เดือน: มกราคม 2022

คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกับ สำนักบริการวิชาการ จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย

ในวันที่ 31 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุม ทวี หอมชง สถาบัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ร่วมกับ สำนักบริการริชาการ กำหนดจัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย

โดยมี รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา และ ดร.ประณม ถาวรเวช ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการร่วมกัน ก่อนร่วมกันถ่ายเป็นที่ระลึก โดยมี คณะอาจารย์ร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้นเป็นพิธีมอบประกาศนียบัตรผู้ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย รวม 11 คน

การลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา และพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ประเทศไทย มุ่งหวังที่จะดำเนินกิจกรรมร่วมกันในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนพัฒนากระบวนการในการฝึกฝนและพัฒนาตนเองทั้งเรื่องของแนวคิดและบุคลิกภาพที่เหมาะสม เพื่อการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพให้เข้ากับบุคลากรและนิสิตของมหาวิทยาลัย ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป

การลงนามในครั้งนี้ เป็นการผนคกกำลังและศักยภาพทั้งสองหน่วยงานในการขับเคลื่อนผลักดันการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สอดคล้องกับนโยบายของวัฐบาลในการเตรียมความพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการดำรงชีวิตตลอดจนทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคม รองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากคุณภาพของบุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และหน่วยงานธุรกิจ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย

31 มกราคม 2565 ยิงน้องชายเสียชีวิต และยิงน้องสาวบาดเจ็บสาหัสด้วยเรื่องสมบัติของพ่อแม่ที่หาไว้ให้เป็นที่ดินปลูกลำไย น้องชายได้โอนเป็นชื่อตนเอง เหตุเกิดที่บ้านเเม่งอนกลาง เลขที่ 124 ม.2 ต.แม่งอนฯ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ,หลังจากเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลแม่งอน พร้อมของกลาง รายละเอียดดังนี้ ผู้ก่อเหตุ นายไชยนวีร์ เจษฎาพันธุ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่55 ม.14 ต.แม่งอนฯ เป็นพี่ชายผู้เสียชีวิตน้องชายผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต นายอนันต์ เจษฎาพันธ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 121/155 ม.3 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงรายฯถูกยิงบริเวณหน้าอกด้านซ้าย จำนวน 2 นัด ผู้บาดเจ็บ นางอรพิน บุญค้ำ อายุ 60 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.แม่งอนฯ ถูกยิงบริเวณท้อง จำนวน 2 นัด ของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก

รายละเอียดเบื้องต้น นายอนันต์ฯ(ผู้ตาย) ซึ่งเป็นน้องชายของนายไชยนวีร์ฯ(ผู้ก่อเหตุ)ได้กลับมาหานางอรพิน(พี่สาว)ที่บ้าน ในเทศกาลตรุษจีน เมื่อวันที่ 30 ม.ค.65 ต่อมา วันนี้(31 ม.ค.65) เวลาประมาณ 09.30 น. นายไชยนวีร์ฯได้เข้าไปหานายอนันต์ฯ ที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามถึงที่ดินมรดกสวนลำไย บ้านหนองขวาง เนื้อที่ 25 ไร่ที่นายอนันต์ได้โอนเป็นชื่อของตนเองทั้งหมด จากนั้นทั้งสองคนได้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน นายไชยนวีร์ฯจึงได้ไปหยิบปืนลูกซองสั้น ที่ตนได้ซ่อนไว้ใต้บันได ที่บ้านหลังเกิดเหตุ และได้ยิงเข้าไปที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายนายอนันต์ จำนวน 2 นัดจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นได้ขึ้นไปบนห้องนอนของนางอรพินและได้ยิงเข้าบริเวณท้องของนางอรพิน(บาดเจ็บ) จำนวน2 นัด หลังจากนายไชยนวีร์ฯก่อเหตุเสร็จ ได้เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลแม่งอน พร้อมด้วยของกลาง คือปืนลูกซองสั่นไทยประดิษฐ์ จำนวน กระบอก ทราบว่าสาเหตุ ทั้งสามคนเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่ลงรอยกันเนื่องจากเรื่องเกี่ยวกับที่ดินมรดกของพ่อแม่ นายไชยน์วีร์โกรธที่น้องชาย แอบโอนชื่อที่ดินเป็นของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรฝางสายตรวจแม่งอนได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก/หัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการ ปี 2564 และ 2565 รวมทั้ง การขอใช้งบประมาณที่จำเป็นและการโอนทรัพย์สินให้แก่หน่วยงานของรัฐ จาก ห้องประชุม พระศรีศาสดา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการ จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศรีนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย

ในการนี้ นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดสุโขทัย คณะกรรมการฯ ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องปฏิบัติการพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย ชั้น 2 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

สุพจน์ วรสหวัฒน์/รายงาน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานการประชุมชี้แจงมาตรการไก่เนื้อ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ผ่านระบบ Zoom จากห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงพาณิชย์ 1 ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อชี้แจงมาตรการตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2565 และประเมินสถานการณ์การผลิตการตลาดสินค้าไก่ เนื้อไก่ โดยประกาศดังกล่าวกำหนดให้ผู้เลี้ยงไก่เนื้อซึ่งครอบครองไก่มีชีวิตตั้งแต่ 100,000 ตัว ขึ้นไป และโรงฆ่าชำแหละไก่ ที่มีกำลังการผลิตวันละตั้งแต่ 4,000 ตัว ขึ้นไป แจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เลี้ยงหรือผลิต และจัดทำบัญชีคุมสินค้าไก่ เนื้อไก่ โดยแจ้งข้อมูลให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ทั้งนี้เริ่มแจ้งข้อมูลครั้งแรกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และการแจ้งครั้งต่อไปให้แจ้งข้อมูล ณ วันสิ้นเดือนเป็นประจำทุกเดือนภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป

ในการนี้ นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้นางสาวกัญจิรา เคียงคู่ หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และนายสรายุทธ แจ่มจิราศัย นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ณ ห้องปฏิบัติการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ชั้น 3 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

สุพจน์ วรสหวัฒน์/รายงาน

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุมมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน ในพิธีเปิดกิจกรรมเนื่องในวาระครบรอบ 53 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ประจำปี 2565 “รวมพลัง อช. แก้จน พัฒนาคน สร้างชุมชนพอเพียง” จังหวัดร้อยเอ็ด โดย นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด และ คณะ พร้อมด้วยพัฒนาชุมชนอำเภอ 20 อำเภอ ชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด และอำเภอ 20 อำเภอ หน่วยงานภาคีเครือข่าย พร้อมมอบประกาศเกียรติบัตร ให้กับอาสาพัฒนาชุมชน (อช.)/ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ดีเด่น ปี 2565 อ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดกิจกรรมและให้โอวาท มอบเมล็ดพันธุ์ผักแก่ตัวแทน ผู้นำ อช.

นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าว่า เนื่องในวาระครบรอบ 53 ปี การดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ กำหนดจัดงานภายใต้แนวคิด “รวมพลัง อช. แก้จน พัฒนาคน สร้างชุมชนพอเพียง” โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้เพื่อแสดงพลังอาสาพัฒนาชุมชน สร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ,เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย,เพื่อน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน และการดำเนินชีวิตของประชาชน

การดำเนินงานกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การรวมพลังอาสาพัฒนาชุมชน จาก 20 อำเภอ,การกล่าวคำปฏิญาณตนของ อช./ผู้นำ อช. จังหวัดร้อยเอ็ด, การมอบประกาศเกียรติคุณ อช./ผู้นำ อช. ดีเด่น ระดับจังหวัด,การอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,กิจกรรมปันสุข แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผัก ต้นกล้าพืชผักสวนครัว ,กิจกรรมปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ในแปลงผัก ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด,กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธาน กล่าวว่า.-ประเทศไทยในปัจจุบัน มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้นำชุมชน ทุกระดับ ซึ่งในวันนี้เป็นการรวมพลังของ อาสาพัฒนาชุมชน (อช.)ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) การที่อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ได้จัดกิจกรรม “รวมพลัง อช. แก้จน พัฒนาคน สร้างชุมชนพอเพียง” จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน การดำเนินชีวิตให้เป็นแบบอย่างในชุมชน
นับว่าเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ในการกระตุ้นความคิดสร้างจิตสำนึก ให้แก่กลุ่มอาสาสมัครได้รวมพลังกันสร้างความดีงามให้เกิดขึ้นในสังคม โดยมีเป้าหมาย ให้องค์กรเหล่านี้ เป็นแกนนำหลักในการพัฒนาคน ให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ขอชื่นชม ชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมขึ้นในวันนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและประเทศชาติต่อไป

สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0957579184-รายงาน

วันที่ 31 ม.ค.65 โค้งสุดท้ายก่อนวันหวยออกประชาชนต่างก็ออกเสาะแสวงหาเลขมงคลหลังจากที่ได้ไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน ที่วัดปทุมบูชา ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีที่วัดแห่งนี้จะเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีท้าวเวศสุวรรณตนใหญ่สูง 9 เมตร 99 เซ็นติเมตร เป็นอีกสถานที่ๆประชาชนมากราบไหว้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคลและขอพรต่อหน้าองค์ท้าวเวศสุวรรณ และเขย่าเซียมซียักษ์เสี่ยงทาย 7 และ 2 7 และในระหว่างวันที่ 28-30 ม.ค 2565 ที่ผ่านมาทางวัดได้จัดงานประจำปีขึ้นมามีประชาชนที่เลื่อมใสปู่ท้าวเวศสุวรรณ ต่างพากัน มาปิดทอง กราบไหว้ นำโบว์เขียนชื่อตัวเองนำมาผูกไว้ที่กระบองของปู่ท้าวเวศสุวรรณ ในแต่ละวันนั้นจะมีประชาชนเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก บางคนมาบนบานศาลกล่าวขอโชคเมื่อได้ดังใจปรารถนาก็จะนำเป็นผลไม้ น้ำแดง ประทัดมาแก้บน

และอีก1ท่านที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาศสัมภาษชื่อ คุณบี อายุ 24ปีอยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่4 ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม คุณบี ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองมีอาชีพขายของ (หมาล่า) ได้ยินคนพูดว่าถ้าใครได้มาขอพรจากปู่ท้าวเวศสุวรรณ ส่วนมากจะได้ดังใจปรารถนาตนเองจึงได้เดินทางมาบนเอาไว้ว่าถ้าค้าขายของดีจะนำประทัดจำนวน 10,000 นัดมาแก้บน ผลปรากฎว่าจากที่ตนเองขายได้วันล่ะไม่กี่พันบาท หลังจากที่ได้มาบนบานศาลกล่าวเอาไว้ยิ่งกว่าปฎิหาริย์ตนเองสามารถขายของได้วันล่ะ 10,000บาท หลังจากที่ได้ขอเอาไว้แล้วสมหวังตนเองจึงนำประทัดจำนวน 10,000นัดมาแก้บนและได้จุดธูปเสี่ยงโชค ส่วนเรื่องโชคนั้นคุณบี ฝากบอกว่าโชคของใครของมันใครอยากโชคดีต้องมาขอเอาเอง ส่องเลขหางปลายประทัด 8 5 3 9 3

สถานการณ์โรคโควิด19 จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำวันที่ 31 มกราคม 2565พบผู้ติดเชื้อรายใหม่92ราย
รักษาหาย 72 ราย กำลังรักษาอยู่ 783 ราย เสียชีวิต 0 ราย เสียชีวิตสะสม 121 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 15,945รายใน 15 อำเภอ ดังนี้
1. เมืองร้อยเอ็ด 39 ราย
• เดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น 1 ราย , จ.ยโสธร 1 ราย , จ.อุบลราชธานี 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19
• คลัสเตอร์ งานศพ ที่ ต.ขอนแก่น 6 ราย
• คลัสเตอร์ แม่ค้าตลาดสด ต.ธงธานี 1 ราย (ต.รอบเมือง)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน/ชุมชน 8 ราย (ต.เหนือเมือง)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน/ชุมชน 3 ราย (ต.ขอนแก่น)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน/ชุมชน 5 ราย (ต.รอบเมือง)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน/ชุมชน 7 ราย (ต.ในมือง)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย (ต.แคนใหญ่) เล่นคลุกคลีกับเด็กที่ติดเชื้อโควิด 19
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 2 ราย (ต.แคนใหญ่ , ต.ในเมือง) นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 2 ราย (ต.เหนือเมือง , ต.ขอนแก่น)
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 1 ราย (ต.ในเมือง) อาชีพรับเหมาก่อสร้าง

2. โพนทอง 16 ราย
• คลัสเตอร์ ต.สระนกแก้ว 14 ราย มีกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย (ต.แวง) ขับรถรับส่งนักเรียน สัมผัสนักเรียนที่ติดเชื้อโควิด 19
• บุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย

3. ธวัชบุรี 6 ราย
• เดินทางมาจาก จ.ขอนแก่น 3 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน 2 ราย (ต.นิเวศน์)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย (ต.เขวาทุ่ง) รับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนที่ติดเชื้อโควิด 19

4. ปทุมรัตต์ 5 ราย
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน 3 ราย (ต.หนองแคน 2 ราย , ต.ดอกล้ำ 1 ราย)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พระภิกษุ 1 ราย (ต.โนนสง่า) ฉันเพลร่วมกับพระภิกษุที่ร่วมงานปริวาสกรรม อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย (ต.โนนสง่า) รับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนที่ติดเชื้อโควิด 19

5. จตุรพักตรพิมาน 4 ราย
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 3 ราย (ต.น้ำใส) อยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่มเติม
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย (ต.ดงกลาง) สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต.หัวช้าง

6. หนองพอก 4 ราย
• เดินทางมาจาก จ.มุกดาหาร 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 1 ราย (ต.ท่าสีดา)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในชุมชน 2 ราย (ต.ภูเขาทอง และ ต.หนองขุ่นใหญ่)

7. เกษตรวิสัย 4 ราย
• เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19
• พระภิกษุ 2 ราย (ต.โนนสว่าง) ร่วมงานปริวาสกรรม ที่ ต.เหล่าหลวง
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในชุมชน 1 ราย (ต.น้ำอ้อม)

8. อาจสามารถ 3 ราย
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน/ชุมชน 2 ราย (ต.อาจสามารถ)
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน 1 ราย (ต.โพนเมือง)

9. สุวรรณภูมิ 3 ราย
• เดินทางมาจาก กรุงเทพมหานคร 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย (ต.ทุ่งหลวง) ผู้ติดเชื้อฯ จาก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เดินทางมาเยี่ยม

10. เสลภูมิ 3 ราย
• เดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม 2 ราย ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อน
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ติดเชื้อ 1 ราย (ต.เกาะแก้ว)

11. เมยวดี 1 ราย
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน 1 ราย (ต.บุ่งเลิศ)

12. หนองฮี 1 ราย
• ตรวจคัดกรอง โรคระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล 1 ราย (ต.เด่นราษฎร์) ทำงานที่สถานีตำรวจ

13. จังหาร 1 ราย
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ร่วมบ้าน 1 ราย (ต.ดงสิงห์)

14. ศรีสมเด็จ 1 ราย
• ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในชุมชน 1 ราย (ต.ศรีสมเด็จ) รับประทานอาหารร่วมกับผู้ติดเชื้อโควิด 19

15. โพนทราย 1 ราย
• เดินทางมาจาก จ.นนทบุรี 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด 19

สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0837030109-ข่าว

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 พลตรีเทอดศักดิ์ งามสนอง ผบ.มทบ. 310 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจพบปะเยี่ยมครอบครัวทหารผ่านศึก
ณ.บ้านทหารผ่านศึก ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตากพร้อมทั้งมอบสิ่งของให้กับครอบครัวทหารผ่านศึก

ทหารผ่านศึกหมู่ที่ 4 ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก อยู่ในพื้นที่แนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหมู่บ้านครอบครัว ทหารผ่านศึก ในโครงการจัดสรรพื้นที่ทํากิน(โครงการ.พพพ.) โครงการจัดสรร และพัฒนา พื้นที่ทํากินพบพระโดย.จัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับอดีตทหารผ่านศึกนอกประจำการ กองทัพบกโดย.กองทัพภาคที่ 3 ได้ ขอใช้พื้นที่จากป่าไม้ เพื่อ จัดสรรพื้นที่ทำกิน และที่อยู่อาศัย ให้กับ ทหารผ่านศึกนอกประจำการพื้นที่ทำกินจำนวน 20 ไร่และ ที่อยู่อาศัย 2 งาน พร้อมทั้งบ้าน 1 หลัง มีประชากร เป็นชาย208คน หญิง173คน รวม381คน จำนวน132ครัวเรือนในช่วงเช้าวันเดียวกัน ผบ.มทบ. 310 และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยสัสดีอำเภอแม่ระมาด และครอบครัวทหารผ่านศึก ณ.หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่ระมาด

โดย.พ.อ.ศรณ์พงษ์ รุ่งสุวรรณ สัสดีจังหวัดตาก ร.อ.ธงไชย โชควันชัย ผบ.ร้อย.ร.1413 นางเอมอร แจ่มกระจ่าง รองหัวหน้าสำนักงานองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกทำการแทนหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตตากพร้อมเจ้าหน้าที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เขต.ตากนายมณฑล สว่างนภาลัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนาหน่วยสื่อและเทคโนโลยีที่ 31 และครอบครัวทหารผ่านศึกให้การต้อนรับดังกล่าว

 

พลตรีเทอดศักดิ์ งามสนอง ผบ.มทบ. 310กล่าวว่าซึ่งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึง นี้เป็นวันทหารผ่านศึกวันนี้ได้มาบ้านทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นหมู่บ้าน ครอบครัวทหารผ่านศึก เป็นหมู่บ้านชายแดน ในพื้นที่อำเภอพบพระ ในฐานะหัวหน้าสำนักงานองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกสำนักงานเขตตาก โอกาสมาพบปะและมาเยี่ยม เป็นระรึกถึงเชิดชูเกีรยติ ของ ทหารผ่านศึก ซึ่งอยู่ ในโครงการ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ในพื้นที่ชายแดน เฝ้าดูชายแดนด้วยและทำมาหากินในพื้นที่ชายแดนด้วยเป็นการตอบแทนประเทศชาติ เราจะไม่ลืมและไม่ทิ้งกัน

ทั้งนี้ได้ไปเยี่ยมนายประสงค์ เรืองขำ อดีตทหารผ่านศึกนอกประจำการ อดีต ทหารเกณฑ์ รพัน2 ซึ่งได้บ้านและที่ทำกิน ในโครงการจัดสรรพื้นที่ทํากิน โครงการ พพพ. บ้านทหารผ่านศึก และ เป็นผู้ป่วยติดเตียงผบ.มทบ.310 ได้มอบสิ่งของดังกล่าว

ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความคืนหน้าการก่อสร้าง ปิยะ เนอร์สซิ่งโฮม 82/1 ตำบล มหาสวัสดิ์ อำเภอ บางกรวย จังหวัด นนทบุรี เป็นศูนย์ดูแลพักฟื้นผู้ป่วยและกายภาพบำบัดบริการรับดูแลผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ภายใต้การดูแลกำกับการสร้างศูนย์แห่งนี้ กำนัน สุเทพ ต่ายจันทร์ ตอนนี้การก่อสร้างได้กว่า 90 % แล้ว

กำนัน สุเทพ ต่ายจันทร์ กล่าวว่า ภายใต้แนวคิด การดูแลผู้สูงวัย ตามความต้องการด้านสุขภาพ สร้างจิตใจที่สมบูรณ์ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปรียบเสหมือนบ้านที่อบอุ่น ด้วยความรัก การดูแลเอาใจใส่ เป็นที่ไว้วางใจของผู้สูงวัย ที่มาพักอาศัยอย่างมีความสุข อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ตั้งอยู่ใจกลางธรรมชาติของเมืองนนท์ ให้บริการดูแลฟื้นฟูผู้สูงอายุ ระยะสั้น ระยะยาว และรูปแบบเนอร์สซิ่งโฮมระดับพรีเมียม การฟื้นฟูสมรรถภาพ บริการดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการการพยาบาลดูแลใกล้ชิด ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ ผู้สูงอายุในการพักฟื้น รับประกันความสุขของผู้พักอาศัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลวิชาชีพสามารถมั่นใจได้ว่าคนที่คุณรักจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

ปิยะ เนอร์สซิ่งโฮม เป็นสถานที่ดูแลพักฟื้นผู้ป่วยและกายภาพบำบัดบริการรับดูแลผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งนี้ จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลวิชาชีพ และบุคลากร สหสาขา ที่มีความเชี่ยวชาญ ในการดูแลผู้สูงอายุ และพนักงานทุกคนผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และการใส่ใจดุจญาติผู้ใหญ่
ปิยะ เนอร์สซิ่งโฮมตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ มีสิ่งแวดล้อมที่สวยงามพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมีสวนสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย อากาศดีบรรยากาศเงียบสงบปราศจากการรบกวนจากมลพิษต่างๆ

วันที่ 31 มกราคม 2565 นางธมลทัศน์ ทัพพระจันทร์ เกษตรจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานการประชุมเกษตรอำเภอประจำเดือน ครั้ง 4/2565 ที่ โดยมีหัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย และเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี และเกษตรอำเภอเข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ zoom เพื่อติดตามและรายงานผลการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ของสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 6 อำเภอ