กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ร่วมกิจกรรมวันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) เทศบาลนครเชียงราย ประจำปี พ.ศ. 2566

กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ร่วมกิจกรรมวันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) เทศบาลนครเชียงราย ประจำปี พ.ศ. 2566

กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ร่วมกิจกรรมวันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) เทศบาลนครเชียงราย ประจำปี พ.ศ. 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงราย (GMS) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

เมื่อ 19 มี.ค. 66 เวลา 09.00 น. พ.อ.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.ร.(ท.) มอบหมายให้ พ.ท.สมเดช ช่างนาค หน.กลุ่มงานกิจการมวลชน กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. เป็นวิทยากรบรรยาย “ความสามัคคีปรองดอง และปลูกจิตสำนึกปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์” เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเนื่องใน “วัน อปพร.” ประจำปี 2566

โดยมีนาย วันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย เป็นประธาน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงราย (GMS) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

มทบ.37 จัดกำลังพล เข้าพบปะประชาชนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับครอบครัว ณ ม.7 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จว.ช.ร.

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 66 เวลา 13.00 น. พล.ต. ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.มทบ.37 มอบหมายให้ ชป.ประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง เข้าพบปะครอบครัวของ นางเย็น ยาวิชัยป้อง อายุ 79 ปี ประชาชนบ้านไร่ ม.7 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จว.ช.ร. ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับครอบครัว เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพบกกับประชาชนในพื้นที่

สัตหีบชาวบ้านผวา ชายเมากาวอาละวาดจะพังประตูเข้าบ้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค.66 ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งมีชายถือกระป๋องกาว พยายามเข้าบ้านเรือนประชาชน บริเวณใกล้เคียงหนองตะเคียน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชายคนดังกล่าวนอนคากระป๋องกาวอยู่บริเวณหน้าประตูบ้านเรือนประชาชน เจ้าหน้าที่ทำการปลุกและได้นำตัวไปยัง สภ.สัตหีบ เพื่อทำประวัติก่อนพิจารณาจะดำเนินคดีหรือส่งดำเนินการรักษาต่อไป


จากการสอบถามเจ้าของบ้าน เล่าว่าชายคนดังกล่าวตนไม่รู้จักมาก่อน ชอบมาเดินดมกาวอยู่ใกล้งเคียงหน้าบ้านและได้เดินเข้ามาพยายาม จะเข้าบ้านแต่ดีที่ล๊อคประตู ไว้จึงเข้าไม่ได้และโวยวายตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

ผอ.สจป.3 แพร่ “สั่งลุย” สงัดขบวนการลักลอบขนไม้เถื่อน ที่เย้ยกฎหมาย แรงจูงใจด้วยคาตอบแทนที่สูง

เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 18 มีนาคม 2566 บริเวณถนนเลียบคลองน้ำ พื้นที่บ้านวังเย็นหมู่ที่ 1 ตำบลห้วยม้า อำเภอเมืองแพร่จังหวัดแพร่ นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 สาขาแพร่ สั่งการให้นายชาตรี สัทธรรมนุวงค์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันฯ โดยชุด ปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.3 สาขาแพร่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ตชด. 323 กก.ตชด.32 (พะเยา) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่พร 5 (ห้วยแก็ต) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยม้า,เจ้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 9 (ช่อแฮ) ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 6 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.14 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าความเสียหายของรัฐ จำนวนเงิน 342,000 บาท (สามแสนสี่หมื่นนองพันบาทถ้วน)

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายรายงานข่าวว่าคืนนี้จะมีการลักลอบขนไม้ผิดกฎหมายโดยใช้รถยนต์กระบะตอนเดียว Toyota Revo สีบรอนซ์เงินติดคอกเหล็ก หมายเลขทะเบียนบพ 5881 แพร่ และรถกระบะตอนเดียว Toyota สีบรอนซ์เงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยขนย้ายไม้จากบ้านบ่อหอย ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นถนนพื้นที่เชื่อมต่อจากจังหวัดน่านมาจังหวัดแพร่ ขนย้ายผ่านหมู่บ้านห้วยโรงใน ตำบลห้วยโรงอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เพื่อขนย้ายนำไปส่งยังเขตพื้นที่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่


ทางเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลัง ออกตรวจสอบถนนสาย 101 ของคืนวันที่ 18 มีนาคม 2566 3 วันเวลาดังกล่าวลดทั้ง 2 คันได้วิ่งผ่านสามแยกบ้านห้วยโลงใน โดยรถทั้ง 2 คันมีผ้าใบปิดคลุมท้ายกระบะอย่างมิดชิด เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด และได้ติดตามรถทั้ง 2 คันมาอย่างกระชั้นชิดพอถึงพอถึงบริเวณแยกร่องฟอง เจ้าหน้าที่จริงส่งสัญญาณเพื่อให้รถหยุด รถคันแรกเป็นรถกระบะ Toyota สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนบย5881 แพร่ได้หยุดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่คันที่ 2 เป็นรถกระบะตอนเดียวยี่ห้อ Toyota สีบรอนซ์เงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านท้ายกระบะมีผ้าใบสีดำคลุมอย่างมิดชิด โดยทำการเบี่ยงซ้ายเลี้ยวไปทางบ้านร่องฟอง แล้วเลี้ยวขวาออกปั๊ม PT ร่องฟองมุ่งหน้ากลับขึ้นทางหลวง 101 มุ่งเข้าพื้นที่อำเภอสูงเม่น เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิดจนถึงบริเวณสามแยกบ้านฝ้าย อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ รถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีเข้าไปทางตัวจังหวัดแพร่ขับบนเวียนกลับเข้ามาอยู่หลายรอบและขับกลับคืนมุ่งหน้าไปทางอำเภอร้องกวางจนถึงพื้นที่บ้านแม่หลาย อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่รถคันดังกล่าวได้เลี้ยวขวาเข้าไปยังบ้านแม่หล่ายบริเวณ ตลาดสดแม่หล่ายผ่านวัดแม่หล่ายมุ่งหน้าไปทางตำบลห้วยม้า เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างกระชั้นชิดแต่รถดังกล่าวได้ทำการปิดไฟปิดไฟรถขณะขับขี่และอาศัยความมืดหลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่ได้ทำการขับรถตามรถบรรทุกดังกล่าวจนพบร่องรอยล้อรถขับเลี้ยวเข้าบริเวณถนนเลียบคลองน้ำบ้านหมู่ 1 ตำบลห้วยม้า อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่ จึงติดตามพบไม้กองอยู่บริเวณข้างทางมีร่องรอยการชักรากไม้ลงจากรถแต่ไม่พบรถต้องสงสัยดังกล่าว

 

เจ้าหน้าที่ ฯเชื่อว่า คนขับรถบรรทุกไม้ดังกล่าว กลัวความผิดจึงทำการชักลากไม้ลงจากรถทิ้งไม้ไว้บริเวณดังกล่าวหลบหนีความผิด ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนสภ.ห้วยม้า เข้าทำการตรวจสอบและนับจำนวนวัดขนาด คำนวณปริมาตรและตรวจยึดไม้ชิงชัน จำนวน 6 แผ่น/เหลี่ยมปริมาตร 1.14 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าความเสียหายของรัฐ จำนวนเงิน 342,000 บาท (สามแสนสี่หมื่นสองพันบาทถ้วน)

เมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงร่องฟอง บ้านร่องฟอง ตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ทางเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อย ตชด. 323 กก.ตชด 32 (พะเยา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ อำนวยการโดย นายสงคราม ขาวสะอาด ผอ.สจป.3 สาขาแพร่ ,นายชาตรี สัทธรรมนุวงค์ ผอ.ส่วนป้องกันฯ เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาป่าที่ พร. 8 (ห้วยขมิ้น) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ,เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองแพร่ ได้ทำการจับกุม นายประสาน แสนซุ้ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 6 ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พร้อมด้วยตรวจยึดของกลางไม้กับยาเลย(ไม้ประดู่) จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 1.14 ลูกบาศก์เมตร คิดค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงิน 39,900 บาท รถกระบะยี่ห้อ Toyota สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 5881 แพร่ ผ้าใบสีฟ้าขาว จำนวน 1 ผืน

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ 2484 มาตรา 96 ฐานร่วมกันมีไม้กระยาเลยหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 70 ผู้ได้ผู้ใดรับไว้ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใดซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ หรือของป่าที่ผู้ใดได้มาโดยกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น พร้อมได้แจ้งให้นายประสาน แสนซุ้ง ทราบว่า เขาต้องถูกจับตามข้อกล่าวหาข้างต้น

นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 สาขาแพร่ กล่าวว่า เนื่องจากว่าพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน จึงมีขบวนการขนไม้เถื่อนใช้เส้นทางผ่านเส้นทางบ้านห้วยโรงใน ตำบลห้วยโรง อำเภอร้องกวา งจังหวัดแพร่ เบื้องต้นทราบว่า ขบวนการไม้ มีการขนจากจังหวัดน่านในพื้นที่บ้ายาบหัวนา ฯ มาปลายทางที่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่และได้ถูกเจ้าหน้าที่ฯดำเนินการติดตมไล่ล่าจับกุมตรวจยึดไว้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผอ.สจป.3 สาขาแพร่ กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ฯ ให้เข้มงวดกวดขันกับขบวนการไม้เถื่อนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากว่าตลาดที่รองรับไปยังต่างประเทศมีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นแรงจูงใจให้กับขบวนการขนไม้เถื่อน ที่จะกล้าเสี่ยง ที่จะร่วมขบวนการขนไม้เถื่อนในทุกครั้ง

ญาณัจฉรา โชติถนอมกิจ
ราเชนทร์ โชติถนอมกิจ

แพร่…..รายงาน

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป ให้อำเภอ ตำรวจ และหน่วยงานกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ “ดำเนินคดี” ทุกแปลงที่ถูกไฟไหม้

วันที่ 27 ก.พ.66 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ย้ำต่อที่ประชุมนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการทุกหน่วยในที่ประชุมกรรมการจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ให้ชี้แจงเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำกินในเขตป่าทุกประเภท และพื้นที่ สปก.ให้เร่งทำแนวกันไฟ รอบที่ของตัวเองโดยเร็วที่สุด

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 เป็นต้นไปจังหวัดแพร่มีนโยบายดำเนินคดี กับเจ้าของที่ดินที่ถูกไฟไหม้ทุกแปลง โดยให้นายอำเภอและหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบยืนยันสาเหตุและแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้รับรายงาน ตลอดว่าไม่ทราบสาเหตุและเกิดจากไฟป่าลามเข้ามาในพื้นที่ ทำให้จุดความร้อน Hotspot และค่า PM 2.5 ในจังหวัดแพร่ เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตอบสังคมได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำแนวกันไฟล่วงหน้า ถ้าเกิดไฟไหม้ในที่ดินทำกินทั้งเขตป่าและนอกเขตป่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ 1 มี.ค 66 เป็นต้นไป.

รายงานจุดความร้อน (Hotspot) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ( รอบที่ 1 ) ช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. พบจุดความร้อน จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จำนวน 56 จุด รอบที่ 2 ช่วงเวลา 10.00 – 14.00 น. พบจุดความร้อน จำนวน 95 จุด รวมจุดความร้อนที่พบใจจังหวัดแพร่วันนี้ 151 จุด.

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป ให้อำเภอ ตำรวจ และหน่วยงานกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ “ดำเนินคดี” ทุกแปลงที่ถูกไฟไหม้

วันที่ 27 ก.พ.66 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ย้ำต่อที่ประชุมนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการทุกหน่วยในที่ประชุมกรรมการจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ให้ชี้แจงเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำกินในเขตป่าทุกประเภท และพื้นที่ สปก.ให้เร่งทำแนวกันไฟ รอบที่ของตัวเองโดยเร็วที่สุด

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 เป็นต้นไปจังหวัดแพร่มีนโยบายดำเนินคดี กับเจ้าของที่ดินที่ถูกไฟไหม้ทุกแปลง โดยให้นายอำเภอและหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบยืนยันสาเหตุและแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้รับรายงาน ตลอดว่าไม่ทราบสาเหตุและเกิดจากไฟป่าลามเข้ามาในพื้นที่ ทำให้จุดความร้อน Hotspot และค่า PM 2.5 ในจังหวัดแพร่ เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตอบสังคมได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำแนวกันไฟล่วงหน้า ถ้าเกิดไฟไหม้ในที่ดินทำกินทั้งเขตป่าและนอกเขตป่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ 1 มี.ค 66 เป็นต้นไป.

รายงานจุดความร้อน (Hotspot) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ( รอบที่ 1 ) ช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. พบจุดความร้อน จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จำนวน 56 จุด รอบที่ 2 ช่วงเวลา 10.00 – 14.00 น. พบจุดความร้อน จำนวน 95 จุด รวมจุดความร้อนที่พบใจจังหวัดแพร่วันนี้ 151 จุด.

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป ให้อำเภอ ตำรวจ และหน่วยงานกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ “ดำเนินคดี” ทุกแปลงที่ถูกไฟไหม้

วันที่ 27 ก.พ.66 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ย้ำต่อที่ประชุมนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการทุกหน่วยในที่ประชุมกรรมการจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ให้ชี้แจงเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำกินในเขตป่าทุกประเภท และพื้นที่ สปก.ให้เร่งทำแนวกันไฟ รอบที่ของตัวเองโดยเร็วที่สุด

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 เป็นต้นไปจังหวัดแพร่มีนโยบายดำเนินคดี กับเจ้าของที่ดินที่ถูกไฟไหม้ทุกแปลง โดยให้นายอำเภอและหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบยืนยันสาเหตุและแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้รับรายงาน ตลอดว่าไม่ทราบสาเหตุและเกิดจากไฟป่าลามเข้ามาในพื้นที่ ทำให้จุดความร้อน Hotspot และค่า PM 2.5 ในจังหวัดแพร่ เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตอบสังคมได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำแนวกันไฟล่วงหน้า ถ้าเกิดไฟไหม้ในที่ดินทำกินทั้งเขตป่าและนอกเขตป่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ 1 มี.ค 66 เป็นต้นไป.

รายงานจุดความร้อน (Hotspot) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ( รอบที่ 1 ) ช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. พบจุดความร้อน จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จำนวน 56 จุด รอบที่ 2 ช่วงเวลา 10.00 – 14.00 น. พบจุดความร้อน จำนวน 95 จุด รวมจุดความร้อนที่พบใจจังหวัดแพร่วันนี้ 151 จุด.

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป

ผู้ว่าฯ แพร่ กำชับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ แจ้งเกษตรกรที่มีที่ทำกินในเขตป่าสงวน และ สปก.เร่งทำแนวกันไฟ เริ่ม 1 มี.ค.66 เป็นต้นไป ให้อำเภอ ตำรวจ และหน่วยงานกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ “ดำเนินคดี” ทุกแปลงที่ถูกไฟไหม้

วันที่ 27 ก.พ.66 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ย้ำต่อที่ประชุมนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการทุกหน่วยในที่ประชุมกรรมการจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ให้ชี้แจงเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำกินในเขตป่าทุกประเภท และพื้นที่ สปก.ให้เร่งทำแนวกันไฟ รอบที่ของตัวเองโดยเร็วที่สุด

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 เป็นต้นไปจังหวัดแพร่มีนโยบายดำเนินคดี กับเจ้าของที่ดินที่ถูกไฟไหม้ทุกแปลง โดยให้นายอำเภอและหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบยืนยันสาเหตุและแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้รับรายงาน ตลอดว่าไม่ทราบสาเหตุและเกิดจากไฟป่าลามเข้ามาในพื้นที่ ทำให้จุดความร้อน Hotspot และค่า PM 2.5 ในจังหวัดแพร่ เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตอบสังคมได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำแนวกันไฟล่วงหน้า ถ้าเกิดไฟไหม้ในที่ดินทำกินทั้งเขตป่าและนอกเขตป่าก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะเริ่มเข้มงวดตั้งแต่ 1 มี.ค 66 เป็นต้นไป.

รายงานจุดความร้อน (Hotspot) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ( รอบที่ 1 ) ช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. พบจุดความร้อน จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จำนวน 56 จุด รอบที่ 2 ช่วงเวลา 10.00 – 14.00 น. พบจุดความร้อน จำนวน 95 จุด รวมจุดความร้อนที่พบใจจังหวัดแพร่วันนี้ 151 จุด.

ฮ. ทบ. และ ปภ. ขึ้นทิ้งน้ำดับไฟป่า ฮอด และ จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังไหม้นานถึง 4 วัน

ฮ. ทบ. และ ปภ. ขึ้นทิ้งน้ำดับไฟป่า ฮอด และ จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังไหม้นานถึง 4 วัน

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก จำนวน 1 ลำ ปฏิบัติการขึ้นบินสำรวจพื้นที่การเผาไหม้และเข้าปฏิบัติการตักน้ำเพื่อเข้าไปโปรยน้ำช่วยดับไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.ฮอด และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเกิดไฟไหม้ป่ามาแล้วนานถึง 4 วัน และยังไม่สามารถควบคุม โดยได้ทิ้งน้ำดับไฟไป จำนวน 13 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 39,000 ลิตร สร้างเป็นแนวกันไฟไม่ให้ไฟลุกลามขยายเป็นวงกว้าง

อีกทั้งทางกองทัพภาคที่ 3
ได้จัดส่งกำลังพลชุดลาดตระเวน
เข้าพื้นที่ ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบการเกิดจุดความร้อนและไฟป่าบ่อยที่สุดเพื่อเป็นการป้องปรามการลักลอบเผาในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าเพื่อเฝ้าระวังการเกิดไฟซ้ำพร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายที่เข้มมากยิ่งขึ้น.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ฮ. ทบ. และ ปภ. ขึ้นทิ้งน้ำดับไฟป่า ฮอด และ จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังไหม้นานถึง 4 วัน

ฮ. ทบ. และ ปภ. ขึ้นทิ้งน้ำดับไฟป่า ฮอด และ จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังไหม้นานถึง 4 วัน

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก จำนวน 1 ลำ ปฏิบัติการขึ้นบินสำรวจพื้นที่การเผาไหม้และเข้าปฏิบัติการตักน้ำเพื่อเข้าไปโปรยน้ำช่วยดับไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.ฮอด และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเกิดไฟไหม้ป่ามาแล้วนานถึง 4 วัน และยังไม่สามารถควบคุม โดยได้ทิ้งน้ำดับไฟไป จำนวน 13 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 39,000 ลิตร สร้างเป็นแนวกันไฟไม่ให้ไฟลุกลามขยายเป็นวงกว้าง

อีกทั้งทางกองทัพภาคที่ 3
ได้จัดส่งกำลังพลชุดลาดตระเวน
เข้าพื้นที่ ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบการเกิดจุดความร้อนและไฟป่าบ่อยที่สุดเพื่อเป็นการป้องปรามการลักลอบเผาในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าเพื่อเฝ้าระวังการเกิดไฟซ้ำพร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายที่เข้มมากยิ่งขึ้น.

ทรงวุฒิ ทับทอง