“รฎาวัญ” ส่ง “นาดา ไชยจิตต์” หัวหอกด้านสิทธิมนุษยชนลุยเวทีถกปัญหาแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัย “พรรคเสมอภาค” เสนอ 3 จิ๊กซอว์สำคัญแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน
เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาสังคมด้านสิทธิแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัย ได้จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์พรรคการเมือง “ไทย ในประชาคมระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน ความมั่นคงและการจัดการแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัย” ซึ่งจัดขึ้น ณ สำนักงาน The Fort พรรคเสมอภาคโดย คุณรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ ได้ส่งตัวแทน คุณนาดา ไชยจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 3 ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ด้านความเสมอภาคทางเพศและสิทธิมนุษยชนเป็นตัวแทนของพรรคเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้
นาดา ได้ย้ำจุดยืนถึงผลงานสำคัญในอดีตของหัวหน้าพรรคเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน ทั้งการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบการโดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นแรงงานไทยหรือพี่น้องแรงงานข้ามเพศ เมื่อครั้งสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในระหว่างการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ นาดาย้ำจุดยืนพรรคเสมอภาคว่า ปัญหาแรงงานข้ามเพศและผู้ลี้ภัยเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน และประเทศไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียนที่ต้องวางบทบาทของตัวเองให้ชัดเจน ทั้งนโยบายด้านระหว่างประเทศ ความมั่นคง และแรงงาน ที่ต้องยึดหลักความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมายเพราะในหัวใจของพี่น้องแรงงานนั้น ‘แรงงานทั้งผองพี่น้องกัน’ อีกทั้งหลักการก่อตั้งประชาคมอาเซียนนั้นก็เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคของเรา เพื่อสร้างความร่วมมือในการแข่งขันกับเวทีการค้าโลก ดังนั้นการส่งเสริมความเข้มแข็งของแรงงานจึงต้องมองการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ไม่แบ่งเขา แบ่งเรา เพื่อทลายมายาคติเรื่อง แรงงานข้ามชาติมาแย่งงานคนไทย ทั้งๆที่ตลาดแรงงานไทยทั้งภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรต้องการนำเข้าแรงงานข้ามพรมแดนในภูมิภาคนี้
นาดาได้ย้ำถึงนโยบายที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพื่อเติมเต็มจิ๊กซอว์แก้ไขปัญหาทั้งในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม คือ พรรคการเมืองเมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วต้องกล้าหาญที่จะนำพาประเทศเข้าเป็นภาคี ตามอนุสัญญาสำคัญๆ อาทิอนุสัญญาปี ค.ศ. 1951 ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย อนุสัญญาองค์การแงงานระหว่างประเทศ 87 และ 98 รวมถึงถอนข้อสงวนตามอนุสัญญาสิทธิเด็กข้อที่ 22 เพื่อส่งเสริมให้เด็กที่อพยพหรือลี้ภัยเข้ามาได้รับความคุ้มครองด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและสถานะพลเมืองที่มีการข้ามถิ่นฐาน ทั้งการใช้แรงงานและลี้ภัยอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้เมื่อพรรคการเมืองเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วต้องจริงจังกับการบังคับใช้แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ซึ่งต้องยกระดับจากแผนเกรด C ให้เป็นแผนเกรด A เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ประกาศใช้แบบผ่านๆเพื่อให้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เคารพสิทธิมนุษยขนเท่านั้น
นอกจากนี้นาดายังได้ย้ำว่า คุณรฎาวัญ หัวหน้าพรรคเสมอภาคได้เสนอนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานข้ามเพศ ด้วยการจัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานอาเซียน เพื่อให้โอกาสกับพี่น้องแรงงานข้ามเพศได้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมกัน ส่งเสริมให้ภูมิภาคอาเซียนมีแรงงานที่มีทักษะฝีมือที่เข้มแข็ง พร้อมส่งออกไปยังตลาดแรงงานโลก ตลอดจนจัดสรรสวัสดิการสังคมให้เสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และยุติธรรม เฉกเช่นกับแรงงานที่มีสัญชาติไทย ซึ่งนโยบายของพรรคเสมอภาคได้รับกระแสตอบรับจากเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมเป็นอย่างดี.