google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

ดร.ชินชัย แก้วเรือน” ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ลำพูน เขต 2 เบอร์ 7 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษย์”

…วันที่ 2/4/66 เวลา 14.36 น.
“ดร.ชินชัย แก้วเรือน”
ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ลำพูน เขต 2 เบอร์ 7
เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษย์”

ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน โดยมี พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน, และ พ.ต.ต.อานนท์ ผงปง สวส.สภ.เมืองลำพูน เป็นผู้รับดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ซึ่งมีผู้สื่อข่าวหลายสำนักเป็นสักขีพยาน
…ขอความเป็นธรรมความยุติธรรม จงสถิตอยู่ ณ บนโลกใบนี้ตลอดไป!!

ข้อความ การแจ้งความดำเนินคดี “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์”…
ข้าพเจ้า “ดร.ชินชัย แก้วเรือน” เป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ลำพูน เขต 2 หมายเลข 7
ข้าพเจ้าเริ่มเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 และได้สมัครลง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.ลำพูน เขต 2 ได้หมายเลข 7 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566
ในการสมัครเป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทยของข้าพเจ้า จะมีไลน์กลุ่มเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะมีเรื่องปรึกษาหารือภายในกลุ่มฯ เท่านั้น
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ข้าพเจ้าได้เขียนข้อความโพสต์ลงในกลุ่มเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ได้บรรยายถึงความน้อยใจซึ่งมีข้อความว่า ทาง ฯพณฯ ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ที่ดูแล ส.ส.ในกลุ่มฯ ได้จัดงบฯ ให้น้อยไม่เพียงพอต่อการหาเสียง และหยอกเย้าท่านว่าเห็นสมควรเพิ่ม 3-5 ล้าน และมิเช่นนั้นจะยุติและปลดป้ายหาเสียง อันเป็นข้อความที่ยั่วเย้าท่าน สะท้อนปัญหาให้ท่านเห็นว่าการลงพื้นที่นั้นเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน และทาง ฯพณฯ ก็มิได้ว่ากระไร เพียงแต่ให้กำลังใจให้ทุกคนสู้ต่อไป ภายใต้ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิน 1.9 ล้าน ตามที่ กกต.กำหนด
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ข้าพเจ้าได้เห็นรายการทีวีในช่องยูทูป โดยมี “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” ได้นำข้อความดังกล่าวของข้าพเจ้า ที่ได้โพสต์ลงในกลุ่มเฉพาะผู้สมัครฯ ไปโพสต์ออกสื่อสาธารณะในช่องยูทูปและอีกหลายช่องสื่อ ในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้าพเจ้าอย่างร้ายแรง คือ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ข้อความของข้าพเจ้า เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และกล่าวหาข้าพเจ้าว่า ได้เรียกร้องเงินจากพรรคฯ เพื่อนำมาซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำให้ข้าพเจ้าถูกเพื่อนฝูง, ทีมงานผู้หาเสียง, ญาติพี่น้อง, แฟนเพลง, แฟนคลับ,

และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่เลือกตั้ง 5 อำเภอ 28 ตำบล 311 หมู่บ้าน ต่างดูหมิ่นเหยียดหยามข้าพเจ้าว่าเป็นคนเห็นแก่เงิน ต่อบุคคลเหล่านั้น อันเป็นบุคคลที่ 3
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ข้าพเจ้าไม่มีความคิดหรือมีพฤติกรรมอย่างที่ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” กล่าวหาหรือวิพากษ์วิจารณ์ออกสื่อสาธารณะ อันเป็นการหมิ่นประมาทแก่ข้าพเจ้าด้วยการโฆษณาอย่างร้ายแรง ทำให้ข้าพเจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง เสียหายแก่เกียรติยศและศักดิ์ศรี เพราะข้าพเจ้าเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนรู้จักและเคารพนับถือหลากหลายระดับชั้น
ข้าพเจ้าจบระดับปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา (Ph.D.) จาก มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่, เป็นข้าราชการบำนาญ เป็นครูอาจารย์ที่มีลูกศิษย์มากมาย เป็นอดีตผู้บริหารท้องถิ่นในตำแหน่งนายก อบต.ศรีวิชัย อ.ลี้ ลำพูน, เป็นวิทยากรนักปกครองกระทรวงมหาดไทย, เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการพิจารณาลงโทษทางวินัยข้าราชการและพนักงานเทศบาล จ.ลำพูน, เป็นอดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.ลำพูน, และเป็นศิลปินล้านนาในนาม “หนุ่มล้านนา” ผู้ร้อง, ผู้แต่งเพลง “แอ่วปอยหลวงบ้านวังสะแกง” ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศ อันเป็นที่นิยมของแฟนเพลงมากมาย
และที่สำคัญการกระทำของ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” ได้กระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้งของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อ “พรรคภูมิใจไทย” ด้วย
ข้าพเจ้า จึงแจ้งความดำเนินคดี “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” จนคดีถึงที่สุด โดยยึดหลักกฎหมาย
1. ตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้งผู้แทนราษฎร มาตรา 73
2. ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326 และมาตรา 328
ผลจากความเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” ที่วิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อโฆษณาดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงแจ้งความดำเนินคดีกับ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” เพื่อเรียกร้องเกียรติยศ ชื่อเสียง และคะแนนเสียงของข้าพเจ้ากลับคืนมาโดยพลัน ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้านั้น ถือเป็นการประจาน เป็นการโพนทนา เป็นเจตนาของ “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ขจรขจายไปทั่วประเทศ ทั่วโลก ข้าพเจ้าจึงเรียกร้องค่าเสียหายจาก “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) และขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด
“ดร.ชินชัย แก้วเรือน”
2 พฤษภาคม 2566
สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน
โทร.061-646-5553

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com