google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรีสนธิกำลัง นรข. ตรวจยึดยาเสพติด(กัญชา)จำนวนกว่า 323 กิโลกรัม พื้นที่ริมโขง อ.หว้านใหญ่

ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรีสนธิกำลัง นรข. ตรวจยึดยาเสพติด(กัญชา)จำนวนกว่า 323 กิโลกรัม พื้นที่ริมโขง อ.หว้านใหญ่

มุกดาหาร/ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 เวลา 19.30 น. พล.ท. สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ร ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. พล.ต บุนสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กรมทหารราบที่ 3) ได้บูรณาการด้านการข่าว กับเจ้าหน้าที่ นรข.มุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.หว้านใหญ่ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่

ร่วมกันตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ.หว้านใหญ่ ม.4 ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จำนวน 7 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวน 323 แท่ง/กิโลกรัม
จากนั้นได้นำของกลางทั้งหมด ส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177

สงขลา/สะเดา คลิปเหตุการณ์ ตชด437 ล่อซื้อยาบ้า เอเย่นค้ายาในพื้นที่อำเภอสะเดาพร้อมรวบตัวนายกิต เอเย่นค้ายาและของกลางยาบ้า 877 เม็ด ไอซ์ 8.9 กรัม และของกลางอีกหลายรายการ

สงขลา/สะเดา คลิปเหตุการณ์ ตชด437 ล่อซื้อยาบ้า เอเย่นค้ายาในพื้นที่อำเภอสะเดาพร้อมรวบตัวนายกิต เอเย่นค้ายาและของกลางยาบ้า 877 เม็ด ไอซ์ 8.9 กรัม และของกลางอีกหลายรายการ

วันนี้ 22 มี.ค.65 พ.ต.ท.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.ท.ชวิศศา บุญมี หน.ชปข.ร้อย ตชด.437 ร.ต.ท.ไกรสร ล่องลอย หน.ชปข.กก.ตชด.43 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน437 และ เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการข่าว ตชด.43 วางแผนล่อซื้อยาเสพติด (ยาบ้า) จาก นายอมร จีนบุปผา (หรือกิต) อายุ 40 ปี ที่อยู่ 203/3 ถ.ปาดังเบซาร์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่า นาย อมร หรือ กิต มีพฤติกรรมในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในกับลูกค้าวัยรุ่น ในพื้นที่อำเภอสะเดา เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันวางแผนล่อซื้อ โดยให้สายลับ (ขอปิดนาม) นำเงินที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายเอกสาร เพื่อแสดงยืนยันเลขธนบัตร ว่าเป็นเงินที่นำไปล่อซื้อ และให้สายลับเดินทางไปยังบริเวณจุดนัดหมาย ที่สายลับ และ นายกิต (เป้าหมาย) ได้ตกลงนัดหมายส่งยาบ้า กัน ที่บริเวณ ข้างบ้านเลขที่ 5 ต.สะเดา อ.สะเดา และ

เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการแสดงตัว ว่าเป็นเจ้าหน้าที่และ ได้ทำการตรวจค้นนาย กิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้นร่างกายของนาย กิต จากการตรวจค้นกระเป๋าหนังที่ นายกิต สะพายติดตัวอยู่ พบ ธนบัตรไทย ตรงตามที่ได้ลง ปจว.ไว้ จนท.จึงได้แจ้งแก่ นายกิต ว่า จนท. ได้ทำการล่อซื้อยาเสพติดจาก นายกิต และ นายกิต ให้การยอมรับว่าเงินดังกล่าวตนได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) จริง จากนั้น จนท.ได้สอบถาม นาย กิต ว่ายังมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่อีกหรือไม่ จากนั้น นายกิต ยอมรับว่ายังมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่อีก ซึ่งตนได้ซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมายอยู่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 7/2 ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา และ ได้นำ จนท.ไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อถึงสถานที่ดังกล่าวแล้ว นายกิต ได้เดินไปหยิบกระเป๋าสีชมพู มามอบให้กับ จนท.

จากนั้น จนท.จึงได้ทำการตรวจสอบภายในกระเป๋าดังกล่าว จากการตรวจสอบพบ ยาบ้า รวมจำนวน 867 เม็ด และ ยาไอซ์ รวมน้ำหนัก 8.9 กรัม ชั่งรวมภาชนะบรรจุ และ นายกิต ยอมรับว่าตนเช่าห้องอยู่จริง และ ได้พา จนท. ไปตรวจสอบยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ถนนเลี่ยงเมือง ฝั่งเทศบาล2 (ห้อง 4) ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา

จากการตรวจสอบบ้านพักดังกล่าว พบ สมุดจดบันทึกรายการในการค้ายาเสพติด จำนวน 2 เล่ม และ ตาชั่งดิจิตอล สีดำ จำนวน 1 เครื่อง

จากการ สอบถาม นายอมร จีนบุปผา (หรือกิต) ให้การรับว่าซื้อยาเสพติด (ยาบ้า และ ไอซ์) มาจาก นายบ่าว (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างสันทัด สูง อาศัยอยู่บ้านทุ่งลุง ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะติดต่อซื้อยาเสพติด (ยาบ้าและยาไอซ์) จาก นายบ่าว ผ่านทาง
Messenger และ เบอร์โทรศัพท์ โดยตนจะใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า อมร จีนบุปผาสั่งซื้อยาเสพติด โดยตนจะสั่งซื้อบาบ้า ครั้งละ 1 มัด (2,000 เม็ด ในราคา24,000 บาท และ ไอซ์ ครั้งละ 50 กรัม ในราคา 14,000 บาท

จากนั้น ตนได้นำมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ โดยตนจำหน่ายยาบ้า จำนวน 10 เม็ด ในราคา 300 บาท และ จำหน่าย ไอซ์ จำนวน 2 กรัม ในราคา 400 บาท สำหรับนายกิต ซึ่งเป็นเป้าหมายรายสำคัญของเจ้าหน้าที่ ที่ได้ติดตามตัว เพื่อทำการจับกุม เพราะมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด แต่นาย กิต ก็ได้ไหวตัวหลบหนีไปได้หลายครั้ง

ซึ่งครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ และปิดฉากนักค้ายารายสำคัญในพื้นที่อำเภอสะเดา ไปได้อีก 1 ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอมร จีนบุปผา (หรือกิต) พร้อม
ของกลาง พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

@มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา

บช.ปส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกัญชา 600 กก.

บช.ปส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกัญชา 600 กก.

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2565 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บช.ปส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.(1) ,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.(2), พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส.(3), พล.ต.ต.จิรวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ปส.(4), พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พ.ต.อ.หญิงทัศหทัย แสงวัฒนะ รอง ผบก.ปส.2, พ.ต.อ.อุทิศ จันทะศรี รอง ผบก.ปส.2, พ.ต.อ.สุภรณ์ หิรัญเวชบูรณ์ รอง ผบก.ปส.2, พ.ต.อ. พรณรงค์ สุริยชัยวงษ์ รอง ผบก.ปส.2 ร่วมบูรณาการจัดชุดจับกุม หลังจากสืบทราบว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติด จึงได้จัดชุดสืบหาข่าวนำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.จีรภัทร พฤฑฒิกุล ผกก.3 บก.ปส.2,พ.ต.ท.วิฑูรย์ ญาณุกูล รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.พล หอมจันทร์ รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.โชติธนินท์ โชติสุรีย์ชัย รอง ผกก (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.อุดรธานี ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.มหาสารคาม ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศวข.อุดรธานี บก.ขส., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศวข.บก.ปส.2, เจ้าหน้าที่ กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ขกท.กกล.สุรศักดิ์มนตรี,ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามกระทั่งถึงบริเวณสี่แยกกันทรวิชัย ถนน มหาสารคาม -ยางตลาด ม.1 ตำบลโคกพระ อำเภอกัทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม

พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไตรตัน สีขาวติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้าหลัง กท-7002 ราชบุรี ต้องสงสัยโดยมีนายบุญถม สรเสนา อายุ 46 ปี ที่อยู่ 131 ม.09 ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร คนขับรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อตรวจสอบภายในรถยนต์ดังกล่าวตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) 14 กระสอบ จำนวนประมาณ 600 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อม
นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงาน

ร้อยเอ็ด/… พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร (เสือดำทิ้งทวนปราบยาบ้า)พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดจับยาบ้าสามแสนเม็ดที่ อ.อาจสามารถ

ร้อยเอ็ด/…
พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร (เสือดำทิ้งทวนปราบยาบ้า)พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดจับยาบ้าสามแสนเม็ดที่ อ.อาจสามารถ

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด สืบทราบว่า นายนิพนธ์ พวงนางแย้ม ชาวจังหวัดมหาสารคาม มีภรรยาอยู่ที่ บ้านน้ำคำ หมู่ 9 ตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด มีพฤติการณ์เป็นผู้รับจ้างส่งยาบ้า จึงเดินทางไปตรวจสอบ ระหว่างทางได้สวนกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต ป้ายทะเบียน 2 ฒจ 4264 กรุงเทพมหานคร ทีมงานส่งยาบ้าของนายนายนิพนธ์ พวงนางแย้ม ชาวจังหวัดมหาสารคาม จึงสะกดรอยติดตาม จนพบลูกน้องของนายนิพนธ์ฯ ในตลาดที่อำเภอ คือนายสุรัตน์ ยอดดี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 12 ตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และนายสุเมธ ดิษฐ์เนตร อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9 ตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่พบนายนิพนธ์ฯ จึงให้นายสุรัตน์ฯ และนายสุเมธฯ พาไปที่บ้านของนายนิพนธ์ฯ ปรากฏว่ามีผู้โทรศัพท์บอกให้นายนิพนธ์ฯ พร้อมกับพวกหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบโทรศัพท์ทั้งสองคน คือโทรศัพท์ของนายสุเมธฯ และนายสุรัตน์ฯ พบว่ามีข้อมูลการติดต่อรับจ้างขนยาบ้า จนเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันเดียวกัน ทั้งคู่ได้รับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าและจัดเก็บซุกซ่อนยาบ้าก่อนนำส่งให้นายนายนิพนธ์ พวงนางแย้ม และพาเจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจยึดยาบ้า จำนวน 3 กระสอบ นับได้ 150 มัด (ประมาณ 300,000 เม็ด) ที่จัดเก็บไว้ในแหล่งซุกซ่อนก่อนนำส่งลูกค้าตามออรเดอร์ใบสั่งซื้อจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งสองคนทราบ ได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายนิพนธ์ฯลฯพวกที่หลบหนีจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีอีกต่อไป

ดำเนิน พรมไชยา/รายงาน

ผาเมือง สกัด 23 ผู้ลักลอบเข้าเมือง พร้อม 2 ผู้นำพา ชายแดนเชียงใหม่และเชียงราย

ผาเมือง สกัด 23 ผู้ลักลอบเข้าเมือง พร้อม 2 ผู้นำพา ชายแดนเชียงใหม่และเชียงราย

——————
กลางดึกของวันที่ 19 มี.ค. 65 กองกำลังผาเมือง หน่วนเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ร่วมกับ กองร้อยทหารม้าสกัดกั้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง ทำการ ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณท่าข้าม บ.เหมืองแดงใต้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 8 คน เดินทางเพื่อมาทำงานใน จ.เชียงราย
ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 19 มี.ค. 65 กองกำลังผาเมือง

โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ร่วมกับ หมวดสกัดกั้นที่ 2 กองกำลังผาเมือง ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ บ.ถ้ำ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 15 คน และผู้นำพา จำนวน 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 39 เม็ด และ เฮโรอีน น้ำหนัก 4 กรัม จากการสอบถามให้การรับสารภาพว่าเดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก สมม. เพื่อมาทำงานใน จ.เชียงใหม่ และไม่ทราบเรื่อง การผ่อนปรนตาม MOU หน่วยจึงได้นำผู้ต้องหาส่ง สภ.ฝาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจนิคมคำสร้อยร่วมกับตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญตรวจยึดยาบ้ากว่า4แสนเม็ด

ตำรวจนิคมคำสร้อยร่วมกับตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญตรวจยึดยาบ้ากว่า4แสนเม็ด

มุกดาหาร/เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ท.สัญญา แก้วมาลา รอง ผกก.ป.สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ต.ประดิษฐ์ วงชารี สวป.สภ.นิคมคำสร้อย ร.ต.อ.อมรศักดิ์ บัวทัน รอง สว.จร.สภ.นิคมคำสร้อย ร่วมกับพ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ สว.ส.ทล.5 กก.6บก.ทล.(อำนาจเจริญ)ร.ต.อ.เทพประจักษ์ ชอบบุญ รอง สว.ฯ ด.ต.ธีร แก้วเนตร ด.ต.ทรงวุฒิ เพ็ญภักดีกุล ด.ต.ฐิติรัตน์ เสียงอ่อน ด.ต.ชัชการ ผิวแก้วดี ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล ร่วมกันตรวจยึดยาบ้า จำนวน 420,000 เม็ด
โดยตรวจยึดได้ที่ ข้างถนนชยางกูร 212 เขต บ้านดอนม่วง ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
ก่อนตรวจยึดยาบ้าจำนวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านตรวจบนถนนชยางกูร 212 สายมุกดาหาร – อำนาจเจริญ บริเวณหน้าตู้ยามโชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เห็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สี ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินทางมาจากทาง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร มุ่งหน้ามาทาง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ได้กลับรถอย่างกะทันหันก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 100 เมตร วิ่งกลับไป อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร มีท่าทางพิรุธน่าสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ใช้รถยนต์ของทางราชการไล่ติดตาม พร้อมวิทยุประสานตำรวจตำรวจทางหลวงอำนาจเจริญ เปิดไฟไซเรนส่งสัญญาณเสียงให้หยุดรถ ผู้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถให้ตรวจสอบ กลับเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุคือบริเวณข้างถนนชยางกูร 212 บ้านดอนม่วง ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร

เจ้าหน้าที่เห็นคนในรถคันดังกล่าวทิ้งวัตถุต้องสงสัยออกจากตัวรถลงบนพื้นข้างถนนกระจัดกระจายไปทั่ว จึงได้วิทยุแจ้งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ขับรถไล่ติดตามแต่ไม่ทัน ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว พบว่าคือยาบ้าบรรจุหีบห่อมีตราประทับ Y-1 สีเขียวประทับที่หีบห่อ ทั้งหมด 71 ก้อน จำนวน 420,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท จึงได้ทำการตรวจยึดยาบ้าของกลางดังกล่าวข้างต้นนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งการข่าวระบุชัด ยาบ้าล๊อตนี้ ส่งข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยมีกลุ่มพ่อค้ายาบ้าชาวไทยร่วมกับชาวต่างชาติร่วมขบวนการ หากการข่าวไม่ดีพอ เป็นการยากที่จะตรวจยึดยาบ้าหรือจับกุมตัวผู้ต้องหาได้

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177

จับยาบ้าฝิ่นดิบสองหนุ่มสาวชาวเขา

อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
จับยาบ้าฝิ่นดิบสองหนุ่มสาวชาวเขา

15มีนาคม2565
พ.ต.อ.ปริญญา เพชรมีผกก.สภ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่,พ.ต.ท.สรัญรัฐ ชยนนท์ รองผกก.ป.สภ.ไชยปราการฯ ,พ.ต.ท.ชาญยุทธ ไชยมะโน รอง ผกก.สส.สภ.ไชยปราการฯ ,พ.ต.ต.วันเฉลิม ทาสมบูรณ์ ผกก.ป.สภ.ไชยปราการฯ ,พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ชัยอนันต์ ผบ.ร้อย ตชด.334 อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ , พ.ท.ฐานพัฒน์ แสงนาค ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.4 เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมโดย ร.ต.อ.เอกชัย ทาชมพู สวป.สภ.ไชยปราการฯ พร้อมพวกประกอบด้วย ร.ต.อ.ชัยยา กันทะวัน , ร.ต.ต.เชวง เมืองมูล , ด.ต.เฉลา เนตรสกุล ส.ต.ต.ยิ่งพันธ์ อาจวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อย ตชด.334 ประกอบด้วย ส.ต.ท.สมชาย กันชัย ได้ร่วมกันจับกุม นายจะพะ จะแต๋ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 580 หมู่ 4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และ น.ส.หฤทัย แสนหน่อ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 383/1 ม.4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้มและสีเขียว ประทับตัวอักษร WY บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าชนิดมีซิปรูดปิดปากถุงจำนวน 16 ถุงๆละประมาณ 200 เม็ดและบรรจุในถุงสีดำมีตราสัญลักษณ์รูปแอปเปิล ชนิดมีซิปรูดปิดปากถุง จำนวน 4 ถุง ๆละประมาณ 200 เม็ดแล้วมัดรวมกันด้วยยางรัดของเป็นมัดๆละ 10 ถุง จำนวน 2 มัด แล้วห่อหุ้มด้วยกระดาษสาเคลือบไขกันชื้น และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง นับรวมกันทั้งหมดจำนวน 4,000 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) จำนวน 1 ห่อ บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสา พันด้วยเชือกพลาสติกสีแดง แล้วห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกชนิดหูหิ้วใสอีกชั้นหนึ่ง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มหนักประมาณ 1,560 กรัม
ได้รับแจ้งจากสายลับขอปิดนามเพื่อประสงค์ขอรับเงินรางวัลนำจับว่า จะมีกลุ่มขบวนค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู้พื้นที่ตอนในของจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าระวังรถต้องสงสัยอยู่ที่ด่านตรวจผาหงษ์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. พบรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO สีเทา หมายเลขทะเบียน ยต 5729 เชียงใหม่ วิ่งมาตามถนนโชตนา ทิศทางจาก อ.ไชยปราการ มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงดาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวตรวจค้น พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนั้นมี นายจะพะ จะแต๋ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 580 หมู่ 4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ คันดังกล่าว โดยมี น.ส.หฤทัย แสนหน่อ อายุ 22 อยู่บ้านเลขที่ 383/1 ม.4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ นั่งโดยสารบนเบาะนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ

โดยทั้งสองคนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงลักษณะอาการมีพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่น คล้ายคนมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในครอบครอง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้กลิ่นคล้ายกลิ่นของยาบ้าอยู่ภายในรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ นายจะพะฯ ขับรถเข้าไปบริเวณจุดตรวจค้นรถของด่านตรวจผาหงษ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญ นายจะพะฯ และ น.ส.หฤทัยฯ ลงมาจากรถและได้ขออนุญาตทำการตรวจค้นภายในตัวรถ ก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายจะพะฯ และ น.ส.หฤทัยฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว และทั้งสองได้ยินยอมให้ทำการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าวโดยมีนายจะพะฯและน.ส.หฤทัยฯยืนดูการตรวจค้นอยู่ ต่อมาด.ต.เฉลา เนตรสกุล ได้ตรวจมาถึงไต้กระโปรงด้านซ้ายของรถยนต์คันดังกล่าว ได้ตรวจพบกล่องวัตถุรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม วางอยู่บริเวณที่ดังกล่าว โดยมีผ้าเช็ดตัวสีดำพันห่อไว้ เมื่อสอบถามนายจะพะฯว่ากล่องดังกล่าวคือกล่องอะไร นายจะพะฯได้ให้การรับว่าข้างในกล่องดังกล่าวเป็นยาเสพติด(ยาบ้ากับฝิ่นดิบ) เมื่อด.ต.เฉลา ได้นำกล่องดังกล่าวมาออกมาแกะดูต่อหน้านายจะพะฯและน.ส.หฤทัยฯ ผลการแกะตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท1 บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าชนิดมีซิปรูดปิดปากถุงจำนวน 16 ถุงๆละประมาณ 200 เม็ดและบรรจุในถุงสีดำมีตราสัญลักษณ์รูปแอปเปิล ชนิดมีซิปรูดปิดปากถุง จำนวน 4 ถุง ๆละประมาณ 200 เม็ดแล้วมัดรวมกันด้วยยางรัดของเป็นมัดๆละ 10 ถุง จำนวน 2 มัด แล้วห่อหุ้มด้วยกระดาษสาเคลือบไขกันชื้น และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง นับรวมกันทั้งหมดจำนวน 4,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) จำนวน 1 ห่อ บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสา พันด้วยเชือกพลาสติกสีแดง แล้วห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกชนิดหูหิ้วใสอีกชั้นหนึ่ง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มหนักประมาณ 1,560 กรัม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ตราด ผลตรวจสอบแล้วพบเป็นสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค ลอยติดชายหาด บ้านคลองตะเคียนต.ไม้รูด นน. 25 กก.

ข่าว ตราด ผลตรวจสอบแล้วพบเป็นสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค ลอยติดชายหาด บ้านคลองตะเคียนต.ไม้รูด นน. 25 กก.

ภาพ/ข่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ นางสมบัติ สิงห์คะนอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/1 ม.5 บ้านคลองตะเตียน ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่าเดินทางมาที่ชายหาดบ้านคลองตะเคียน ต.ไม้รูด เพื่อเก็บขยะที่ตกค้างอยู่ตามชายหาด หลังจากถูกคลื่นทะเลซัดขยะมาเกยชายหาด ขณะกำลังเดินเก็บขยะอยู่ นางสมบัติ ต้องตกตะลึง เพราะพบกระสอบบรรจุสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค จำนวนมาก เกยชายหาดอยู่ นับได้ถึง 24 ห่อ หลังจากนั้นจึงแจ้งนายมณฑล เขี่ยวชะอุ่ม ผู้ใหญ่บ้านทราบ ก่อนจะรายงานไปยังหน่วยงานในพื้นที่พร้อมด้วยรายงานไปยัง นายสมศักดิ์ จุฑาวงศ์กุล นายอำเภอคลองใหญ่ให้ทราบ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจ สอบ
และยังได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฎิบัติการที่ 23 ไม้รูด นายสุรศักดิ์ อินทรประเสริฐ นายก อบต.ไม้รูด และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไม้รูด ฝ่ายปกครอง อส. และทหารพรานเจ้าภูผา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเก็บห่อสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค ทั้งหมด ไปทำการตรวจสอบที่ สภ.ไม้รูดอีกครั้ง โดยเทน้ำออกจากกระสอบยังไม่หมดในถุงของสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค

และทำการชั่งน้ำหนักปรากฎว่าน้ำหนักจำนวน 25 กก. จากยาเคทั้งหมด 24 ห่อ ห่อละ 1 กก. ถูกซีลด้วยถุงพลาสติกสีเขียวอย่างดี ก่อนลงบันทึกการตรวจยึดยาเคทั้งหมดไว้ เป็นของกลางเพื่อสืบสวนเส้นทางของยาเคที่ลอยมาติดชายหาดต่อไป
นายสมศักดิ์ จุฑาวงศ์กุล นายอำภเอคลองใหญ่ บอกว่า หลังตรวจพบ และเก็บมาตรวจสอบเบื้องต้นมีลักษณะคล้ายยาไอซ์ แต่เอาไปตรวจสอบแล้วพบเป็นสารยาเสพติดเคตามิน หรือ ยาเค แล้ว แต่ที่แรกได้ตั้งประเด็นเป็นไอซ์ไว้ก่อน เพราะทะเลตราดเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาเคยมีไอซ์ลอยมาเกยชายหาดทั้งหมดเกือบ 1 ตันมาแล้ว

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด

ด่านผาหงส์จับยาบ้าสองสาว

อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
ด่านผาหงส์จับยาบ้าสองสาว

11 มีนาคม 2565
พันตำรวจเอก ปริญญา เพชรมี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ทำตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค5 และนโยบายตำรวจแห่งชาติ โดยให้ตำรวจด่านผาหงส์ปฏิบัติการของด่านตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ร่วมกับหน่วยทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน334 ชุดสุนัขทหารตรวจค้นยาเสพติด กองพันสุนัขทหาร กองกำลังผาเมือง ที่ทำงานตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือแรงงานต่างด้าวและตรวจยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนแล้วขนส่งนายทุนในเมืองใจกลางของไทย ในวันนี้ทาง พตท สรัญรัฐ ชยนนท์ รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม และ รตอ.เอกชัย ทาชมพู สาววัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ และ ดต.เฉลา เนตรสกุล ดต เชวง เมืองมูล
สตอ ปณัศการ พรมมาลา
สตอ ภาณุพงศ์ แตงลี่
ดต ไกรศร อุ่นเรือน
สตต ธนโชติ รัมจันทร์ชุดปฏิบัติการด่านผาหงส์ สถานีตำรวจภูธรไชยปราการ พร้อมกับทหารกองบังคับการควบคุมที่2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่4 กองกำลังผาเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน334

และทหารสุนัขดมกลิ่น ได้ทำการตรวจรถที่ผ่านเข้าออกตรงด่านตรวจบ้านผาหงส์ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบพบรถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น JUKE สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน จก 9225 เชียงใหม่ วิ่งมาตามถนนโชตนา ทิศทางจาก อ.ไชยปราการ มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงดาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวตรวจค้น พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนั้นมี น.ส.ปัทมาพร พานทอง อายุ 30 ปี ที่อยู่ 116/64 ม.4 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว โดยมี น.ส.เพียงหนึ่งน์ โรจนกุลพิพิธ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 596 ม.1 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นั่งโดยสารบนเบาะนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ โดยทั้งสองคนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงลักษณะอาการมีพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่น คล้ายคนมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในครอบครอง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้กลิ่นคล้ายกลิ่นของยาบ้าอยู่ภายในรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ น.ส.ปัทมาพรฯ ขับรถเข้าไปบริเวณจุดตรวจค้นรถของด่านตรวจผาหงษ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญ น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ลงมาจากรถและได้ขออนุญาตทำการตรวจค้นภายในตัวรถ ก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว และทั้งสองได้ยินยอมให้ทำการตรวจค้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่า น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ มีอาการรุกรี้รุกรนคล้ายคนมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ที่ตัว จากนั้น น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้ขอเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ได้อนุญาตแต่อย่างใด น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำสำหรับบริการประชาชนของด่านตรวจผาหงษ์ฯ โดยมี ด.ต.เฉลา เนตรสกุล และ ส.ต.ท.ยิ่งพันธุ์ อาจวัน วิ่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดย ด.ต.เฉลาฯ ได้วิ่งไปบริเวณด้านหลังห้องน้ำจุดที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ วิ่งเข้าไป ส่วน ส.ต.ท.ยิ่งพันธ์ฯ ได้วิ่งไปบริเวณด้านหน้าห้องน้ำจุดที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ วิ่งเข้าไป จากนั้น ส.ต.ท.ยิ่งพันธ์ฯ ได้พยายามเรียกให้ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ เปิดประตูห้องน้ำออกมา ขณะที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ อยู่ในห้องน้ำนั้น ด.ต.เฉลาฯ ซึ่งขณะนั้นอยู่บริเวณด้านหลังห้องน้ำดังกล่าวก็พบว่ามีวัตถุบางอย่างถูกขว้างออกมาจากห้องน้ำห้องที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ อยู่ด้านใน โดยวัตถุดังกล่าวได้ตกอยู่บนพื้นหลังห้องน้ำดังกล่าว

โดย ด.ต.เฉลาฯ ได้เฝ้าดูวัตถุดังกล่าวนั้นตลอดเวลา กระทั้งเมื่อ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้ออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้นำตัว น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ และ น.ส.ปัทมาพรฯ เข้าไปตรวจสอบวัตถุดังกล่าว พบว่าเป็น 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 190 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีใสชนิดรูดปิดเปิด จำนวน 1 ถุง 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 200 เม็ด และ ชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 2 เม็ด ทั้งหมดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินชนิดรูดปิดเปิด จำนวน 1 ถุง โดยยาเสพติดของกลางลำดับที่ 1 และ ลำดับที่ 2 นั้น ถูกมัดเข้าด้วยกันด้วยหนังยางพลาสติกสีขาว โดย น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ และ น.ส.ปัทมาพรฯ รับว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวนั้นเป็นของพวกตนทั้งสองจริง อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองยังได้รับว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสองได้เสพยาบ้ามาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่ รพ.ไชยปราการ จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจพบสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีนในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งสอง (ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ที่แนบมาพร้อมบันทึกการจับกุมนี้) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

สงขลา—รัตภูมิ เจ้าหน้าที่วางแผนปลอมตัวเป็นชาวบ้านแหย่ไข่มดแดง เข้าไปจับกุมนักค้ายาบ้าในขนำภายในป่าสวนยางได้ผลสามารถจับกุมเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

สงขลา—รัตภูมิ เจ้าหน้าที่วางแผนปลอมตัวเป็นชาวบ้านแหย่ไข่มดแดง เข้าไปจับกุมนักค้ายาบ้าในขนำภายในป่าสวนยางได้ผลสามารถจับกุมเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

วันนี้(9มี.ค.65) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่43 ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ สำนักการข่าว กอ.รมน. จนท.ตร.กก6 บก.ปทส.

วางแผนจับกุมนักค้ายาบ้า ซึ่งอาศัยอยู่ที่ขนำในสวนยางพารา พื้นที่หมู่3 บ้านนาลึก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

โดยใช้วิธีปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้าไปหาแหย่ไข่มดแดงหรือที่ทางใต้เรียกว่ายอนไข่มดแดง เพราะหากใช้วิธีเข้าไปตรวจค้นตามปกติกลัวว่านักค้ายารายนี้จะรู้ตัวและวิ่งหลบหนี

โดยทาง ร.ต.ท. ไกรสร ล่องลอย หัวหน้าชุดฯ และลูกน้องได้ปลอมตัวแต่งกายเหมือนชาวบ้านทั่วไปพร้อมไม้และกระสอบสำหรับแหย่ไข่มดแดงหรือยอนไข่มดแดง

พร้อมกับสายลับอีกคนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันเข้าไปที่บ้านขนำในสวนยาง อย่างแนบเนียน และวางกำลังเจ้าหน้าที่ไว้รอบนอกอีกชุดเพื่อคอยดักจับหากวิ่งหลบหนี

และพบ นายไพบูลย์ กัตตะเวที อายุ 51 ปี หรือชาย ซึ่งเป็นนักค้ายายืนอยู่หน้าขนำโดยที่ไม่ได้สงสัยหรือเอะใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นชาวบ้านที่มักจะมาหาไข่มดแดงช่วงหน้าแล้งตามปกติอยู่แล้ว

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับได้อย่างง่ายดายเนื่องจากอยู่ในอาการเมายาด้วย และค้นในตัวพบยาบ้า 115 เม็ด ไอซ์3.80 กรัม เหน็บอยู่บริเวณขอบกางเกง ตัวดูดยาบ้า1อัน ไฟแชค1อัน และบ้องกัญชาที่วางอยู่ในขนำ

จากการสอบสวนนายไพบูลย์ รับว่าเพิ่งเสพยาบ้าและกัญชามา โดยซื้อมาจากนายตรี ไม่ทราบชื่อจริง อาศัยอยู่ที่บ้าน ควนดินแดง ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ เพื่อมาเสพเองและแบ่งขายให้เพื่อนที่จะมารวมตัวกันที่ขนำแห่งนี้

ล่าสุดซื้อยาบ้ามาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม จำนวน 100 เม็ด ราคา 1,500 บาท และแบ่งขาย 3 เม็ด 100 บาท ส่วนไอซ์ซื้อมาครั้งละ 5 กรัม ราคา 1,500 บาท และนำมาแบ่งขาย 100-200 บาท

เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจค้นที่บ้านพักของ นายตรี แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวหลบหนีไปได้

นอกจากนี้ผลตรวจปัสสาวะของ นายไพบูลย์ พบมีสารเสพติดกัญชาด้วย

จึงแจ้งดำเนินคดี2ข้อหา คือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า,ไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชา)โดยผิดกฎหมาย

ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com