google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแผนเยียวยาทั้งทางกายและใจ สื่อสารคำแนะนำและวิธีการปฏิบัติด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอแสดงห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน พร้อมแนะนำขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละออง เน้นย้ำประชาชนตระหนักแต่ไม่ตระหนกจากการเสพข่าวสาร เพื่อลดความเสี่ยงจากความเครียด

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้โรงพยาบาลสวนปรุงติดตามสถานการณ์กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5 ) ขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเน้นย้ำการประสานงานเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ได้รับข่าวสารปลอมและเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ระวังคุณภาพอากาศ บริเวณโรงพยาบาลสวนปรุงพบว่าคุณภาพของอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 221 (μg/m3) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจระบบหัวใจและระบบหลอดเลือด ทั้งนี้จากการสำรวจผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสวนปรุง จำนวน 100 คน พบว่าผู้รับบริการได้รับผลกระทบมากกว่าร้อยละ 70 มีอาการแสบเคืองจมูก มีน้ำมูก และมีอาการระคายเคืองเยื่อบุตา รวมถึงเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางที่มีความเครียดอยู่เดิม เมื่อเจอสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัจจัยกระตุ้น ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ และมีความเครียดเพิ่มขึ้น

นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญคือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความกังวลต่อสภาพอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นถึงร้อยละ 95.20 อีกด้วยของโรงพยาบาลสวนปรุง เบื้องต้นได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 สำหรับผู้ป่วย บุคลากรที่มีความเสี่ยง และผู้ปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง จำนวน 3,220 ชิ้น จัดหาเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอสำหรับหอผู้ป่วย หน่วยงานภายในต่างๆ ในโรงพยาบาล 46 เครื่อง จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โดยจัดห้องความดันลบเป็นห้องพักผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจชั่วคราว 1 ห้อง งดจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยกลางแจ้ง พร้อมสื่อสารให้ความรู้ด้านการป้องกันตนเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก่ผู้รับบริการ ผู้ป่วย และบุคลากรผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ อาทิ เฟสบุ๊ค เวบไซด์ digital Kiosk ซึ่งสถานการณ์ที่โรงพยาบาลสวนปรุงให้ความสำคัญ คือเรื่องของการตระหนกจากการรับข้อมูลข่าวสาร บางรายมีความกลัวที่จะทำกิจกรรมตามปกติ อยากขอให้ทุกท่านมีสติในการรับทราบข้อมูล เพราะหากมีการเตรียมตัวที่ดี อุปกรณ์ป้องกันพร้อมก็จะช่วยประชาชนลดความเครียด ความกังวลได้ หรือกรณีการใช้ชีวิตนอกบ้าน ทุกคนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากปฏิบัติตามคำแนะนำและสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ ทั้งนี้โรงพยาบาลสวนปรุงจะได้สำรวจผลกระทบทางสุขภาพของผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน และบุคลากรเพื่อประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงที่มีผลกระทบทุกสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกันดูแล สร้างนิสัยในการระวังภัยจากฝุ่น และขอให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจของกันและกันด้วย หากพบว่าใครเครียด กังวล นอนไม่หลับ ให้หาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง เช่น ออกกำลังกายในที่ร่ม ฟังเพลง งดเสพข่าวที่มากเกินไป หรือสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลสวนปรุง พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแผนเยียวยาทั้งทางกายและใจ สื่อสารคำแนะนำและวิธีการปฏิบัติด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอแสดงห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน พร้อมแนะนำขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละออง เน้นย้ำประชาชนตระหนักแต่ไม่ตระหนกจากการเสพข่าวสาร เพื่อลดความเสี่ยงจากความเครียด

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้โรงพยาบาลสวนปรุงติดตามสถานการณ์กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5 ) ขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเน้นย้ำการประสานงานเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ได้รับข่าวสารปลอมและเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ระวังคุณภาพอากาศ บริเวณโรงพยาบาลสวนปรุงพบว่าคุณภาพของอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 221 (μg/m3) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจระบบหัวใจและระบบหลอดเลือด ทั้งนี้จากการสำรวจผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสวนปรุง จำนวน 100 คน พบว่าผู้รับบริการได้รับผลกระทบมากกว่าร้อยละ 70 มีอาการแสบเคืองจมูก มีน้ำมูก และมีอาการระคายเคืองเยื่อบุตา รวมถึงเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางที่มีความเครียดอยู่เดิม เมื่อเจอสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัจจัยกระตุ้น ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ และมีความเครียดเพิ่มขึ้น

นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญคือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความกังวลต่อสภาพอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นถึงร้อยละ 95.20 อีกด้วยของโรงพยาบาลสวนปรุง เบื้องต้นได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 สำหรับผู้ป่วย บุคลากรที่มีความเสี่ยง และผู้ปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง จำนวน 3,220 ชิ้น จัดหาเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอสำหรับหอผู้ป่วย หน่วยงานภายในต่างๆ ในโรงพยาบาล 46 เครื่อง จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โดยจัดห้องความดันลบเป็นห้องพักผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจชั่วคราว 1 ห้อง งดจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยกลางแจ้ง พร้อมสื่อสารให้ความรู้ด้านการป้องกันตนเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก่ผู้รับบริการ ผู้ป่วย และบุคลากรผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ อาทิ เฟสบุ๊ค เวบไซด์ digital Kiosk ซึ่งสถานการณ์ที่โรงพยาบาลสวนปรุงให้ความสำคัญ คือเรื่องของการตระหนกจากการรับข้อมูลข่าวสาร บางรายมีความกลัวที่จะทำกิจกรรมตามปกติ อยากขอให้ทุกท่านมีสติในการรับทราบข้อมูล เพราะหากมีการเตรียมตัวที่ดี อุปกรณ์ป้องกันพร้อมก็จะช่วยประชาชนลดความเครียด ความกังวลได้ หรือกรณีการใช้ชีวิตนอกบ้าน ทุกคนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากปฏิบัติตามคำแนะนำและสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ ทั้งนี้โรงพยาบาลสวนปรุงจะได้สำรวจผลกระทบทางสุขภาพของผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน และบุคลากรเพื่อประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงที่มีผลกระทบทุกสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกันดูแล สร้างนิสัยในการระวังภัยจากฝุ่น และขอให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจของกันและกันด้วย หากพบว่าใครเครียด กังวล นอนไม่หลับ ให้หาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง เช่น ออกกำลังกายในที่ร่ม ฟังเพลง งดเสพข่าวที่มากเกินไป หรือสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลสวนปรุง พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแผนเยียวยาทั้งทางกายและใจ สื่อสารคำแนะนำและวิธีการปฏิบัติด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอแสดงห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน พร้อมแนะนำขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละออง เน้นย้ำประชาชนตระหนักแต่ไม่ตระหนกจากการเสพข่าวสาร เพื่อลดความเสี่ยงจากความเครียด

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้โรงพยาบาลสวนปรุงติดตามสถานการณ์กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5 ) ขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเน้นย้ำการประสานงานเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ได้รับข่าวสารปลอมและเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ระวังคุณภาพอากาศ บริเวณโรงพยาบาลสวนปรุงพบว่าคุณภาพของอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 221 (μg/m3) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจระบบหัวใจและระบบหลอดเลือด ทั้งนี้จากการสำรวจผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสวนปรุง จำนวน 100 คน พบว่าผู้รับบริการได้รับผลกระทบมากกว่าร้อยละ 70 มีอาการแสบเคืองจมูก มีน้ำมูก และมีอาการระคายเคืองเยื่อบุตา รวมถึงเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางที่มีความเครียดอยู่เดิม เมื่อเจอสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัจจัยกระตุ้น ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ และมีความเครียดเพิ่มขึ้น

นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญคือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความกังวลต่อสภาพอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นถึงร้อยละ 95.20 อีกด้วยของโรงพยาบาลสวนปรุง เบื้องต้นได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 สำหรับผู้ป่วย บุคลากรที่มีความเสี่ยง และผู้ปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง จำนวน 3,220 ชิ้น จัดหาเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอสำหรับหอผู้ป่วย หน่วยงานภายในต่างๆ ในโรงพยาบาล 46 เครื่อง จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โดยจัดห้องความดันลบเป็นห้องพักผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจชั่วคราว 1 ห้อง งดจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยกลางแจ้ง พร้อมสื่อสารให้ความรู้ด้านการป้องกันตนเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก่ผู้รับบริการ ผู้ป่วย และบุคลากรผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ อาทิ เฟสบุ๊ค เวบไซด์ digital Kiosk ซึ่งสถานการณ์ที่โรงพยาบาลสวนปรุงให้ความสำคัญ คือเรื่องของการตระหนกจากการรับข้อมูลข่าวสาร บางรายมีความกลัวที่จะทำกิจกรรมตามปกติ อยากขอให้ทุกท่านมีสติในการรับทราบข้อมูล เพราะหากมีการเตรียมตัวที่ดี อุปกรณ์ป้องกันพร้อมก็จะช่วยประชาชนลดความเครียด ความกังวลได้ หรือกรณีการใช้ชีวิตนอกบ้าน ทุกคนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากปฏิบัติตามคำแนะนำและสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ ทั้งนี้โรงพยาบาลสวนปรุงจะได้สำรวจผลกระทบทางสุขภาพของผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน และบุคลากรเพื่อประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงที่มีผลกระทบทุกสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกันดูแล สร้างนิสัยในการระวังภัยจากฝุ่น และขอให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจของกันและกันด้วย หากพบว่าใครเครียด กังวล นอนไม่หลับ ให้หาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง เช่น ออกกำลังกายในที่ร่ม ฟังเพลง งดเสพข่าวที่มากเกินไป หรือสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลสวนปรุง พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

กรมสุขภาพจิต ห่วงใยชาวเชียงใหม่ จากภัย PM 2.5 ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแผนเยียวยาทั้งทางกายและใจ สื่อสารคำแนะนำและวิธีการปฏิบัติด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอแสดงห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน พร้อมแนะนำขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในการป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละออง เน้นย้ำประชาชนตระหนักแต่ไม่ตระหนกจากการเสพข่าวสาร เพื่อลดความเสี่ยงจากความเครียด

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวว่า ขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้โรงพยาบาลสวนปรุงติดตามสถานการณ์กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5 ) ขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเน้นย้ำการประสานงานเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ได้รับข่าวสารปลอมและเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ระวังคุณภาพอากาศ บริเวณโรงพยาบาลสวนปรุงพบว่าคุณภาพของอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 221 (μg/m3) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจระบบหัวใจและระบบหลอดเลือด ทั้งนี้จากการสำรวจผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสวนปรุง จำนวน 100 คน พบว่าผู้รับบริการได้รับผลกระทบมากกว่าร้อยละ 70 มีอาการแสบเคืองจมูก มีน้ำมูก และมีอาการระคายเคืองเยื่อบุตา รวมถึงเฝ้าระวังกลุ่มเปราะบางที่มีความเครียดอยู่เดิม เมื่อเจอสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัจจัยกระตุ้น ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ และมีความเครียดเพิ่มขึ้น

นายแพทย์กิตต์กวี กล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญคือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความกังวลต่อสภาพอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นถึงร้อยละ 95.20 อีกด้วยของโรงพยาบาลสวนปรุง เบื้องต้นได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 สำหรับผู้ป่วย บุคลากรที่มีความเสี่ยง และผู้ปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง จำนวน 3,220 ชิ้น จัดหาเครื่องฟอกอากาศให้เพียงพอสำหรับหอผู้ป่วย หน่วยงานภายในต่างๆ ในโรงพยาบาล 46 เครื่อง จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โดยจัดห้องความดันลบเป็นห้องพักผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจชั่วคราว 1 ห้อง งดจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยกลางแจ้ง พร้อมสื่อสารให้ความรู้ด้านการป้องกันตนเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก่ผู้รับบริการ ผู้ป่วย และบุคลากรผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ อาทิ เฟสบุ๊ค เวบไซด์ digital Kiosk ซึ่งสถานการณ์ที่โรงพยาบาลสวนปรุงให้ความสำคัญ คือเรื่องของการตระหนกจากการรับข้อมูลข่าวสาร บางรายมีความกลัวที่จะทำกิจกรรมตามปกติ อยากขอให้ทุกท่านมีสติในการรับทราบข้อมูล เพราะหากมีการเตรียมตัวที่ดี อุปกรณ์ป้องกันพร้อมก็จะช่วยประชาชนลดความเครียด ความกังวลได้ หรือกรณีการใช้ชีวิตนอกบ้าน ทุกคนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากปฏิบัติตามคำแนะนำและสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ ทั้งนี้โรงพยาบาลสวนปรุงจะได้สำรวจผลกระทบทางสุขภาพของผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน และบุคลากรเพื่อประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงที่มีผลกระทบทุกสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกันดูแล สร้างนิสัยในการระวังภัยจากฝุ่น และขอให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจของกันและกันด้วย หากพบว่าใครเครียด กังวล นอนไม่หลับ ให้หาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง เช่น ออกกำลังกายในที่ร่ม ฟังเพลง งดเสพข่าวที่มากเกินไป หรือสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลสวนปรุง พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

นครนายก ผู้ว่าปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ไฟป่าและประชาชนจิตอาสา

นครนายก ผู้ว่าปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ไฟป่าและประชาชนจิตอาสา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟป่าที่ลุกลามจากเขาแหลมเข้าเขาวังรี

เมื่อเวลา10.30 น.ของวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ศูยน์ อำนวยการป้องกันและหมอกควันในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ได้เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ป่าไม้,เจ้าหน้าที่ป้องกันไฟป่า ทหารจากปราจีนบุรี รถน้ำจากหลายหน่วยงานประชาชนจิตรอาสา และกู้ภัยสว่างอริยะนครนายกจำนวน119 คน เข้าพื้นที่เขาวังรี หมู่ที่ 12 ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก

เนื่องจากไฟป่าได้ลุกลามจากเขาชภู ตำบลพรหมณี ด้านหลังสนามยิงปืน โรงเรียนายร้อย จปร.ลุกลามไหม้ป่ามาเขาแหลม ลุกลามมาเขาตะแบกและขณะนี้เข้าเขาวังรี เจ้าหน้าที่จึงระดับกำลังจัดชุดขึ้นเขาเข้าป่าเพื่อทำแนวกันไฟ พร้อมใช้รถน้ำดับเพลิงระดมฉีดพรหมน้ำเพื่อไม่ให้เข้าให้เข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน ส่วนทางอากาศใช้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ มีเฮลิคอเตอร์ Ka-32และเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 ของปภ.ปราจีนบุรี และของทหาร ลพบุรี เข้าปฎิบัติการดับไฟป่าในครั้งนี้ให้สำเร็จ

สัมภาษณ์นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก

สัมภาษณ์ นายพงษ์สวัสดิ์ ธีระวัฒนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ

สัมภาษณ์นายถวัลย์ จำใจผู้ใหญ่บ้านหมู่12 บ้านวังรี

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวั/นครนายก

ลำพูน จัดพิธีถวายสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า

ลำพูน จัดพิธีถวายสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า

วันนี้ (31 มีนาคม 2566 ) เวลา 08.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน

นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานนำข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดลำพูน ทุกหมู่เหล่า

ร่วมพิธีถวายสักการะ พานพุ่มดอกไม้สด เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฏาราชเจ้า

นายแทน ต่อมสังข์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่วัดคำสายทอง ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 ภายในโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ของกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ บรรพชาสามเณรฯ ภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับวัดคำสายทอง จัดกิจกรรมบำเพ็ญความดีถวายพระราชกุศลและร่วมสืบสานประเพณีการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้ศึกษาและอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมซึ่งการจัดกิจกรรมจัดในเดือนเมษายนของทุกปี เป็นหลักสูตรระยะสั้น 15 วัน เด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติ ศาสนพิธีธรรม วินัย เทศนา และการภาวนา สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากบวชได้

ทั้งนี้มีผู้เข้าพุทธศาสนิกชน หัวหน้าส่วนราชการ พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าร่วมพิธี และร่วมถวายพระพรชัยมงคล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะและพระราชปณิธานแน่วแน่ ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระราชหฤทัยเปลี่ยนด้วยพระเมตตากรุณา เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อานาประชาราษฎร์สืบต่อไป.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่วัดคำสายทอง ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 ภายในโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ของกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ บรรพชาสามเณรฯ ภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับวัดคำสายทอง จัดกิจกรรมบำเพ็ญความดีถวายพระราชกุศลและร่วมสืบสานประเพณีการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้ศึกษาและอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมซึ่งการจัดกิจกรรมจัดในเดือนเมษายนของทุกปี เป็นหลักสูตรระยะสั้น 15 วัน เด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติ ศาสนพิธีธรรม วินัย เทศนา และการภาวนา สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากบวชได้

ทั้งนี้มีผู้เข้าพุทธศาสนิกชน หัวหน้าส่วนราชการ พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าร่วมพิธี และร่วมถวายพระพรชัยมงคล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะและพระราชปณิธานแน่วแน่ ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระราชหฤทัยเปลี่ยนด้วยพระเมตตากรุณา เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อานาประชาราษฎร์สืบต่อไป.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

จังหวัดมุกดาหาร ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่วัดคำสายทอง ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานประกอบพิธีบรรพชาสามเณรฯ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 ภายในโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ของกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ บรรพชาสามเณรฯ ภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับวัดคำสายทอง จัดกิจกรรมบำเพ็ญความดีถวายพระราชกุศลและร่วมสืบสานประเพณีการบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้ศึกษาและอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมซึ่งการจัดกิจกรรมจัดในเดือนเมษายนของทุกปี เป็นหลักสูตรระยะสั้น 15 วัน เด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติ ศาสนพิธีธรรม วินัย เทศนา และการภาวนา สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากบวชได้

ทั้งนี้มีผู้เข้าพุทธศาสนิกชน หัวหน้าส่วนราชการ พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าร่วมพิธี และร่วมถวายพระพรชัยมงคล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะและพระราชปณิธานแน่วแน่ ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระราชหฤทัยเปลี่ยนด้วยพระเมตตากรุณา เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อานาประชาราษฎร์สืบต่อไป.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

จังหวัดมุกดาหาร จัดพิธีถวายพานพุ่มเนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อราษฎร และแผ่นดินไทย

จังหวัดมุกดาหาร จัดพิธีถวายพานพุ่มเนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อราษฎร และแผ่นดินไทย

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 08.00 น. ที่หอประชุม 250 ปีมุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เนื่องใน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” ซึ่งตรงกับวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี โดยมีข้าราชการ ทุกสังกัดกระทรวงเข้าร่วมงานรัฐพิธีฯ ในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน

เนื่องในมหามงคลสมัย วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงมีพระบรมราชคุณูปการแก่ประเทศและประชาชนเป็นล้นพ้นที่จะพรรณนาได้ เมื่อเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัตินั้น บ้านเมืองเริ่มเผชิญปัญหาด้านสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศในยุโรปและอเมริกา แต่ด้วยพระปรีชาญานอันสุขุมลึกซึ้งได้ผ่อนปรนมิให้กระทบกระเทือนทั้งผลประโยชน์ของประเทศและสัมพันธไมตรีระหว่างกัน ได้ทำนุบำรุงการพาณิชย์นาวี และมีการติดต่อค้าขายกับนานาประเทศอย่างกว้างขวาง รายได้หลั่งไหลเข้มาเป็นงบประมาณบำรุงแผ่นดินเต็มที่ ข้าราชการได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเงินเดือนเป็นครั้งแรก ทรงเพิ่มพูนรายได้ของประเทศและได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามที่สร้างมาตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ 1 ซึ่งร่วงโรยลงตามกาลเวลา สำหรับพระอารามใหม่ที่ทรงสร้างซึ่งมีลักษณะศิลปกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีอยู่มากกว่า 30 พระอาราม ซึ่งล้านแต่งดงามวิจิตรเป็นศรีสง่าแก่พระนคร ทรงสร้างคัมภีร์พระไตรปิฏกอันเป็นหัวใจของการศึกษาพระธรรมบท กำหนดให้พระเปรียญนักธรรม สอบเพื่อส่งเสริมให้มีพระเถระที่ทรงคุณวุฒิสูง ประดับเป็นอาภรณ์แห่งพระบวรพุทธศาสนา ปรากฏว่าพระศาสนารุ่งโรจน์แพร่ขยายไปสู่ดินแดนพระพุทธศาสนา ในประเทศศรีลังกาด้วย ทรงเล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นความเจริญของบ้านเมืองและประชาชน จึงโปรดให้จารึกความรู้นานาชนิดไว้ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ทั้งวิชาวรรณคดี ตำรายา โหราศาสตร์ การช่าง ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษาอย่างกว้างขวาง จนกล่าวกันว่า วัดโพธิ์ คือ มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย

ในส่วนการบำรุงรักษาความมั่นคงของประเทศนั้นทรงยึดหลักการ รักษาศักดิ์ศรีของประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้นพระองค์จึงทรงทุ่มเทป้องกันข้าศึกษาที่แผ่อิทธิพลเข้ามาทำลายความสงบสุขภายในหัวเมืองในพระราชอาณาเขต ด้วยการส่งกองทัพไปปราบปรามทำให้ข้าศึกษาระย่อหยุดยั้งลง การศึกแม้จะยืดเยื้อเนิ่นนานแต่ด้วยเหตุที่เศรษฐกิจในรัชสมัยได้จัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย จึงมิได้กระทบกระเทือนสถานภาพการเงินของประเทศทรงทำลายฝิ่น ซึ่งเป็นยาเสพติดร้ายแรงในสมัยนั้นให้หมดไปจากประเทศ เพื่อป้องกันพสกนิกรให้รอดพ้น จากความหายนะ อันเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติ น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยแผ่นดินล้นพ้นสุดที่จะคณานับได้ พระราชทานเสรีภาพให้หมู่พระบรมราชวงศ์ มุขอำมาตย์ ข้าราชการ เลือกสรรอัญเชิญ ผู้ที่เหมาะสมสืบราชสันตติวงศ์ ทรงจัดสรรพระราชทรัพย์ พระราชทานไว้ทำนุบำรุงพระอารามที่ยังค้างอยู่ให้สำเร็จ และพระราชทานทรัพย์ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ส่วนที่พระราชทานไว้แก่แผ่นดิน ซึ่งเก็บรักษาไว้ในถุงแดงเป็นจำนวนหลายหมื่นชั่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาเป็นค่าชดใช้แลกเปลี่ยนอธิปไตยของชาติในกรณีพิพาทดินแดน ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อ ร.ศ.112 อันเป็นวิกฤตการณ์ที่คับขันล่อแปลมในสมัยนั้นอย่างยิ่งยวดจึงอาจกล่าวได้ว่า ถ้ามิใช่พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานพระราชทรัพย์ไว้แล้ว ชาวไทยทั้งมวลจะภาคภูมิในความเป็นชาติเอกราชอย่างสง่าผ่าเผยเช่นปัจจุบันนี้มิได้ พระราชกรณียกิจตลอดเวลา 27 ปี แห่งการครองราชย์ทรงสร้างสรรค์คุณประโยชน์อเนกอนันต์อันเป็นรากฐานแห่งความเจริญวัฒนาทั้งสิ้น.

Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com