกาะสมุย และคณะกรรมการชุมชนใกล้เคียงประกอบด้วยคณะกรรมการชุมชนท่าเรือหน้าทอน , คณะกรรมหน้าทอน , คณะกรรมการชุมชนศาลเจ้าหน้าทอน , คณะกรรมการชุมชนสะพานหยี และคณะกรรมการชุมชนพรุกำ

ทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2566 ภายใต้ชื่อการจัดงานคือ “ สงกรานต์สมุยเริงร่า เฮฮาหน้าทอน สะท้อนวิถีไทย ” โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้คณะกรรมการชุมชนทุกคนรวมถึงชาวเกาะสมุย และชาวต่างชาติต่างสวมใส่ชุดไทยเข้าอย่างสวยงาม ซึ่งมีกำหนดจัดงานประเพณีวันสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11- 13 เมษายน 2566 โดยได้มีการกำหนดรูปแบบการจัดงานให้ชุมชนหน้าทอนถนนสายกลางเป็นถนนสายวัฒนธรรม โดยคณะกรรมการและผู้ที่เข้าร่วมงานทุกคนสวมใส่ชุดไทยเพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นไทย และยังเป็นการสื่อสารงานประเพณีวังสงกรานต์ครั้งนี้ผ่านเสื้อผ้าแบบไทยอีกด้วย ถือเป็นความงดงามในอดีตที่ในยุคปัจจุบันความสวยงามในความเป็นไทยได้จางหายไปจากสังคมยุคปัจจุบัน สำหรับการจัดงานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาสัมผัสการเล่นสงกรานต์แบบไทยในอดีตที่สาดน้ำกันด้วยความสุภาพอ่อนโยน ไม่มีการล่วงเกิน หรือการสาดน้ำที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นเพื่อให้งานประเพณีสงกรานต์ของเกาะสมุยเป็นประเพณีที่สวยงามดังอดีต จึงได้จำลองบรรยากาศวันสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์แบบไทยที่ถูกต้องสู่สายตาชาวโลก

โดยในวันที่ 11-12 เมษายน 2566 จัดให้มีการจำหน่ายสินค้าชุมชน และอาหาร ของดีเกาะสมุย การแสดงดนตรี และการแสดงของนักเรียน และกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ณ ถนนสายกลางตลาดหน้าทอน ตั้งแต่เวลา 16.00 -22.30 น.
สำหรับการจัดงานประเพณีสงกรานต์ในวันที่ 13 เมษายน 2565 ได้จัดให้มีพิธีสงฆ์ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปสวดเจริญชัยมงคลคาถาเพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จากสามวัดพร้อมร่วมกันสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคล และรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุในชุมชน จากนั้นร่วมขบวนแห่ที่ตระการตา พร้อมร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปที่ชาวเกาะสมุยนับถือจากสามวัดที่ประดิษฐานชั่วคราวบนรถที่จะแห่รอบชุมชนหน้าทอน

ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นของคณะกรรมการชุมชนตำบลอ่างทอง เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และร่วมฟื้นฟูวัฒนธรรมไทยให้กลับคืนสู่ชุมชน และพร้อมที่จะอวยต่อสายตาชาวโลก ผ่านงานประเพณีวันสงกรานต์ ภายใต้ชื่อ “ สงกรานต์สมุยเริงร่า เฮฮาหน้าทอน สะท้อนวิถีไทย ” เพื่อให้วัฒนธรรมประเพณีของไทยที่ดีงามและสวยงาม ดำรงค์สืบทอดต่อไปในอนาคต.

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการแข่งขัน “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลองครบรอบ 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันชกมวย “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ งานเกษตรแม่โจ้ 90 ปี : เกษตร อาหาร สุขภาพ ซึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยที่ได้สั่งสมมายาวนาน ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพ 5 F คือ 1) Food (อาหาร) 2) Film (ภาพยนตร์และวีดีทัศน์) 3 ) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) 4) Fighting (ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย) และ 5) Festival (เทศกาลประเพณีไทย) โดยเราจะจัดงานใหญ่ปลายปี ระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัย แม่โจ้

ขอเชิญชวนเครือข่ายทุกภาคส่วนมาร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำเข้ามูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อใช้ในการพัฒนาวงการศึกษา และสร้างคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมวยป้องกันแชมป์ IBF การแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย และมวยอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ ทั้งในรูปแบบมวยไทย และมวยสากล ร่วมส่งเสริมวงการกีฬามวยของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล และการส่งเสริมให้มวยเป็นกีฬาที่สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจคู่กับสังคมไทย ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีรายการหลัก 6 คู่ มีการประกบคู่เอก รายการป้องกันแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นไลต์เวท ระหว่าง เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก (แชมป์ IBF แพนแปซิฟิก) พบกับ อัล ทูยูกอน (ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์) นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท, การแข่งขันมวยหญิง กำปั้นล่าฝันรุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก, การแข่งขันกำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก, กำปั้นล่าฝันรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก และ กำปั้นล่าฝันรุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก รวมถึงการชกมวยไทยดาวรุ่ง และมวยคาดเชือก อีกหลายคู่ ตามโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

มวยคาดเชือก 5 คู่
คู่ที่ 1 ทุ่งมนต์ ศ.ป.เป็ด พบกับ ลาเต้ ผาอ่าง
คู่ที่ 2 บากิ ศิษย์เพชรเชียงคำ พบกับ จ่อละโพ ผาอ่าง
คู่ที่ 3 ตูเล่ ผาอ่าง พบกับ ทาโร่ ศิษย์เจ๊พิมพ์
คู่ที่ 4 ช้างศึก บุญลานนามวยไทย พบกับ จ่อเมียวดี เมียวดี (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ยอดยิ่ง ศิษย์เจ๊พิมพ์ พบกับ หม่องจอแด เมียวดี (คู่เอก)

รายการหลัก

คู่ที่ 1 กำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก
>>> ฟ้าคำราม จีพีพีเรือใบไข่มุก VS ฉัตรชัย ก.ลำพูน <<<

คู่ที่ 2 ป้องกันแชมปิ IBF แพนแปซิฟิก รุ่นไลต์เวท กำหนด 12 ยก
>>> เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก VS อัล ทูยูกอน (ชาวฟิลิปปินส์) <<<

คู่ที่ 3 ชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท กำหนด 5 ยก
>>> ทองธวัช เพชรเหรียญทอง VS โจเดวิด ศิษย์ไทยแลนด์ (ชาวสหรัฐฯ) <<<

คู่ที่ 4 มวยหญิง กำปั้นล่าฝัน รุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก
>>> เพชรกำไล ขุนศึกพระนเรศวร VS ถาน เฉินอี้ (ชาวจีน) <<<

คู่ที่ 5 กำปั้นล่าฝัน รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก
>>> สุเม เจอาร์มวยไทย VS นำสุข บุญลานนามวยไทย <<<

คู่ที่ 6 กำปั้นล่าฝัน รุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก
>>> ทรอย โอเมเล่ย์ (ชาวออสเตรเลีย) VS จาง ชิง (ชาวจีน) <<<

มวยไทยดาวรุ่ง
คู่ที่ 1 บูรณ์ชัย พักยกTH พบกับ กอไผ่ ก.ศักดิ์ลำพูน
คู่ที่ 2 คุกกี้ ม.แม่โจ้ พบกับ ภาวิตา ศิษย์นายกสว่าง (ชิงแชมป์)
คู่ที่ 3 ดาวสยาม ส.สุภานันท์ พบกับ เสาร์ห้า ศ.ภูมินทร์
คู่ที่ 4 เงาพยัคฆ์ เดอะแบร์ไฟท์คลับ พบกับ เพชรภูเงิน เทศบาลแม่ปืม (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ธนชาติ ศิษย์นายกพันศักดิ์ พบกับ ฉมวกเพชร พักยกTH (คู่เอก)

ชมฟรี !! ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ทางสถานีโทรทัศน์ JKN18 และรับชมผ่าน เฟสบุ๊คเพจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Cr.ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการแข่งขัน “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลองครบรอบ 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันชกมวย “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ งานเกษตรแม่โจ้ 90 ปี : เกษตร อาหาร สุขภาพ ซึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยที่ได้สั่งสมมายาวนาน ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพ 5 F คือ 1) Food (อาหาร) 2) Film (ภาพยนตร์และวีดีทัศน์) 3 ) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) 4) Fighting (ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย) และ 5) Festival (เทศกาลประเพณีไทย) โดยเราจะจัดงานใหญ่ปลายปี ระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัย แม่โจ้

ขอเชิญชวนเครือข่ายทุกภาคส่วนมาร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำเข้ามูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อใช้ในการพัฒนาวงการศึกษา และสร้างคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมวยป้องกันแชมป์ IBF การแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย และมวยอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ ทั้งในรูปแบบมวยไทย และมวยสากล ร่วมส่งเสริมวงการกีฬามวยของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล และการส่งเสริมให้มวยเป็นกีฬาที่สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจคู่กับสังคมไทย ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีรายการหลัก 6 คู่ มีการประกบคู่เอก รายการป้องกันแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นไลต์เวท ระหว่าง เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก (แชมป์ IBF แพนแปซิฟิก) พบกับ อัล ทูยูกอน (ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์) นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท, การแข่งขันมวยหญิง กำปั้นล่าฝันรุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก, การแข่งขันกำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก, กำปั้นล่าฝันรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก และ กำปั้นล่าฝันรุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก รวมถึงการชกมวยไทยดาวรุ่ง และมวยคาดเชือก อีกหลายคู่ ตามโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

มวยคาดเชือก 5 คู่
คู่ที่ 1 ทุ่งมนต์ ศ.ป.เป็ด พบกับ ลาเต้ ผาอ่าง
คู่ที่ 2 บากิ ศิษย์เพชรเชียงคำ พบกับ จ่อละโพ ผาอ่าง
คู่ที่ 3 ตูเล่ ผาอ่าง พบกับ ทาโร่ ศิษย์เจ๊พิมพ์
คู่ที่ 4 ช้างศึก บุญลานนามวยไทย พบกับ จ่อเมียวดี เมียวดี (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ยอดยิ่ง ศิษย์เจ๊พิมพ์ พบกับ หม่องจอแด เมียวดี (คู่เอก)

รายการหลัก

คู่ที่ 1 กำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก
>>> ฟ้าคำราม จีพีพีเรือใบไข่มุก VS ฉัตรชัย ก.ลำพูน <<<

คู่ที่ 2 ป้องกันแชมปิ IBF แพนแปซิฟิก รุ่นไลต์เวท กำหนด 12 ยก
>>> เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก VS อัล ทูยูกอน (ชาวฟิลิปปินส์) <<<

คู่ที่ 3 ชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท กำหนด 5 ยก
>>> ทองธวัช เพชรเหรียญทอง VS โจเดวิด ศิษย์ไทยแลนด์ (ชาวสหรัฐฯ) <<<

คู่ที่ 4 มวยหญิง กำปั้นล่าฝัน รุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก
>>> เพชรกำไล ขุนศึกพระนเรศวร VS ถาน เฉินอี้ (ชาวจีน) <<<

คู่ที่ 5 กำปั้นล่าฝัน รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก
>>> สุเม เจอาร์มวยไทย VS นำสุข บุญลานนามวยไทย <<<

คู่ที่ 6 กำปั้นล่าฝัน รุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก
>>> ทรอย โอเมเล่ย์ (ชาวออสเตรเลีย) VS จาง ชิง (ชาวจีน) <<<

มวยไทยดาวรุ่ง
คู่ที่ 1 บูรณ์ชัย พักยกTH พบกับ กอไผ่ ก.ศักดิ์ลำพูน
คู่ที่ 2 คุกกี้ ม.แม่โจ้ พบกับ ภาวิตา ศิษย์นายกสว่าง (ชิงแชมป์)
คู่ที่ 3 ดาวสยาม ส.สุภานันท์ พบกับ เสาร์ห้า ศ.ภูมินทร์
คู่ที่ 4 เงาพยัคฆ์ เดอะแบร์ไฟท์คลับ พบกับ เพชรภูเงิน เทศบาลแม่ปืม (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ธนชาติ ศิษย์นายกพันศักดิ์ พบกับ ฉมวกเพชร พักยกTH (คู่เอก)

ชมฟรี !! ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ทางสถานีโทรทัศน์ JKN18 และรับชมผ่าน เฟสบุ๊คเพจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Cr.ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการแข่งขัน “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลองครบรอบ 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันชกมวย “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ งานเกษตรแม่โจ้ 90 ปี : เกษตร อาหาร สุขภาพ ซึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยที่ได้สั่งสมมายาวนาน ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพ 5 F คือ 1) Food (อาหาร) 2) Film (ภาพยนตร์และวีดีทัศน์) 3 ) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) 4) Fighting (ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย) และ 5) Festival (เทศกาลประเพณีไทย) โดยเราจะจัดงานใหญ่ปลายปี ระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัย แม่โจ้

ขอเชิญชวนเครือข่ายทุกภาคส่วนมาร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำเข้ามูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อใช้ในการพัฒนาวงการศึกษา และสร้างคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมวยป้องกันแชมป์ IBF การแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย และมวยอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ ทั้งในรูปแบบมวยไทย และมวยสากล ร่วมส่งเสริมวงการกีฬามวยของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล และการส่งเสริมให้มวยเป็นกีฬาที่สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจคู่กับสังคมไทย ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีรายการหลัก 6 คู่ มีการประกบคู่เอก รายการป้องกันแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นไลต์เวท ระหว่าง เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก (แชมป์ IBF แพนแปซิฟิก) พบกับ อัล ทูยูกอน (ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์) นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท, การแข่งขันมวยหญิง กำปั้นล่าฝันรุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก, การแข่งขันกำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก, กำปั้นล่าฝันรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก และ กำปั้นล่าฝันรุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก รวมถึงการชกมวยไทยดาวรุ่ง และมวยคาดเชือก อีกหลายคู่ ตามโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

มวยคาดเชือก 5 คู่
คู่ที่ 1 ทุ่งมนต์ ศ.ป.เป็ด พบกับ ลาเต้ ผาอ่าง
คู่ที่ 2 บากิ ศิษย์เพชรเชียงคำ พบกับ จ่อละโพ ผาอ่าง
คู่ที่ 3 ตูเล่ ผาอ่าง พบกับ ทาโร่ ศิษย์เจ๊พิมพ์
คู่ที่ 4 ช้างศึก บุญลานนามวยไทย พบกับ จ่อเมียวดี เมียวดี (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ยอดยิ่ง ศิษย์เจ๊พิมพ์ พบกับ หม่องจอแด เมียวดี (คู่เอก)

รายการหลัก

คู่ที่ 1 กำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก
>>> ฟ้าคำราม จีพีพีเรือใบไข่มุก VS ฉัตรชัย ก.ลำพูน <<<

คู่ที่ 2 ป้องกันแชมปิ IBF แพนแปซิฟิก รุ่นไลต์เวท กำหนด 12 ยก
>>> เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก VS อัล ทูยูกอน (ชาวฟิลิปปินส์) <<<

คู่ที่ 3 ชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท กำหนด 5 ยก
>>> ทองธวัช เพชรเหรียญทอง VS โจเดวิด ศิษย์ไทยแลนด์ (ชาวสหรัฐฯ) <<<

คู่ที่ 4 มวยหญิง กำปั้นล่าฝัน รุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก
>>> เพชรกำไล ขุนศึกพระนเรศวร VS ถาน เฉินอี้ (ชาวจีน) <<<

คู่ที่ 5 กำปั้นล่าฝัน รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก
>>> สุเม เจอาร์มวยไทย VS นำสุข บุญลานนามวยไทย <<<

คู่ที่ 6 กำปั้นล่าฝัน รุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก
>>> ทรอย โอเมเล่ย์ (ชาวออสเตรเลีย) VS จาง ชิง (ชาวจีน) <<<

มวยไทยดาวรุ่ง
คู่ที่ 1 บูรณ์ชัย พักยกTH พบกับ กอไผ่ ก.ศักดิ์ลำพูน
คู่ที่ 2 คุกกี้ ม.แม่โจ้ พบกับ ภาวิตา ศิษย์นายกสว่าง (ชิงแชมป์)
คู่ที่ 3 ดาวสยาม ส.สุภานันท์ พบกับ เสาร์ห้า ศ.ภูมินทร์
คู่ที่ 4 เงาพยัคฆ์ เดอะแบร์ไฟท์คลับ พบกับ เพชรภูเงิน เทศบาลแม่ปืม (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ธนชาติ ศิษย์นายกพันศักดิ์ พบกับ ฉมวกเพชร พักยกTH (คู่เอก)

ชมฟรี !! ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ทางสถานีโทรทัศน์ JKN18 และรับชมผ่าน เฟสบุ๊คเพจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Cr.ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

ม.แม่โจ้ แถลงจัด “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมวงการมวยสู่สากล สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ การจัดการแข่งขัน “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลองครบรอบ 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันชกมวย “ศึกกำปั้นสะท้านโลก” ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ งานเกษตรแม่โจ้ 90 ปี : เกษตร อาหาร สุขภาพ ซึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยที่ได้สั่งสมมายาวนาน ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพ 5 F คือ 1) Food (อาหาร) 2) Film (ภาพยนตร์และวีดีทัศน์) 3 ) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) 4) Fighting (ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย) และ 5) Festival (เทศกาลประเพณีไทย) โดยเราจะจัดงานใหญ่ปลายปี ระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัย แม่โจ้

ขอเชิญชวนเครือข่ายทุกภาคส่วนมาร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำเข้ามูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อใช้ในการพัฒนาวงการศึกษา และสร้างคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมวยป้องกันแชมป์ IBF การแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย และมวยอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ ทั้งในรูปแบบมวยไทย และมวยสากล ร่วมส่งเสริมวงการกีฬามวยของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล และการส่งเสริมให้มวยเป็นกีฬาที่สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจคู่กับสังคมไทย ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิโรจน์ สินณรงค์ ผู้ช่วยอธิการบดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีรายการหลัก 6 คู่ มีการประกบคู่เอก รายการป้องกันแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นไลต์เวท ระหว่าง เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก (แชมป์ IBF แพนแปซิฟิก) พบกับ อัล ทูยูกอน (ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์) นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท, การแข่งขันมวยหญิง กำปั้นล่าฝันรุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก, การแข่งขันกำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก, กำปั้นล่าฝันรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก และ กำปั้นล่าฝันรุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก รวมถึงการชกมวยไทยดาวรุ่ง และมวยคาดเชือก อีกหลายคู่ ตามโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

มวยคาดเชือก 5 คู่
คู่ที่ 1 ทุ่งมนต์ ศ.ป.เป็ด พบกับ ลาเต้ ผาอ่าง
คู่ที่ 2 บากิ ศิษย์เพชรเชียงคำ พบกับ จ่อละโพ ผาอ่าง
คู่ที่ 3 ตูเล่ ผาอ่าง พบกับ ทาโร่ ศิษย์เจ๊พิมพ์
คู่ที่ 4 ช้างศึก บุญลานนามวยไทย พบกับ จ่อเมียวดี เมียวดี (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ยอดยิ่ง ศิษย์เจ๊พิมพ์ พบกับ หม่องจอแด เมียวดี (คู่เอก)

รายการหลัก

คู่ที่ 1 กำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก
>>> ฟ้าคำราม จีพีพีเรือใบไข่มุก VS ฉัตรชัย ก.ลำพูน <<<

คู่ที่ 2 ป้องกันแชมปิ IBF แพนแปซิฟิก รุ่นไลต์เวท กำหนด 12 ยก
>>> เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก VS อัล ทูยูกอน (ชาวฟิลิปปินส์) <<<

คู่ที่ 3 ชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท กำหนด 5 ยก
>>> ทองธวัช เพชรเหรียญทอง VS โจเดวิด ศิษย์ไทยแลนด์ (ชาวสหรัฐฯ) <<<

คู่ที่ 4 มวยหญิง กำปั้นล่าฝัน รุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก
>>> เพชรกำไล ขุนศึกพระนเรศวร VS ถาน เฉินอี้ (ชาวจีน) <<<

คู่ที่ 5 กำปั้นล่าฝัน รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก
>>> สุเม เจอาร์มวยไทย VS นำสุข บุญลานนามวยไทย <<<

คู่ที่ 6 กำปั้นล่าฝัน รุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก
>>> ทรอย โอเมเล่ย์ (ชาวออสเตรเลีย) VS จาง ชิง (ชาวจีน) <<<

มวยไทยดาวรุ่ง
คู่ที่ 1 บูรณ์ชัย พักยกTH พบกับ กอไผ่ ก.ศักดิ์ลำพูน
คู่ที่ 2 คุกกี้ ม.แม่โจ้ พบกับ ภาวิตา ศิษย์นายกสว่าง (ชิงแชมป์)
คู่ที่ 3 ดาวสยาม ส.สุภานันท์ พบกับ เสาร์ห้า ศ.ภูมินทร์
คู่ที่ 4 เงาพยัคฆ์ เดอะแบร์ไฟท์คลับ พบกับ เพชรภูเงิน เทศบาลแม่ปืม (รองคู่เอก)
คู่ที่ 5 ธนชาติ ศิษย์นายกพันศักดิ์ พบกับ ฉมวกเพชร พักยกTH (คู่เอก)

ชมฟรี !! ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ทางสถานีโทรทัศน์ JKN18 และรับชมผ่าน เฟสบุ๊คเพจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Cr.ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้

จังหวัดบุรีรัมย์ เชิญเที่ยวชมงานประกวดผลผลิตทางการเกษตร ในงานกาชาดอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2566

เกษตรอำเภอบ้านกรวดร่วมกับพี่น้องเกษตรกรชาวอำเภอบ้านกรวด จัดประกวดผลผลิตทางการเกษตรงานเครื่องเคลือบพันปีประเพณีบ้านกรวดและงานกาชาด ประจำปี 2566 ในวันที่ 9 เมษายน 2566 ณ เต็นท์ สนง.เกษตรอำเภอบ้านกรวด
1.ประกวดมะพร้าวน้ำหอม
2.กล้วยน้ำว้าสุก

พบกับของรางวัลมูลค่าไม่มากมายแต่ทรงคุณค่าวัฒนธรรมทางการเกษตร ภายในงานพบการออกบูธสินค้าทางการเกษตรมากมายและสินค้าธงฟ้า ของดีราคาถูกอีกยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

(มีคลิป) ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’ เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’
เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

คุณสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศขององค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 และในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดกิจกรรมโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการทั่วประเทศ

สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ในภาคเหนือตอนบนจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองไมซ์ซิตี้ชั้นนำระดับประเทศ และได้รับยกย่องให้เป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นการยืนยันความมีเสน่ห์ของเชียงใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว การประชุม และงานเทศกาลในระดับนานาชาติ เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมล้านนา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของการประชุมระดับภูมิภาคด้วย เชียงใหม่จึงมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม” คุณสุวัชชัยกล่าว

ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน และมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” ทำความรู้จักโครงการประชุมเมืองไทยฯ และแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดย คุณศุภาดา ชัยวงษ์ ผู้แทนการตลาด สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เพิ่มโอกาสการขายลูกค้ากลุ่มธุรกิจบนโลกการตลาดออนไลน์ (B2B Digital Marketing Talk)” โดย คุณชวัลวิทย์ รักษพล ผู้ก่อตั้ง M Creation Agency และมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย

โครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการ จัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดกิจกรรมไมซ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip) โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุน ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 22 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ ผู้ขอรับการสนับสนุนต้องจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งขององค์กร สามารถจัดงานได้ทั้งในโรงแรม สถานที่จัดงานพิเศษ และชุมชนทั่วทุกภูมิภาคภายในประเทศ โดยจะต้องเลือกสถานที่จัดงานที่มีฐานข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com ของทีเส็บอย่างน้อย 1 แห่ง และการจัดกิจกรรมจะต้องมีจำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน

ผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องมีคุณสมบัติเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ได้แก่ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน สมาคม และมูลนิธิ หรือ ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ บริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ หรือ Destination Management Company (DMC) บริษัทรับจัดการประชุม บริษัทนำเที่ยว โรงแรม หรือสถานที่จัดงาน โดยต้องเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย สมาคมโรงแรมในภูมิภาคหรือจังหวัด หรือสมาคมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมไปถึงโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards : TMVS) หรือ มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standards : AMVS)

โครงการนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีองค์กรสมัครขอรับการสนับสนุนจำนวน 1,000 กลุ่ม มีจำนวน นักเดินทางไมซ์กว่า 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา

ผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaimiceconnect.com FB: Thaimiceconnect Line: ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย และสมัคร Thai MICE Connect หรือ: @thaimiceconnect Call Center: 02 793 3456.

ทรงวุฒิ ทับทอง

(มีคลิป) ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’ เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’
เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

คุณสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศขององค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 และในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดกิจกรรมโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการทั่วประเทศ

สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ในภาคเหนือตอนบนจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองไมซ์ซิตี้ชั้นนำระดับประเทศ และได้รับยกย่องให้เป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นการยืนยันความมีเสน่ห์ของเชียงใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว การประชุม และงานเทศกาลในระดับนานาชาติ เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมล้านนา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของการประชุมระดับภูมิภาคด้วย เชียงใหม่จึงมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม” คุณสุวัชชัยกล่าว

ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน และมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” ทำความรู้จักโครงการประชุมเมืองไทยฯ และแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดย คุณศุภาดา ชัยวงษ์ ผู้แทนการตลาด สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เพิ่มโอกาสการขายลูกค้ากลุ่มธุรกิจบนโลกการตลาดออนไลน์ (B2B Digital Marketing Talk)” โดย คุณชวัลวิทย์ รักษพล ผู้ก่อตั้ง M Creation Agency และมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย

โครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการ จัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดกิจกรรมไมซ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip) โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุน ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 22 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ ผู้ขอรับการสนับสนุนต้องจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งขององค์กร สามารถจัดงานได้ทั้งในโรงแรม สถานที่จัดงานพิเศษ และชุมชนทั่วทุกภูมิภาคภายในประเทศ โดยจะต้องเลือกสถานที่จัดงานที่มีฐานข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com ของทีเส็บอย่างน้อย 1 แห่ง และการจัดกิจกรรมจะต้องมีจำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน

ผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องมีคุณสมบัติเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ได้แก่ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน สมาคม และมูลนิธิ หรือ ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ บริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ หรือ Destination Management Company (DMC) บริษัทรับจัดการประชุม บริษัทนำเที่ยว โรงแรม หรือสถานที่จัดงาน โดยต้องเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย สมาคมโรงแรมในภูมิภาคหรือจังหวัด หรือสมาคมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมไปถึงโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards : TMVS) หรือ มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standards : AMVS)

โครงการนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีองค์กรสมัครขอรับการสนับสนุนจำนวน 1,000 กลุ่ม มีจำนวน นักเดินทางไมซ์กว่า 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา

ผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaimiceconnect.com FB: Thaimiceconnect Line: ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย และสมัคร Thai MICE Connect หรือ: @thaimiceconnect Call Center: 02 793 3456.

ทรงวุฒิ ทับทอง

(มีคลิป) ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’ เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’
เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

คุณสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศขององค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 และในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดกิจกรรมโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการทั่วประเทศ

สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ในภาคเหนือตอนบนจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมืองไมซ์ซิตี้ชั้นนำระดับประเทศ และได้รับยกย่องให้เป็นเมืองเทศกาลโลก World Festival and Event City ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นการยืนยันความมีเสน่ห์ของเชียงใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว การประชุม และงานเทศกาลในระดับนานาชาติ เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชน มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมล้านนา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของการประชุมระดับภูมิภาคด้วย เชียงใหม่จึงมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม” คุณสุวัชชัยกล่าว

ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน และมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” ทำความรู้จักโครงการประชุมเมืองไทยฯ และแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดย คุณศุภาดา ชัยวงษ์ ผู้แทนการตลาด สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เพิ่มโอกาสการขายลูกค้ากลุ่มธุรกิจบนโลกการตลาดออนไลน์ (B2B Digital Marketing Talk)” โดย คุณชวัลวิทย์ รักษพล ผู้ก่อตั้ง M Creation Agency และมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย

โครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการ จัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดกิจกรรมไมซ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip) โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุน ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 22 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ ผู้ขอรับการสนับสนุนต้องจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งขององค์กร สามารถจัดงานได้ทั้งในโรงแรม สถานที่จัดงานพิเศษ และชุมชนทั่วทุกภูมิภาคภายในประเทศ โดยจะต้องเลือกสถานที่จัดงานที่มีฐานข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com ของทีเส็บอย่างน้อย 1 แห่ง และการจัดกิจกรรมจะต้องมีจำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน

ผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องมีคุณสมบัติเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ได้แก่ บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน สมาคม และมูลนิธิ หรือ ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ บริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ หรือ Destination Management Company (DMC) บริษัทรับจัดการประชุม บริษัทนำเที่ยว โรงแรม หรือสถานที่จัดงาน โดยต้องเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย สมาคมโรงแรมในภูมิภาคหรือจังหวัด หรือสมาคมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมไปถึงโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards : TMVS) หรือ มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standards : AMVS)

โครงการนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีองค์กรสมัครขอรับการสนับสนุนจำนวน 1,000 กลุ่ม มีจำนวน นักเดินทางไมซ์กว่า 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา

ผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaimiceconnect.com FB: Thaimiceconnect Line: ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย และสมัคร Thai MICE Connect หรือ: @thaimiceconnect Call Center: 02 793 3456.

ทรงวุฒิ ทับทอง