google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

รองผู้การศรีสะเกษ สุ่มตรวจเข้มเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจพร้อมดูแลประชาชน

เมื่อเร็วๆนี้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่สุ่มตรวจการยกระดับการบริการประชาชนตามนโยบาย ผบ.ตร.และ ผบช.ภ.3 สุ่มตรวจ สภ.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พบ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ เปรี่ยมรัตนชัย สว.สภ.โพนเขวา พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดอยู่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมรับรายงานเหตุการณ์ทั่วไปปกติ จึงกำชับการปฏิบัติดังนี้ 1.ให้ระดมเร่งรัดดำเนินการใบสั่งจราจรที่ค้างชำระให้เสร็จสิ้นในกำหนด

2.ให้เตรียมการวัสดุอุปกรณ์กำลังพลกำลังพลและจัดทำแผนอำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล 3.กำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายและข้อสั่งการ ของ ตร. และภ.3

4.เพิ่มความเข้มในการสืบสวนหาข่าวและออกตรวจป้องกันเหตุเกี่ยวกับความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

5.ให้อำนวยความยุติธรรมในการบริการประชาชนให้เป็นไปตามระเบียบ คำสั่ง กฎหมายข้อบังคับและนโยบายของทางราชการ

6.กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายห้ามยุ่งเกี่ยวยาเสพติด การพนัน การค้ามนุษย์และอบายมุขทุกชนิด

7.กำชับให้เข้มงวดกวดขันระเบียบวินัยและความประพฤติของข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้เป็นไปตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 และ8.กำชับการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางการยกระดับการบริการประชาชนของ ตร. และ ภ.3 อีกด้วย

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน

นครศรีธรรมราช มทภ.4 ประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เน้นย้ำการทำงานตามนโยบายของ นรม./ผอ.รมน. ขับเคลื่อนงาน-แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

วันที่ 25 มกราคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 1 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ครั้งที่ 1/2567 จัดขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าส่วนราชการ และผู้บัญชาการหน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ทั้งนี้เพื่อรับฟังสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ วางแผนการขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และสถานการณ์ ตลอดจนสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามต่างๆให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน โดยมี บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย, ผู้แทนอธิบดีอัยการภาค 9, ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าราชการจังหวัด, คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 ตลอดจนเน้นย้ำการทำงานด้านต่างๆ กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาก ดังนั้นขอให้หัวหน้าส่วนราชทุกหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้ปฏิบัติงานตามนโยบายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือการทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และรับฟังเสียงของประชาชน แล้วแปลงไปสู่แผนการปฏิบัติ ทั้งในมิติการพัฒนา มิติความมั่นคง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น และความไว้เนื้อเชื่อใจต่อประชาชน

ในเรื่องการจัดระเบียบสังคม การพนัน หนี้นอกระบบ และผู้มีอิทธิพล ต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ใช้กลไกของหน่วยงานความมั่นคงและกองกำลังป้องกันชายแดน จนขยายผลไปถึงขบวนการอันเป็นต้นตอของการกระทำผิด ลดจำนวนผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ รายได้ และการยอมรับของสังคม สำหรับผู้ที่ผ่านการฟื้นฟู ขอให้ทุกส่วนได้ศึกษาแนวทาง และประสานร่วมปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป สำหรับแผนงานโครงการ “ตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินโครงการเพื่อให้ประชาชน อยู่ดี กินดี มีอาชีพ และรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต ขอให้เร่งดำเนินโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ในส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่ง และผู้มีอาการทางจิต จากยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick win) ซึ่งปัจจุบันได้บูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้อง และเริ่มดำเนินการแล้วในบางจังหวัด ในส่วนจังหวัดที่เหลือให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูล และความพร้อมในการแก้ไขปัญหาต่อไป เมื่อได้รับมอบหมาย นอกจากนี้ให้ทุกส่วนร่วมกันขับเคลื่อนงานจิตอาสาพระราชทาน เสริมสร้างเครือข่ายจิตอาสาในพื้นที่ และส่งเสริมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน สร้างอุดมการณ์ความรักชาติ เคารพ และเทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีจิตสาธารณะ และเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม”

สำหรับ คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มีหน้าที่ในการอำนวยการบูรณาการ ประสานงาน และขับเคลื่อนในทุกงานที่ติดขัดปัญหา โดยใช้ช่องทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในด้านต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน อยู่ดี กินดี มีความสุข และมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตลอดไป

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสาร่วมติดตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสาร่วมติดตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 10.30 น. ร้อย.ร.1743 พร้อมด้วย ชป.กร.307 กกล.นเรศวร และ และกพ. จิตอาสาร่วมกับ,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน,อปพร ปางหมู และ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ติดตั้งจุดเฝ้าระวังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนน ลดอุบัติทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” จำนวน 2 จุดมีรายละเอียดดังนี้
1. จุดเฝ้าระวัง-ขาออก แยก ตชด 336 พิกัด (47QLB 9103239503)
2. จุดเฝ้าระวัง- ขาเข้า แยก ตชด 336 พิกัด (47QLB 9096139945)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายประชาชนพิทักษ์ชายแดน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567.

ทรงวุฒิ ทับทอง

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66, 0900 ร้อย.ร.1743 พร้อมด้วย ชป.กร.307 กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ณ บริเวณหน้า อบต.ตำบลปางหมู ม.1 ต.ปางหมู อ.เมือง จว.ม.ส. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 20 คน โดยมี นายอุกฤษฎ์ แสงงาม นายก อบต.ปางหมู เป็นประธานพิธีเปิดฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายประชาชนพิทักษ์ชายแดน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567.

ทรงวุฒิ ทับทอง

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567

กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66, 0900 ร้อย.ร.1743 พร้อมด้วย ชป.กร.307 กกล.นเรศวร และกพ. จิตอาสา มอบน้ำดื่มให้แก่ศูนย์บริการประชาชนพร้อมกับ ร่วมพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ณ บริเวณหน้า อบต.ตำบลปางหมู ม.1 ต.ปางหมู อ.เมือง จว.ม.ส. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 20 คน โดยมี นายอุกฤษฎ์ แสงงาม นายก อบต.ปางหมู เป็นประธานพิธีเปิดฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายประชาชนพิทักษ์ชายแดน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567.

ทรงวุฒิ ทับทอง

(มีคลิป) นบ.ยส.35ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะป้องกันการใช้ยาเสพติดช่วงเทศกาลปีใหม่

นบ.ยส.35ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะป้องกันการใช้ยาเสพติดช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต) หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) บูรณาการกำลังพล ประกอบด้วย ทหาร ปปส.ภาค 5 ปกครองจังหวัดเชียงใหม่นายสุเมธ ธนะขว้าง ผบ.ร้อย.อส.จ.ชม. ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อรณรงค์ไม่ใช้ยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และรณรงค์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม และอันตรายที่เกิดจากการขับขี่รถโดยสารสาธารณะในช่วงวันหยุดยาว รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ลดความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อส่งมอบความสุขไปยังพี่น้องประชาชนและสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อดูแลทุกข์และสุขของประชาชนคนไทย

พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการปราบปรามสกัดกั้น ยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.35)ได้สั่งการให้หน่วยบูรณาการกำลังร่วมอำนวยความสะดวก สุ่มตรวจปัสสาวะในผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนระหว่างเดินทาง นำกำลังสุนัขตำรวจพร้อมผู้ควบคุมสุนัขไปตรวจสอบสัมภาระกระเป๋า พัสดุภัณฑ์ ใต้ท้องรถ บขส.ที่วิ่งส่งผู้โดยสาร . เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด พร้อมพบปะประชาชน เดินรณรงค์สร้างการรับรู้ภายในอาคารผู้โดยสาร ไม่รับฝากสิ่งของจากบุคคลแปลกหน้าเพราะอาจเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย และเชิญชวนร่วมกันแจ้งเบาะแสะยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 และเฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่กับครอบครัวโดยไม่ใช้ยาเสพติด.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 530,000 เม็ด และเฮโรอีน 528 กรัม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

กองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 530,000 เม็ด และเฮโรอีน 528 กรัม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.40 น. พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ กรณี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 1530 กองร้อยทหารพรานที่ 3203 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3342 ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านปางแสนเครือ ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 24 ขวด น้ำหนักรวม 528 กรัม

และเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน กองร้อยทหารพรานที่ 3206 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านนามะอื้น ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 530,000 เม็ด โดยได้ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติด ทั้ง 2 เหตุการณ์ ณ ฐานปฏิบัติการกิ่วฮุง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ตำรวจสภ.เมืองร้อยเอ็ดตรวจรักษาความปลอดภัย จัดระเบียบผู้ขอทาน งานงิ้ว

วันที่ (23 พ.ย. 66) เวลา 18.30 น.โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.สมเกียรติ บัวนิล รอง ผกก ป สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.บุญสืบ ไชยน้ำอ้อม สวป.ฯ ร.ต.อ.ชิณภัทร เอื้อกิจ รอง สวป.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ร้อยเวร 20 สายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ดตรวจร่วมกับ พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ศูนย์คุมครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ออกตรวจ รักษาความปลอดภัย จัดระเบียบผู้ขอทาน งานงิ้ว วัดราษฎร์ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เหตุการณ์โดยทั่วไปปกติ

สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0885730542-ข่าว

มุกดาหาร ตม. ฝึกทบทวนความรู้ทักษะการใช้อาวุธปืน เน้นหลักความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.66 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร และ พ.ต.ต.พิชิต มัครมย์ สว.ตม.จว.มุกดาหารได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.มุกดาหาร เข้าฝึกทบทวนทักษะการใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายโดยเน้นหลักความปลอดภัย และความแม่นยำรวมถึงฝึกเทคนิคการใช้ให้มีความชำนาญในท่าทางการบริหารกลไกอาวุธปืนในลักษณะต่างๆ ตามยุทธวิธีตำรวจ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้กับหน่วยงาน โดยมีเจ้าหน้าที่จากกองร้อย ตชด.234 เป็นผู้ควบคุมการฝึก ณ สนามยิงปืน ร้อย ตชด.234 ค่ายฝึกเยาวชนและบุคลากรเพื่อความมั่นคง ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177

ตำรวจภูธรยะรม ซ้อมแผนเผชิญเหตุ “หนี ซ่อน สู้” จำลองสถานการณ์ ฝึกทักษะเอาตัวรอด ถอดบทเรียน กรณีชายคลั่งบุกโรงเรียน

ยะลา โรงเรียนสังวาลย์วิท 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 3 ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรยะรม ซ้อมแผนเผชิญเหตุ “หนี ซ่อน สู้” จำลองสถานการณ์ ฝึกทักษะเอาตัวรอด ถอดบทเรียน กรณีชายคลั่งบุกโรงเรียนทำร้ายครูนักเรียน

วันนี้ (24พ.ย.66) ที่โรงเรียนสังวาลย์วิท 5 อ.เบตง จ.ยะลา นางสาว คาดียะห์ อามานะกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลย์วิท 5 พร้อมด้วยคณะครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรยะรม ได้ร่วมจัดทำซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในสถานศึกษา โดยได้จำลองสถานการณ์ ว่า ชายคลั่งบุกโรงเรียน ควงมีดไล่ฟันครูนักเรียน ทำให้ครูและนักเรียนวิ่งหนีกระเจิง และพาเด็กนักเรียนหลบซ่อนในห้องเรียนอย่างเงียบๆ ล็อคหน้าต่าง ล็อคประตูทุกบานไม่ให้ชายคลั่งเข้ามา จนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งระหว่างนั้นคุณครูต้องมีสติเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้นักเรียนเกิดความกลัวและต้องดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด จึงประสานงานกับผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการให้มาช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรยะรม ก้สามารถควบคุมตัวชายคลั่งได้ มีเพียงครูหนึ่งท่านที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นักเรียนทุกคนรอดปลอดภัยดี

นางสาว คาดียะห์ อามานะกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลย์วิท 5 กล่าวว่า จากการซ้อมแผนเผชิญเหตุดังกล่าว ทางโรงเรียนสังวาลย์วิท 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 3 ได้ตระหนักถึงความสำคัญในความปลอดภัยในตัวผู้เรียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากโรงเรียนอยู่จุดศูนย์กลางของชุมชน ดังนั้น แม้ทางโรงเรียนมีมาตรการรักษาความปลอดภัยแล้ว คนร้ายมีโอกาสหาทางใช้สามารถเข้ามาในสถานศึกษาได้ทุกเมื่อ การซ้อมแผนเผชิญเหตุจึงมีความสำคัญยิ่ง โดยโรงเรียนได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี และโรงเรียนได้ดำเนินการซ้อมแผนมาแล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา แต่ในครั้งนั้น ทางโรงเรียนได้มีการนัดแนะกับคุณครู บุคลกากร และนักเรียนในการซ้อมแผนเป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้ ทางโรงเรียนจะไม่แจ้งให้ครูและนักเรียนทราบล่วงหน้า เพื่อจะได้ทราบว่า เมื่อเกิดสถานการณ์จริงแล้ว ทั้งครูและนักเรียนจะแก้ปัญหาอย่างไร พร้อมเผชิญเหตุที่ไม่คาดคิด โรงเรียนจะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีทักษะชีวิต ในการป้องกันตนเอง ตระหนัก และสามารถปฏิบัติ ดูแลช่วยเหลือตัวเอง กรณีเกิดเหตุการณ์ตามแผน “หนี ซ่อน สู้” ในสถานศึกษา ได้

ด้าน พ.ต.ท.ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ สารวัตรใหญ่ สภ.ยะรม กล่าวว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งที่เราควรทำมี 3 ข้อ หนี – ซ่อน – สู้
1.หนี (Run) เมื่อเผชิญเหตุ สิ่งแรกที่ต้องทำคือวิ่งหนีหาทางออกที่ปลอดภัยที่สุด โดยการมองหาประตู หรือทางออกฉุกเฉิน เพื่อออกจากสถานการณ์นั้นให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้ให้พาเพื่อนและคนรอบข้างออกไปด้วย ขณะวิ่ง ต้องพยายาม เก็บเสียงให้เงียบและวิ่งให้ไวที่สุด อย่ากลับเข้าพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด
2.ซ่อน (Hide) หากวิ่งจนเจอทางตันแล้ว ถัดมาคือการซ่อน และข้อพึงระวังคือห้ามซ่อนหลังประตู เพราะประตูมักจะเป็น จุดแรกๆที่คนร้ายจะเล็งเป็นเป้า และประตูก็ไม่สามารถกันกระสุนได้ ควรมองหาจุดที่กันกระสุนได้ หรือ หากเป็นห้อง ให้ล็อคกลอนและหาวัตถุที่มีน้ำหนักมาขวางประตูไว้ เมื่อหาที่ซ่อนได้แล้ว เราต้องอยู่ให้เงียบที่สุด ปิดระบบเสียงโทรศัพท์ หรี่แสงของโทรศัพท์ให้เหลือน้อยที่สุด รอจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง
3.สู้ (Fight) เมื่อถึงทางออกสุดท้าย หนีไม่ได้แล้ว เราต้องหันหน้ามาสู้ เพื่อหาทางรอดอีกครั้ง อันดับแรก ควบคุมสติ มองหาสิ่งรอบตัวที่เป็นอาวุธได้ ปากกา ขาแว่น หรือหาของแข็งที่จับกระชับมือ มุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนต่าง เช่น จิ้มตา ต้นคอ หรือ จุดอ่อนอื่นๆ เมื่อคนร้ายเสียหลักให้พยายามหนี ให้เร็วที่สุด

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา
โทร.064-126-5593

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com