google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

(มีคลิป) “พลตรี ศุภฤกษ์” ผบ.กองกำลังผาเมือง ประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานและพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ปี 2566

พลตรี ศุภฤกษ์” ผบ.กองกำลังผาเมือง ประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานและพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ปี 2566

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ ห้องประชุมทองจัตุ กองบัญชาการกองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ประธานกิจกรรมประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานและพบปะพัฒนาสัมพันธ์

หลังจากนั้น ฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังผาเมือง/ฝ่ายกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 แนะนำหน่วย (นำเสนอวีดีทัศน์) และสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมสรุปผลการปฏิบัติด้านยุทธการ ปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565 – ปัจจุบัน)

ในด้านการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน เป็นการลาดตระเวนเฝ้าตรวจป้องกันการลุกล้ำอธิปไตยจากกองกำลังชนกลุ่มน้อย หรือกองกำลังของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหน่วยได้มีการวางกำลัง ในพื้นที่ทั้งหมด 230 ฐาน, จุดตรวจด่านตรวจ จำนวน 85 จุด โดยที่ผ่านมาไม่ปรากฏการลุกล้ำอธิปไตยแต่อย่างใด สำหรับพื้นที่ที่มีการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน สามารถดำเนินการและรักษาหลักเขตแดนที่มีอยู่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด มีการปฏิบัติที่สำคัญ จำนวน 5 เหตุการณ์ ดังนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 ร้อย.ทพ.3207 บก.ควบคุมทพ.ศปก.ทภ.3 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามี การลักลอบลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ.ป่าคา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.ช.ม. จึงได้จัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ม.4 ฉก.ไชยานุภาพ ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผลการปฏิบัติ กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 15 ศพ สามารถตรวจยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนัก 433.10 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 ร้อย.ทพ.3207 บก.ควบคุม ทพ.ศปก.ทภ.3 จัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ม.4 ฉก.ไชยานุภาพ ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บริเวณ บ.ปางตอง ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.ช.ม. ผลการปฏิบัติ กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 6 ศพ สามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 19 เป้ น้ำหนัก 300 กิโลกรัม

3. เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 66 ร้อย.ม.2 ฉก.ทัพเจ้าตาก จัดกำลังทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บริเวณหลังวัดน้อยดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จว.ช.ร. และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผลการปฏิบัติ กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 5 ศพ สามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 500,000 เม็ด

4.เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 66 ร้อย.ม.2 ฉก.ไชยานุภาพ ทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย บริเวณช่องทางสายใหม่ บ.หนองเขียว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จว.ช.ม. และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 6,000,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) จำนวน 6.6 กิโลกรัม

5.เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 66 นรข.เขตเชียงราย จัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ทพ.3102 ฉก.ทพ.31 ทำการเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บริเวณ บ.สบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จว.ช.ร. ตรวจพบผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คน พร้อมเรือกาบ 1 ลำ ล่องจากทางแม่น้ำรวก มายังแม่น้ำโขง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ว่ายน้ำหนีไป ผลการตรวจสอบเรือกาบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 6,400,000 เม็ด

โดยสรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด ปีงบประมาณ 2566 ในห้วงตั้งแต่ ตุลาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 202 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 251 คน กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 31 ศพ และตรวจยึดยาบ้า จำนวน 24 ล้าน 2 แสนเม็ดเศษ (24,230,073 เม็ด) ไอซ์ จำนวน 878.3 กิโลกรัม, ฝิ่น 18 กิโลกรัม และ คีตามีน 300 กิโลกรัม

ในด้านการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีการปฏิบัติที่สำคัญ จำนวน 4 เหตุการณ์ โดยเป็นการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 10 คน ขึ้นไป

1) เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 เวลา 08.00 น. ฉก.ม.2 จัดกำลัง 1 ชป. ร่วมกับ กอ.รมน. จังหวัด ช.ร., ชุด ตข.3 ขกท.กกล.ผาเมือง, ชป.333 กอง 3 ศรภ.บก.ทท., ชป.61 หน่วย สน.3223 ฝขว.ศปก.ทบ. และส่วนราชการในพื้นที่ จว.ช.ร. ทำการปิดล้อม/ตรวจค้น บริเวณ อาคารร้าง บ.ป่ารวก ต.นางแล อ.เมือง จว.ช.ร. (ห่างจาก ทต.นางแล 100 ม.) ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมา จำนวน 49 คน (ช.36, ญ.13) หน่วยได้นำผู้ต้องหาส่ง ตม.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

2) เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 65 เวลา 17.45 น. ร้อย.ม.2 ฉก.ม.5 จัด กพ. 1 ชป. ทำการ ลว.เฝ้าตรวจ บริเวณช่องทางหนองกะลาง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จว.ช.ม. ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 21 คน (ช.6, ญ.15) จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ได้เดินทางมาจาก บ.นากองมู สมม. ลักลอบเข้ามาเพื่อหางานทำ ในพื้นที่ จว.ช.ม. โดยเสียค่าเดินทางให้ผู้นำพา คนละ 13,000 บาท หน่วยได้นำผู้ต้องหาส่ง สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

3) เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 เวลา 20.30 น. ร้อย.ม.4 ฉก.ม.2 จัด กพ. 1 ชป. ทำการ ลว.เฝ้าตรวจบริเวณช่องทางหัวสูบ บ.ป่าแดง หมู่ 5 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จว.ช.ร. ได้ตรวจพบ กลุ่มบุคคลต้องสงสัย จึงขอทำการตรวจค้น ผลการปฏิบัติสามารถจับกุม ผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 17 คน (ช.5, ญ.12) จากการสอบถามให้การว่า ได้เดินทางมาจาก สมม. ลักลอบเข้ามา เพื่อจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ กทม. หน่วยได้นำผู้ต้องหาส่ง สภ.เกาะช้าง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

4) เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 66 เวลา 17.00 น. กกล.ผาเมือง โดย ร้อย.ม.4 ฉก.ทัพเจ้าตาก ได้รับแจ้งจาก ชฝด.2 นฝด.32 ว่ามีบุคคลลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หน่วยจึง จัด กพ. 1 ชป.ทำการ ลว. เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง บริเวณท่าข้ามวังลาว 1 บ.วังลาว หมู่ 4 ต.เวียง อ.เชียงแสน จว.ช.ร. ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 20 ราย (ช.10, ญ.10) และผู้นำพา จำนวน 2 ราย จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อจะเดินทาง ไปทำงานที่ จว.ช.ม. โดยจ่ายเงินให้กับกลุ่มขบวนการฝั่งเมียนมา คนละ 8,000 บาท หน่วยได้นำผู้ต้องหาส่ง สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สรุปผลการปฏิบัติ มีผลการจับกุม จำนวน 162 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ จำนวน 499 คน และสามารถจับกุมผู้นำพาได้ จำนวน 59 คน

ในด้านการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำนวน 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ตรวจยึด ของกลางไม้ท่อน จำนวน 88 ท่อน, ไม้แปรรูป จำนวน 5,080 แผ่น, เลื่อยยนต์ จำนวน 2 เครื่อง และพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 5 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา

ในด้านการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ 1.การกระทำผิด พระราชบัญญัติอาวุธและเครื่องกระสุน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 13 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 11 คน ตรวจยึดอาวุธปืน จำนวน 18 กระบอก และกระสุนปืน จำนวน 479 นัด 2.การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. โจรกรรมข้ามแดน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 23 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 17 คน ตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 13 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 30 คัน 3.การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร จำนวน 13 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 คน ตรวจยึดบุหรี่ จำนวน 5,095 ซอง

ผลสรุปผลการปฏิบัติด้านกิจการพลเรือน ปีงบประมาณ 2566 1.การสนับสนุนอากาศยานลำเลียงผู้ป่วย เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน จำนวน 21 ครั้ง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 21 ราย, 2.ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย/ธรณีพิบัติภัย ได้จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 17 ครั้ง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 816 ครัวเรือน, 3.การช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้/ผู้ด้อยโอกาส ได้ดำเนินการสร้าง/ซ่อมแซมบ้าน จำนวน 13 ครั้ง และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค จำนวน 67 ราย, 4.การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ได้ดำเนินการมอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 327 ครั้ง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 2,408 ราย

ในด้านการพัฒนาสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ทางหน่วยได้ดำเนินการการพบปะพัฒนาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ เช่น การจัดกิจกรรมตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน, การประชุมชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว เป็นต้น และอย่างไม่เป็นทางการ เช่น การพบปะพัฒนาสัมพันธ์ การลาดตระเวนร่วม ระหว่างทหารไทยกับทหารประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากทหารประเทศเพื่อนบ้าน

ในด้านการปฏิบัติงานตามแผนงานรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 1.บูรณาการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นแล้ว จำนวน 75 เรื่อง, 2.การฝึกอบรมและจัดตั้งกำลังภาคประชาชนในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมาย จำนวน 25 ครั้ง (ยาเสพติด 16 ครั้ง, ผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง 6 ครั้ง, ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า 2 ครั้ง และนำเข้าของหนีภาษี 1 ครั้ง)ฝ, 3.ฝึกอบรมเยาวชนให้รู้บทบาทหน้าที่ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านร่วมกับองค์กรผู้ใหญ่ ในลักษณะของจิตอาสา, 3.ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดในหมู่บ้านโดยสันติวิธี ตามแนวทาง การขับเคลื่อนหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน พร้อมให้โอกาสผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดดำเนินการแล้ว จำนวน 35 ราย, 5.ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดน ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง เพื่อพัฒนาพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตามชายแดนอย่างยั่งยืน

ผลสรุปผลการปฏิบัติในการประชาสัมพันธ์ ในด้านการประชาสัมพันธ์ของ กองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ฝ่ายกิจการพลเรือน/ฝ่ายกิจการมวลชนและสารนิเทศ เป็นส่วนที่รับผิดชอบในการดำเนินการ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การปฏิบัติงานของหน่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด การสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ การช่วยเหลือประชาชนต่างๆ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของหน่วย รายละเอียดดังนี้
ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานของหน่วย โดยสื่อมวลชน ในห้วงที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี ในการนำข่าวสารผลการปฏิบัติงานของกองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ไปนำเสนอตามสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวอย่างการนำเสนอของสื่อมวลชน โดยมีประเภทหรือช่องทางในการประชาสัมพันธ์หลักๆ 4 ประเภท ได้แก่ โทรทัศน์, หนังสือพิมพ์, สื่อโซเซียลมีเดีย และเว็บไซต์ จึงขอยกตัวอย่างแต่ละประเภทรายละเอียดตามจอภาพ (สื่อโทรทัศน์ช่อง ททบ.5, ช่อง NBT, ช่องไทยพีบีเอส, ช่อง 3 HD, ช่อง 7 HD, ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี, สื่อหนังสือพิมพ์, เว็บไซต์)

ซึ่งปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 ถึงปัจจุบัน ฝ่ายกิจการพลเรือน/ ฝ่ายกิจการมวลชนและสารนิเทศ ขอสรุปข่าวสารที่สำคัญที่เสนอตามสื่อต่างๆ ของสำนักข่าว มีจำนวน 320 ครั้ง (มากที่สุดคือ เว็บไซต์ 140 ครั้ง, โทรทัศน์ 93 ครั้ง, โซเชียลมีเดีย 82 ครั้ง, หนังสือพิมพ์ 5 ครั้ง ตามลำดับ)


ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ สื่อมวลชน ทุกสำนัก ที่ได้นำข่าวสารของกองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ไปนำเสนอตามสื่อต่างๆ ของสำนักข่าว ด้วยดีเสมอมา ซึ่งกองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 จะยังคงดำเนินการกระจายข่าวสารอย่างต่อเนื่อง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ และประชุมมอบนโยบายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ สัญจรประจำเดือนมีนาคม 2566

📣 นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ และประชุมมอบนโยบายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ สัญจรประจำเดือนมีนาคม 2566

วันที่ 3 มี.ค.66 เวลา 09.00 น. นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ประชุมมอบนโยบายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ สัญจร ประจำเดือนมีนาคม 2566 โดยมีกิจกรรมบริการประชาชน จำนวน 6 กิจกรรม ดังนี้
1. บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน มีผู้มารับบริการจำนวน 69 ราย
2.บริการฉีดวันซีนสุนัข – แมว
มีจำนวนสัตว์ที่ฉีดวัคซีน จำนวน 56 ตัว
3.บริการตัดผม มีผู้มารับบริการจำนวน 25 ราย
4.ตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น
มีผู้มารับบริการจำนวน 56 ราย

5.รับลงบัญชีทหารกองเกิน (สำหรับคนเกิด พ.ศ. 2549)
มีผู้มาลงบัญชีทหารกองเกิน จำนวน 13 ราย
ทั้งนี้ นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมทั้ง หัวหน้าส่วนราชการอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทหาร และประชาชนจิตอาสา ได้ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา โดยมีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ทำความสะอาด และปล่อยปลา ณ วัดสุทธาวาส ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

ปทุมธานีสองพี่น้องขับจยย.ไปซื้อของให้แม่ถูก2คนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์พากันวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

ปทุมธานีสองพี่น้องขับจยย.ไปซื้อของให้แม่ถูก2คนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์พากันวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

วันที่ 3 มีนาคม2566 เพจเฟสบุ๊ค “ปทุมธานีที่นี่มีแต่เรื่อง” ได้โพสต์ข้อความ สองพี่น้องขับจยย.ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อให้แม่ ขากลับถูกคนร้ายชาย2คน ใช้รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นพีซีเอ็กซ์สีน้ำเงินรุ่น160ซีซี ขับประกบก่อนใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้หยุดรถ แต่ผู้เสียหายไม่หยุดพยายามขับหนีเพื่อกลับบ้านจนรถเสียหลักคว่ำบริเวณเกาะกลางถนนหน้าวัดบัวแก้วเกษร ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงกันวิ่งหนีในที่ปลอดภัย พบคนร้าย1ใน2ขับจยย.ของตนเองซึ่งเป็นจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ110ไอสีดำหมายเลขทะเบียน 1กค992พิจิตร หลบหนีไป ก่อน2พี่น้องจะพากันวิ่งกลับบ้านเกือบ1กม.เพื่อให้แม่พาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว. ท่านใดมีเบาะแสคนร้ายแจ้ง191หรือสภ.ลาดหลุมแก้ว หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบสองพี่น้องทราบชื่อนายอภิวิทญ์ จันทบุตร อายุ 16ปีผู้ขับขี่และเด็กชายอภิชัย จันทบุตร อายุ 14ปี ผู้ซ้อนท้ายชี้ให้ดูจุดเกิดเหตุที่ตนเองถูกคนร้ายสองคนใช้อาวุธปืนปากกาจี้ชิงทรัพย์ขณะที่ตนเองกลับจากร้านสะดวกซื้อก่อนที่คนร้ายจะได้รถจยย.ของตนเองแล้วหลบหนีไปเพราะตนเองรถจยย.ล้มขณะหลบหนีจนได้รับบาดเจ็บ
นายอภิวิทญ์ จันทบุตร ผู้เสียหายให้การว่า คืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.50 น. โดยตนขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ110ไอสีดำหมายเลขทะเบียน 1กค992พิจิตร

ไปที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นบริเวณตลาดระแหงถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว เพื่อซื้องของให้แม่หลังซื้อของเสร็จตนเองจึงขับรถกลับบ้านโดยใช้เส้นทางถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ขาเข้าปทุมธานี เมื่อรถขับมาถึงตรงข้ามวัดบัวแก้วเกษร ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้มีคนร้ายชาย2คน แต่งตัวชุดดำสวมหวกกันน็อคสีดำทั้งคู่ ใช้รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นพีซีเอ็กซ์สีน้ำเงินรุ่น160ซีซี ขับประกบแล้วใช้มือสะกิดก่อนคนซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนจี้ปากกาบังคับให้หยุดรถ แต่ตนเองไม่หยุดและเร่งเครื่องหลบหนี โดยตนพยายามขับรถข้ามเกาะกลางถนนเพื่อกลับบ้านแต่รถเกิดเสียหลักชนแบริเออร์กลางถนนตรงหน้าวัดบัวแก้วเกษร จนรถคว่ำได้รับบาดเจ็บตนเองและน้องจึงพากันวิ่งข้ามฝั่งเพื่อไปหาสถานที่ปลอดภัยหลบและมองดูคนร้าย ก่อนจะพบว่าคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ขับขี่รถจยย.ของตหลบหนีไปในซอยชุมชนบัวแก้วพัฒนา ม.4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากนั้นตนเองเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงพากันวิ่งกลับบ้านระยะทางเกือบ1กม.จนเหนื่อยหอบเพื่อให้มารดาพาเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ พวงทอง รองสว.สอบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยกับกุมคนร้ายและนำรถจยย.ของตนเองกลับคืนมา โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีก
ทางด้านน.ส.โสรยา พูลสาริกิจ อายุ 41ปี มารดาผู้เสียหายเปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

สญชัย คล้ายแก้ว รายงาน

สะพานทุ่งนาน้อยแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกที่ใกล้กกรุงเทพฯ มีภูเขาที่ล้อมรอบใกล้เขาใหญ่และมีบรรยากาศดีมาก

นครนายก – สะพานทุ่งนาน้อยแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกที่ใกล้กรุงฯ

สะพานทุ่งนาน้อยแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกที่ใกล้กกรุงเทพฯ มีภูเขาที่ล้อมรอบใกล้เขาใหญ่และมีบรรยากาศดีมาก

ที่สะพานทุ่งนาน้อย หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก คุณโสภา(โส) – คุณประทีป กางกอง(กบ) พร้อมลูกๆเป็นเจ้าของพื้นที่ของตัวเองได้เปิดเป็นแลนด์มาร์คที่ล้อมรอบใกล้เขาใหญ่มีบรรยากาศดีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดนครนายกจำนวนมากโดยเฉพาะน้ำตกสาริกา,น้ำตกนางรอง,น้ำตกวังตระไคร้,เขื่อนขุนด่านฯและเข้ามาท่องเที่ยวที่สะพานทุ่งนาน้อย ซึ่งที่มีจุดให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเซลฟี่ตามสพานไม้ที่มีความยาว 300 เมตร

ถ่ายตามจุดที่เจ้าของได้จัดให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพความประทับใจ ชมการสะสมของเก่าโบราณอีกมากมาย และสนุกกับการนั่งรถแทรกเตอร์แบบลากเลื่อน พาเที่ยวชมบรรยากาศในทุ่งนาน้อย พร้อมมีการรีโนเวทรถบรรทุกสิบล้อแบบลอยฟ้าใช้เครื่องชักลอกเพื่อนำไปส่งอาหารให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนในสะพานทุ่งนาน้อย อีกด้วย

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ เปิดงานตลาดนัดนวัตวิถี ของดีหัวดง ครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด นุ่งผ้าไทย สะปายถุงย่าม มาช้อป ชม ชิม ของกิ๋น ของไจ๊ ณ โรงเรียนเทศบาลตำบลหัวดง (ป.ฟักอังกูร) อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ เปิดงานตลาดนัดนวัตวิถี ของดีหัวดง ครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด นุ่งผ้าไทย สะปายถุงย่าม มาช้อป ชม ชิม ของกิ๋น ของไจ๊ ณ โรงเรียนเทศบาลตำบลหัวดง (ป.ฟักอังกูร) อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

ที่โรงเรียนเทศบาลหัวดง (ป.ฟักอังกูร) สังกัดเทศบาลหัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายวิรุจ สุกสา นายกเทศมนตรีตำบลหัว ดง ,จ่าสิบเอกธวัชชัย กาวีละ รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวดง นางรัชดาภรณ์ พรมจุ้ย ผอ.โรงเรียนเทศบาลหัวดง (ป.ฟักอังกูร) นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมด้วย คณะครู เครือข่ายผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนชาวอำเภอลับแล ให้การต้อนรับนายกสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ เนื่องในโอกาสเดินทางเป็นประธานเปิดงาน ตลาดนัดนวัตวิถี ของดีหัวดง ครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด “นุ่งผ้าไทย สะปายถุงย่าม มาช้อป ชม ชิม ของกิ๋น ของไจ๊ บ้านหัวดง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังพิธีเปิดมีการแสดงของนักเรียน เครือข่ายผู้ปกครอง และกลุ่มสตรีกลุ่มแม่บ้านผู้สูงอายุของเทศบาบตำบลหัวดง โดยเฉพาะการแสดงชุดรำวงมหาดไทย 3 ช่วงวัย ที่นำโดย นายวิรุจ สุกสา นายกเทศมนตรีตำบลหัวดง และ นางรัชดาภรณ์ พรมจุ้ย ผอ.โรงเรียนเทศบาลหัวดง (ป.ฟักอังกูร)
จ่าสิบเอกธวัชชัย กาวีละ รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวดง กล่าวว่า ตลาดนัดนวัตวิถีของดีหัวดง เทศบาลตำบลหัวดง ร่วมกับ โรงเรียนเทศบาลหัวดง (ป.ฟักอังกูร)

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง กำหนดจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายในงานแยกเป็น 5 โซน คือ ลำแต๊ๆ ของกิ๋นบ้านเฮา , ของไจ้ในวิถี ของดี บ่แปง , กิ๋นผักในวิถีเกษตรอินทรีย์บ้านเฮา , กาดคัวมือสอง หัวดงเมืองแห่งก๋านเฮียนฮู้ พร้อมชมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน ชมรมผู้สูงอายุ และชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษา ประสานความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน ศิษย์เก่า ภาคเครือข่าย ในการพัฒนาวิถีการเรียนรู้ของผู้เรียน และวิถีอัตลักษณ์ของชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยวของชุมชน อุตรดิตถ์เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และอุตรดิตถ์เที่ยวได้ทั้งปี 365 วัน
ด้าน นางรัชดาภรณ์ พรมจุ้ย ผอ.โรงเรียนเทศบาลหัวดง กล่าวว่า ทางโรงเรียนยังได้เปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมนำสินค้าจำหน่าย เป็นตลาดนัดหัดค้าหัดขาย เพื่อสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด ภาคภูมิใจในวิถีภูมิปัญญาท้องถิ่นแก่เด็ก เยาวชน พร้อมนำเสนอผลการจัดการศึกษาสู่สาธารณชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและทุกภาคส่วน

นาคา คะเลิศรัมย์/รานงาน

นครนายก- ลูกเสือวิสามัญ วิทยาลัยเทคนิคนครนายก ลงสนามอยู่ค่ายพักแรม เสริมทักษะการใช้ชีวิต และแก้ไขปัญหา

นครนายก- ลูกเสือวิสามัญ วิทยาลัยเทคนิคนครนายก ลงสนามอยู่ค่ายพักแรม เสริมทักษะการใช้ชีวิต และแก้ไขปัญหา

วิทยาลัยเทคนิคนครนายก สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 3 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดกิจกรรมเดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม ลูกเสือวิสามัญ ประจำปีการศึกษา 2565 ให้กับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 ได้ฝึกฝนทักษะการคิด แก้ไขปัญหา และนำขบวนการทางลูกเสือไปใช้ในการดำเนินชีวิต ณ ค่ายลูกเสือหัตถวุฒิแคมป์ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

ดร.สุกัญญา สุขสถาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครนายก เปิดเผยว่า กิจกรรมเดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม ลูกเสือวิสามัญ ประจำปีการศึกษา 2565 นี้ เป็นกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา ลูกเสือวิสามัญ (2002 – 0002) ให้กับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) ชั้นปีที่ 1 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะเกี่ยวกับกระบวนการคิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา รวมทั้งส่งเสริมงานในวิชาชีพที่ตนศึกษาอยู่ มีความรับผิดชอบ และมีจิตอาสาบริการสังคม สามารถนำขบวนการทางลูกเสือไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ตามนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการสร้างภาพลักษณ์อาชีวศึกษา และเป็นการเพิ่มปริมาณผู้เรียนอาชีวศึกษาให้สูงขึ้น ทำให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครนายก กล่าวต่อว่า ลูกเสือวิสามัญได้เข้าร่วมขบวนการทางลูกเสือ เริ่มต้นด้วยกิจกรรมลอดซุ้มลูกเสือ ซึ่งเป็นการแสดงถึงว่า ทุกคนจะมีความทัดเทียมกัน อยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมความคิดกัน และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยยึดคำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือวิสามัญเป็นทางปฏิบัติ พิธีเปิดสากล พิธีถวายราชสดุดี พระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 6 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ที่ทรงจัดตั้งกองเสือป่า และทรงเป็นพระบิดาแห่งลูกเสือไทย และพิธีเปิดกอง กิจกรรมเข้าประจำกอง ประดับแถบ 3 สี กิจกรรมฐาน ได้แก่ ฐานเดินทางไกล ฐานผจญภัย และฐานบุกเบิก สร้างปืนโรมัน กิจกรรมรอบกองไฟ กิจกรรมสูทกรรม กิจกรรมรอบกองไฟ เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ลูกเสือวิสามัญได้ทดสอบทักษะวิชาการลูกเสือ สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรการเรียนการสอนในกิจกรรมลูกเสือวิสามัญ

เนรมิต มงคลกิตติกานต์
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ปทุมธานีสาวโรงงานอึ้งตร.บล็อคไลน์หนีหลังถามความคืบหน้าคดีโจรงัดห้องพัก

ปทุมธานีสาวโรงงานอึ้งตร.บล็อคไลน์หนีหลังถามความคืบหน้าคดีโจรงัดห้องพัก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.ภรณ์ทิพย์ ไชยศล อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานงานโรงงาน พักอาศัยที่ห้องพัก เลขที่ 16/03731 บ้านเอื้ออาทร กม.44 ตึกที่37 ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวให้ช่วยนำเสนอข่าวเตือนภัยและช่วยติดตามคดีที่ตนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” ว่ามี ทรัพย์สินมีค่า สูญหายไปหลายรายการเมื่อเวลา 11.00 น. ในวันที่ 9 มกราคม 2566 จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ได้รับแจ้งความกล่าวว่าจะประสานฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่คดีที่แจ้งไว้นั้นไม่ความคืบหน้าแต่อย่างใด คนร้ายคนดังกล่าวได้ตระเวนลักทรัพย์หลายพื้นที่ช่วงวันและเวลาใกล้เคียงกัน จนมีประชาชนของหลายพื้นที่ได้แชร์โพสต์เตือนภัยไปยังเฟสบุ๊ค ว่าคนร้ายคนดังกล่าวว่านั้นเป็นคนร้ายคนเดียวกันหรือไม่ แต่ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายเสียที ทั้งที่วงจรปิดในหลายพื้นที่บันทึกรูปพรรณสัณฐานและจักรยานยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างชัดเจน
จาการสอบถาม น.ส.ภรณ์ทิพย์ ไชยศล กล่าวว่า คนร้ายแต่งตัวใส่เสื้อคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าแตะสีแดง ใส่ข้อมือทองคำทั้ง 2 ข้าง พร้อมกระเป๋าสะพายข้างเข้างัดแม่กุญแจห้องของตนและรื้นค้นภายในห้องพัก จากนั้นทองรูปประพรรณและแหวนน้ำหนักรวม 1.75 บาท มูลค่าประมาณ 50,000 บาท

ได้หายไป ตนจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้กล่าวว่าจะดำเนินคดีให้และได้มาเก็บหลักฐานพยานแวดล้อมรวมไปถึงข้อมูลภาพจากวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงแต่เรื่องก็เงียบหายไป ตนก็ได้ติดต่อไปยังตำรวจอีกครั้งและได้คำตอบว่าคนร้ายคนนี้เป็นที่ต้องการของตำรวจหลาย สภ.ในหลายพื้นที่เพราะว่าตระเวนลักทรัพย์ไปทั่ว ต่อมาตนก็ได้เห็นโพสต์เตือนภัยในกลุ่มต่างๆเกี่ยวกับคนร้ายคนนี้ที่ตระเวนก่อเหตุของหลายพื้นที่ ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานที่คล้ายคลึงกันมากที่มางัดห้องพักของตนในพื้นที่นวนครและในพื้นที่ใกล้เคียงรวมไปถึงที่ถนนกิ่งแก้ว ย่านสมุทรปราการ ตนจึงอยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายคนดังกล่าวมารับโทษทางกฎหมายให้ได้เสียที เพราะคนร้ายนี้ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายมักก่อเหตุในเวลากลางวันในช่วงที่พนักงานโรงงานไปทำงาน ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตำรวจไม่สนใจในความเดือดร้อนของตน ซึ่งไม่แคร์ว่าประชาชนจะเดือนร้อนเพียงใด พอเรื่องที่ตนแจ้งความไว้ครบ 1 เดือนก็ทักไปทางไลน์ไปถามเจ้าหน้าตำรวจก็ได้บล็อคไลน์ของตนทันทีแล้วประชาชนจะพึ่งพาอาศัยใครได้ถ้าเป็นแบบนี้

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

พะเยา สาหัส! ฝุ่นควันคลุมทึบทั้งเมืองค่ามลพิษพุ่งเกิน100ไมครอน

• พะเยา สาหัส! ฝุ่นควันคลุมทึบทั้งเมืองค่ามลพิษพุ่งเกิน100ไมครอน

วันนี้ 3 มี.ค 66 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวสถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า เข้าสู่ช่วงวิกฤตแล้ว หลังจากที่ผ่านมามีหมอกควันจากการเผาลอยมาสะสมตัวในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM 2.5 ของจังหวัดพะเยาพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง จนสภาพทั่วทั้งตัวเมืองถูกปกคลุมทึบด้วยฝุ่นควันและมองไม่เห็นยอดดอยหลวงจากตัวเมืองได้เหมือนปกติ ซึ่งจากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ต.บ้านต๋อม อ.เมือง, พะเยา พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)

มีค่า 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) และAQI มีค่า 226 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ฝุ่น PM 2.5 ได้แผ่ปกคลุมทั้งตัวเมืองพะเยา เต็มไปด้วยหมอกควันจากไฟป่า ตามท้องถนนมองเห็นม่านหมอกควันได้ในระยะใกล้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกับผู้ใช้รถจักรยานยนต์และผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง มลพิษจากฝุ่นควันระลอกนี้เกิดขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับคนพะเยาเพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมามีอากาศหนาวจากสภาพอากาศแปรปรวน แต่ยังเกิดมีกลุ่มฝุ่นควันหนาแน่น

(มีคลิป) ผาเมือง สนธิกำลังตำรวจ ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด ชายแดนแม่จัน

ผาเมือง สนธิกำลังตำรวจ ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด ชายแดนแม่จัน

ห้วงบ่ายวันที่ 2 มีนาคม 2566 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราานที่ 31 กองกำลังผาเมือง จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายและสถานีตำรวจภูธรแม่จัน ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติด หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 1500 นาฬิกา ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน 1 กน 6425 เชียงใหม่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่ติดตาม จนมาถึงบริเวณ บ้านห้วยน้ำราก ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พบรถยนต์ดังกล่าว จอดทิ้งไว้ จึงได้ทำการตรวจสอบ ผลการปฏิบัติ พบกระสอบบรรทุกอยู่ท้ายกระบะ จำนวน 30 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 200,000 เม็ด รวมจำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด

ต่อมาในห้วงเย็นวันเดียวกัน ได้ตรวจพบรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน ทะเบียน ผค 7899 เชียงราย ขับเข้ามาบริเวณ ด่านตรวจห้วยเอียน บ้านห้วยเอียน ตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการสอบถาม แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้ขับหลบหนีไป หน่วยจึงได้ทำการติดตาม จนกระทั่งตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณ จุดผ่อนปรนแจมป๋อง บ้านแจมป๋อง ตำบลหล่ายงาว จากการตรวจสอบไม่พบผู้ขับขี่ และสิ่งผิดกฏหมายภายในรถ หน่วยจึงได้นำของกลางดังกล่าว ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่จัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ทรงวุฒิ ทับทอง

(มีคลิป) ผาเมือง สนธิกำลังตำรวจ ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด ชายแดนแม่จัน

ผาเมือง สนธิกำลังตำรวจ ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด ชายแดนแม่จัน

ห้วงบ่ายวันที่ 2 มีนาคม 2566 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราานที่ 31 กองกำลังผาเมือง จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายและสถานีตำรวจภูธรแม่จัน ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติด หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 1500 นาฬิกา ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน 1 กน 6425 เชียงใหม่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่ติดตาม จนมาถึงบริเวณ บ้านห้วยน้ำราก ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พบรถยนต์ดังกล่าว จอดทิ้งไว้ จึงได้ทำการตรวจสอบ ผลการปฏิบัติ พบกระสอบบรรทุกอยู่ท้ายกระบะ จำนวน 30 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 200,000 เม็ด รวมจำนวนประมาณ 6,000,000 เม็ด

ต่อมาในห้วงเย็นวันเดียวกัน ได้ตรวจพบรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน ทะเบียน ผค 7899 เชียงราย ขับเข้ามาบริเวณ ด่านตรวจห้วยเอียน บ้านห้วยเอียน ตำบลหล่ายงาว อำเภอเวียงแก่น เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการสอบถาม แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้ขับหลบหนีไป หน่วยจึงได้ทำการติดตาม จนกระทั่งตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณ จุดผ่อนปรนแจมป๋อง บ้านแจมป๋อง ตำบลหล่ายงาว จากการตรวจสอบไม่พบผู้ขับขี่ และสิ่งผิดกฏหมายภายในรถ หน่วยจึงได้นำของกลางดังกล่าว ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่จัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com