รายงาน : น้อย บางใหญ่
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน
วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 07.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ ขอให้ตำรวจไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.สุริยันต์ เรืองนุ้ย พนักงานสอบสวนเวรได้รายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาท่าฉาง ร่วมเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุริมถนนในซอยอ่าวหมุน 1 บ้านหน้าซึง ม.4 ต.ปากฉลุย ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ รายแรกทราบชื่อคือนายสุนทร อินทร์สุทธิ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 161 ม.4 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง สภาพศพอยู่ในชุดกรีดยางพารา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณใบหน้า และลำตัวเสียชีวิตคาที่
ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นหญิงนอนห่างกันประมาณ 4 เมตรสภาพศพนอนหงายข้างรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง-เทา ป้ายทะเบียน 1 กด 5802 สุราษฎร์ธานี ทราบชื่อคือนางจุเรศ ไมตรีแก้ว อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 151/1 ม.2 ต.เขาถ่าน อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นสามี-ภรรยากัน ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือนายเกียรติศักดิ์ นวลงาม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม. 4 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเพื่อนบ้านของผู้ตาย รายงานข่าวแจ้งว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมาพร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว
สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงทราบว่าผู้ตายทั้งสองเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ชอบช่วยเหลือสังคมเป็นที่รักของเพื่อนบ้านมาตลอด สำหรับชนวนเหตุของฆาตกรรมสยองทราบว่า ก่อนหน้านี้นายเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุได้ชอบพอกับเพื่อนของลูกสาวผู้ตาย ซึ่งอยู่ต่างอำเภอ จนกระทั่งมีการพูดคุยกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และได้หมั้นหมายกันไว้ด้วยทองคำจำนวนหนึ่ง ต่อมาฝ่ายหญิงซึ่งเป็นเพื่อนของลูกผู้ตายได้หนีกลับบ้าน
นายเกียรติศักดิ์ จึงได้ไปตามง้อให้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมกลับ ผู้ก่อเหตุจึงได้ทวงทองคำที่ใช้หมั้นหมายคืนแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนให้ ทำให้นายเกียรติศักดิ์ มาทวงทองคำคืนกับผู้ตายทั้งสอง โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนของลูกซึ่งทางผู้ตายทั้งสองก็ปฏิเสธบอกว่าไม่สามารถรับผิดชอบได้เพราะเป็นเรื่องระหว่างบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับพวกตนทำให้นายเกียรติศักดิ์ สะสมความแค้นไว้ในใจตลอดเวลา เมื่อได้โอกาสในช่วงเช้าขณะที่สองผัวเมียกำลังกรีดยางพารา จึงได้ใช้ปืนลูกซองกระหน่ำยิงจนกระทั่งเสียชีวิตทั้งคู่ดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำพยานแวดล้อม และสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .