เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เวลา 11.00 น วันที่ 31 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.1 / พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง / พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม / 1.นายปฏิภาณ อายุ 22 ปี / 2..นายกิตติกร อายุ 18 ปี ( เยาวชน ) ซึ่งทั้ง 2 คนเป็น ชาวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ / ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ที่ตะเวณก่อเหตุ ใน พื้นที่อำเภอพระประแดง และ พื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลาง อาวุธมีด ยาวประมาณ 10 นิ้ว ที่ใช้ก่อเหตุ / เงินสด จำนวน 2,550 บาท / เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ พร้อม รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ได้ที่ห้องพักของผู้ก่อเหตุ แฟลตรวมโชค ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง ข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม / ร่วมกันพกพาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม 2566 ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 2 คน ใช้อาวุธมีดมาก่อเหตุจี้พนักงานร้านและข่มขู่ชิงทรัพย์ของร้านสะดวกซื้อ ต่อเนื่องติดต่อในเวลาใกล้เคียงกัน จำนวน 2 คดี ในเขตพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ และ สภ.พระประแดง ได้แก่
1.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาตลาดลุงฉัตร ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 01.10 น. คิดมูลค่าความเสียหาย เป็น เงินจำนวน 3,000 บาท
2.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาหมู่บ้าน Q-District สุขสวัสดิ์ ๗๖ ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 05.25 น. คิดมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวน 2,860 บาท ( ครั้งนี้ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ )
โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทั้ง 2 แห่ง สืบสวนหาพยานหลักฐาน ตรวจสอบภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด และ ตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนสามารถระบุรูปพรรณของคนร้าย และ ยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับตัวคนร้ายทั้ง 2 คน ซึ่งหลังจากศาลอนุญาตตามคำขอแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.สส.ภ.1 / กก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ / สภ.พระประแดง และ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้ติดตามสืบหาตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 13.30 น เจ้าพนักงานตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่ แฟลตรวมโชค ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ จากการสืบสวนขยายผลยังนำไปสู่การนำพาไปตรวจยึด อาวุธมีดของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายไป และ เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ที่ลงมือก่อเหตุไปเนื่องจากทั้งคู่ยังไม่มีงานทำ และ ต้องการเงินไปจ่ายค่าที่พัก และ ซื้อนมให้ลูกที่ยังเล็ก โดยการก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน จะเลือกร้านสะดวกซื้อที่มีพนักงานน้อย ๆ ในการลงมือก่อเหตุ โดยทำที่เป็นลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้ายสะดวกซื้อ ก่อนที่จะนำสินค้ามาวางที่หน้าเคาน์เตอร์ เมื่อสบโอกาสก็จะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไป ก่อนใช้มีดจี้คอบังคับพนักงานให้เปิดลิ้นชักเครื่องคิดเงินก่อนจะเอาเงินไป แต่ตนเองไม่ได้ทำร้ายพนักงาน และ ขอโทษก่อนที่จะหลบหนีออกมา ตนเองอยากได้เพียงแค่เงินเพื่อจะเอามาจ่ายค่าห้อง และ ซื้อนมให้ลูก
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.1 เผยว่า ขอแจ้งเตือนให้ประชาชน โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงธนาคาร ร้านทอง และ สถานประกอบการในลักษณะดังกล่าว ให้ระมัดระวังการก่อเหตุในลักษณะนี้ โดยให้มีมาตรการการป้องกันพนักงาน เช่น จัดให้มี พนักงานชาย อยู่ในผลัดกลางคืนมากกว่า 1 คน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านให้สามารถใช้การได้ และ สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้มีการขยายผล และ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มในการตรวจตราสถานประกอบการและจุดเสี่ยงต่างๆเพื่อตัดช่องโอกาสของคนร้าย ลดการก่อเหตุในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทางตำรวจภูธร ภาค 1 ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน ผู้นำชุมชน สมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม ในการแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือทางสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนทางด้าน ผู้การปากน้ำป้ายแดง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เผยว่า จะบูรณาการจัดระเบียบร้านขายน้ำกระท่อมในพื้นที่ พร้อม ยกระดับการดูแล นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญของ รัฐบาล
ภาพ/ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มที่มีการใช้อำนาจเหล่านั้นในทางมิชอบ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ด้านการป้องกันและปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมกับเน้นย้ำให้ข้าราชการ มุ่งเน้นจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข เพื่อให้บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย พร้อมกับกำชับให้ฝ่ายปกครองเข้มงวด วางตัวเป็นตัวอย่างที่ดี โดยให้ความสำคัญมี 6 เรื่อง ได้แก่ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล สถานบริการและสถานบันเทิง อีกทั้งปฏิบัติการพิเศษด้านการสืบสวนปราบปรามและการสอบสวนในอำนาจหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองตามภารกิจ และทำหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย กรณีประชาชนร้องเรียนแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรม และสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด
