ปทุมธานี หนุ่มคลั่งบ้านโดนยึดไล่ยิงเจ้าของบ้านคนใหม่เสียชีวิต

ปทุมธานี หนุ่มคลั่งบ้านโดนยึดไล่ยิงเจ้าของบ้านคนใหม่เสียชีวิต

วันที่ 30 พ.ค.2566 เหตุเกิดการณ์ยิงกันที่ หมู่บ้านกรีน ถนนรังสิต-นครนายก ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีผู้เสียชีวิตคือ นางสาวกมลพร ดอนทอง อายุ 52 ปี โดยผู้ตายมากับหลานสาว ชื่อ นางสาวศรสวรรค์ ปักกาโล อายุ 26 ปี มาดูบ้านที่เกิดเหตุโดยได้ซื้อมาจากกรมบังคับคดีเมื่อต้นปี 65 และได้มาดูบ้านที่เกิดเหตุ โดยแจ้งเจ้าของบ้านเดิมให้ย้ายออกไปและมีการผัดผ่อนมาหลายครั้งจนเลยเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ตายจึงมาทวงถามกับเจ้าของบ้านเดิมให้ออกไปและได้เข้ามาตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกเต็มบ้านออกทำให้เจ้าของบ้านเดิมคือ นายเดชา พยัคฆะ เกิดความเครียดจึงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิงเจ้าของบ้านคนใหม่วิ่งหนีและเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมบ้านไว้และให้มือปืนออกมามอบตัวแต่มือปืนไม่ยอมออกมาเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่ในขณะนี้

ด้านนางสาวศรสวรรค์ ปักกาโล อายุ 26 ปี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือป้าของตน ป้าได้ซื้อบ้านมาปีนึงแล้วโดยได้ซื้อมาจากกรมบังคับคดี ตนกับป้าก็มาคุยกับนายเดชา พยัคฆะ ตั้งแต่ซื้อบ้านตอนแรก และได้ถามว่าคุณจะออกเมื่อไหร่ เราได้ซื้อบ้านคุณไว้แล้วนะ คุณลุงพร้อมวันไหน มีรถไหม ถ้าไม่มีเราจะช่วยขนของออกให้ ผู้ก่อเหตุก็บอกว่าบ้านหลังนี้ตนได้ซื้อมาจากธนาคารออมสิน แต่ธนาคารออมสินโกงตน ถ้าอยากได้ไปฟ้องเอา ตนก็หยุดไปและเว้นช่วง พอรอบต่อมาเข้าไปใหม่ให้ทนายทำเรื่องฟ้องและต้องมีหมายจับจากตำรวจ แต่ก็เข้าไปเจรจากับคุณลุงก่อนไปกับลูกสาวคุณป้า คุณลุงก็ยังไม่ออกมาและปิดประตูเงียบ เลยไม่สนใจละ คุณลุงจะอยู่ก็อยู่แต่ทางตนและคุณป้าก็พาคนมาตัดต้นไม้รอบบ้าน พอตัดต้นไม้เสร็จปุ้ป รอบที่ 3 ก็มาใหม่ โดยได้หมายศาลมาแล้วคุณป้าก็มากับลูกสาวอีกครั้งโดยที่จะมาคุยกับคุณลุงแบบชิลๆ ส่วนพวกตนก็ไม่รู้เลยว่าคุณป้ามาเพราะทุกคนทำงานกันหมด จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นน้องที่เป็นลูกสาวของคุณป้าก็วิ่งไปแอบและโทรมาบอกตน ตนกับญาติๆก็รีบขับรถมาหาที่เกิดเหตุเลย ตนก็ตกใจว่าทำไมลุงถึงมายิงป้าแบบนี้ มีคนแถวนี้บอกว่าได้ยินเสียงปืน 1 นัดแล้วป้าก็วิ่งออกมาพอมาล้มข้างหน้า ก็เดินออกมายิงซ้ำอีก มีคุณลุงที่ปั่นจักรยานมาบอกว่า เขายิงทั้งหมด 5 นัดและมาจ่อยิงที่หัว ตอนนี้ตนก็อยากจะรีบเข้าไปเอาตัวคุณป้าออกมาให้เร็วที่สุด

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

พังงา// ภัยออนไลน์ ครูเกษียนสุดช้ำถูกเพจขายทุเรียนรูปดาราดังหลอกโอนเงินสั่งซื้อทุเรียนหมอนทองราคาถูก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ ข้าราชการครูบำนาญ ชาวตำบลท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เข้าพบ พ.ต.ต.พีรวิชญ์ ไชยชาญยุทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพังงา นำหลักฐานเอกสารร้องทุกข์ว่า เมื่อคืนวันที่18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”หลอกขายทุเรียนหมอนทองจันทบุรีราคาถูกลูกละ100 บาท โดยได้สนทนาสั่งซื้อกันทางข้อความจำนวน5ลูกแถม1ลูก รวมเงิน 500 บาท ซึ่งได้โอนเงินค่าสั่งซื้อทุเรียน 500 บาท ที่บัญชีธนาคาร CIMB หมายเลข 7013320704 ชื่อ นส.อริสรา ทองปั้น

เมื่อโอนเงินเรียบร้อยทางเพจก็แจ้งกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 200 บาท เป็นค่ากล่องใส่ทุเรียน จึงรู้สึกเอะใจและสอบถามกลับไปว่าที่สั่งซื้อเป็นโปรโมชั่น 5ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี ทำไมมาคิดค่ากล่องกันอีก ทางเพจก็กล่าวอ้างว่าลืมแจ้งให้ลูกค้าทราบว่ามีค่ากล่องด้วย ก่อนที่จะบล็อกการสนทนาไปเลย ก็เลยคิดว่าโดนมิจฉาชีพหลอกอย่างแน่นอน จึงนำหลักฐานมาร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและเป็นบทเรียนเตือนใจกับคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่นั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่ก็ได้เห็นเพจ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”เด้งขึ้นมา โดยดปรไฟล์มีรูปคุณชาคริต แย้มนาม ดาราชื่อดังกับครอบครัวอยู่ด้วย และมีภาพโชว์ทุเรียนและสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับมีโปรโมชั่นพิเศษในราคาลูกละ100 บาทเท่านั้น จึงมีความเชื่อว่าเป็นเพจของคุณชาคริตจริงๆและรู้สึกอยากกินทุเรียนหมอนทองจันทบุรีแถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ก็ได้สั่งซื้อทางช่องสนทนาในโปรโมชั่น5 ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี โดยไม่คิดว่าจะโดนหลอก เมื่อโอนเงินให้แล้ว จึงรู้ว่าโดนหลอก

ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการนำภาพคุณชาคริตมาหลอกขายทุเรียนออนไลน์อยู่ ถ้าหากรู้มาก่อนก็คงไม่โดนหลอก ซึ่งยอมรับว่าตนเองไม่เชื่อฟังทั้งแฟนและลูกได้เตือนหลายครั้งในเรื่องสั่งซื้อของออนไลน์แล้วไม่ตรงปก แต่ก็ได้ของมาใช้เองไม่เองก็นำไปให้คนอื่นหรือนำไปบริจาค แต่ครั้งนี้เพราะอยากกินจึงสั่งมากิน แต่กับเจอกับมิจฉาชีพทำเพจปลอมมาหลอกให้โอนเงิน แม้เงินจะไม่มากแค่500บาท แต่ก็อยากให้เป็นบทเรียนข้อเตือนใจให้คนที่ชอบสั่งซื้อของออนไลน์ ให้มีสติควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะสั่งซื้ออะไร

พังงา// ภัยออนไลน์ ครูเกษียนสุดช้ำถูกเพจขายทุเรียนรูปดาราดังหลอกโอนเงินสั่งซื้อทุเรียนหมอนทองราคาถูก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ ข้าราชการครูบำนาญ ชาวตำบลท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เข้าพบ พ.ต.ต.พีรวิชญ์ ไชยชาญยุทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพังงา นำหลักฐานเอกสารร้องทุกข์ว่า เมื่อคืนวันที่18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”หลอกขายทุเรียนหมอนทองจันทบุรีราคาถูกลูกละ100 บาท โดยได้สนทนาสั่งซื้อกันทางข้อความจำนวน5ลูกแถม1ลูก รวมเงิน 500 บาท ซึ่งได้โอนเงินค่าสั่งซื้อทุเรียน 500 บาท ที่บัญชีธนาคาร CIMB หมายเลข 7013320704 ชื่อ นส.อริสรา ทองปั้น

เมื่อโอนเงินเรียบร้อยทางเพจก็แจ้งกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 200 บาท เป็นค่ากล่องใส่ทุเรียน จึงรู้สึกเอะใจและสอบถามกลับไปว่าที่สั่งซื้อเป็นโปรโมชั่น 5ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี ทำไมมาคิดค่ากล่องกันอีก ทางเพจก็กล่าวอ้างว่าลืมแจ้งให้ลูกค้าทราบว่ามีค่ากล่องด้วย ก่อนที่จะบล็อกการสนทนาไปเลย ก็เลยคิดว่าโดนมิจฉาชีพหลอกอย่างแน่นอน จึงนำหลักฐานมาร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและเป็นบทเรียนเตือนใจกับคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่นั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่ก็ได้เห็นเพจ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”เด้งขึ้นมา โดยดปรไฟล์มีรูปคุณชาคริต แย้มนาม ดาราชื่อดังกับครอบครัวอยู่ด้วย และมีภาพโชว์ทุเรียนและสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับมีโปรโมชั่นพิเศษในราคาลูกละ100 บาทเท่านั้น จึงมีความเชื่อว่าเป็นเพจของคุณชาคริตจริงๆและรู้สึกอยากกินทุเรียนหมอนทองจันทบุรีแถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ก็ได้สั่งซื้อทางช่องสนทนาในโปรโมชั่น5 ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี โดยไม่คิดว่าจะโดนหลอก เมื่อโอนเงินให้แล้ว จึงรู้ว่าโดนหลอก

ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการนำภาพคุณชาคริตมาหลอกขายทุเรียนออนไลน์อยู่ ถ้าหากรู้มาก่อนก็คงไม่โดนหลอก ซึ่งยอมรับว่าตนเองไม่เชื่อฟังทั้งแฟนและลูกได้เตือนหลายครั้งในเรื่องสั่งซื้อของออนไลน์แล้วไม่ตรงปก แต่ก็ได้ของมาใช้เองไม่เองก็นำไปให้คนอื่นหรือนำไปบริจาค แต่ครั้งนี้เพราะอยากกินจึงสั่งมากิน แต่กับเจอกับมิจฉาชีพทำเพจปลอมมาหลอกให้โอนเงิน แม้เงินจะไม่มากแค่500บาท แต่ก็อยากให้เป็นบทเรียนข้อเตือนใจให้คนที่ชอบสั่งซื้อของออนไลน์ ให้มีสติควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะสั่งซื้ออะไร

พังงา// ภัยออนไลน์ ครูเกษียนสุดช้ำถูกเพจขายทุเรียนรูปดาราดังหลอกโอนเงินสั่งซื้อทุเรียนหมอนทองราคาถูก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ ข้าราชการครูบำนาญ ชาวตำบลท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เข้าพบ พ.ต.ต.พีรวิชญ์ ไชยชาญยุทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพังงา นำหลักฐานเอกสารร้องทุกข์ว่า เมื่อคืนวันที่18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”หลอกขายทุเรียนหมอนทองจันทบุรีราคาถูกลูกละ100 บาท โดยได้สนทนาสั่งซื้อกันทางข้อความจำนวน5ลูกแถม1ลูก รวมเงิน 500 บาท ซึ่งได้โอนเงินค่าสั่งซื้อทุเรียน 500 บาท ที่บัญชีธนาคาร CIMB หมายเลข 7013320704 ชื่อ นส.อริสรา ทองปั้น

เมื่อโอนเงินเรียบร้อยทางเพจก็แจ้งกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 200 บาท เป็นค่ากล่องใส่ทุเรียน จึงรู้สึกเอะใจและสอบถามกลับไปว่าที่สั่งซื้อเป็นโปรโมชั่น 5ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี ทำไมมาคิดค่ากล่องกันอีก ทางเพจก็กล่าวอ้างว่าลืมแจ้งให้ลูกค้าทราบว่ามีค่ากล่องด้วย ก่อนที่จะบล็อกการสนทนาไปเลย ก็เลยคิดว่าโดนมิจฉาชีพหลอกอย่างแน่นอน จึงนำหลักฐานมาร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและเป็นบทเรียนเตือนใจกับคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่นั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่ก็ได้เห็นเพจ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”เด้งขึ้นมา โดยดปรไฟล์มีรูปคุณชาคริต แย้มนาม ดาราชื่อดังกับครอบครัวอยู่ด้วย และมีภาพโชว์ทุเรียนและสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับมีโปรโมชั่นพิเศษในราคาลูกละ100 บาทเท่านั้น จึงมีความเชื่อว่าเป็นเพจของคุณชาคริตจริงๆและรู้สึกอยากกินทุเรียนหมอนทองจันทบุรีแถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ก็ได้สั่งซื้อทางช่องสนทนาในโปรโมชั่น5 ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี โดยไม่คิดว่าจะโดนหลอก เมื่อโอนเงินให้แล้ว จึงรู้ว่าโดนหลอก

ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการนำภาพคุณชาคริตมาหลอกขายทุเรียนออนไลน์อยู่ ถ้าหากรู้มาก่อนก็คงไม่โดนหลอก ซึ่งยอมรับว่าตนเองไม่เชื่อฟังทั้งแฟนและลูกได้เตือนหลายครั้งในเรื่องสั่งซื้อของออนไลน์แล้วไม่ตรงปก แต่ก็ได้ของมาใช้เองไม่เองก็นำไปให้คนอื่นหรือนำไปบริจาค แต่ครั้งนี้เพราะอยากกินจึงสั่งมากิน แต่กับเจอกับมิจฉาชีพทำเพจปลอมมาหลอกให้โอนเงิน แม้เงินจะไม่มากแค่500บาท แต่ก็อยากให้เป็นบทเรียนข้อเตือนใจให้คนที่ชอบสั่งซื้อของออนไลน์ ให้มีสติควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะสั่งซื้ออะไร

พังงา// ภัยออนไลน์ ครูเกษียนสุดช้ำถูกเพจขายทุเรียนรูปดาราดังหลอกโอนเงินสั่งซื้อทุเรียนหมอนทองราคาถูก

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ ข้าราชการครูบำนาญ ชาวตำบลท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เข้าพบ พ.ต.ต.พีรวิชญ์ ไชยชาญยุทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพังงา นำหลักฐานเอกสารร้องทุกข์ว่า เมื่อคืนวันที่18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”หลอกขายทุเรียนหมอนทองจันทบุรีราคาถูกลูกละ100 บาท โดยได้สนทนาสั่งซื้อกันทางข้อความจำนวน5ลูกแถม1ลูก รวมเงิน 500 บาท ซึ่งได้โอนเงินค่าสั่งซื้อทุเรียน 500 บาท ที่บัญชีธนาคาร CIMB หมายเลข 7013320704 ชื่อ นส.อริสรา ทองปั้น

เมื่อโอนเงินเรียบร้อยทางเพจก็แจ้งกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 200 บาท เป็นค่ากล่องใส่ทุเรียน จึงรู้สึกเอะใจและสอบถามกลับไปว่าที่สั่งซื้อเป็นโปรโมชั่น 5ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี ทำไมมาคิดค่ากล่องกันอีก ทางเพจก็กล่าวอ้างว่าลืมแจ้งให้ลูกค้าทราบว่ามีค่ากล่องด้วย ก่อนที่จะบล็อกการสนทนาไปเลย ก็เลยคิดว่าโดนมิจฉาชีพหลอกอย่างแน่นอน จึงนำหลักฐานมาร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพและเป็นบทเรียนเตือนใจกับคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
นางสุปราณี ฤกษ์จำนงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่นั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่ก็ได้เห็นเพจ “สวนทุเรียน เขยจันทร์”เด้งขึ้นมา โดยดปรไฟล์มีรูปคุณชาคริต แย้มนาม ดาราชื่อดังกับครอบครัวอยู่ด้วย และมีภาพโชว์ทุเรียนและสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับมีโปรโมชั่นพิเศษในราคาลูกละ100 บาทเท่านั้น จึงมีความเชื่อว่าเป็นเพจของคุณชาคริตจริงๆและรู้สึกอยากกินทุเรียนหมอนทองจันทบุรีแถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ก็ได้สั่งซื้อทางช่องสนทนาในโปรโมชั่น5 ลูก แถม1ลูกค่าส่งฟรี โดยไม่คิดว่าจะโดนหลอก เมื่อโอนเงินให้แล้ว จึงรู้ว่าโดนหลอก

ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการนำภาพคุณชาคริตมาหลอกขายทุเรียนออนไลน์อยู่ ถ้าหากรู้มาก่อนก็คงไม่โดนหลอก ซึ่งยอมรับว่าตนเองไม่เชื่อฟังทั้งแฟนและลูกได้เตือนหลายครั้งในเรื่องสั่งซื้อของออนไลน์แล้วไม่ตรงปก แต่ก็ได้ของมาใช้เองไม่เองก็นำไปให้คนอื่นหรือนำไปบริจาค แต่ครั้งนี้เพราะอยากกินจึงสั่งมากิน แต่กับเจอกับมิจฉาชีพทำเพจปลอมมาหลอกให้โอนเงิน แม้เงินจะไม่มากแค่500บาท แต่ก็อยากให้เป็นบทเรียนข้อเตือนใจให้คนที่ชอบสั่งซื้อของออนไลน์ ให้มีสติควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะสั่งซื้ออะไร

ปทุมธานี “ปวีณา” บินด่วนแม่ร้องลูกสาว 3 ขวบหายปริศนา ก่อนพบเป็นศพลอยน้ำท่อนล่างเปลือย

วันที่ 18 พ.ค.66 แม่ร้อง ปวีณา ลูกสาว 3 ขวบหายปริศนาก่อนพบเป็นศพลอยน้ำท่อนล่างเปลือย ขอช่วยให้ความเป็นธรรม ปวีณา บินด่วน จ.นราธิวาส พาพ่อแม่ด.ญ.ไปพบ พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง ช่วยติดตามคดีนำตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมายทันทีที่รับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง จ.นราธิวาสทันที ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพเด็กไปชันสูตรแล้ว และกรณีนี้น่าจะมีเงื่อนงำ ขณะเดียวกันนางปวีณา ได้ประสาน นายสรัญรัฐ กีรติวิโรจน์กุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวของด.ญ.3 ขวบ พบพ่อแม่และญาติอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากกรณีนายเอ็มและนางเอ (นามสมมุติ) ชาวจ.นราธิวาส พ่อและแม่ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ด.ญ.เอ๋ (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 3 ขวบ หายตัวไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ขอช่วยติดตามตัว และวันถัดมา 16 พ.ค.66 พ่อแม่ได้แจ้งกลับมาที่มูลนิธิปวีณาฯ ว่าพบศพน้องเอ๋ เสียชีวิตอยู่ในแอ่งน้ำภายในบริเวณทุ่งหญ้าที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ประมาณ 300 เมตร โดยสภาพศพน้องเอ๋เปลือยท่อนล่างสวมเสื้อเพียงตัวเดียว คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2 วัน และใกล้ที่พบศพประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบกางเกงและแพมเพิสของน้องเอ๋ กองอยู่ที่เนินดินโคนต้นไม้ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานพร้อมส่งศพไปชันสูตรที่รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

พ่อแม่น้องเอ๋ กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค. ขณะที่พ่อขายของอยู่ที่ตลาดตรงข้ามบ้าน เมื่อหันมาอีกทีลูกสาวก็หายตัวไป เชื่อว่าการเสียชีวิตของลูกสาวมีเงื่อนงำและมีผู้กระทำให้เสียชีวิต เพราะลูกสาวยังเล็กและมีพัฒนาการช้า ปกติจะถอดแพมเพิสเองไม่ได้ต้องมีคนถอดให้ และลูกก็ไม่สามารถที่จะเดินมาถึงที่เกิดเหตุได้แน่นอน เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านเคยอยู่กันอย่างสงบสุขไม่เคยเกิดเหตุร้ายแบบนี้มาก่อน ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ถึงที่สุด เอาตัวคนที่ทำกับลูกสาวมารับโทษให้ได้ ทั้งนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะบินด่วนไปถึงสนามบิน จ.นราธิวาส ในเวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค.66 โดยพ่อแม่น้องเอ๋ พร้อมด้วย นางสาวคอทรีหม๊ะ หะยีอารุณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส และนายสรัญรัฐ กีรติวิโรจน์กุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส จะเดินทางมารับ ก่อนที่นางปวีณา จะพาพ่อแม่น้องเอ๋ พร้อมด้วย หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ นราธิวาส เดินทางไปที่สภ.ตันหยง ในเวลา 12.30 น. พบกับ พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง เพื่อติดตามคดี

จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผกก.สภ.ตันหยง นางสาวคอทรีหม๊ะ หะยีอารุณ พัฒนาสังคมฯ นราธิวาส และนายสรัญรัฐ กีรติวิโรจน์กุล หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ นราธิวาส และพ่อแม่น้องเอ๋ จะเดินทางไปดูที่สถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่นางปวีณา จะเดินทางไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่น้องเอ๋เพื่อให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง โดยทุกคนเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวคนร้ายได้ในไม่ช้านี้

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

ผบช.ภ.5 ระดมสรรพกำลังนับร้อย เครื่องมืออุปกรณ์ ลงค้นหาต่อเนื่อง พบแล้วน้องปิงปอง

ผบช.ภ.5 ระดมสรรพกำลังนับร้อย เครื่องมืออุปกรณ์ ลงค้นหาต่อเนื่อง พบแล้วน้องปิงปอง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.66 ที่ผ่านมาได้พลเมืองดีพบศพ นายวรเมธ (สงวนนามสกุล) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อาย17 ปี ถูกฆ่าแล้วนำมาซุกซ่อนป่าละเมาะที่บริเวณดอยฮ่องทำฝ่าย ม.9 ต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งต่อมาวันที่ 9 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทะ , กก.สส.ภ.จว.ลำปาง ได้ดำเนินการจับกุมนายชัยวัฒน์(สงวนนามสกุล) ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง ที่ จ.78/2566 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นศพ ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย กรณีดังกล่าวยังพบว่าน้องปิงปอง อายุ 16 ปีเศษ ซึ่งได้ออกจากบ้านไปพร้อมกับนายวรเมธฯ ได้หายตัวไปพร้อมกัน

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้มาควบคุมกำกับการติดตามหาตัวน้องปิงปอง โดยได้สั่งการให้ บก.สส.ภ.5 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ภ.5 นำกำลังพลพร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษ ร่วมกับ ภ.จว.ลำปาง ,ชุดสุนัขดมกลิ่นของ ตชด. ,กู้ภัย และประชาชนที่มีความชำนาญในพื้นที่ ระดมค้นหาตัวน้องปิงปองตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะนำศพไปซุกซ่อน ทำลายทิ้ง โดยเริ่มทำการค้นหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.66 ที่ผ่านมา จากการสืบสวน ทีมค้นหาได้พบข้อมูลว่าคนร้ายได้ขับรถผ่านจุดตรวจหลังเทินของ สภ.เกาะคา จว.ลำปาง จึงได้ค้นหาบริเวณหลังเทินและใกล้เคียง จนกระทั่งในวันนี้ (13 พ.ค.66) ได้มีการระดมทีมค้นหากว่า 100 นาย ปูพรมลงค้นหา และเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ทีมค้นหาได้พบร่องรอยการฝังกลบดินใหม่ๆ และมีก้อนหินกับตอไม้ทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง บริเวณริมถนนพหลโยธิน (เชียงใหม่-กรุงเทพ) ขาล่อง ระหว่าง กม.667-668 ม. 1 บ้านหาดกู่ด้าย ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ห่างจากถนนพหลโยธินลึกเข้าไปประมาณ 30 เมตร

ทีมค้นหาจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 , แพทย์ รพ. เกาะคา และพนักงานสอบสวน เข้าตรวจพื้นที่ ซึ่งจากการขุดกองดินดังกล่าว พบศพหญิงสาวถูกฝังอยู่ใต้กองดิน สภาพฝังมาประมาณ 4 – 5 วัน พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนญาติของน้องปิงปอง ให้การยืนยันเสื้อผ้า,เหล็กดัดฟัน และทรัพย์สินในตัวศพเป็นของน้องปิงปอง พนักงานสอบสวนได้นำศพที่พบส่งตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายและร่องรอยอื่นๆ เช่นการถูกล่วงละเมิดในทางเพศ ยังนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ในส่วนรูปคดีนั้น พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในชั้นนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวม พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม พยานวัตถุ พยานผู้เชี่ยวชาญ ที่พบ ที่มีอยู่ ให้เข้ามาในสำนวนและได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.ลำปาง ลงมากำกับควบคุมการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยตนเอง ซึ่งเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้สามารถใช้พิสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน

ในส่วนของนายชัยวัฒน์ฯ ผู้ต้องหานั้น จากประวัติแล้ว มีปี 2549 เคยต้องโทษคดีในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์และข่มขื่นกระทำชำเรา ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ต้องโทษในความผิดฐานกระทำชำเรา โดยศาลจังหวัดลำปาง มีคำพิพากษาให้จำคุก 23 ปี 4 เดือน และเพิ่งพ้นโทษเรือนจำมาได้ไม่นานก็มาก่อเหตุนี้อีก.

ทรงวุฒิ ทับทอง

สุราษฎร์ธานี// “เฉพาะกิจฝ่ายปกครอง” จับบ่อนพนันเมืองสุราษฎร์ฯ จับขาเล่นเพียบ.

ทีมข่าวอาชญากรรม

วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.00 น. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เขตตรวจราชการที่ 5 ปฎิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กรมการปกครอง นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับนายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ หรือแพลนท์ปูน บริเวณใกล้สามแยกฝั่งตรงข้ามทางไปสะพานศรีสุราษฎร์ ถนนปากน้ำ ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จากการสืบทราบว่า ภายในโรงงานดังกล่าวมีการลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่

เมื่อชุดจับกุมเดินทางไปถึงพบว่า ทางเข้าเป็นถนนซอยด้านนอกเป็นป่าและล้อมรั้วสังกะสีไว้มีคนคอยดูต้นทาง จนท.จึงขอเข้าตรวจค้นพบว่า ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น แนวชั้นแรกมีสแลนปิดอำพรางไว้ แนวชั้นที่ 2 พบมีเต้นท์ทั้งหมด 5 หลัง เป็นเต้นท์สำหรับเล่นพนัน 4 หลัง มีวงพนัน 3 วงเป็นพนันโปปั่น พนันไพ่ พนันไฮโล มีนักพนันชายหญิงประมาณ 200 คน

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่บุกทำการจับกุมทั้งหมดไม่สามารถหลบหนีออกได้ และยังมีอีก 1 เต้นท์เป็นเต้นท์ขายของ นอกจากนี้มีจุดรับจำนำรถยนต์ และห้องสุขาไว้บริการอีกด้วยเจ้าหน้าที่จึงควบคุมบุคคลภายในทั้งหมดไว้ตรวจสอบ โดยได้ทำการควบคุมตัวทั้งหมดไว้ และได้แจ้งข้อหา พรบ.การพนันดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .

หนุ่มแม่สรวย ทะเลาะชกต่อยในวงเหล้า กลับไปเอาปืนแก๊ปยิงเพื่อนบาดเจ็บ 2 ราย

เมื่อคืนกลางดึกของวันที่ 30 เม.ย.2566 เวลา เวลาประมาณ 00.30 น. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ ตามจิตต์ สว.สอบสวน สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก นายมานพ บุญยืนกุล ผู้ใหญ่บ้าน ม. 18 บ.ป่าเกี๊ยะ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย ว่าได้มีเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนถนนสาธารณะ ก่อนถึงหมู่บ้านป่าเกี๊ยะ หมู่ที่ 18 ต.ท่าก๊อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สรวย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่สรวย จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สิรวิชญ์ ญาติกา รอง สวป.ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลท่าก๊อ และ ร.ต.อ.ปรีดา นรากุลอนันต์ รอง สวป.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ 20 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ นายศักดา เกษมศรีธารา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย ผู้ก่อเหตุ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับอาวุธปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ใกล้ตัวของนายศักดา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย 1.นายเจษฎา เกษมศรีธารา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และ 2. นายพงศ์พันธ์ ดีแฮ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ถูกนายศักดาฯใช้อาวุธปืนแก๊ปยาวไทย ประดิษฐ์ ยิงเข้าที่ร่างกาย และได้มีพลเมืองดี นำตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.แม่สรวย ก่อนหน้านี้ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจค้นตามร่างกายของนายศักดาฯ ผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายศักดาฯให้การรับว่าที่ตนเองก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงเข้าใส่นายเจษฎาฯและนายพงศ์พันธ์ฯ จริง เนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 เม.ย.2566 ตนเองได้ร่วมวงดื่มสุรากับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง จนมึนเมา ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ได้พูดจาดูหมิ่น เหยียดหยาม จนมีเรื่องชกต่อย และทะเลาะวิวาทกันในวงสุรา ทำให้ตัวนายศักดาฯผู้ต้องหา เกิดความไม่พอใจ ประกอบกับตนเองได้เสพยาเสพติดประเภทยาบ้า และฝิ่น มาก่อนหน้านี้ด้วย เลยทำให้ขาดสติ จึงได้กลับไปเอาอาวุธปืนแก๊ปของตนเองมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ควบคุมตัวนายศักดาฯ มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลแม่สรวย เพื่อยืนยันผลการตรวจ โดยผลการตรวจสารเสพติด พบเป็นผลบวกสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน(Methamphetamine)และมอร์ฟีน(Morphine) อยู่ในร่างกายของผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 มอร์ฟีน (ฝิ่น)โดยผิดกฎหมาย” พร้อมนำส่งตัวผู้ต้องหา และของกลางอาวุธปืนแก๊ป ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ – ตร.สภ.แม่สรวย
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ รายงาน

สุราษฎร์ธานี// “แรงไม่มีแผ่ว”ขาใหญ่เมืองสุราษฎร์ฯ ดวลเดือดในงานแต่งดับ 2 เจ็บ 2 ด้านชาวบ้านโวย “ปืนเต็มเมือง” .

ทีมข่าวอาชญากรรม

วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 20.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองสุราษฎร์ฯ รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณลานจอดรถในงานแต่งงานที่โรงแรมบรรจงบุรี ถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 3 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ฯ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนเวรจึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ฯ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองฯ ประสาน จนท.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และศูนย์กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ฯ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถด้านหน้าอาคารจัดเลี้ยงของโรงแรมพบผู้้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายสภาพศพนอนหงายจมกองเลือดทราบชื่ิอต่อมาคือนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว สุวรรณสินธุ์ อายุ 35 ปี เจ้าของฉายา “ขุนแผน เมืองสุราษฎร์ ” ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายจุด นุ่งกางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าหนังสีดำ มีอาวุธปืนสั้นแบบแม็กกาซีนตกอยู่ข้างตัว มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ ลำตัว และขา

ห่างกันประมาณ 2 เมตร พบผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นชายเช่นกันทราบชื่อต่อมาคือนายวิรัช หรือเจน สุดภักดี อายุ 39 ปี ชาว ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ เจ้าของสถานบันเทิงร้านผับชื่อ “ทองหล่อ” อยู่ใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนี้ได้ปิดตัวไปแล้ว สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ ลำตัว สะโพก และขาข้างขวา ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืน และหัวกระสุนปืน ขนาด 11 มม.และ 9 มม.ประมาณสิบกว่าปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นหญิงชื่อ น.ส.กานต์สิริ หรือแพท สุวรรณสินธุ์ อายุ 30 ปี เป็นคนใกล้ชิดนายภาณุพงศ์ มีบาดแผลถูกยิงที่ขาด้านซ้ายอาการสาหัส และน.ส.ธนัยธร ลื่อเท่ง อายุ 20 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ถูกยิงเข้าบริเวณขาด้านขวาอาการสาหัสเช่นเดียวกัน
สอบสวนทราบว่าภายในโรงแรมมีการจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสโดยทั้งผู้เสียชีวิต-ผู้บาดเจ็บต่างมาร่วมงานดังกล่าว ซึ่งนายภาณุพงศ์ หรือขุนแผน เมืองสุราษฎร์ กับนายวิรัช หรือเจน เคยเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันแต่มีความขัดแย้งกันมานาน โดยทั้งสองได้เดินออกมาจากงานเลี้ยงมาเจอกันที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้า โดยนายวิรัช หรือเจน เดินออกมาก่อน และนายภาณุพงศ์ หรือแผน เดินตามหลังมาลักษณะคล้ายจะมาเคลียร์ปัญหากันจนเกิดเหตุการณ์ยิงต่อสู้กันดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 นายภาณุพงศ์ หรือขุนแผน และ น.ส.กานต์สิริ หรือแพท เคยถูกตำรวจกองปราบปรามในคดียาเสพติดที่กรุงเทพฯ และเคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ค้าอาวุธปืนสงครามมาก่อน ภายหลังพ้นโทษ ได้ผันตัวมาเป็นเซียนพระออนไลน์ ฉายา “ขุนแผน เมืองสุราษฎร์” มีผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกว่า 1 แสนคนกระทั่งมาจบชีวิตในที่สุดดังกล่าว ด้านประชาชนรายหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่าเหตุอาชญากรรมโดยการใช้อาวุธปืนเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตว่าจะโดนลูกหลงเข้าสักวัน จึงขอวอนมายังส่วนที่เกี่ยวข้องให้กวดขันป้องปราม-อาชญากรรมทุกชนิดเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวด้วย.