ทีมชาติไทย พ่าย ทีมชาติอิรัก ๐-๑ ในศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ ๕๑ รอบชิงชนะเลิศ

เผยแพร่เมื่อ ๐๘/๐๙/๒๐๒๕ ๐๒:๐๑

ทีมชาติไทย พ่าย ทีมชาติอิรัก ๐-๑ ในศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ ๕๑ รอบชิงชนะเลิศ

ทีมชาติไทย พ่าย ทีมชาติอิรัก ๐-๑ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ ๕๑ รอบชิงชนะเลิศ

วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๒๐.๐๐ น. ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ ๕๑ รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย อันดับ ๑๐๒ ของโลก ลงสนามพบกับ อิรัก ทีมอันดับ ๕๘ ของโลก

โดยรอบรองชนะเลิศ ไทย เอาชนะ ฟิจิ ๓-๐ ส่วน อิรัก เฉือนชนะ ฮ่องกง ๒-๑ เกมนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ส่ง เบนจามิน เดวิส, ปรเมศย์ อาจวิไล, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย สามนักเตะที่ทำประตูได้ในเกมที่แล้วลงสนามต่อเนื่อง ประสานงานกับ สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ยืนเป็นหน้าเป้า

เริ่มเกมนาทีที่ ๒๖ ไทย มีโอกาสลุ้นยิงประตูขึ้นนำ สุภโชค สารชาติ จ่ายบอลทะลุช่องมาให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดายหลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามครองบอลเพื่อหาโอกาสเข้าทำประตู แต่ยังไม่มีทีมใดสามารถทำสกอร์แรกของเกมนี้ได้ ทำให้จบครึ่งแรก ไทย ยังคงเสมอกับ อิรัก ๐-๐

ครึ่งหลัง ไทย เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงสนามมาแทน ปรเมศย์ อาจวิไล ถัดมานาทีที่ ๕๔ ไทย มีจังหวะได้ลุ้นยิงประตูขึ้นนำ จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เบนจามิน เดวิส ได้ยิงด้วยขวาบอลพุ่งไปตรงตัวผู้รักษาประตูรับเอาไว้ได้ นาที ๗๕ อิรัก มาได้ประตูขึ้นนำ ๑-๐ อิบราฮิม บาเยช เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษมาถึง โมฮานัด อาลี ขึ้นโหม่งบอลเข้าประตูไป จากนั้นนาทีที่ ๗๖ อิรัก มาเหลือผู้เล่น ๑๐ คน จากจังหวะที่ ฟรานส์ ปูโตรส ไปทำฟาวล์ สุภโชค สารชาติ ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม จากนั้นในนาที ๙๐+๕ อิรักเหลือผู้เล่นสิบคน หลัง โมฮานัด อาลี ไปเข้าสกัดใส่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แบบไม่มีน้ำใจนักกีฬา ทำให้อิรัก เหลือผู้เล่นแค่ ๙ คน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ทีมชาติไทย พ่าย อิรัก ๐-๑ จบด้วยการเป็นรองแชมป์คิงส์ คัพ ครั้งที่ ๕๑ พร้อมได้รับเงินรางวัล ๑ ล้านบาท ขณะที่ อิรัก คว้าแชมป์คิงส์คัพได้เป็นสมัยที่สอง หลังเคยได้เมื่อปี ๒๐๒๓ พร้อมรับเงินรางวัล ๒ ล้านบาท