นครนายก หนุ่มวัย 50 เมาขับจยย.หลุดโค้งตกข้างทางหัวทิ่มนอนในกอหญ้า

นครนายก หนุ่มวัย 50 เมาขับจยย.หลุดโค้งตกข้างทางหัวทิ่มนอนในกอหญ้า

นครนายก หนุ่มวัย 50 เมาขับจยย.หลุดโค้งตกข้างทางหัวทิ่มนอนในกอหญ้า

หนุ่มวัย 50 ปีช่วยเมียทำอาหารตื่นตี 4 อดนอนเพื่อนชวนไปดื่มเบียร์ที่บ้านเพื่อนขากลับเมาหนักขับรถจักรยานยนต์หลุดโค้งทั้งรถทั้งคนตกลงข้างทางหัวทิ่มมุดอยู่ในก่อหญ้า กู้ภัยฯเข้าช่วยเหลือ

ศูนย์วิทยุสว่างอริยะนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีคนขับรถจักรยานยนต์หลุดโค้งตกข้างทางทั้งคนทั้งรถนอนอยู่ในก่อหญ้า บริเวณโค้งครัวมัจฉา ใกล้ประตูน้ำฝั่งขวา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จึงได้ประสานลูกข่ายสว่างอริยะนครนายกจุดเมืองไปยังที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีขาว ทะเบียน ท ก ษ นครนายก 534 ตกลงไปข้างทางทั้งรถทั้งคนขับ ทราบชื่อต่อมานายนัฐพร ปิติกุลธรรม อายุ 50 ปี อาชีพรับราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก หัวทิ่มลงไปในก่อหญ้าขางทางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอยู่ในอาการมึนเมา กุ้ภัยสว่างอริยะนครนายก เรียกให้ลุกขึ้นมาทำแผล บนข้างถนนก็ไม่ยอมลุกมาบอกว่าจะนอนหลบแดด แต่สภาพที่นอนอยู่หัวทิ่มลงพื้นขาชี้ฟ้าเกรงว่าเลือดจะไหลย้อยลงหัว กู้ภัยสว่างอริยะจึงได้ลงไปพยุงตัวขึ้นมาไว้บนริมถนนและติดต่อญาติมารับตัวต่อไป

จากการให้สัมภาษณ์ของนายนัฐพร ปิติกุลธรรม ชายเมาขับรถจักรยานยนต์ตกข้างทางได้เล่าว่า ตนเองมีอาชีพรับราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก และทุกๆวันตนได้ช่วยภรรยาทำอาหารขายต้องตื่นนอนประมาณ 04.00 น.ต่อมาเพื่อนได้โทรชวนไปหาที่บ้านและได้นั่งดื่มเบียร์จนเมาได้ที่ จึงได้ขอตัวกลับบ้านพักระหว่างทางขับมา ถนนเป็นทางโค้งตนเมาจึงขับรถหลุดโค้งตกลงไปข้างถนนหัวทิ่มอยู่ในก่อหญ้าลุกไม่ไหวเลยนอนอยู่อย่างนั้น กระทั่งมีพลเมืองดีขับรถมาเจอจึงได้โทรแจ้งกู้ภัยสว่างอริยะนครนายกมาช่วยเหลือดังกล่าว

เนรมิต มงคลกิตติกานต์
รัชชานนท์ เนินใหม่
ข่าวจังหวัดนครนายก

ชลบุรี สองตายายขี่รถ จยย.ตระเวณหาข้าวกล่องมาประทังชีวิตช่วงโควิด ถูกเก๋งชนตาดับคาที่ยายสาหัส

ชลบุรี สองตายายขี่รถ จยย.ตระเวณหาข้าวกล่องมาประทังชีวิตช่วงโควิด ถูกเก๋งชนตาดับคาที่ยายสาหัส

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ร.ต.ท.(หญิง)กันตพัฒน์ อุ่นเรืองเกรียติ รอง สารวัตร (สอบสวน)สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิตและเจ็บสาหัสช่วงยูเทิร์นกลับรถ ถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมืองชลบุรี หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต นายสมคิด พันละวงค์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/12 หมู่ 6 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ในสภาพเลือดออกปากและจมูก ศรีษะแตกฉกรรจ์ ใกล้กันพบนางจำปี เผือกผ่อง อายุ 59 ปี ภรรยา อาการสาหัส กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งโรงพยาบาลชลบุรีทันที ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน คมร 234 ชลบุรี ล้มอยู่สภาพพังยับเยิน ข้างรถมีข้าวกล่องตกกระจายเต็มถนน 2 กล่อง คาดว่าน่าจะเอามาจากที่อื่นและกำลังจะไปเอาอีกที่ ในที่เกิดเหตุยังพบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีส้ม ทะเบียน สล 1711 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับกันชนหน้าหลุด

จากการสอบถาม นายอภิชาต ภูถูกเงิน อายุ 24 ปี หลานของผู้เสียชีวิต เล่าว่าตนกับตาและยายได้ขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากบ้านเพื่อไปรับข้าวกล่อง ที่มีผู้ใจบุญเอามาแจกในช่วงโควิดระบาด ซึ่งตนได้ขี่นำหน้า ตากับยายขี่ตามหลัง มาถึงช่วงยูเทิร์นกลับรถ ตนได้ขี่รถออกไปก่อน แล้วตาก็ขี่ตามโดยไม่ทันมองว่ามีรถเก๋งขับมาทางตรง จึงโดนชนเต็มแรง
ด้านนายวีรชน จันทนา อายุ 46 ปี คนขับรถเก๋ง เปิดเผยว่า ตนขับรถเก๋งมาตามปกติ มาถึงที่เกิดเหตุมองเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ย้อนศรตามกันมา พอตนขับมาถึงที่เกิดเหตุ ตากับยายเลี้ยวรถตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ตนเบรกรถทันทีแต่ไม่ทันเพราะระยะใกล้เกินไป ทำให้รถชนกันอย่างแรงดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งและสอบสวนนายวีรชน คนขับรถเก๋งเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

พะเยา  กลางดึก นายก -กำนัน-ผญบ.ชาวบ้านระดมกำลัง ช่วยคนหลงป่า2วัน 2 คืน บนดอยสูง

พะเยา กลางดึก นายก -กำนัน-ผญบ.ชาวบ้านระดมกำลัง ช่วยคนหลงป่า2วัน 2 คืน บนดอยสูง

คืนวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา เวลา 21.30 น.นาย พิจิตร อ้อยลี นายก ทต. ท่าจำปี ตำบลท่าจำปีอำเภอเมืองจังหวัดพะเยาได้รับแจ้งจาก เกษตรกร ชาวสวนว่า ได้มีผู้ บาดเจ็บหลงป่าอยู่บนดอยหลวง ท้ายหมู่บ้านหมู่ 6 ตำบลท่าจำปีอำเภอเมืองจังหวัดพะเยาหลังรับแจ้งพร้อมด้วย นายนพดล สารเก่ง กำนัน ตำบลท่าจำปี นายบรรจบ ค้าไป ผญบ.หมู่ 9 นายอนุชาติ แสวงงาม สท.เขต2 พร้อมด้วยสารวัตรกำนัน ผรส.และชุดกู้ภัยเทศบาลตำบลท่าจำปี ได้พากันเดินเข้าป่าขึ้นบนดอยหลวง ที่สูงชันและมืดค่ำพอไปถึงบนยอดเขากลางป่า นายวรากร (มิ) วงศ์สืบ อายุ 31 ปีบ้านเลขที่ 109 หมู่ 4 ตำบลท่าจำปีอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา นอนกับพื้นในสภาพที่ อ่อนล้าและบาดเจ็บ ที่ขาซ้ายถูกท่อนไม้หักล้มทับ ได้รับบาดเจ็บ ลุกเดินไม่ได้ และไม่ได้กินอะไรเลยมา 2 คืน2วัน

เมื่อนายก ทต.ท่าจำปีไปถึงพบว่านายวรากรหรือ(มิ ) เห็นเจ้าหน้าที่ ก็ดีใจ ที่มีคนมาช่วยเหลือ พร้อมบอกว่าได้เดินเข้าป่าเพื่อหาของป่าเมื่อเช้าวันที่ 28 สิงหาคมและได้หลงป่า และบาดเจ็บที่ขาซ้ายเพราะไม้ท่อนหักล้มทับขาช้าย จนถึงคืนวันที่ 29 สิงหาคม และได้รับบาดเจ็บ ลุกเดินไม่ได้ จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จากผู้ที่ทำไร่ ตามแนวป่าเขาจนมีผู้ได้ยินได้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าวรู้สึกดีใจมาก

หลังจาก พบผู้หลงป่าแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำนำเปล นอน หามผู้บาดเจ็บ เดินลงจากดอย มาถึงที่ พื้นราบชายเขาดอยหลวง ราว 3 ชั่วโมง รีบนำตัวใส่รถ กู้ภัยเทศบาลตำบลท่าจำปีรีบนำส่งโรงพยาบาลพะเยาเพื่อทำการรักษาตัวต่อไป

นายนพดล สารเก่ง กำนันตำบลท่าจำปีเปิดเผยว่าเมื่อ ช่วงหัวค่ำได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือมาจากในป่าจึงแจ้งให้กับ นายพิจิตร อ้อยลี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าจำปี ประสานงานกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมเดินทางเข้าไปบริเวณดอยหลวงซึ่งเป็นดอยสูงชัน เข้าไปตามหาเสียงดังกล่าว ใช้เวลาเดินทางจากตีนเขาขึ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมงพบว่า มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ จากการหกล้มและถูกกิ่งไม้ทับตรวจสอบภายหลัง พบว่าเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จึงให้การช่วยเหลือ และปฐมพยาบาลโดยใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงก่อนจะพาตัวลงมาแล้วไปส่งโรงพยาบาลทั้งนี้จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านายวรากร ได้เข้ามาหาของป่าและเกิดหกล้ม ได้มีกิ่งไม้ไหลมาทับทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนได้จึงร้องขอความช่วยเหลือเป็นเวลา 2วัน 2 คืน สุขภาพร่างกายทั่วไป อ่อนเพลีย เห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าโชคดีที่ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว

พังงา-หวิดสยอง วงจรปิดจับภาพกันสาดพังงาถล่มขณะเจ้าของคลินิกเสริมความงามเดินผ่านเพียง .04วินาที ลูกหมาตามหลังกระโดดหนีทัน

พังงา-หวิดสยอง วงจรปิดจับภาพกันสาดพังงาถล่มขณะเจ้าของคลินิกเสริมความงามเดินผ่านเพียง .04วินาที ลูกหมาตามหลังกระโดดหนีทัน

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 นายธราดล ทองเชื่อม เจ้าของร้านอาหารเดอะบาร์เลย์ เรโทร คาเฟ่ & สเต็ก เลาจน์ เลขที่371/5 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองพังงา ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าได้เกิดเหตุกันสาดหน้าร้านพังถล่มลงมาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ามีเหตุการณ์ที่เกือบจะเป็นเรื่องเศร้าขึ้นได้เพราะก่อนเกิดเหตุ หนุ่มเจ้าของร้านเสริมความงามที่อยู่ติดกันได้เปิดประตูออกจากร้านเสริมความงาม และเดินผ่านมาทางหน้าร้านพอดี และมีสุนัขพันธ์ชิสุเดินตามมา1ตัว พอเดินผ่านกล้องเพียง .04 วินาทีเท่านั้นกันสาดก็พังถล่มลงมา เรียกว่ารอดตายแบบเส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆขณะที่น้องหมาน้อยจตกใจกระโดดหนีได้ทันด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายจริงๆ
นายธราดล ทองเชื่อม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าขณะที่ตนเองอยู่ในห้องนอนชั้นสองได้ยินเสียงดังด้านหน้าร้าน ตอนแรกคิดว่ามีอุบัติเหตุรถชนกัน จึงรีบลงมาดู และพบว่ากันสาดหน้าร้านตนเองและหน้าคลินิกเสริมความงามที่อยู่ติดกันพังถล่มลงมากองอยู่บนพื้น เป็นกันสาดโครงเหล็กมุงเมทัลชีทขนาดกว้าง2.5 เมตร ยาว 10 เมตร น้ำหนักมากกว่า300 กิโลกรัม และได้พบกันเจ้าของคลินิกเสริมความงาม ยืนหน้าซีดเล่าเหตุการณ์อย่างตื่นเต้นว่ากันสาดพังถล่มลงมาเฉียดหน้าเขาเพียง 2 ฟุตเท่านั้น

ทำเอาเขาตกใจขาสั่นจนเดินแทบไม่ไหวเลย และบอกว่าโชคดีที่เดินเร็วเพราะกำลังจะขับรถไปต่างจังหวัด ไม่เช่นกันอาจจะได้รับบาดเจ็บหรืออาจจะถึงแก่ชีวิตก็ได้ เมื่อได้เปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็นนาทีชีวิตจริงๆเมื่อพบว่า เวลา 08.46.34 เจ้าของร้านเสริมความงามเดินผ่านหน้ากล้องไป เวลา08.46.38 กันสาดก็พังถล่มลงมา ขณะที่น้องหมาชิสุที่เดินตามหลังมาก็ตกใจกระโดดหนีได้ทันเช่นกัน เรียกว่าหากเดินช้าเพียงก้าวเดียวน่าจะได้บาดเจ็บไม่มากก็น้อยแน่นอน สำหรับสาเหตุที่กันสาดพังถล่มลงมานั้นน่าจะเกิดจากปัญหาตัวยึดกันสาดที่ทำไม่ได้มาตรฐาน จึงอยากฝากให้เจ้าของบ้านหรือผู้รับจ้างให้เลือกใช้วัสดุที่ดีมีมาตรฐานในการต่อเติมอาคาร

หนุ่มใหญ่วัย 40 ขับกระบะฝ่าสายฝนชนเสาตอม่อสะพานดับคาที่

หนุ่มใหญ่วัย 40 ขับกระบะฝ่าสายฝนชนเสาตอม่อสะพานดับคาที่

เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 28 ส.ค.64 พ.ต.ท.ศิวกร จันทะเมนชัย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีรถชนเสาตอม่อสะพานบนถนนสุขุมวิท กม.ที่ 554 ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 6 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตติดในรถ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี และกู้ภัยไตรคุณธรรม พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฒม 8385 กทม.สภาพด้านหน้าพังยับเป็นเศษเหล็ก ภายในรถมีร่างนายชาญณรงค์ กรุดทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เสียชีวิตคาที่นั่งคนขับ สภาพศรีษะแตกคอหักซี่โครงถูกอัดช่วงล่างติดภายใน กู้ภัยฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างออกใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จึงนำออกมาได้ ตรวจสอบพบเสาตอม่อสะพานมีรอยถูกชนอย่างแรง สอบถามไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ คาดว่าผู้ตายคงรีบจะกลับบ้านท่ามกลางสายฝน ถึงที่เกิดเหตุถนนลื่นรถเสียหลัก พุ่งชนขอบปูนกั้นถนนแล้วพุ่งชนเสาตอม่อเสียชีวิตดังกล่าว
อาสากู้ภัยไตรคุณธรรม ได้ฝากเตือนภัยว่า ช่วงนี้มีฝนตกหนักถนนลื่นขับรถให้ระวังอย่าขับเร็ว หรือหากว่าดื่มเหล้ามามีอาการเมาก็ให้นอนบ้านเพื่อนหายเมาแล้วค่อยกลับจะปลอดภัยกว่า

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

(สระแก้ว) – เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังเมืองสระแก้ว เสียหายจำนวนมาก

(สระแก้ว) – เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังเมืองสระแก้ว เสียหายจำนวนมาก
สระแก้ว – เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้าน”เอกภัณฑ์โฮมมาร์ท” ร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังเมืองสระแก้ว เสียหายจำนวนมาก คาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 21.10 น.วันที่ 27 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ร.ต.ท.(หญิง)เกศรินทร์ วีระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังกลางเมืองสระแก้ว จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองสระแก้วเข้าระงับเหตุ ทราบต่อมาว่าร้านที่่เกิดเหตุชื่อ ร้านเอกภัณฑ์โฮมมาร์ท ตั้งอยู่เลขที่ 66 ถนนสุวรรณศร เทศบาลเมืองสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว มีนายรักษ์ จิระดำเกิง เป็นเจ้าของ โดยเพลิงได้เกิดลุกไหม้บริเวณด้านในของโชว์รูมขายเครื่องสุขภัณฑ์ มีสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ และสี ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยนายรักษ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีเจ้าหน้าที่การไฟ้ฟ้าส่วนภูมิภาคสระแก้ว มาซ่อมหม้อแปลงไฟฟ้าที่บริเวณด้านหน้า หลังเกิดไฟฟ้าดับ 2 ครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ปล่อยกระแสไฟทำให้เกิดเกิดประกายไฟและเพลิงไหม้ที่บริเวณด้านในโชว์รูปทันที

ทั้งนี้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า หลังจากเกิดไฟฟ้าดับและหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯได้มาซ่อมหม้อแปลงไฟ เมื่อต่อไฟเข้าระบบก็เกิดการสปาร์คภายในร้านและเกิดไฟไหม้ คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะนี้ได้เก็บรายละเอียดเบื้องต้นและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจที่เกิดเหตุในช่วงเวลา 10.00 น.วันพรุ่งนี้(28 ส.ค.) เพื่อตรวจหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายตระกูล สุขกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระแก้ว พร้อมรองนายกเทศบาลฯ และนายบุรินทร์ ล่วงเขต ปลัดอำเภอเมืองสระแก้ว ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในช่วงเวลา 21.30 น

…นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว

นครนายก GPSเป็นเหตุ สังเกตได้ หนุ่มขับรถพ่วงดูจีพีเอสขับเข้าตัวเมืองขึ้นเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าหักเสียหาย

นครนายก GPSเป็นเหตุ สังเกตได้ หนุ่มขับรถพ่วงดูจีพีเอสขับเข้าตัวเมืองขึ้นเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าหักเสียหาย

หนุ่มขับรถพ่วง 22 ล้อ ดูจีพีเอสนำทางเข้ามาในตัวเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครนายก ที่มีป้ายพระราชบัญญัติห้ามรถบรรทุกใหญ่ทุกชนิดขับเข้ามาในตัวเมืองนครนายก เกิดเสียหลักขึ้นเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าหักได้รับความเสียหาย

ศูนย์วิทยุเมืองนายกได้รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ขับเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองนครนายก และขึ้นเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าหัก บริเวณเยื้องตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.มงคล โคตรอาสา ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ไปยังที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียน 70 – 1479 ลำพูน ขึ้นเกาะกลางถนนชนเสาไฟฟ้าหลัก ได้รับความเสียหาย กีดขวางการจราจร 1 ช่องทาง ทราบชื่อคนขับคือ นายชัชวาล ศิริจันทร์มา อายุ 40 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการให้สัมภาษณ์ของนายชัชวาล ศิริจันทร์มา คนขับรถพ่วง 22 ล้อ ได้เล่าว่า ตนพึ่งมาขึ้นขับรถพ่วงได้ประมาณ 3 เดือน ได้ขับรถพ่วงไปส่งไม้ที่เมโท และจะขับรถพ่วงกลับไปที่มหาชัยได้เปิดจีพีเอสดูเส้นทางและขับเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองนครนายก โดยไม่รู้ว่ามีป้ายติดประกาศพระราชบัญญัติห้ามรถบรรทุกใหญ่ทุกชนิดขับเข้าตัวเมืองโดยให้ขับเลี่ยงไปที่เส้นถนนบายพาส ตนได้ขับตามจีพีเอสเข้ามาในตัวเมืองนครนายก รถเกิดเสียหลักขึ้นเกาะกลางถนนและชนเสาไฟฟ้าหักได้รับความเสียหายดังกล่าว

จากการให้สัมภาษณ์ ร.ต.อ.นิธิกร ฉิมพาลี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครนายก ได้เล่าว่าเทศบาลเมืองนครนายกได้ออกพระราชบัญญัติ 7 ปี มาแล้ว และติดป้ายประกาศที่แยกเจริญผล และแยกช้าง ว่าห้ามรถบรรทุกใหญ่ตั้งแต่รถ 10 ล้อขึ้นไปห้ามขับเข้ามาในตัวเมืองนครนายก ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ขับเลี่ยงไปที่ถนนเส้นบายพาสตัดใหม่

เนรมิต มงคลกิตติกานต์
รัชชานนท์ เนินใหม่
ข่าวจังหวัดนครนายก

เหลือเชื่อ วิญญาณดลใจให้เพื่อนออกตามหาพบศพหนุ่มโรงงานขี่บิ๊กไบค์แหกโค้งดับมาแล้ว 7 วัน

เหลือเชื่อ วิญญาณดลใจให้เพื่อนออกตามหาพบศพหนุ่มโรงงานขี่บิ๊กไบค์แหกโค้งดับมาแล้ว 7 วัน

เหลือเชื่อ หนุ่มโรงงานเห็นเพื่อนไม่มาทำงานนานเป็นสัปดาห์ ติดต่อไม่ได้ พาแฟนออกตามหาตามบ้านญาติไม่เจอ ลองตามหาอีกครั้งตามเส้นทางที่เพื่อนจะขี่กลับบ้าน จอดรถดูบริเวณโค้งพบเพื่อนกลายเป็นศพ ขี่รถแหกโค้งดับเสียแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเผยได้ยินเสียงหมาหอนและเสียงรถจักรยานยนต์ขี่เข้ามา แต่พอออกไปดูกลับไม่พบอะไร
เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันนี้ ( 25 ส.ค. ) พ.ต.ท.ชูเกียรติ ชูจันทร์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ถูกรถจักรยานยนต์ทับ ในสภาพเน่าอืด ที่บริเวณทางโค้งสนามกอล์ฟบูรพา ถนนสายหนองแขวะขบ่อวิน ม.4 ตำบลบึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.หนองขาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบริเวณทางโค้ง หน้าร้านมาริษา นวดแผนไทย ตรวข้ามสนามกอล์ฟบูรพา พบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังใช้มีดพร้าตัดหญ้าคาที่ท่วมสูงเหนือหัว โดยพบรถจักรยานยนต์คาวาซากิ Z 800 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 5504 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่ในพงหญ้า โดยมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ถูกรถจักรยานยนต์ทับร่างอยู่ โดยมีเท้าขวาโผล่พ้นออกมาจากกองหญ้า ในสภาพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง โดยบนศีรษะยังสวมใส่หมวกกันน็อกอยู่ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน ทราบชื่อในภายหลังคือ นายธีรยุทธ รัตนฤกษ์วงศ์ อายุ 39 ปี ทำงานโรงงานในนิคมอมตะบ่อวิน จากการตรวจสอบเบื้องต้นในบริเวณที่เกิดเหตุพบร่องรอยกองหญ้าล้มเข้ามาเป็นทาง จนถึงจุดพบศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเคลียร์หญ้าคาที่ท่วมสูงออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ บันทึกภาพ โดยมีเพื่อนพนักงานในบริษัทที่ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ด้วย
จากการสอบสวน น.ส.เพ็ญพิชชา อินบัว อายุ 35 ปี เพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทำงานกะกลางคืน พอตอนรุ่งเช้าวันพุธประมาณ 05.45 น.ของวันพุธที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตามปกติ แล้วหลังจากนั้นก็หายไปเลย จนหัวหน้าแผนกและเพื่อนร่วมงานเกิดเอะใจว่านายธีรยุทธหายไปไหน จึงขับรถตามหาในสถานที่ต่าง ๆ ก็ไม่เจอ ที่หอพักก็ไม่มี แต่แฟนเกิดเอะใจ รู้สึกสังหรณ์ว่านายธีรยุทธอาจเกิดอุบัติเหตุขี่รถแหกโค้ง จึงจอดรถแล้วแวะดูบริเวณโค้งดังกล่าว พอลงไปก็ได้กลิ่นเหม็น จึงเข้าไปดู จึงเจอรถจักรยานยนต์ของนายธีรยุทธล้มคว่ำอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ด้านนายชัยทัศน์ เกิดเรือง อายุ 36 ปี ผู้พบศพ เปิดเผยว่า ตนเองก็ติดตามหานายธีรยุทธมาทุกที่แล้ว แต่ก็ไม่พบ จึงย้อนรอยมาตามเส้นทางที่นายธีรยุทธต้องเดินทางกลับบ้านทุกวัน พอดีบังเอิญว่าบริเวณโค้งมีรอยหญ้ายุบเข้าไปเป็นทาง ก็รู้สึกเอะใจ ก็เลยจอดรถเข้ามาดู จึงพบว่านายธีรยุทธเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนเรื่องที่อาจมีวิญญาณนายธีรยุทธมาดลใจนั้น ก็อาจเป็นไปได้ เพราะนายธีรยุทธหายตัวไป 7 วันแล้ว แล้วก็ติดต่อตามสถานพยาบาล สถานีตำรวจ ก็ไม่พบว่ามีชื่อนายธีรยุทธอยู่ ก็คิดว่านายธีนยุทธน่าจะเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใครเห็นแน่ ๆ พอเห็นสภาพเพื่อนแค่รถและขา ก็ใจหายเข่าอ่อนแล้ว
ด้าน น.ส ธิดารัตน์ ถนอมทรัพย์ คนดูแลสถานที่บริเวณที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ปกติตนเองดูแลสถานที่บริเวณนี้อยู่แล้ว และขึ้นไปดูแลบริเวณที่เกิดเหตุอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดสังเกต ตนเองไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรตรงนี้เลย จนมาวันนี้มีเพื่อนพนักงานออกมาตามหามาบอกตนว่ามาตามหาเพื่อน ซึ่งปกติเพื่อนเป็นคนขับรถเร็ว จึงทราบว่ามีรถจักรยานยนต์มาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตตรงนี้ บริเวณทางโค้งพอดี ซึ่งจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เข้าออกตรงจุดนี้ก็ไม่ได้สังเกตอะไร ส่วนเรื่องเหลือเชื่อก็คือ ก่อนหน้านี้สองวัน ตนเองจะพักอยู่ด้านใน ซึ่งทางร้านนวดก็ปิดให้บริการอยู่ พอตกกลางคืน ตนเองได้ยินเสียงสุนัขหอนติดต่อกันมาสองวันแล้ว รวมทั้งได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขี่เข้ามาในห้องพัก พอตนเองเปิดม่านดู ก็ไม่พบรถจักรยานยนต์สักคัน ก็รู้สึกแปลก ๆ พอเช้ามาจึงทราบเรื่อง ก็สงสัยว่าเป็นความเฮี้ยนของผู้ตายหรือเปล่า ที่เจตนาเข้ามาบอกกล่าวให้ตนรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุในบริเวณนี้ ซึ่งก็ครบ 7 วันพอดี ตามความเชื่อ
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในสถานที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่านายธีรยุทธน่าจะขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มาด้วยความเร็ว ก่อนจะแหกโค้งเข้าไปในพงหญ้าแล้วถูกรถรถจักรยานยนต์ซึ่งมีน้ำหนักมากทับร่างอยู่ รวมทั้งยังใส่หมวกกันน็อกอยู่ด้วยจึงไม่สามารถเรียกให้คนอื่นช่วยได้ จึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลแหลมฉบังต่อไป

บุรีรัมย์ สิ้นเสียงหวีดร้องดับสลด!! กล้องหน้ารถชัดกระบะเสียหลักหมุนกลางถนน คนขับกระเด็นดับ

เสียงหวีดร้องก่อนกล้องหน้ารถดับ ระทึกกลางถนน หนุ่ม 46 ปี ขับรถกลับบ้านกลางดึกด้วยความเร็ว เกิดเสียหลักรถหมุนกลางถนน เละทั้งคน คนขับกระเด็นออกจากรถเสียชีวิตคาที่ คาดไปหาเพื่อนต่างอำเภอ แต่กลับดึกอาจจะมีอาการง่วงแล้วหลับใน

วันที่ 23 ส.ค.64 เมื่อเวลา 01.50 น.ของคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมยศ พื้นชัยภูมิ ผกก.สภ.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีรถเกิดอุบัติเหตุขวางอยู่กลางถนน จึงประสาน ร.ต.อ.เดชา บุตรวิเศษ รองสารวัตร(สอบสวน)ให้เร่งเข้าไปตรวจสอบ เพราะเกรงจะมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายพุทไธสง มุ่งไปจังหวัดบุรีรัมย์ หลัก กม.ที่55-56 บริเวณทางโค้งแยกบ้านกระเบื้องนอก ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จุดดังกล่าวเป็นถนน 4 เลน พบรถกระ ยี่ห้อมิตซูบิตชิ สีขาว ทะเบียน บน 9949 พลิกคว่ำอยู่กลางถนน ในสภาพเสียหายยับทั้งคัน

ห่างกันพบศพนายเสทือนฤทธิ์ ฤทธิ์สุรกาญจน์ อายุ 48 ปี อยู่เลขที่ 19/9 ถนนอนุวรรตน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิตในภาพร่างกายถูกกระแทก ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ จากการตรวจสอบโดยรอบ ไม่พบรถคู่กรณี และไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์

เมื่อเจ้าหน้าที่นำกล้องหน้ารถภายในรถมาตรวจสอบ พบว่ารถคันดังกล่าว วิ่งมุ่งหน้าไปทางจังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยความเร็วสูง เปิดเพลงเบาๆ จากนั้นรถคล้ายจะพุ่งไปชนเกาะกลางถนน แล้วคนขับพยายามหักออกมา แต่รถจะลงข้างทาง ก่อนจะได้ยินเสียงหวีดร้องของคนขับ แล้วกล้องดับไป

คาดว่าคนขับจะพยายามหักรถขึ้นไม่ให้ลงถนน แต่รถซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว จึงเกิดแรงเวี่ยงทำให้รถคว่ำหลายตลบอยู่กลางถนน อย่างไรก็ตามตำรวจจะทำการสอบสวนถึงสาเหตุอีกครั้ง คาดว่าผู้ตายอาจจะมาหาเพื่อนที่พุทไธสง แล้วจะกลับบุรีรัมย์ ส่วนสาเหตุที่คนขับกระเด็นออกจากรถเนื่องจากไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

วาทิตย์ แสนธุปี/0957874787

 

ปราจีนบุรี หนุ่ม29ขับรถชนช้างอ่างฤาไนงาหักรถพัง

ปราจีนบุรี หนุ่ม29ขับรถชนช้างอ่างฤาไนงาหักรถพัง

วันที่ 23 สค.64 ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีหะบุตร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนช้างบนถนนสาย359บ้านหว้าเอน ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายจึงประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะนิสสันสีขาวทะเบียน บน 3297สระแก้วสภาพด้านหน้าพังยับมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิง1 รายหน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.ระเบาะไผ่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.ทราบเรื่องเข้ามาให้กำลังใจเจ้าของรถและเป็นตัวแทนมอบงาช้างหักยาว15ซม.ส่งคืนให้กับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์นำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไนต่อไป

นายสุเมธ วุฒิ อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 ต.ไผ่ชะเลือด อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี นายสุเมธเล่าว่าตนกับครอบครัว3คนเดินทางออกจากบ้านเพื่อที่จะไปทำธุระที่จังหวัดสระแก้วเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุไม่ทันเห็นช้างว่ามากี่ตัว จู่ๆขณะที่รถยนต์กำลังวิ่งมาบนถนนได้ยินเสียงโครมด้านหน้าทำให้รถหมุนคว้างเสียหลักลงกลางท้องร่องด้วยความตกใจ จึงรีบร้องหาภรรยาเห็นภรรยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยตามร่างกายจึงโทรแจ้งตำรวจต่อมาหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือจึงพบว่ามีงาช้างที่หักตกอยู่ข้างรถ1ชิ้นรู้สึกใจหายวูบไม่คิดว่ารถจะชนกับช้างที่กำลังข้ามถนนไม่แน่ใจว่าช้างมีกี่ตัวกันแน่ ตนเองขับรถผ่านถนนเส้นนี้มาเกือบ 10 ปีไม่เคยเจอเหตุการณ์ระทึกแบบนี้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกรู้สึกตกใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น