google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

หนุ่มแม่สรวย ทะเลาะชกต่อยในวงเหล้า กลับไปเอาปืนแก๊ปยิงเพื่อนบาดเจ็บ 2 ราย

เมื่อคืนกลางดึกของวันที่ 30 เม.ย.2566 เวลา เวลาประมาณ 00.30 น. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ ตามจิตต์ สว.สอบสวน สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก นายมานพ บุญยืนกุล ผู้ใหญ่บ้าน ม. 18 บ.ป่าเกี๊ยะ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย ว่าได้มีเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนถนนสาธารณะ ก่อนถึงหมู่บ้านป่าเกี๊ยะ หมู่ที่ 18 ต.ท่าก๊อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สรวย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่สรวย จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สิรวิชญ์ ญาติกา รอง สวป.ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลท่าก๊อ และ ร.ต.อ.ปรีดา นรากุลอนันต์ รอง สวป.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ 20 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ นายศักดา เกษมศรีธารา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย ผู้ก่อเหตุ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับอาวุธปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ใกล้ตัวของนายศักดา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย 1.นายเจษฎา เกษมศรีธารา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และ 2. นายพงศ์พันธ์ ดีแฮ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 18 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ถูกนายศักดาฯใช้อาวุธปืนแก๊ปยาวไทย ประดิษฐ์ ยิงเข้าที่ร่างกาย และได้มีพลเมืองดี นำตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.แม่สรวย ก่อนหน้านี้ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจค้นตามร่างกายของนายศักดาฯ ผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายศักดาฯให้การรับว่าที่ตนเองก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงเข้าใส่นายเจษฎาฯและนายพงศ์พันธ์ฯ จริง เนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 เม.ย.2566 ตนเองได้ร่วมวงดื่มสุรากับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง จนมึนเมา ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ได้พูดจาดูหมิ่น เหยียดหยาม จนมีเรื่องชกต่อย และทะเลาะวิวาทกันในวงสุรา ทำให้ตัวนายศักดาฯผู้ต้องหา เกิดความไม่พอใจ ประกอบกับตนเองได้เสพยาเสพติดประเภทยาบ้า และฝิ่น มาก่อนหน้านี้ด้วย เลยทำให้ขาดสติ จึงได้กลับไปเอาอาวุธปืนแก๊ปของตนเองมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ควบคุมตัวนายศักดาฯ มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลแม่สรวย เพื่อยืนยันผลการตรวจ โดยผลการตรวจสารเสพติด พบเป็นผลบวกสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน(Methamphetamine)และมอร์ฟีน(Morphine) อยู่ในร่างกายของผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 มอร์ฟีน (ฝิ่น)โดยผิดกฎหมาย” พร้อมนำส่งตัวผู้ต้องหา และของกลางอาวุธปืนแก๊ป ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ – ตร.สภ.แม่สรวย
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ รายงาน

2 พิธีกรภาคสนามรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เฉลิมฉลองวันฮารีรายอของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ณ ชายแดนภาคตะวันตก สวนผึ้ง.ราชบุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์

รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.55 น. – 14.00 น. ( กดหมายเลข 5 )

” วันที่ 22 เมษายน 2566
ที่ผ่านมา 2 พิธีกรภาคสนามรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เฉลิมฉลองวันฮารีรายอของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ณ ชายแดนภาคตะวันตก สวนผึ้ง.ราชบุรี ”

เมื่อวันที่ 22 เมษายน พุทธศักราช 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับ วัน “ฮารีรายอ” (Hari Raya) เป็นภาษามลายูปัตตานี แปลว่า วันอีด เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวมุสลิม วันฮารีรายอ ถือเป็นวันสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก และเป็นวันรื่นเริงประจำปีซึ่งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อขออภัยซึ่งกันและกัน

อย่าพลาดติดตามชมรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.55 น. – 14.00 น. อภิคม แก้วละเอียด , สหรัฐ เตชานุบาล พิธีกรภาคสนามรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

CR: ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

นายอำเภอสวรรคโลกจัดแถวรับรางวัลสัปปะยะอะวอร์ด ประจำปี 2565 ครั้งที่ 6

วันที่ 29 เมษายน 2566 เวลา 13.30 น. ณ โรงแรมท้อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือ ตอนล่าง ได้จัดเวทีสัปปะยะอะวอร์ดยกย่องเชิดชู คน/เครือข่าย/องค์กร/หน่วยงาน ที่มีผลการทำงานขับเคลื่อนกิจกรรมลดปัจจัยเสี่ยงร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้าทั้ง 10 จังหวัด โดยมี นาย พชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานในพิธี

สำหรับปีนี้จังหวัดสุโขทัย ผู้ได้รับโลห์รางวัลได้แก่ นายอำเภอนักรณรงค์ นายอนุสรณ์ มณีเลิศ นายอำเภอสวรรคโลก ผู้สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสวรรคโลก หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สถานีตำรวจภูธรอำเภอสวรรคโลก งานประเพณียอดเยี่ยม งานหมากม่วงหมากปรางของดีศรีสวรรคโลก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลอดเหล้าบุหรี่และปัจจัยเสี่ยง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทอง ชุมชนแหล่งเรียนรู้ยอดเยี่ยม ชุมชนบ้านป้อม อำเภอคีรีมาศ ชุมชนหัวใจเพชรยอดเยี่ยม ชุมชนท่าด่าน อำเภอศรีสัชนาลัย ด้วย

กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย 0821632939

ศรีสะเกษ ทต.ผือใหญ่เปิดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟขอฝน ประจำปี 2566

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ที่บริเวณวัดบ้านหนองแปน ตำบลผือใหญ่ อำเภอโพธิ์ศรีวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ นายปวีณ แซ่จึง ได้เป็นเปิดงานโครงการสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ 2566 ทต.ผือใหญ่ โดยมีนายประยูร เดชหาญ นายกเทศมนตรีตำบลผื่อใหญ่ ในนามประธานคณะกรรมการการจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี2566 นำสมาชิกสภาเทศบาลตำบลผื่อใหญ่ ข้าราชการ พนักงานและประชาชนชาวตำบลผื่อใหญ่จำนวน 14 หมู่บ้าน และตำบลใกล้เคียงจำนวนประมาณ 350 คน ร่วมในพิธีเปิดงานโครงการสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ 2566

ซึ่งเทศบาลตำบลฝือใหญ่ร่วมกับ โรงเรียนโพธิ์ศรีสุวรรณวิทยาคม โรงเรียนบ้านผือ โรงเรียนบ้านหนองแปน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลหนองแปน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลผือใหญ่, อสม, อปพร ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลผือใหญ่ ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2566 ขึ้น

ภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย การประกวดขบวนฟ้อนรำสวยงาม จำนวน 4 ขบวน คือ ขบวนที่ 1 ได้แก่บ้านหนองแปน บ้านโชคอุดม บ้านสายตะคลอง บ้านโนนสวรรค์ ขบวนที่ 2 ได้แก่บ้านสร้างทอง บ้านหนองผือ บ้านสวาย บ้านอะโพน ขบวนที่ 3 ได้แก่บ้านเดื่อ บ้านผือ และขบวนที่ 4 ได้แก่บ้านผือใหญ่ บ้านหนองบัว บ้านฮ่องคีบ บ้านก่อ และการจุดบั้งไฟขึ้นสูงในวันที่ 29 เมษายน 2566 ณ.สนามทุ่งนาหลังวัดบ้านหนองแปน ตำบลผือใหญ่ อำเภอโพธิ์ศรีวรรณ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีบุญขั้งไฟให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อให้ประชาชนแต่ละชุมชนมีความรักความสามัคคีกันในการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อปลูกจิตสำนึกของเยาวชน ให้เห็นความสำคัญและรักบ้านเกิด เพื่อสร้างความเข้มแข็งในชุมชนและเด็ก เยาวชน ประชาชน มีจิตสำนึกในการ อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามและรักบ้านเกิดของตนเองต่อไป

ข่าว/ภาพ…… บุญทัน-ปฐมพงษ์ ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

ร้อยเอ็ด/… ขวัญควายตามลักษณะปราชญ์บอกเป็นตัวบ่งชี้ลักษณะนิสัยของควาย

ร้อยเอ็ด/…
ขวัญควายตามลักษณะปราชญ์บอกเป็นตัวบ่งชี้ลักษณะนิสัยของควาย

ปราชญ์ชาวบ้านบอก เทคนิคการเลือกซื้อควายที่เป็นมงคลถูกต้องตามลักษณะ และไม่เป็นมงคลมาเลี้ยง!!!ต้องดูที่ขวัญ ขวัญควาย เป็นลักษณะของขนบนร่างกายที่ขดเป็นวง อาจเวียนซ้ายหรือเวียนขวา ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของควายไทย ปราชญ์ระบุว่าขวัญดีจะเวียนขวา(ประทักษิณ) โดยควายจะมีขวัญตามร่างกายตั้งแต่ 1-9 แห่ง อยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ทุกวันควายหรือกะบือราคาแพงราคาแต่ละตัวหลักล้านบาท/ตัว การเลือกซื้อควายต้องมี-องค์ความรู้ ตามลักษณะที่เป็นมงคลและไม่เป็นมงคลเพื่อประกอบการเลี้ยง
บ่ายวันนี้ 29 เม.ย.2566 ณ.คอกควายของ นายบุญนิตย์ โพธิ์ชัยศรี ปราชญ์ชาวบ้าน บ้านโนนใหญ่ ตำบลคำผะอุง อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ปราชญ์ได้ชี้แนะขวัญควายที่เป็นมงคลเหมาะซื้อมาเลียง เชื่องไม่ดุร้ายใช้เขาขวิดคนเลี้ยงดังนี้…
1..ขวัญอยู่ใต้ตา โบราณกาลว่าไว้ซึ่งขวัญที่ดีเป็นศิริมงคล จะช่วยส่งเสริมให้ควายมีความงามสง่า ถูกตาต้องใจของผู้คน และขายได้ราคาสูงกว่าควายทั่วไปเรียกราคาได้ดี
2..ขวัญอยู่กกหู หรือเรียกขวัญทัดมาลา ตามตำราโบราณกาลว่าไว้ คนเลี้ยงทั้งครอบครัวมีแต่ความสุข ไม่ได้รับไข้เจ็บป่วย
3. ขวัญอยู่ ตรงสวาบ (เหนือกระเพาะ)เรียกขวัญยุ้งข้าวแตก เปรียบเหมือนการทำนาได้ข้าวจนยุ้งแตกเหมาะซื้อมาทำนา
4. ขวัญอยู่ที่ใต้ท้อง เรียกสะเภาอุ้มทอง หากมีทั้งสองข้างจะดี ให้ลูกมากและเลี้ยงลูกได้ดี
5. แม่ฮ่างเปิดซิ่น ขวัญที่ตรงขาพับหลัง ใครเห็นใครชอบเป็นเสน่ห์ซื้อมาขายออกได้ง่าย เหมาะกับนายฮ้อยพ่อค้าเก็งกำไร
ส่วนขวัญที่ไม่เป็นมงคล คือ
1.กาเช็ดสบ (ภาษาอิสาน) หรืออีกาเช็ดจะงอยปาก คือมีขวัญอยู่ตรงคูบหลังควาย โบราณสอนไว้ว่ากาละกินี เสนียดจัญไร, อย่านำมาเลี้ยงหรือใช้งานไถนา/ใช้เทียมเกวียน จะเป็นอัปมงคล.
2.ขวัญอยู่ตรงกลางหน้าผาก(กึ่งกลางเขา)เรียกกะบาลหัวแตกส่วนกลางของกระโหลกศีรษะอย่านำมาเลี้ยงจะชนเจ้าของตาย
3.ขวัญใต้ท้อง ควายตัวนั้นชอบตื่นตระหนก คนเลี้ยงเข้าหาข้างหลังโดนเตะหงายท้อง
4.ขวัญเปิดซิ่น อยู่ใต้อวัยวะเพศควายตัวเมีย โบราณกาลกล่าวไว้เลี้ยงลูกบ่ดี ชอบห้าววิ่งข้ามทุ่งหาตัวผู้ เวลาฝนฟ้าคะนอง
ท้ายสุดปราชญ์ชาวบ้านเล่านิทานให้ผู้สื่อข่าวฟังเรื่องพ่อตา!!!ให้ลูกเขยนำเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อควายมาทำนาเหตุที่ใช้ลูกเขยไปซื้อควายเพราะในวงเหล้าทุกเย็นๆลูกเขยชอบขี้โม้ว่าตัวเองเก่งด้านดูควาย(กะบือ)ตามลักษณะโหงวเฮ้งได้ดี พอตกเย็นพ่อตาเลยขอดูควายที่ลูกเขยไปซื้อมา พ่อตาเลยแกล้งดุลูกเขยว่าซื้อควายแก่-ควายเฒ่ามา เพราะฟันควายด้านบนในปากไม่มีสักซี่ ลูกเขยตกใจยอมรับผิดพร้อมจะนำควายที่ซื้อมาไปคืนว่าตัวเองขาดความรอบคอบ(ปรกติธรรมชาติฟันควายด้านบนไม่มีมาแต่กำเนิด)นิทานเรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า สิบฮุ้บ่ถ่อเคย สิบลูกเขยบ่ถ่อพ่อเฒ่าเด้อ

สุเทพ ลอยแก้ว/รายงาน

นครนายก – สองพี่น้องจมน้ำดับหลังมาเที่ยวแคมป์ปิ้งที่นครนายก

นครนายก – สองพี่น้องจมน้ำดับหลังมาเที่ยวแคมป์ปิ้งที่นครนายก

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแคมป์ปิ้งที่นครนายกมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนหลานขอลงเล่นน้ำถูกกระแสน้ำพัดจมหาย ญาติร้องขอความช่วยเหลือชาวบ้านได้ยินรีบกระโดนลงน้ำค้นหากว่า10 นาที พบร่างสองพี่น้องนอนใต้น้ำ ก่อนนำขึ้นมาปั๊มหัวใจ แต่ไม่รอด

เมื่อเวลา13.00 น. ศูนย์กู้ชีพได้รับแจ้งเหตุมีนักท่องเที่ยวสูญหายในน้ำ 2 ราย ที่สถานที่ท่องเที่ยวแคมป์ปิ้ง ในพื้นที่ ม.5 ซอยวังหิน ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก เมื่อถึงที่เกิดเหตุห่างจากแคมป์ปิ้งไม่มากนักพบร่างนายวีรวงศ์ สิงหภิวัฒน์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม. 5 ชาวตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ และ เด็กชายมนัสวีร์ กฤติยาวรรณ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นม.1 ชาวตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ สภาพหมดสติ ปากและร่างกายซีด สวมกาเงกงขาสั้นทั้งสองคน ชาวบ้านและญาติกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ จากนั้นกู้ภัยได้ติดตั้งเครื่อง AED และทำการกู้ชีพ แต่ไม่เป็นผล เด็กชายทั้งสองคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เนื่องจากสูญหายในน้ำนานกว่า 10 นาที จากการบอกเล่าของญาติและชาวบ้านที่ช่วยชีวิต

นายพิสิท วิเศษฐา อายุ 38 ปี น้าชาย บอกว่า ตนและญาติ 10กว่าคนเดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์มาเที่ยวกางเต้นที่แคมป์ปิ้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสาริกา โดยก่อนเกิดเหตุตนและญาติๆพึ่งมาถึงและพึ่งกางเต้นเสร็จ จากนั้นปล่อยให้หลานๆได้ลงเล่นน้ำซึ่งมากัน 3 คนพี่น้องโดยไม่ได้ใส่ชูชีพ และมีกลุ่มเด็กเล็กอยู่อีกฝั่ง โดยเล่นลักษณะไหลตามน้ำ ไม่นานน้องคนกลาง วิ่งมาบอกตนกว่าพี่ชายและน้องชายโดนน้ำพลัดไหลตามกระแสน้ำไป จากนั้นตนได้รีบวิ่งมาที่เกิดเหตุเห็นชาวบ้านช่วยกันงมหาใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาทีนำขึ้นมาจากน้ำขึ้นมาปั้มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผลเสียชีวิตทั้ง 2 คนดังกล่าว

สัมภาษณ์นายพิสิท วิเศษฐา น้าชาย

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ชาวบ้านเสี่ยงดวง!!เลขผึ้งหลวง 8 ชั้นให้โชค เกาะหน้าต่างพระมานานกว่าหลาย10ปี ไม่เคยทำร้ายใคร

อุทัยธานี29-04-66 ชาวบ้านเสี่ยงดวง!!เลขผึ้งหลวง 8 ชั้นให้โชค เกาะหน้าต่างพระมานานกว่าหลาย10ปี ไม่เคยทำร้ายใคร

เมื่อเวลา 17.00.น.ของวันที่ 29 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณวัดหนองนกยูง หมู่ 1 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี หลังทราบจากพระลูกวัดว่า มีผึ้งหลวง 8 ชั้น มาทำรังเกาะที่หน้าต่างอยู่ที่กุฏิพระ มานานหลายสิบปี ซึ่งสร้างความแปลกมาก อีกทั้งผึ้งหลวงที่มาอาศัยอยู่นั้น ไม่เคยทำร้ายใคร

ซึ่งทางวัดเชื่อหากผึ้งหลวงมาทำรังอาศัยอยู่ภายในวัด คล้ายกับที่วัดนั้นร่มเย็น ปราศจากสิ่งชั่วร้ายหรืออันตรายใดๆ จนทำให้ผึ้งหลวงนั้นมาทำรังอยู่ เชื่อว่าที่ตรงนั้นน่าจะปลอดภัยให้กับผึ้งหลวง

ซึ่งใกล้วันหวยออก ก็จะมีชาวบ้านที่ทราบข่าว นำธูปมากราบไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ที่ป่าหลังหน้าต่างกุฏิพระ พร้อมกับนำธูปตัวเลขมาจุดเสี่ยงดวงเพื่อเสี่ยงตัวเลข ได้เลข 956 ส่วนบางคนก็ตีเลขผึ้ง 8 ชั้น เป็นเลข 983 973 ชาวบ้านจะนำไปเสี่ยงดวงในวันหวยออก

สำเนา ทองศรี รายงาน 0987817019

ปทุมธานี นพพร ขาวขำปราศรัยชาวบ้านขอโอกาศเลือกคนทำงานลูกหลานคนลาดหลุมแก้ว

ปทุมธานี นพพร ขาวขำปราศรัยชาวบ้านขอโอกาศเลือกคนทำงานลูกหลานคนลาดหลุมแก้ว

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2566 ที่ศาลาอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี นายนพพร ขาวขำ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 เขต 1 ปทุมธานี ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงและแนะนำตัวเองในพื้นที่อำเภอลาดหลุมแก้ว มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว เดินทางเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยหาเสียง จำนวนกว่า 500 คน
นายนพพร ขาวขำ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 เขต 1 ปทุมธานี เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคูขวาง ปี พ.ศ.2555 ถึง พ.ศ.2566 อยากรับใช้ประชาชนและเป็นกระบอกเสียงในสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคูขวางเพื่อมาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งนี้ โดยชูสโลแกนของพรรคภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” พร้อมแนะนำตัวเองบนเวที และขอฝากเนื้อฝากตัวเพื่อขอคะแนนเสียงจากตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาของชาวลาดหลุมแก้ว และเป็นคนรุ่นใหม่ที่อาสาแก้ไขปทุมธานี เขต 1 จึงขอให้ชาวตำบลคลองพระอุดม ให้โอกาสได้พัฒนาบ้านเกิด
นายนพพร ขาวขำ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 เขต 1 ปทุมธานี อาสาพ่อแม่พี่น้องในการปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ขาดหายจากเมืองปทุมธานีไป เดินหน้าขอโอกาสพ่อแม่พี่น้องชาวคลองพระอุดม ชาวอำเภอลาดหลุมแก้วทุกท่าน

ช่วยสนับสนุนในตัว ในการที่จะไปเป็นกระบอกเสียงให้กับพ่อแม่พี่น้องในสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าผมเป็นลูกหลานชาวลาดลุมแก้ว ซึ่งลาดหลุมแก้วยังไม่เคยมี ส.ส. เลย จึงอยากฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยสนับสนุนในตัวผมในการที่จะไปทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อนำความเจริญมาสู่บ้านเรา ผมขอเวลา 4 ปี ถ้า 4 ปีผมไม่สามารถจะเปลี่ยนปทุมธานีเขต 1 ได้ ผมขอน้อมรับตัวเอง แล้วพ่อแม่พี่น้องไม่ต้องสนับสนุนต่อ ขอให้พ่อแม่พี่น้องลองของใหม่สักครั้งหนึ่ง ผมลูกหลานชาวอำเภอลาดหลุมแก้ว ผมเกิดที่ลาดหลุมแก้วและจะตายที่ลาดหลุมแก้วอย่างแน่นอน ขอฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยสนับสนุนในตัวผมสิ่งที่ผมพูดไป ผมจะพูดแล้วก็ทำ ตามที่ผมพูดไว้ เพราะว่านี่คือบ้านเกิดของผม ท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จากสิ่งที่ผมทำมาทุกครั้ง ท่านจะเห็นว่าการทำงานทุกครั้งเราตั้งใจที่จะทำงาน ปทุมธานีต้องเด่นกว่านี้ ต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน งบประมาณที่เราหายไป 10 กว่าปี เราได้มาน้อยมาก ตรงนี้ผมจะไปประสานงานเพื่อที่จะให้พ่อแม่พี่น้อง และรับประกันครับว่า การทำงานของผมจะไม่มีหมกเม็ดอย่างแน่นอน และจะทำงานร่วมกับ จังหวัดปทุมธานี อบจ.ปทุมธานี รวมถึงนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ฝากผมนพพรเบอร์ 8 เพื่อที่จะไปทำงานให้พ่อแม่พี่น้องฝากเนื้อฝากตัวให้ช่วยสนับสนุนในตัวผม ผมจะชนะด้วยตัวคนเดียวไม่ได้.

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

นครนายก – พายุฤดูร้อนก่อให้เกิดหม้อแปลงระเบิดและพัดหลังคาบ้านร่วงใส่ร้านอาหารหลายพื้นที่

นครนายก – พายุฤดูร้อนก่อให้เกิดหม้อแปลงระเบิดและพัดหลังคาบ้านร่วงใส่ร้านอาหารหลายพื้นที่

พายุฤดูร้อนถลมก่อให้เกิดฝนตกหนักลมแรงก่อให้เกิดหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดและพายุพัดหลังคาบ้านมาตกใส่ที่หลังคาร้านอาหารทะลุและอีกหลายพื้นที่

เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 29 เมษายน 2566 ที่จังหวัดนครนายกเกิดพายุฤดูร้อนถลมในหลายพื้นที่ก่อให้เกิดหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสวนดุสิตสร้างความตกใจให้กับผู้ที่ขับรถผ่านสัญจรไปมา

ก่อให้เกิดหลังคาบ้านไม่ทราบของใครลอยมาที่หลังคาร้านอาหารแม่แต๋นทำให้เหล็กแท่ง 4 เหลียมแทงทะลุหลังคาลงมาเกือบถูกคนในร้าน ส่วนที่วัดดง ตำบลบ้านใหญ่พายุพัดเสาไฟฟ้าล้มทับหอระฆังและสายไฟฟ้าร่วงลงพื้นดินเป็นระยะยาว ต้นไม้หัก และต้นโพธ์ใหญ่ล้มทับบ้านเรือนประชาชนห้องครัว ห้องนอนพังเสียหายในหลายพื้นที่

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ร้อยเอ็ด พายุฤดูร้อนถล่ม บ้านบุ่งเลิศ

ร้อยเอ็ด พายุฤดูร้อนถล่ม บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
เหตุเกิดเวลา 16.30 น.เย็นวันที่ 28 เม.ย.2566 ณ.บ้านบุ่งเลิศ (เดิมชื่อบ้านบุ่งอีเลิศ) ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี พายุฤดูร้อนถล่ม บ้านบุ่งเลิศ ม.7 คำอุดม, 4 โดยมีลักษณะของพายุลมหมุน กระโชกแรง ฟ้าคะนอง ทำให้ต้นไม้ล้มทับถนน/บ้านเรือน ลมพัดบ้าน-ยุ้งข้าว/คอกวัว-คอกควายประชาชนเสียหาย หลายหลังคา ป้ายหาเสียงผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ปลิวว่อน

บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด แบ่งการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่ที่ 1 หมู่ 2 หมู่ 7 และหมู่ 9 อาณาเขต ทิศเหนือ จดลำห้วยแดง เขตติดต่อหมูบ้านสวนผึ้ง ตำบลเหล่าไฮงาม อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสิทธุ์ ลักษณะเด่นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมภูไท เป็นหมู่บ้าน 1 เดียวของจังหวัดร้อยเอ็ดที่ใช้ภาษาภูไทในการสื่อสาร

มงคล โพธิ์ไพร/ข่าว-ภาพ

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com