หมวดหมู่: ข่าวอุบัติเหตุ

31 มกราคม 2565 ยิงน้องชายเสียชีวิต และยิงน้องสาวบาดเจ็บสาหัสด้วยเรื่องสมบัติของพ่อแม่ที่หาไว้ให้เป็นที่ดินปลูกลำไย น้องชายได้โอนเป็นชื่อตนเอง เหตุเกิดที่บ้านเเม่งอนกลาง เลขที่ 124 ม.2 ต.แม่งอนฯ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ,หลังจากเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลแม่งอน พร้อมของกลาง รายละเอียดดังนี้ ผู้ก่อเหตุ นายไชยนวีร์ เจษฎาพันธุ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่55 ม.14 ต.แม่งอนฯ เป็นพี่ชายผู้เสียชีวิตน้องชายผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต นายอนันต์ เจษฎาพันธ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 121/155 ม.3 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงรายฯถูกยิงบริเวณหน้าอกด้านซ้าย จำนวน 2 นัด ผู้บาดเจ็บ นางอรพิน บุญค้ำ อายุ 60 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.แม่งอนฯ ถูกยิงบริเวณท้อง จำนวน 2 นัด ของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก

รายละเอียดเบื้องต้น นายอนันต์ฯ(ผู้ตาย) ซึ่งเป็นน้องชายของนายไชยนวีร์ฯ(ผู้ก่อเหตุ)ได้กลับมาหานางอรพิน(พี่สาว)ที่บ้าน ในเทศกาลตรุษจีน เมื่อวันที่ 30 ม.ค.65 ต่อมา วันนี้(31 ม.ค.65) เวลาประมาณ 09.30 น. นายไชยนวีร์ฯได้เข้าไปหานายอนันต์ฯ ที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามถึงที่ดินมรดกสวนลำไย บ้านหนองขวาง เนื้อที่ 25 ไร่ที่นายอนันต์ได้โอนเป็นชื่อของตนเองทั้งหมด จากนั้นทั้งสองคนได้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน นายไชยนวีร์ฯจึงได้ไปหยิบปืนลูกซองสั้น ที่ตนได้ซ่อนไว้ใต้บันได ที่บ้านหลังเกิดเหตุ และได้ยิงเข้าไปที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายนายอนันต์ จำนวน 2 นัดจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นได้ขึ้นไปบนห้องนอนของนางอรพินและได้ยิงเข้าบริเวณท้องของนางอรพิน(บาดเจ็บ) จำนวน2 นัด หลังจากนายไชยนวีร์ฯก่อเหตุเสร็จ ได้เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลแม่งอน พร้อมด้วยของกลาง คือปืนลูกซองสั่นไทยประดิษฐ์ จำนวน กระบอก ทราบว่าสาเหตุ ทั้งสามคนเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่ลงรอยกันเนื่องจากเรื่องเกี่ยวกับที่ดินมรดกของพ่อแม่ นายไชยน์วีร์โกรธที่น้องชาย แอบโอนชื่อที่ดินเป็นของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรฝางสายตรวจแม่งอนได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว

พะเยา กระบะเสียหลักพุ่งตกข้างทางชนเสาไฟฟ้าบาดเจ็บ4ราย

วันที่30 มกราคม 2565 เวลา 22.47 น..พ.ต.ท.สรวิศฐ์ คิดดี สว.(สอบสวน)สภ.จุน รับแจ้งเหตุ รถกระบะ ชนเสาไฟฟ้าพุ่งตกข้างทางบริเวณถนนทางลงเนินเขาบ้านกิ่วแก้ว หมู่ที่11 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และมีทรัพสินของหลวงเสียหาย หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกู้ภัยกวนอู ข่าวสารกู้ภัย ไทยแลนค์ กู้ภัยนรสิงห์

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมาสด้า สีขาวทะเบียน บษ-8941 เชียงราย พุ่งลงข้างทางชนเสาหลักลายและเสาไฟฟ้ากิ่งข้างทาง ด้านหน้ารถพังกระจกแตกรถจอดขวางถนนทั้ง 2 เลน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นชาย และเป็นหญิง 3 ราย ราย เป็นเด็ก 1 ราย มีแผลฟกช้ำบริเวณศีรษะ และหางคิ้วซ้าย ทีมกู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลจุน

ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุคาดว่ารถเสียหลักขับมาเร็วทางลงเขาและเป็นทางโค้งทำให้เสียหลักแฉลบหลุดโค้งชนเสาหลักลายและเสาไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 29 ม.ค.65 ร.ต.อ. พงษ์นรินทร์ นนตานอก รองสารวัตรสอบสวนสภ.บางพลี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกทางเท้าคนขับจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดบนทางเท้าเลียบคลองบางโฉลง เข้าจากถนนเทพรัตน ประมาณ 500 เมตร หมู่ที่ 6 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ้งเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุข้างทางเท้าด้านล่างพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำหมายเลขทะเบียน 7กล6874 กทม พลัดตกลงไปในคลองรมทางเท้า โดยพบศพนาย คมสันต์ ปอกระโทก อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิตในสภาพคอหักและมีบาดแผลที่ศีรษะโดยมีดินโคลนเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงกู้ซากรถและนำศพขึ้นมาจากคลอง ด้วยความทุลักทุเล จากนั้นจึงนำร่างส่งไปชันสูจน์ที่นิติเวชรพ.รามาสมุทรปราการ

ขณะที่รุ่นพี่คนสนิทที่ดูแลผู้เสียชีวิตพอทราบข่าวและเดินทางมาที่เกิดเหตุถึงกับเป็นลมจนช็อกหมดสติไปอีกคนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าปฐมพยาบาลและเร่งนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน

สอบถามเพื่อนๆของผู้เสียชีวิตบอกว่าผู้เสียชีวิตมีอาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างและพักอยู่มาไกลจากที่เกิดเหตุก่อนจะมาพบว่าเกิดเหตุได้ขี่จักรบานยนต์คันดังกล่าวเพื่อจะไปเอาผักที่ย่านบางโฉลง และขับรถออกมาจากบ้านได้เพียง 15นาทีก็มาทราบข่าวประสบอุบัติเหตุ โดยทางเพื่อนๆไม่เชื่อว่าจะประสบอุบัติเหตุด้วยตนเองเพราะผู้ตายขับรถเส้นทางนี้เป็นประจำอาจจะถูกรถจักรยานยนต์ที่ขับสวนทางกันเกี่ยวจนพุ่งตกลงไปในคลอง ซึ่งวอนทางด้านเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและหาพยานหลักฐานเพื่อคลายความสงสัยให้กับทางครอบครัว
ขณะที่นายกอบต.บางโฉลงป้ายแดง หลังทราบข่าวเดินทางลงพื้นที่พร้อมระบุว่าที่เกดเหตุยอมรับว่าแสงสว่างไม่เพียงพอค่อนข้างอันตรายเตรียมผลักดันงบประมาณติดตั้งแสงสว่างเพิ่มเติมและติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคุม พร้อมทั้ง หามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำเนื่องจากวิถีชาวบ้านในพื้นที่มักใช้รถจักรยานยนต์เดินทางเข้าออกบ้านพักทางทางเท้าเช่นนี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำแผนที่ที่เกิดเหตุและจะเร่งหาพยานหลักฐานโดยเฉพาะกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 29 มกราคม 2565 ร.ต.อ.พงษ์นรินทร์ นนท์ตานอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มมีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนสุขาภิบาล 6 หรือซอยวัดหลวงพ่อโต มุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนาย PYAE PHYO HEIN อายุ 21 ปีชาวเมียนมาร์ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ข้างเสาไฟฟ้าบนฟุตบาท ห่างไปประมาณ 20 เมตรได้พบรถจักรยานยนต์ยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น R15 -150 CC สีแดง ทะเบียน 2 กธ 8146 นครราชสีมา ล้มคว่ำอยู่ริมถนน โดยในที่เกิดเหตุพบเพื่อนผู้ตายสัญชาติเดียวกันอีกกว่า 10 คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาด 150 ซีซี กันมาเป็นขบวนกว่า 10 คันได้มาจอดดูอยู่ในที่เกิดเหตุ

โดยนายโก้ อายุ 25 ปี เพื่อนผู้ตายได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ที่ทำงานกันอยู่แถวลาดกระบัง ได้นัดหมายขี่รถจักรยานยนต์ มาจากลาดกระบังมามิตติ้งกันที่ตลาดทิพย์นิมิตร และกำลังขี่รถจะกลับที่พักกันโดยขี่กันมาเป็นขบวนเรียงแถวกันมาเรื่อย ๆ ใช้ความเร็วประมาณ 40-50 โดยมีผู้ตายขี่มาด้านหน้าเป็นคันแรก ขณะขี่มาใกล้ถึงที่เกิดเหตุได้มีเด็กแว้นขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกไม่ทราบยี่ห้อไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนท่อดังแต่งซิ่ง ไม่ใส่หมวกรูปร่างผอม ที่ขี่แซงพวกตนมาทางด้านซ้ายก่อนที่ปาดหน้าหน้ารถผู้ตายออกทางด้านขวา ทำให้ผู้ตายเบรกกะทันหันก่อนเสียหลักล้มและลื่นไถลมาตามถนนร่างของผู้ตายเข้าไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าบนฟุตบาทส่วนรถจักรยานยนต์ลื่นไถลไปอีกทางหนึ่ง พักใหญ่ เด็กแว้น คนดังกล่าวได้วนรถกลับและขี่ผ่านที่เกดเหตุ ตนพยายามขี่ติดตามไปแต่ไม่ทันไม่รู้หายไปไหน จึงวนกลับมาดูเพื่อนที่เสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเด็กแว้นคนดังกล่าวน่าจะพักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดสามเส้นทางดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***

วันที่ 29 ม.ค 65 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ รองสว(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยาได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านที่บ้านทุ่งกาไชย ม.6 ต.คือเวียง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา หลังรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย รถดับเพลิงของอบต.คือเวียง-ดอกตำใต้ จำนวน3ตันไปช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟไหม้บ้านที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุพบว่าไฟได้ลุกไหม้บ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 75 หมู่ 6 บ้านทุ่งกาไชย ต.คือเวียงอ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของนางไสว ปัณนันตา ไฟได้ลุกไหม้จากชั้นบนซึ่งเป็นไม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำดับไฟ และควบคุมไม่ให้ไฟลามไปยังบ้านข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยชั้นบนซึ่งเป็นไม้เสียหายทั้งหมด ด้านล่างเสียหายบางส่วน รวมค่าเสัยหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่านางไสวได้จุดธูปไหว้เจ้าที่ทิ้งไว้บนบ้านและลงมาอยู่ด้านล่างและคาดว่าจะเป็นเหตุทำให้ไฟไหม้ดังกล่าวและตนเองก็หนีออกมาทันส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบอีกครั้ง

ชลบุรี หนุ่มวัย 36 ขับกระบะออกจากซอย 2 วัยรุ่น ขี่รถ จยย.พุ่งชนสาหัส 1 ดับ 1

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 28 ม.ค.65 พ.ต.ท.สมศักดิ์ ใจแล สว.(สอบสวน) สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนกับรถกระบะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนพานทอง-บ้านบึง บริเวณแยกวัดโป่งตามุก หมู่ที่ 1 ต.หนองหงส์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรมชลบุรี และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพานทอง ในที่เกิดเหตุพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บสองรายเป็นเด็กชาย ซึ่งรายแรกอาการบาดเจ็บอาการสาหัส ชื่อเด็กชายนิธิพัฒน์ อินทรชัย อายุ 13 ปี กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลพานทอง อีก 1 ราย นอนหมดสติอยู่กับพื้นถนน ซึ่งเป็นร่างของ เด็กชาย ทัศน์พร ดัชกุยาวัตร อายุ 15 ปี อาการสาหัสต้องรอทางกูชีพมารับตัว จนท.กู้ภัยฯ ได้พยายามปั้มชีพจรช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยมีพ่อนั่งร้องไห้และมองอยู่ด้วยความเป็นห่วง แต่เด็กชายทัศน์พร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอสีแดง ทะเบียน งลฉ 734 ชลบุรี ล้มอยู่ในสภาพด้านหน้าล้อบิดเบี้ยวหน้ารถพังยับเยิน ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะ ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 1 ฒธ 7101 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพด้านหน้า พังยับเยิน

จากการสอบถามนาย จีรศักดิ์ กอนคอน อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา คนขับรถยนต์กระบะเล่าว่าขณะขับรถออกจากซอยมุ่งหน้าไปทางหนองหงส์ มีรถ จยย.ขี่มาทางตรงจากฝั่งบ้านบึง มุ่งหน้าไปทางแยกมาบโป่ง ตนมองไม่เห็นจึงได้ขับรถออกมาและถูกรถ จยย.พุ่งชนเข้าด้านหน้าอย่างเต็มแรงดังกล่าว
ทางเจ้าที่ตำรวจ จะขอดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง แล้วจะนำตัวคนขับรถกระบะไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

นครราชสีมา – หนุ่มใหญ่ควบกระบะส่งหอมแดงโรคประจำตัวกำเริบเสียหลักรถพุ่งตกคลองน้ำเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือพบเสียชีวิต

วันที่ 28 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก้งสนามงนางได้รับแจ้งเหตุมีรถกรบะตกคลองน้ำที่บริเวณบ้านโมกมัน หมู่ 7 ต.สีสุก อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้าสีเทาดำ เลขทะเบียน ยฉ4087นครราชสีมา พลิกคว่ำและจมน้ำอยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ว่ายน้ำลงไปสำรวจและตัดถ่างช่วยเหลือคนบาดเจ็บทราบชื่อคือนายประยงค์ นวลศรี อายุ53ปี ติดอยู่ภายในรถ ต่อมาหลังจากการช่วยเหลือเสร็จพบว่าผู้ขับขี่เสียชีวิตภายในรถซึ่งไม่สามารถออกมาจากรถได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลแก้งสนามนางและรอแจ้งทางญาติในเวลาต่อมา

สอบถามนายอภิเดช นาอุดม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโมกมัน เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนในหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งปกติจะมีอาชีพคือขับรถกระบะส่งหอมแดงไปขาย แต่คาดว่าระหว่างที่กลับมาน่าจะกำลังกลับบ้านซึ่งจุดเกิดเหตุห่างจากบ้านของผู้ตายเพียง 1 กิโลเมตร ส่วนสาเหตุที่รถตกคลองตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่พอทราบมาว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ด้วย

ภาพ/ณัฏฐกลนนท์ ช่างเหล็ก ข่าว/อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา

วันที่ 27 มกราคม 2565 เวลา 23.10 น. ศูนย์สื่อสารสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งมีชายพยายามผูกคอภายในบ้านเช่าซอยเจริญสุข5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี จึงได้นำกำลังอาสาเดินทางเข้าตรวจสอบ เมื่อเดินทางมาถึงพบว่าทางญาติได้ใช้มีดตัดเชือกลงมานอนกับพื้นแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นชาย ทราบชื่อคือนายพงษ์เดช อินทนิล อายุ 26 ปี เมื่อจับชีพจรแล้วพบว่าไม่มีชีพจรแล้ว กู้ภัยจึงตัดสินใจปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตและประสานรถโรงพยาบาลพระเกล้าเข้าสนับสนุน เจ้าหน้าที่ปั้มหัวใจอยู่ประมาณ 15 นาที พบว่าเริ่มมีชีพจรขึ้น จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าเพื่อให้แพทย์ดูอาการต่อไป

จากการสอบถามนางแดง ไม่หวั่น อายุ 73 ปี ยายได้เล่าว่าตนเองอยู่กับหลานชาย 2 คน ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงหลานชายคุยโทรศัพท์เหมือนทะเลาะกันอยู่ในห้อง จนเวลาไม่นานก็เงียบเสียงไป ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร และได้นอนนอกห้องจนน้าชายของนายพงษ์เดชมายืนเรียกหน้าบ้าน ในช่วงแรกไม่ได้เปิดประตตูเพราะคิดว่าเรียกบ้านข้างๆ จนเวลาผ่านไปจึงได้เปิดประตูถึงทราบว่าน้านายพงษ์เดชได้มาบอกว่าแฟนของนายพงษ์เดช โทรมาบอกว่าหลานผูกคอในห้อง จึงรีบวิ่งเข้ามาดู และพบหลานใช้เชือกผูกคอแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปในครัวหยิบมีดมาตัดเชือกและรีบแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือ

ภาพ/ข่าวดนุชเดช ทองเปรม จันทบุรี

โผล่ซ้ำอีกรถพุ่งชนหญิงสาวชาวเมียนมาร์คาทางม้าลายบนถนนกิ่งแก้วจนได้บาดเจ็บสาหัส

เจ้าหน้าที่กู้ชีพจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอต และเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยกันให้ความช่วยเหลือ นางสาว Win. Mar. Soe อายุ 33 ปี ชาวเมียนมาร์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์กระบะอีซุซุสีบรอน หมายเลขทะเบียน กฉ 449 นครนายก พุ่งชนอย่างจังขณะเธอกำลังจะข้ามทางม้าลาย บนถนนสายกิ่งแก้ว ช่วงปากซอยกิ่งแก้ว 52/1 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเวลา 23.30 น.วันที่ 26 ม.ค. 65 โดยพบว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่วให้ความช่วยเหลือและส่งตัวไปให้แพทย์ยื้อชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอต เป็นการด่วน
หลังเกิดเหตุทางด้าน ร.ต.อ. สัณหวัช แก้วดวงศรี รองสารวัตรสอบสวนสภ.บางแก้ว เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุบนทางม้าลายพบข้าวของของผู้บาดเจ็บตกกระจายเกลื่อนพื้น โดยมีรถยนต์กระบะคู่กรณีซึ่งมีร่องรอยการชนที่หน้ารถด้านขวา และมีนาย มนตรี พูลศิลป์ อายุ 33 ปี เป็นคนขับยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่
นายมนตรี เล่าว่าตนเองขับรถมาจากฝั่งลาดกระบังกำลังมุ่งหน้าไปหาเพื่อนแถวหลังโรงพยาบาลจุฬารัตน 9 ยอมรับว่าตอนนั้นขับมาค่อนข้างเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งตนวิ่งมาในเลนขวาสุด

จู่ๆก็มีหญิงสาวคู่กรณีเดินลงมาจากเกาะกลางถนนเพื่อจะข้ามถนนโดยที่ตนเองไม่ทันระวังจึงพุ่งชนอย่างจังจนร่างกระเด้นหลายเมตรจึงรีบจอดรถลงไปช่วยเหลือและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วย ยืนยันว่ามองไม่เห็นว่ามีคนกำลังจะข้ามางอีกทั้งบริเวณดังกล่าวแสงไฟไม่ค่อยสว่างเท่าที่ควรประกอบกับทางม้าลายจุดนี้เส้นไม่ชัดเจนทำให้มองไม่เห้นว่ามีทางม้าลายจึงไม่ได้ทันระวัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเห็นทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.ส่วนประเด็นที่ไม่หยุดให้คนข้ามางม้าลายนั้นจะต้องไปสอบสวนพิจารณาเพิ่มเติมอีกครั้ง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวที่ประจำในพื้นที่ระบุว่าเส้นทางดังกล่าวนี้ มีจุดตัดทางม้าลายหลายจุดส่วนใหญ่แล้วมักเกิดอุบัติเหตุกับคนข้ามทางม้าลายบ่อยครั้งมีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตคาที่ ส่วนหนึ่งมาจากทางม้าลายที่เส้นลบเลื่อนจนมองแทบไม่ออกว่ามีทางม้าลาย อีกองค์ประกอบคือถนนกิ่งแก้วนี้มีเกาะกลางที่สูงประมาณ 1 เมตรและทางม้าลายจะตัดกับเกาะกลางทำให้รถที่วิ่งมาทางตรงจะมองแทบไม่เห็นคนที่รอข้ามทางม้าลาย และส่วนใหญ่รถมักใช้ความเร็วบนถนนสายนี้

*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***

รายงาน : น้อย บางใหญ่
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีญาติแจ้งว่านางกาญจนภรณ์ เหล่าทรงฤทธิ์ อายุ 82 ปี อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยผู้สูญหายมีอาการหลงลืมหลังพลัดหลงกับลูกสาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมาบริเวณตลาดน้ำบ้านดอน สวนสาธารณะศรีตาปี กระทั่งมีการระดมกำลังทุกภาคส่วนเพื่อค้นหานั้น

ล่าสุดวันนี้ (26 มกราคม) เวลา 13.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งว่านักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้พบร่างของนางกาญจนาภรณ์ ในสภาพเสียชีวิตจมอยู่บริเวณใต้โป๊ะของตลาดน้ำบ้านดอน ท่ามกลางไทยมุงนับร้อย สร้างความเสียใจให้กับบรรดาญาติๆเป็นอย่างมาก

จากนั้นพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองสุราษฎร์ฯ ได้มอบหมายให้ จนท.กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรต่อที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป .

ภาพ : กุศลศรัทธาสุราษฎร์ฯ