google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

พะเยา สลด!! ตาควบจักรยานยนต์แหกโค้งแฉลบคอหักดับคาที่

วันที่​ 4​ กันยายน​ 2566 เวลา 13.30 น.พ.ต.ท.สรวิศฐ์ คิดดี สว.(สอบสวน) สภ.จุน จ.พะเยา รับแจ้งจากจากผู้ใหญ่​บ้าน​ บ้านสัก​ทอง​ ม.10​ ต.หงส์​หิน​ อ.จุน จ.พะเยา ว่ามีเหตุ​รถจักรยาน​ยนต์แฉลบมีผู้เสียชีวิต บนถนนในหมู่บ้านถนนสักลอ-สักทุ่ง ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา หลังรับแจ้งพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชรพจุนและชุดกู้ภัย ฝ่าย​ป้อง​กันและ​บรรเทา​สาธารณภัย​ เทศบาลตำบล​หงส์​หิน​ และกู้ชีพ-กู้ภัย​กวน​อู​ เข้าตรวจที่เกิดเหตุ​

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิสีน้ำเงิน ทะเบียน กพต 528 สตูล และพบร่าง ผู้เสียชีวิตเป็นชาย1ราย​นอนคว่ำหน้าสวมเสื้อ โปโลสีดำกางเกงขาสั้น มีแมสปิดใต้ปลายคางคว่ำควบบริเวณแฮนด์รถจักรยานยนต์ พบบาดแผลและสภาพร่างกาย ผู้ประสบเหตุเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้ามีแผลฉกรรจ์บริเวณกลางศีรษะ และบริเวณคิ้วด้านซ้ายแผลเปิดใหญ่ บริเวณคอพับใบหน้าทิ่มดินอยู่ใต้ต้นไม้ ทราบชื่อ นายเจริญ​ จตุแสน​ อายุ 61 ปี ที่อยู่​ 259/1 ม.3 ต.หงส์​หิน​ อ.จุน​ จ.พะเยา​ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย ตรวจสอบ พบว่าบริเวณคอหัก ไม่มีชีพจรเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ​ แพทย์​ นิติเวชโรงพยาบาล​จุน​ได้ชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา​ ต่อไป

ส่วนสาเหตุคาดว่า ผู้ตายขับรถมาด้วยความเร็ว ทำให้หลุดโค้งและรถได้เกิดแฉลบ ลงข้างทางทำให้คอหัก เสียชีวิตในที่เกิดเหตุส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐาน และตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จ.พะเยา

นครนายก กล้องวงจรจับภาพรถยนต์เก๋งชนท้ายรถจยย.ได้รับบาดเจ็บ 2 รายส่วนรถเก๋งชนแล้วขับรถหนีไป

กล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์เก๋งชนท้ายรถจยย.ขณะจอดชลอจุดกลับรถหน้าร้านอาหารธงฟ้าหมูตุ่น บาดเจ็บ 2 รายส่วนรถเก๋งชนแล้วขับรถหลบหนีไป

เมื่อเวลา 20.19 น.ของวันที่ 29 สิงหาคม 2566 กล้องวงจรปิดได้จับภาพรถยนต์เก๋งขับมาด้วยความเร็วชนท้ายรถจักรยานยนต์ขณะจอดชลอเพื่อจะกับรถยูเทิร์นได้รับบาดเจ็บ 2 รายส่วนรถยนต์เก๋งเมื่อชนแล้วได้ขับรถเก๋งหลบหนี บริเวณถนนสายกระอ่าง-มุ่งหน้าขึ้นอำเภอบ้านนา ตรงจุดกับรถหน้าร้านอาหารธงฟ้าหมูตุ่น ซึ่งทางเพจสื่อครยกได้นำเสนอคลิปจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุมาลงในเพจสื่อครยก เพื่อติดตามรถยนต์เก๋งที่ชนแล้วขับรถหลบหนี

ทำให้เช้าวันนี้ที่30 สิงหาคม 2566ได้มีคนขับรถยนต์เก๋งได้เข้ามามอบตัวที่สถานีตำรวจบ้านนาแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสาน นายชัยพร มีแก้ว 42 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถเก๋งชนท้ายรถจักรยานยนต์ได้เล่าว่าวันเกิดเหตุตนได้ไปงานศพเมื่อฟังพระสวดจบแล้วขับรถออกมาเพื่อจะกับเข้าบ้านพอมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์เก่งนิสสัน มาร์ชสีฟ้า ทะเบียน 5047 ได้พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ อย่างแรงจนทำให้ตนและแฟนกระเด็นได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งได้มามอบตัวที่สถานีตำรวจบ้านนาพร้อมมีเจ้าหน้ที่ประกันมาด้วย โดยไม่อนุญาติให้สัมภาษณ์และถ่ายภาพ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถและจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สิ่อข่าวจังหวัดนครนายก

นครนายก สองพี่น้องขี่จยย.ขึ้นถนนใหญ่ถูกกระบะขับทางตรงชน ดับ 1 เจ็บ 1

เกิดเหตุสลดสองพี่น้องวัย 13 และ 8 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้าย กำลังขึ้นถนนใหญ่ถูกกระบะขนส่งชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนสายดงละคร-บ้านสร้าง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ที่สี่แยกอบต.ดงละคร หมู่ 1 ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก กู้ชีพ.อบต.ดงละครได้รีบเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงสุรีย์พร นาคมงคล อายุ 13 ปี และเด็กหญิงเมษายน ชูเกียรศิริ อายุ 8 ปี หลังประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน1กข. 139 นครนายก ขึ้นมาจากทางลาดที่เชื่อมกับถนนหลักสาย ดงละคร – บ้านสร้าง แล้วถูกรถกระบะดีแมค สีขาวทะเบียน 3 ฒณ 881 กทม ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนส่งอาหารแช่เย็นที่ขับมาจากเส้นอำเภอบ้านสร้างปราจีนบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครนายก ชนเข้าเต็มลำ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์และร่างของเด็กทั้งสองคนกระเด็นไกลจากจุดที่ถูกชนกว่า 50 เมตร โดยเด็กหญิงสุรีย์พร นาคมงคล อายุ 13 ปี คนพี่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ ยังมีสติ ถามตอบได้ มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย กู้ชีพได้ปฐมพยาบาล ส่วนเด็กหญิงเมษายน ชูเกียรศิริ อายุ 8 ปี ที่ซ้อนท้ายมา นอนหมดสติ มีแผลแตกที่ศีรษะ กู้ชีพได้พยายามปั้มหัวใจและรีบนำส่งโรงพยาบาลนครนายกและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนกำลังจะเกิดเหตุตนกำลังทำกับข้าวอยู่ จังหวะนั้นหันมาพอดี ตอนแรกมีรถกระบะชลอรถก่อนที่จะขับผ่านไปก่อน จากนั้นเด็กทั้งสองคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนถนน ซึ่งเป็นเนินขึ้นมาบนถนนใหญ่จังหวะที่รถกระบะคันที่ขับตามมาไม่มองไม่เห็นจึงชนกับรถจักรยานยนต์ ตอนนั้นได้ยินเสียงเบรกดังลากยาว จากนั้นตนได้เรียกกู้ชีพให้มาที่เกิดเหตุช่วยชีวิตเด็กทั้งสองคน โดยคนพี่อาการไม่น่าเป็นห่วงมีแผลถลอกตามร่างกายรู้สึกตัว แต่คนน้องเป็นคนซ้อนอยู่ในอาการสาหัสศีรษะแตกไม่มีสติ นอนแน่นิ่ง จึงได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลนครนายก แต่ตนได้โทรเช็คอาการเด็กทราบว่าเด็กคนน้องอายุประมาณ 6-8 ขวบได้เสียชีวิตแล้ว โดยปกติที่ผ่านมาตนก็จะเห็นเด็กทั้งสองคนออกมาขี่รถจักรยานยนต์ตอนเย็นๆอยู่เป็นประจำ

ด้านคนขับรถกระบะเป็นชายอายุ 33 ปี ขอสงวนชื่อและนามสกุลให้ข้อมูลว่าตนขับรถมาจากบ้านสร้าง เพื่อตะเวนส่งของให้ตามร้านหมูกระทะ และจะเดินทางมาส่งที่ตัวเมืองนครนายก จนกระทั่งมาถึงในจุดเกิดเหตุ ขณะนั้นตนได้มาทางตรง มีรถกระบะนำหน้าอยู่หนึ่งคัน จากนั้นตนก็ได้วิ่งมาพอมาถึงสี่แยกก็เห็นจักรยานยนต์คันดังกล่าวขึ้นมาซึ่งตอนนั้นตนได้เบรคแล้วแต่เอาไม่อยู่พุ่งชนเด็กทั้งสอง ทั้งนี้คนขับรถกระบะได้ยืนรอให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ดงละคร เพื่อดำเนินคดีต่อไป

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

นครนายก ชายวัย 44 ปีหาปลาเก็บผักเลี้ยงครอบครัวจมน้ำเสียชีวิต

เมื่อเวลา 07.40 น.ของวันที่ 28 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.อุทัย อบมาลี สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตบริเวณบอน้ำข้างบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ใกล้ร้านสำเนียงโภชนาก่อนถึงวัดโยธี จึงได้ไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรและกู้ภัยสว่างอริยะนครนายก พบชาวบ้านกำลังมุ่งดูอยู่ที่บริเวณบอน้ำที่มีความกว้าง 20 เมตรความลึก 3 เมตร มีผักกระฉูดลอยอยู่ในบ่อน้ำเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะชุดประดาน้ำได้ลงดำน้ำค้นหาศพประมาณ 10 นาที่ก็สามารถงมหาศพจนพบและนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากบ่อนำมาไว้บนฝั่งข้างทาง ทราบชื่อนายชาญ เทียนน้อย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลฃที่ 165 หมู่ที่ 4 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เพื่อให้เจ้าหน้ที่ตำรวจและแพทย์เวรชันสูทจ์พลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตและส่งศพไปผ่าพิสูทจ์ที่โรงพยาบาล มศว.องครักษ์ และจะได้ติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

จากการให้สัมภาษณ์ นางนงลักษณ์ ประดับษ์วงศ์ ผู้เห็นเหตุการ์ได้เล่าว่า ตนได้มาปลูกพริกใกล้บ่อน้ำที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคนเสียชีวิตร้องขอความช่วยเหลือตนจึงวิ่งมาดูเห็นผู้เสียชีวิตกำลังหมดแรงจมลงต่อหน้าต่อตา ตนเสียใจมากที่ช่วยเหลือผู้เสียชีวิตไม่ทัน

จากการให้สัมภาษณ์นายโรจน์ เทียนน้อย อายุ57 ปีพี่ชายผู้เสียชีวิตและนางนิตยา จำปาศรี อายุ 50 ปีภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่าผู้เสียชีวิตชอบออกหาเก็บของเก่าและออกหาปลาเก็บผักมาเลี้ยงครอบครัวเป็นประจำแต่ในวันเกิดเหตุคาดว่าน้องชายอาจจะเป็นตะคริวจนเป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ศรีสะเกษ รถปิคอัพขยี้สาวหล่อ ม.3 ดับสยองแล้วซิ่งหนี ประกันช่วยค่าทำศพเบื้องต้น 2,000 บาท

ศรีสะเกษ รถปิคอัพขยี้สาวหล่อ ม.3 ดับสยองแล้วซิ่งหนี ประกันช่วยค่าทำศพเบื้องต้น 2,000 บาท แม่ร่ำไห้เรียกร้องให้คนขับมาขอขมาศพลูกสาว คนขับเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว โดนตั้ง 4 ข้อหาหนัก รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี้คือภาพเหตุการณ์ที่รถยนต์ปิคอัพยี่ห้อโตโยต้าสีขาว รุ่นรีโว่ หมายเลขทะเบียน 1 ขร 5480 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน 8 กภ 1494 กรุงเทพ ซึ่งมี น.ส.ภาสินี สังข์ทอง อายุ 15 ปี เป็นสาวหล่อเป็นผู้ขับขี่และมี ดญ.ต้องตา อายุ 2 ขวบหลานสาวของ น.ส.ภาสินี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ซึ่งรถปิคอัพได้เฉี่ยวชนรถ จยย.ล้มลงแล้วทำให้ร่างของ น.ส.ภาสินี กระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถปิคอัพ จากนั้น รถปิคอัพได้ทับบริเวณร่างส่วนบนของ น.ส.ภาสินี เสียชีวิตคาที่ ส่วน ดญ.ต้องตานั้น น.ส.ภาสินี ได้ผลักกระเด็นออกไป ทำให้รอดชีวิตหวุดหวิด จากนั้น รถยนต์ปิคอัพได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถ จยย.ของพลเมืองดีขับไล่ติดตามไปแต่ไม่ทัน แต่ว่ากล้องหน้ารถ จยย.สามารถบันทึกภาพรถยนต์คันที่ก่อเหตุไว้ได้ และได้นำเอาภาพไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค เพื่อให้ช่วยกันแชร์ติดตามรถปิคอัพคันก่อเหตุ มีการแชร์ไปยังเพจต่าง ๆจำนวนมาก และพลเมืองดีได้นำเอาคลิปภาพไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อติดตามจับกุมรถคันก่อเหตุต่อไป เหตุเกิด ที่บริเวณวงเวียนศาลหลักเมือง ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 เวลา 19.19 น.ที่ผ่านมา

นายรักษ์ อายุ 34 ปี พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถ จยย.ไล่ตามรถปิคอัพคันก่อเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนขับขี่รถ จยย.เพื่อจะไปหาซื้อของใช้ และได้มาพบเหตุการณ์รถปิคอัพชนกับรถ จยย. ตนจึงได้ขับรถ จยย.ไล่ติดตามไป โดยรถคันก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็วมากมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองศรีสะเกษ แต่ว่า รถ จยย.ของตนคันเล็กไม่สามารถไล่ติดตามได้ทัน ทำได้เพียงบันทึกภาพรถยนต์ไว้เป็นหลักฐานและได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และตนได้นำเอาคลิปภาพไปโพสต์ในเฟสบุ๊ค เพื่อต้องการให้สื่อโซเชี่ยลช่วยกันแชร์ติดตามรถคันเกิดเหตุให้มารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นที่ทำให้น้องผู้หญิงต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถและหลานสาวอายุ 2 ขวบได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้

ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 23 ส.ค.66 พ.ต.ต.โฆษิต ยอดศรี สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ เจ้าของคดีนี้ได้รับการประสานงานจาก นายสิทธิศักดิ์ ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เจ้าของรถปิคอัพคันเกิดเหตุและเป็นผู้ขับขี่รถว่า มีความประสงค์จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย และได้นำรถปิคอัพที่เกิดเหตุมามอบให้พนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบสภาพรถด้วย จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณซุ้มล้อหน้าด้านขวามีรถเฉี่ยวชน และบริเวณล้อหลังขวามีร่องรอยคล้ายกับคราบเลือดและคราบน้ำมันติดอยู่ ซึ่ง พ.ต.ต.โฆษิต ยอดศรี สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ทราบ และได้ทำการสอบปากคำนายสิทธิศักดิ์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ตั้งข้อหากับนายสิทธิศักดิ์ว่า ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี รวม 4 ข้อหา ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ ได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางศิริเนตร สังข์ทอง อายุ 52 ปี แม่ของ น.ส.ภาสินี สังข์ทอง หรือน้องส้ม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 ส.ค.66 น้องส้มมาบอกกับตนว่า จะออกไปหาซื้อของกิน โดยได้นำน้องต้องตา หลานสาวอายุ 2 ขวบนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ไปด้วย ต่อมาตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของน้องส้มว่า น้องส้มลูกสาวของตนโดนรถชนเสียชีวิตคาที่ ทำให้ตนถึงกับช็อคเสียใจมาก เนื่องจากว่า น้องส้มเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ หลังจากเลิกเรียนทุกวันแล้วก็จะไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟ์ที่ร้านหมูกระทะ เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว มีรายได้วันละ 150 บาท แต่ตนไม่รับเงินจากน้องส้มให้เก็บเงินไว้เรียนหนังสือ ซึ่งในวันที่ (23 ส.ค.66 ) ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยรถปิคอัพคันเกิดเหตุโทรศัพท์มาหาตน แจ้งว่าจะขอเจรจาค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งตนตอบไปว่า ขณะนี้ตนไม่มีสติที่จะสามารถเจรจาเรื่องอะไรได้ และให้ไปเจรจากับน้องสาวของตนแทน โดยทางบริษัทประกันภัยแจ้งว่า จะช่วยเหลือค่าทำศพเบื้องต้น จำนวน 2,000 บาท ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น แต่ว่าตนต้องการให้คนขับรถชนน้องส้มเสียชีวิตมากราบขอขมาน้องส้ม เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันอีกต่อไป ตนขอขอบคุณ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ที่ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือดูแลให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้อย่างเต็มที่

ข่าว/ภาพ …. บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

เชียงแสนปัญหาไม่รู้จบ!! เอาอีกแล้วรถสิบล้อขนดินขับเร็วชนคนตายคาที่ แล้วหลบหนี

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 12.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน ได้รับแจ้งเหตุว่ามีมีชายฉกรรจ์ถูกรถชนตายบนเส้นทางบนถนนพัฒนาชนบท (รพช.) บ.แม่มะ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เบื้อต้นยังไม่ทราบชายชื่อผู้เสียชีวิต และมีข้อมูลจากชาวบ้านที่มาพบเห็นคนถูกรถชนตายบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุได้มีขนสิบล้อขนดินขับผ่านที่เกิดเหตุด้วยความเร็ว คาดว่าอาจเป็นรถสิบล้อขนสิบคันดังกล่าวที่ชนคนตายแล้วหลบหนีไป เบื้อต้นทางเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และสอบปากคำผู้ที่มาพบเห็นเหตุการณ์รถชนตายคาท้องถนนในหมู่บ้านแม่มะ อ.เชียงแสน เหตุสลดในครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดรถสิบล้อขนดินชนคนตายบริเวณพื้นที่ ต.เมืองชุม อ.แม่สาย มาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งปัญหารถขนดินเหล่านี้สร้างปัญหาให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เชียงแสน อ.แม่สาย ไม่รู้จบโดยในแต่ละวันจะมีรถขนดินสิบล้อนับจำนวน 30-40 คัน จะไปรับดินที่บริเวณบ่อดินในเขตพื้นที่ อ.เชียงแสน แล้ววิ่งบรรทุกขนดินมาจากพื้นที่เชียงแสน เพื่อมาส่งในพื้นที่ อ.แม่สาย ในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ทำให้สร้างปัญหาผลกระทบให้กับชาวบ้านในการใช้รถใช้ถนนและความปลอดภัยความจนถึงทำให้ผิวท้องถนนสกปรกจากเศษดินเศษโคลนตกบนท้องถนนยิ่งในฤดูฝนนี้ไม่ต้องพูดถึง

ทางทีมข่าวไม่รู้จะฝากปัญหาเหล่านี้ไปถึงหน่วยงานในสังกัดไหนดีที่จะให้แก้ไขเอาจริงเอาจังเพื่อลดปัญหาให้กับชาวบ้านชักที เพราะรับเรื่องร้องทุกข์ช่วยเหลือชาวบ้านและลงข่าวมาแล้วนับ 10 ครั้ง จึงร้องทุกข์ของชาวบ้านไปถึง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาของเราบ้านที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง

ภาพข่าวจาก – ชาวบ้านแม่มะ อ.เชียงแสน
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ รายงาน

ศรีสะเกษ สลดแม่ขับ จยย.จะไปส่งลูกที่ ร.ร.โดนปิคอัพขยี้ดับสยอง ขณะที่สาวคนขับปิคอัพก็กำลังจะไปส่งลูกที่ ร.ร.เช่นกัน

เมื่อเวลา 07.35 น. วันที่ 23 ส.ค. 66 ร.ต.อ.ยศวริศ สิมณี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนกับรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณหลัก กม.ที่ 2 ถนนสายศรีสะเกษ-อ.พยุห์ ต.โพนข่า อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฏพ 4483 กรุงเทพมหานครจอดอยู่ ชิดขอบถนนเลนด้านในเกาะกลางถนน โดยใต้ท้องรถปิคอัพมีร่างของหญิงคนหนึ่งติดอยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตคาที่ ต้องใช้แม่แรงยกรถขึ้นจึงนำเอาร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้ท้องรถได้ และมีเด็กชายคนหนึ่งสวมชุด น.ร.ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงได้รีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ใกล้กันพบรถยนต์ปิคอัพยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ขขก 117 ศรีสะเกษ จอดอยู่กลางถนนบริเวณไฟท้ายด้านขวามีรอยถูกชนจนแตก และพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีฟ้า ขาว ทะเบียน บต.3220 ศรีสะเกษ โดนชนล้มคว่ำอยู่กลางถนนสภาพรถพังยับเยิน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ถูกรถยนต์ชนเสียชีวิตใต้ท้องรถยนต์ปิคอัพชื่อ น.ส.สุกัญญา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส สวมชุด น.ร. เป็นลูกชายของ น.ส.สุกัญญา ชื่อ ดช. เอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 10 ปี คาดว่า น.ส.สุกัญญา กำลังขับรถ จยย.จะไปส่งลูกที่ ร.ร.แห่งหนึ่ง แต่มาเกิดอุบัติเหตุโดนรถยนต์ปิคอัพเสียชีวิต โดยผู้ที่ขับขี่รถยนต์ปิคอัพคันที่เกิดเหตุ คือ น.ส.ทองคำ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี และกำลังขับรถยนต์ปิคอัพจะไปส่งลูกชายที่ ร.ร.แห่งหนึ่งและกำลังจะไปทำงานที่ส่วนราชการแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ

จากการสอบถาม นายสุดใจ คำผง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 1 ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ปิคอัพยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ขขก 117 ศรีสะเกษ เล่าว่า ตนขับรถออกจากบ้านเพื่อจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวที่ตัวจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มด้านซ้ายมือ และกำลังจะขับรถออกมา ปรากฏว่า รถ จยย.ที่มี น.ส.สุกัญญา ขับขี่มาโดยมี ด.ช.เอ นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ได้หักหลบรถยนต์ปิคอัพออกมาที่เลนกลางถนน และได้ชนท้ายรถยนต์ปิคอัพของตนที่บริเวณไฟท้ายด้านขวา จากนั้น รถ จยย.ได้เสียหลักพุ่งไปบริเวณเลนด้านใน ขณะนั้น รถยนต์ปิคอัพสีดำที่มี น.ส.ทองคำ (นามสมมุติ) ขับขี่มาที่เลนด้านใน ได้พุ่งชนรถ จยย.ของ น.ส.สุกัญญา อย่างจัง ทำให้ น.ส.สุกัญญา เสียชีวิตคาที่ และ ดช.เอ.ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ร.ต.อ.ยศวริศ สิมณี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว จะได้ทำการสอบสวนพยานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ / ข่าว บุญทัน ธุศรีวรรณ ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

พะเยา สลด!! หนุ่มใหญ่พิการหายออกบ้านพบเป็นศพจมอยู่ใต้น้ำ

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 66 เวลา 20.00น.ร.ต.อ.ชาติสิริ จี๋คำวัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในลำน้ำล่องโพธิ์ หมู่ 5 ต.ป่าซาง อ.ดอกคำใต้จ. พะเยาหลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์นิติเวช รพ. ดอกคำใต้ มูลนิธิลือชาพะเยา,มูลนิธิขุนลาน, มูลนิธิพุทธยาน

ที่เกิดเหตุได้พบรองเท้าแตะวางอยู่บนฝั่งและมีรอยลงในลำน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ ชุดกู้ภัยระดมกำลังช่วยกันลงไปทำการค้นหา จนพบร่างของผู้เสียชีวิตจมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำใช้เวลางมหาร่างผู้เสียชีวิตกว่าชั่วโมงจึงพบ ทราบชื่อนายมีนา สมศรีอายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ 5 ตำบลป่าซางอ. ดอกคำใต้ จ.พะเยา หลังจากนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งโรงพยาบาลดอกคำใต้เพื่อทำการชันสูตรศพอีกครั้งก่อนมอบให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามญาติทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนพิการ ก่อนจะเสียชีวิต ได้หายออกจากบ้าน ช่วงเวลาประมาณ1 ทุ่ม ของคืนที่ผ่านมา และทางญาติได้ออกติดตามจน พบ รองเท้าแตะถอดอยู่บริเวณใกล้ลำน้ำ จึงพากันลงงมค้นหาแต่ไม่พบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยลงมาช่วยจนพบร่างดังกล่าว จาก การชันสูตรศพ เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด จึงคาดว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายอาจจะมายืนอยู่ใกล้ฝั่งหรืออาจจะเดินเล่น และ ตกลงไปในน้ำ จนเป็นเหตุเสียชีวิตดังกล่าว

ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา

ช่างแอร์ซ่อมตู้แช่แข็งอาหารไฟฟ้าลัดวงจรช็อตล่วงลงมาด้านล่างหมดสติ

เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 16 ส.ค.2566 พ.ต.ต.อุทิศ พาราษฎร สว.(สอบสวน) สภ.บางพลี ได้แจ้งเหตุ ช่างแอร์โดนไฟฟ้าดูดหมดสติ ที่ตลาดปากซอยจงสิริ หมู่ที่ 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยรถกู้ชีพ รพ.บางพลี อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นห้องแบ่งให้เช่าขายของตลาดจงสิริ ภายในร้านเป็นตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ พบ นายมณี อายุ 47 ปี ชาว จ.น่าน ช่างแอร์ นอนหงายหมดสติ อยู่หน้าตู้แช่ หน้าร้าน เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วน พร้อมนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.บางพลี ตรวจสอบบนหลังตู้แช่แข็งด้านบนยังพบถังน้ำยาแอร์และอุปกรณ์วางอยู่ด้านบนและที่ตู่แช่ยังมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลอยู่

จากการสอบถาม นายรณชัย อายุ 19 ปี ลูกชาย ผู้บาดเจ็บ ทราบว่า พ่อเป็นช่างซ่อมแอร์ วันนี้ได้เดินทางมากับตนเพื่อซ่อมตู้แช่แข็งอาหารที่เสีย ไม่มีความเย็น ระหว่างที่พ่อของตนเปิดเครื่องทำความเย็นและเติมน้ำยาอยู่นั้น ตนได้ยินเสียงพ่อร้องโอ้ย และหล่นลงมาจากบันใด ตกลงมา นอนหงายกับพื้นหัวกระแทกพื้น ตนจึงเข้าไปช่วยและโทรเรียกรถพยาบาล มาช่วยพ่อดังกล่าว

พ.ต.ต.อุทิศ พาราษฎร สว.(สอบสวน) สภ.บางพลี หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าที่ตู้แช่แข็งยังมีไฟฟ้ารั่วไหลอยู่ สันนิฐานเบื้องตนว่าไฟฟ้าลัดวงจร ได้ประสานช่างไฟฟ้าเข้ามาตัดไฟออกป้องกันเกิดเหตุอีก

ภาพ/ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ

พะเยา ฝรั่งเครียดภรรยาไม่กลับบ้านหลายวันคลั่งอาละวาดจุดไฟเผาบ้านถูกไฟลวกบาดเจ็บ

วันที่ 15 สิงหาคม 66 เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ท.สรวิศฐ์ คิดดี สว.(สอบสวน) สภ.จุน จ.พะเยา รับแจ้งว่ามีชายชาวต่างชาติเมาอาละวาดจุดไฟเผาบ้านตนเอง ที่บ้านสักลอ หมู่ที่8 ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสายตรวจ ชุดกู้ชีพกู้ภัยกวนอูสำนักงานใหญ่ ข่าวสารกู้ภัย ไทยแลนค์ งานป้องกันฯเทศบาลอ่างทอง ต.หงส์หิน ต.เวียงลอ ต.ห้วยข้าวก่ำ ต.ทุ่งรวงทอง และนรสิงห์ รุดไปบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 94 หมู่ที่8 ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา พบมีชายชาวต่างชาติ อายุประมาณ 60-65 ปี เป็นชาวเยอรมันนี แสดงอาการอาละวาดจุดไฟเผาบ้านพักของตนเอง จนทำให้ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บมีแผลไฟไหม้พุพองที่แขนและตามลำตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบทำการช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลจุน ทันที ล่าสุด อาการปลอดภัย

จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ไฟได้ลุกไหม้โรงเก็บรถข้างบ้านและไฟไหม้ลุกลามเข้าภายในบ้าน พร้อมกับมีเสียงแก๊สระเบิดภายในบ้านจำนวน 1 ครั้ง และไฟได้ลุกไหม้ลามด้านหน้ารถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียน กต 9625 พังงา จอดข้างบ้าน ไฟไหม้หน้ารถและห้องเครื่อง และไฟได้ไหม้ลุกลามเข้าในบ้านทำให้เครื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆ เสียหาย หมด ขณะไฟลุกไหม้ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ตัดกระแสไฟฟ้าบ้านและเจ้าหน้าที่รถดับเพลิง ได้น้ำยาเคมีเข้าฉีดดับเพลิงและฉีดน้ำสกัดไฟที่ลุกไหม้ประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบและสอบถามญาติและผู้บาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บเครียดเพราะภรรยาออกไปทำงานนอกบ้านนอกบ้านไม่เข้าบ้านมาหลายวันจนเกิดอาการเครียดหลังจากนั้นได้ดื่มสุราจนเมาคุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านและรถยนต์ที่จอดไว้ จนเสียหาย และยังถูกไฟไหม้ลวกตามร่างกาย บาดเจ็บและโชคดีขณะเกิดเหตุไฟไหม้ทางชุดกู้ภัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมาทำการช่วยเหลือลุงชาวเยอรมันออกจากบ้านไว้ทันก่อนจะถูกไฟคลอกดับคาบ้าน

หลังดับไฟไหม้เสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเก็บหลักฐานและกั้นเชือกขอบเขตไว้ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ อีกครั้ง ขณะเดียวกันทางนายสามารถ ชื่นเมือง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหงส์หิน นายภูวิวัฒน์ มะโนปิง กำนันตำบลหงส์หิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าให้การช่วยเหลือในลำดับต่อไป

สำหรับสาเหตุของการเผาบ้านของลุงชาวเยอรมันในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากความเครียด ที่ภรรยาออกไปทำงานนอกบ้านไม่กลับเข้าบ้านมาหลายวัน จนเกิดอาการเครียดซื้อสุรามานั่งดื่มจนเกิดอาการคุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านและรถของตัวเองและตนเองถูกไฟไหม้ลวกแขนและลำตัวจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com