 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ตามนโยบายของนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมศุลกากร  พร้อมด้วยนางกิจจาลักษณ์   ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ให้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ตามนโยบายของนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมศุลกากร  พร้อมด้วยนางกิจจาลักษณ์   ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ให้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง 
 จึงได้สั่งการให้นายสุรัตน์ เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.๒  นายสมพล ไทยจงรักษ์  หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ. ศภ.๒ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ชุดปราบปรามเฉพาะกิจ ศภ.๒ ร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.๒ สปป.๑ กสป.ร่วมกันตรวจค้นรถบรรทุก ๑๐ ล้อ ยี่ห้อ HINO ทะเบียน สุโขทัย บริเวณ ถ. อรุณประเสริฐ ต. ในเมือง อ. เมือง จ. ยโสธร เนื่องจากได้รับเบาะแสว่ามีสินค้าที่ไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง
จึงได้สั่งการให้นายสุรัตน์ เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.๒  นายสมพล ไทยจงรักษ์  หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ. ศภ.๒ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ชุดปราบปรามเฉพาะกิจ ศภ.๒ ร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.๒ สปป.๑ กสป.ร่วมกันตรวจค้นรถบรรทุก ๑๐ ล้อ ยี่ห้อ HINO ทะเบียน สุโขทัย บริเวณ ถ. อรุณประเสริฐ ต. ในเมือง อ. เมือง จ. ยโสธร เนื่องจากได้รับเบาะแสว่ามีสินค้าที่ไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง 
 
 ผลการตรวจค้น พบมะม่วง เมืองกำเนิดต่างประเทศ 
จำนวน ๓๕๐  ตะกร้า น้ำหนักรวม ๘,๔๐๐ กิโลกรัม มูลค่ากว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท
     กรณีเป็นความผิดตามมาตรา ๒๔๒, ๒๔๖ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นของที่พึงต้องริบตามมาตรา ๑๖๖ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๖๗  แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ ยึดของกลางดังกล่าว ส่งด่านศุลกากรช่องเม็ก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
     ผลการตรวจค้น พบมะม่วง เมืองกำเนิดต่างประเทศ 
จำนวน ๓๕๐  ตะกร้า น้ำหนักรวม ๘,๔๐๐ กิโลกรัม มูลค่ากว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท
     กรณีเป็นความผิดตามมาตรา ๒๔๒, ๒๔๖ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นของที่พึงต้องริบตามมาตรา ๑๖๖ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๖๗  แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ ยึดของกลางดังกล่าว ส่งด่านศุลกากรช่องเม็ก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
 
✍️ ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงาน รายงาน