google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

อุทัยธานี กลางดึกหนุ่มนักดนตรีควบเก๋งหลุดโค้งข้ามเลนชนทะลุร้านเฟอร์นิเจอร์ ข้ามกำแพงทะลุพังยับห่างเตียงนอนเจ้าของร้าน 2 เมตร นาทีชีวิต!!

เมื่อเวลา 02.45 น.วันที่ 24 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งจากกู้ภัยอุทัยธานี (จุดหนองฉาง) ว่ามีเหตุรถเก๋งเสียหลักหลุดโค้ง วิ่งข้ามเลนมาอีกฝั่ง พุ่งเข้าชนร้านขายของเฟอร์นิเจอร์ ข้ามกำแพงไปชนร้านขายลาดหน้า ทะลุกำแพงปูน ข้าวของเสียหายยับเหยิน มีผู้บาดเจ็บออกมานอนอยู่ที่ริมฟุตบาท หน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ และหน้าร้านลาดหน้า เลขที่ 322/6 หมู่ 5 ริมถนนสายหนองฉาง -ทัพทัน ต.หนองฉาง จ.อุทัยธานี

หลังจากได้รับแจ้ง พ.ต.ต.วันชาติ พูลเขตร์วิทย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองฉาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายชลิต หมู่ 10 บ้านเกาะตาซ้ง ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นนักดนตรี นอนร้องโอดโอย พร้อมกีต้า อยู่ที่ริมฟุตบาต โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าตนเองนั้นไปเล่นดนตรีที่กรุงเทพมา และได้ขับรถยนต์มาจากกรุงเทพ – อุทัยธานี – ทัพทัน และจากทัพทัน – เข้าอำเภอหนองฉาง พอมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ได้มีหมาวิ่งตัดหน้ารถยนต์กระทันหัน ซึ่งตนเองได้ขับมาด้วยความเร็วสูงจึงหักหลบ ทำให้รถเสียหลักวิ่งข้ามเลนมาอีกฝัง รถยนต์ได้วิ่งขึ้นฟุตบาท วิ่งเข้าชนร้านค้าทั้ง 2 ร้าน ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ และคานออกมาจากรถยนต์มานอนที่ริมฟุตบาทดังกล่าว

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนน พบว่ามีรอยล้อรถยนต์นั้นหักหลบข้ามฝังมา และได้วิ่งขึ้นฟุตบาท และได้เฉี่ยวเสาไฟแรงสูงไปนิดเดียวมีร่องรอยหลังจากนั้นรถยนต์ได้วิ่งเข้าไปภายในร้านทั้ง 2 ร้าน พบว่าที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ ได้มีเสาไม้หลังคาหัก อุปกรณ์ เช่นโต๊ะพับ ตู้กระจก และ อื่น ๆ ได้รับความเสียหาย และร้านลาดหน้า ภายในรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส ทะเบียน ก ค 5867 อุทัยธานี ถุงลมนิรภัยทั้ง 2 ด้านหน้ารถยนต์ได้ทำงาน ในสภาพวิ่งชนทะลุกำแพงไปอีกฝังหนึ่งของตึกเลขที่ 32 ซึ่งเป็นของอำพันธุ์ โพธิ์ยานนท์ ส่วนข้าวของภายในร้านลาดหน้านั้น เช่นโต๊ะกลาง โต๊ะนั่งกิน ตู้น้ำแข็ง ตู้แช่ ถังแก๊สจำนวน 3 ใบ ถ้วยชาม และอื่น ๆ เสียหายหมดทั้งร้าน ซึ่งห่างจากที่นอนเจ้าของร้านเพียง 2 เมตร เท่านั้น

จากการสอบถามนางสุรัตน์ เลิศบุรุษ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านลาดหน้า ให้การว่าตนเองพร้อมด้วยสามี และหลานอีก 2คัน ได้นอนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้นตนเองได้ตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ และออกจากห้องมา พอเข้าที่นอน ก็ได้ยินเสียงดังโครมอย่างแรง ในร้านควันกลบเต็มร้าน ใจตนเอง เต้นเสียงตึ๊บๆ และสั่น ตนเองและสามีก็รีบออกมาดู เห็นคนขับคานออกมาจากรถยนต์ และตนเองก็สอบถามคนขับว่าเข้ามาชนได้อย่างไร คนขับอกว่าหมาตัดหน้า และดูอาการก็ไม่เมา หลังจากนั้นได้มีเพื่อนออกมาดู และแจ้งกู้ภัยให้มารับคนเจ็บส่งโรงพยาบาลหนองฉาง

สำเนา ทองศรี รายงาน

ปราจีน ช่วยระทึกลุงวัย 73 ติดถังน้ำสูง 3 เมตรกำลังจะขาดอากาศหายใจ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 กันยายน 66 เจ้าหน้าที่และอาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (กบินทร์บุรี) และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกบินทร์บุรี รับแจ้งมีชายสูงอายุตกลงไปในน้ำสูงประมาณ 3 เมตร กำลังจะขาดอากาศหายใจหมดสติ เหตุเกิดที่วัดเขาลูกช้าง ม. 5 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบ

พบชายสูงอายุอยู่ตกลงไปในถังน้ำพลาสติก 2,000 ลิตร สีน้ำเงิน สูงประมาณ 3 เมตรร้องขอความช่วยเหลือเพราะภายในถังไม่มีอากาศหายใจ และกำลังจะหมดสติทำให้พระสงฆ์รวมทั้งแม่ชีที่อยู่ในวัดอยู่ในอาการตกใจเพื่อรอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุได้ช่วยกันตระแครงถังน้ำเพื่อช่วยเหลือคุณลุงนำร่างคุณลุงออกจากถังน้ำอย่างทุลักทุเลเพราะปากถังน้ำมันแคบ ทราบชื่อคือคุณลุงนิรันดร์ จูวัตร อายุ 73 ปี ใช้เวลานานกว่า 10 นาที จึงนำร่างคุณออกจากถังน้ำได้สำเร็จ ในสภาพตัวและใบหน้าซีดอิดโรย หมดแรง และมีอาการจะอาเจียนเพราะขาดอากาศหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.กบินทร์บุรี มาถึงที่เกิดเหตุได้ประเมินอาการและปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรีเพื่อ ตรวจเช็คร่างกาย

 

ด้านพระพัสกร ปัญญาะโร พระลูกวัดเข้าลูกช้าง กล่าวว่า คุณลุงแกลงไปในน้ำเพื่อซ่อมถังที่มันรั่ว ตอนแกลงไปนั้นไม่มีใครเห็น คาดว่าแกจะลงไปในถังประมาณ 3โมงครึ่ง มาเจออีกทีประมาณ 10 โมงนี่มันก็ 11 โมงแล้ว ขณะนั้นอาตมาจะไปดูเรื่องอาหารฉันเพลที่บนศาลา ขณะที่เดินมาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็มองไม่เห็นตัวจึงถามว่าอยู่ตรงไหนคุณบอกว่าอยู่ในถังน้ำขึ้นไม่ได้ จึงโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยคุณออกมาจากถังน้ำถ้าช้ากว่านี้คุณลุงคงขาดอากาศหายใจ โชคดีที่มาเจอเสียก่อนจึงรอดตายอย่างหวุดหวิดดังกล่าว

ปราจีนบุรี เกิดเหตุระทึก!! ห้องควบคุม control ไฟฟ้า NPS ระเบิด

เกิดเหตุระทึกสร้างความหวาดวิตกให้กับพนักงาน และชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอนู่ใกล้เคียง โรงไฟฟ้า NPS ที่เคนยเป็นข่าวดัง แท่ง ซีเซี่ยม หายยังคาใจชาวบ้านไม่ทันจาง

เที่ยงวันที่ 22 กันยายน 2566 เกิดเหตุหม้อแปลง ในโรงงานผลิตไฟฟ้า NPS ในนิคมอุตสาหกรรม 304 บ้านบุยายใบ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยไม่ทราบสาเหตุ การระเบิดเกิดเสียงดังและมีควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดูน่ากลัวสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็นรวมทั้งพนักงานที่ทำงานอยู่ในเวลานั้นต่างหนีเอาตัวรอดเพราะไม่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ เนื่องจาก โรงงานนี้เป็นโรงงานไฟฟ้า NPS ที่เคยเป็นข่าวดัง แท่ง ซีเซี่ยม หายจนถึงขณะนี้เก็ยังเป็นที่คาใจของประชาชนและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง

ส่วนส่าเหตุของการระยิดของ หม้อแปลงในครั้งนิ เบื้อแงต้นค่าดว่า น่าจะเกอิดจากไฟฟ้าไหลย้อนกลับทำให้หม้อแปลงขนาดใหญ่ไม่สามารถรับไฟได้จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงสร้างความตื่นตระหนก ล่าสุดทาง เจ้าหน่าที่ของโรงไฟฟ้าและดับเพลิงใกล้เคียงสามารถควบคุมไฟที่ลุกไหม้ไว้ได้แล้วเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีใครได้รับอันตรายหรือไม่

ศรีสะเกษ มือปืนโหดกระหน่ำ 3 วัยรุ่น ดับ 1 เจ็บสาหัส 2 ราย

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 04.30 น. ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวร สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า มีการใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณถนนรอบเมืองใต้ ข้างวัดเลียบบูรพาราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดปราบปราม สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถ จยย.คันหนึ่งยี่ห้อยามาฮ่าสีแดงขาวล้มตะแคงอยู่ข้างถนนใกล้กันพบว่ามีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนจำนวน 3 ราย โดยมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย พบปลอกกระสุนปืนเกลื่อนบริเวณเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้รีบนำผู้บาดเจ็บส่งไปยังรพ.ศรีสะเกษ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตชื่อ นายศุภโชค อายุ 18 ปี อยู่บ้านโพนปลัด อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 2 รายชื่อ นายไอซ์ (นามสมมุติ ) ชาวบ้านโพนปลัด อ.ไพรบึง เช่นกัน และนายวีระชัย(นามสมมุติ) โดยก่อนเกิดเหตุ มีรถเก๋งสีดำขี่เข้ามาเบียดประกบรถ จยย.ที่ผู้ถูกยิงทั้ง 3 คนขับขี่ซ้อนท้ายกันมา ทำให้รถ จยย.ล้มลง ต่อมามีรถ จยย.ตามมา และได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ลงมารุมทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต โดยมีชายคนหนึ่งในกลุ่มที่ขับขี่รถ จยย.ตามมาได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิงใส่ชายวัยรุ่นทั้ง 3 คนประมาณ 8 นัด กระสุนปืนถูก นายศุภโชค ที่บริเวณหน้าอก และแขนซ้าย เสียชีวิต ส่วนนายไอซ์ ถูกยิงเข้าที่บริเวณใต้ราวนมซ้ายและนายวีระชัย ถูกยิงชายโครงซ้าย ข้อมือซ้ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง ร.ต.อ.หญิงยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวร สภ.เมืองศรีสะเกษ จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการยิงกันเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิง 6 นัดญาติหนุ่มพนักงานขายน้ำอัดลมยี่ห้อดังสาหัส

ศรีสะเกษ หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิง 6 นัดญาติหนุ่มพนักงานขายน้ำอัดลมยี่ห้อดังสาหัส ขณะที่แม่ยายใจเด็ดกระโดดขวางหลานชายไม่ให้ยิงลูกเขยที่โดนยิงฟุบในบ้าน

เมื่อเวลา 20.35 น.วันที่ 19 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดปราบปราม สภ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีชาวบ้านพากันมามุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานได้นำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ขณะที่มือปืนรายนี้ถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านโพนค้อและชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ที่บริเวณประตูกระจกบ้านที่เกิดเหตุมีรอยกระสุนปืน จำนวน 2 นัด ทำให้กระจกแตกเป็นรู บริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด กระจายเกลื่อนพื้น ส่วนปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานแล้ว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุทิน อายุ 41 ปี เป็นพนักงานขายน้ำอัดลมชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง และเป็นลูกเขยของนางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายวีระภาพ หรือทีม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 ของสถาบันอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ
นางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการที่ยังไม่หายจากความตื่นเต้นตกใจว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงนายวีระภาพ ซึ่งเป็นหลานชายของตน ได้ตะโกนร้องเรียกนายสุทิน ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ขณะนั้นนายสุทินกำลังนั่งอยู่กับ น.ส.พัชราภรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา และกำลังนั่งทำขนมเพื่อเอาไปขาย แต่ว่านายสุทินไม่ได้เดินออกไป ปรากฏว่านายวีระภาพซึ่งขณะนั้นกำลังมีอาการหลอนยา เนื่องจากสูบกัญชาอย่างหนักเป็นประจำทุกวัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงจากหน้าบ้านเข้ามาใส่นายสุทิน จำนวน 6 นัด โดยกระสุนปืนยิงถูกนายสุทินบริเวณหลังด้านขวา 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด นายสุทินได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปด้านหลังบ้านและล้มลง ตนเห็นเช่นนั้นจึงได้วิ่งเข้าไปขวางกั้นร่างของนายสุทินที่ล้มฟุบอยู่กับพื้นบ้านเอาไว้ และร้องห้ามไม่ให้นายวีระภาพใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาอีก ขณะนั้นนายวีระภาพก็จะปีนหน้าต่างเข้ามายิงอีก แต่ว่ามีญาติพี่น้องมาช่วยกันห้ามเอาไว้ และผู้ใหญ่บ้านได้มายึดเอาปืนไว้ ญาติพี่น้องได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งได้แจ้งให้รถกู้ภัยมารีบนำตัวของนายสุทินที่ถูกยิง 3 นัด ส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งอาการล่าสุดจากการที่ตนได้โทรศัพท์สอบถาม น.ส.พัชราภรณ์ ลูกสาวของตนที่ไปกับรถกู้ภัยแล้ว แจ้งว่า นายสุทินอาการสาหัส แพทย์กำลังทำการผ่าตัด เพื่อทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว

นายวีระภาพ มือปืนรายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนคุยกับนายสุทินเรื่องที่นายสุทินอยากซื้อปืน โดยนายสุทิน บอกกับตนว่าต้องการซื้อปืนขนาด .22 ซึ่งตนก็บอกไปว่าปืนอะไรก็ยิงคนตายเหมือนกัน และตนคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน ตนจึงได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 ที่พกติดตัวอยู่ ซึ่งซื้อมาจากเฟสบุ๊คในราคา 10,000 บาทเศษ กระหน่ำยิง 6 นัด เข้าไปใส่นายสุทิน และกระสุนปืนถูกนายสุทิน 3 นัด ตนยอมรับว่าตนสูบกัญชาหนักมาก และมีอาการหลอนกัญชา และคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน จึงได้ใช้ปืนของตัวเองยิงใส่นายสุทินก่อน

ทางด้าน นางสถาพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ของนายวีระภาพ มือปืนโหดรายนี้ กล่าวว่า นายสุทินซึ่งเป็นหลานเขยของตน จะรักนายวีระภาพลูกชายของตนมาก และมักจะพากันไปตกปลาเป็นประจำ แต่ว่านายวีระภาพจะสูบกัญชาหนักมาก เคยนำตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยาที่ จ.อุบลราชธานี แต่ว่าอาการติดยายังไม่หายขาด โดยขณะเกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาเห็นตอนช่วงที่นายวีระภาพลูกชายของตนใช้อาวุธปืนยิงใส่นายสุทินหลานเขยของตนจนล้มฟุบจมกองเลือดแล้ว ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอาการหลอนยาเสพติดของนายวีระภาพลูกชายของตนที่กลัวว่านายสุทินจะมาฆ่านั่นเอง

ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและจะได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายวีระภาพ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งได้ให้การรับสารภาพแล้ว ส่วนจะตั้งข้อหาใดบ้างนั้น ตนจะต้องสรุปรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแล้วจึงจะตั้งข้อกล่าวหากับนายวีระภาพต่อไป

ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

อุทัยธานี หนุ่มใหญ่เมาขับฉลองวันเกิดมา ชนท้ายรถกระบะ โดรนราคาสี่แสนกว่าบาทร่วงตกกลางถนนเสียหาย ชาวบ้านแห่มาดูคิดว่าตกมาจากฟ้า

เมื่อเวลา 13.00น.ของวันที่ 18 กันยายน 2566 สถานีตำรวจภูธรรลาสักได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีรถกระบะ ชนท้ายรถกระบะบรรทุกโดรนมาที่ท้ายรถ ตกกลางถนนเสียหาย ถนนสายลานสัก-หนองฉาง ช่วงสามแยกทางเข้าบ้านห้วยโศก หมู่ 2 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ได้รับแจ้ง พ.ต.ท.กิตติ สุขวงษ์คำ สารวัตรเวร สภ.ลานสัก รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านยืนมุงดูอยู่บริเวณขอบถนน พบรถกระบะสีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 8751 จอดเสียหลักอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห่างประมาณ 3 เมตร พบโดรนพ่นยาการเกษตร ล่วงตกลงมาเสียหาย ห่างไปอีกด้านหน้า พบรถกระบะสีเทาน้ำเงินบรรทุกเครื่องมือการเกษตรมาเต็มท้ายรถ หมายเลขทะเบียน บบ 9212 นครสวรรค์ ที่ถูกชนท้าย สภาพด้านหลังและด้านข้างยุบ

จากการสอบถามคนขับรถกระบะคันดำที่ขับชนท้าย ชื่อนายสรวิชญ์ อายุ 47 ปี ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี อยู่ในอาการสะลึมสะลือค่อนข้าเมาอยู่ ให้การว่าตนเองพึ่งฉลองงานวันเกิดมา โดยมีการสังสรรค์ดื่มเหล้าขาวมาจากบ้านแล้ว ระหว่างนั้นตนเองก็อยากจะขับรถกระบะคันดังกล่าวไปเยี่ยมหาพ่อแม่ในต่างพื้นที่ พอมาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนถึงสามแยกทางเข้าบ้านห้วยโศก จังหวะนั้นตนเองบังคับรถไม่อยู่ ได้พุ้งเข้าชนท้ายรถกระบะอีกคันที่จอดรอเลี้ยวขวาช่วงทางแยก จนโดรนที่บรรทุกท้ายรถกระบะอีกคัน ตกล่วงลงมาอยู่กลางถนน พร้อมกับบอกว่าตนเองยอมรับในครั้งนี้ ว่าพึ่งกินเหล้าในงานวันเกิดมาด้วยในครั้งนี้

ล่าสุดได้สอบถามนายธนมล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโดรน มาพร้อมกับคนขับชื่อนายบุญหลาย อายุ 32 ปี ได้เปิดเผยว่าตนเองได้ว่าจ้างให้ไปพ่นยาข้าวโพด ที่บ้านห้วยโศก ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยขับรถกระบะ กันมา 2 คน พร้อมกับบรรทุกโดรนพ่นยาเครื่องมือการเกษตรมาที่ท้ายรถ พอมาถึงช่วงสามแยกบ้านห้วยโศก ตนเองก็เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะเลี้ยวเข้าทางแยก ระหว่างที่รอรถอีกเลนหนึ่งวิ่งจนหมดคัน ตนเองถึงจะได้เลี้ยวขวาได้ จังหวะนั้นก็มีรถกระบะดำคันดังกล่าว วิ่งตามหลังเบรคเสียงดังมาแต่ไกลพุ้งชนเข้าที่ท้ายรถตนเองที่กำลังตีไฟเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าทางแยกเข้าอย่างจัง จนทำให้รถของตนเองกระเด็นไปข้างหน้า พร้อมกับโดรนเครื่องมือการเกษตรที่บรรทุกมาด้วย ตกล่วงมาที่กลางถนน ในราคาสี่แสนกว่าบาท ได้รับความเสียหาย จนไม่ได้ไปรับจ้างพ่นยาข้าวโพด ให้กับผู้ว่าจ้าง

ทั้งนี้ อยู่ระหว่าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรเวร สภ.ลานสัก จะเรียกผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวที่ชนท้ายกับรถกระบะคู่กรณี ที่เสียหาย มาตกลงเจรจาค่าเสียหายและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

สำเนา ทองศรี รายงาน

อุทัยธานี ไฟไหม้บ้านหลังยาย 86 ปี นอนป่วย อยู่บ้านเพียงลำพัง เพื่อนบ้านมาช่วยได้ทัน แปลกรูปพระเจ้าอยู่หัวไม่ถูกไฟไหม้

เมื่อเวลา 11.00.น.ของวันที่ 14 กันยายน 2566 นายจักรกริศน์ ทิพย์รังษี นายกอบต.เขากวางทอง ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านที่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ 6 ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ประสานไปยังจ่าสิบเอก รังสรรค์ ทิพวรรณ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอบต.เขากวางทอง รีบประสานรถน้ำดับเพลิง อบต.เขากวางทอง อบต.หนองสระ อบต.ทุ่งโพ และอบต.หนองฉาง และเทศบาลหนองฉาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรีบรุดมาช่วยเหลือ นำรถน้ำดับเพลิงมาช่วยกันดับเพลิงจนสงบลง พร้อมกับชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือยายที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ออกมาอย่างปลอดภัย ด้วยอาการตกใจ

สาเหตุ ในครั้งนี้ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนข้าวของภายในบ้าน ทีวี เครื่องใช้ไฟไฟฟ้า ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่น่าแปลก รูปของพระเจ้าอยู่หัวไม่ถูกไฟแม้แต่นิดเดียว

ทราบต่อมาว่ายายอายุ 86 ปี ที่นอนป่วยอยู่บ้านเพียงลำพัง ชื่อนางธัมมา จันทพันธ์ อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 ม.6 ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยด้วยอาการอย่างตกใจ พร้อมกับยังเจ็บหัวใจแปลบๆ ว่าขณะนั้นตัวยายเองหลับอยู่ภายในห้องนอนอีกห้องหนึ่ง โดยไม่ทราบว่าเกิดไฟไหม้ และไม่ได้กลิ่น จนมีเพื่อนบ้านมาเรียกให้กินข้าว จึงได้เดินออกมาที่หน้าห้อง จากการสอบถามเพื่อนบ้านชื่อนางพร อายุ 61 ปี ได้เข้ามาเรียกยาย พร้อมกับบอกยายว่าภายในบ้านได้จุดเผายางอะไรไหม ได้กลิ่นควันไฟแรงมาก จนกระทั่งเห็นควันไฟลอยออกมาจากในห้องซึ่งติดกับห้องของคุณยาย พร้อมตะโกนเรียกชาวบ้านใกล้เรือนเคียงตักน้ำมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่มายังที่เกิดเหตุ

สำเนา ทองศรี รายงาน

นครนายก ชายชรา 73 ปีขี่จยย.ตกไหล่ทางชนทางกั้นข้างทางบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

กู้ภัยร่วมกตัญญูเร่งช่วยชีวิตชายวัย 73 ปี ที่กำลังไปซื้อหมูปิ้งที่ตลาด แต่มาประสบเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตกร่องข้างทาง ลำตัวถูกกั้นชนข้างทางบาดสาหัสหมดสติและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

06.40 น. ศูนย์สั่งการได้รับแจ้งมีชายสูงอายุประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มริมถนนสายรังสิต – นครนายก ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครนายก ตรงข้ามตลาดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองนครนายก เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้ประสบเหตุทราบชื่อนายมนตรี เผ่าดี 73 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองนครนายก นอนหมดสติ มีเลือดไหลออกจากลำตัวเป็นจำนวนมาก ไม่พบสัญญาณชีพ จึงได้ทำการCPR แต่ไม่เป็นผล นายมนตรี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ใกล้กับร่างนายมนตรี พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีดำ หมายเลขทะเบียน1 กก 624 นครนายก ล้มตะแครงข้างซ้ายเบาะเปิดออก มีรอยเลือดเป็นทางยาวบนที่กั้นกันชนขอบทาง

นายอภิภิวัฒน์ แก้วหิงสา อาสากู้ภัยร่วมกตัญญู บอกว่า ตอนช่วงเกิดเหตุมีฝนตกปรอยๆ ตอนนั้นผู้ประสบเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้าไปตัวเมืองนครนายกเพื่อซื้อหมูปิ้ง จนกระทั้งถึงที่เกิดเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์บอกว่า ผู้ประสบเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตกไหล่ทางก่อนที่ด้านซ้ายของลำตัว ขนและใต้รักแร้ไปโดนกับกั้นชนไหล่ทางจนถูกบาดสาหัสทำให้เกิดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ เมื่อตนมาถึงผู้ประสบเหตุหมดสติ จึงได้ทำการCPR ด้านตำรวจและแพทย์ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนส่งศพไปผ่าชันสูตรที่รพ.มศว องครักษ์

สมบัติ เนินใหม่// นครนายก

รถบรรทุกหมูเสียหลักพลิกคว่ำ ทำหมูกระเด็นตกถนนบาดเจ็บระนาวเดินเพ่นพ่านเต็มถนนในป่า

อุทัยธานี -เช้ามืดรถบรรทุกหมูเสียหลักพลิกคว่ำ ทำหมูกระเด็นตกถนนบาดเจ็บระนาวเดินเพ่นพ่านเต็มถนนในป่า

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 12 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกหมูพลิกคว่ำบริเวณถนนสายทัพทัน – หนองฉาง หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอุทัยธานี (จุดหนองฉาง)

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อทะเบียน 70-4562 ลพบุรี พลิกตะแคงอยู่ริมถนนชายป่ามีหมูติด อยู่ที่ซากรถบรรทุก และมีหมูที่ได้รับบาดเจ็บกระเด็นออกมานอกรถจำนวนมากเดินเพ่นพ่าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันป้องกันไม่ให้หมูเดินขึ้นบนถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

จากการสอบถามนายชัยพิพัตน์ แก้วหล้า อายุ 40 ปี ตนเองได้ทำการขับรถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าว เคลื่อนย้ายหมูออกจากฟาร์มที่อำเภอทัพทัน เมื่อช่วงเช้ามืด เพื่อนำหมูไปส่งโรงชำแหละจังหวัดนครปฐม ซึ่งระหว่างทางที่ขับมา ได้เกิดฝนตก ในระหว่างนั้นมีรถตามหลังมา ซึ่งเข้าจะแซงขึ้นมา ตนเองก็เบี่ยงรถ แต่ล้อด้านซ้ายตกลงไปทีป่าหญ้าข้างถนน ทำให้รถเสียหลักหักพวงมาลัยรถไม่ขึ้นถนน จึงชนเสาไฟฟ้าส่องสว่าง และหลักลายข้างทางทำให้รถพลิกคว่ำดังกล่าว ซึ่งช่วงนี้ได้ติดต่อประกันภัยรถยนต์มาตรวจสอบความเสียหาย

ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจึงได้ทำการยกรถและเคลื่อนย้ายหมูออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนทางเจ้าของหมูได้นำรถคันใหม่มาถ่ายเทหมูไปส่งโรงชำแหละต่อ

สำเนา ทองศรี รายงาน
เสียงสัมภาษณ์นายชัยพิพัฒน์ คนขับรถหมู

อุทัยธานี บ้านไฟไหม้ทั้งหลัง!! ภรรยาเป็นลม สามีลั่นก่อนเกิดเหตุได้เปลี่ยนถังแก๊ส หลังใช้ให้หลานมาเปลี่ยนถังแก๊สแล้วไขไม่แน่น

อุทัยธานี บ้านไฟไหม้ทั้งหลัง!! ภรรยาเป็นลม สามีลั่นก่อนเกิดเหตุได้เปลี่ยนถังแก๊ส หลังใช้ให้หลานมาเปลี่ยนถังแก๊สแล้วไขไม่แน่น สาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อเวลา 20.30.น.ของวันที่ 09 กันยายน 2566 สถานีตำรวจภูธรลานสักได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บริเวณบ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 บ้านทุ่งนางาม ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้ง จนท.ตำรวจสายตรวจทุ่งนางาม พร้อมนายกอบต.ทุ่งนางาม รีบรุดประสานไปยังรถน้ำดับเพลิงอบต.ทุ่งนางาม อบต.เขากวางทอง อบต.ทุ่งโพ อบต.ประดู่ยืน มายังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้หลังใหญ่ไฟไหม้กำลังลุกโหมอย่างแรง จนท.หลายหน่วยงานเร่งช่วยกันดับไฟ ใช้เวลาโดยประมาณ 1 ชั่วโมง-2 ชั่วโมง กว่าไฟจะค่อยสงบลง ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านได้ช่วยเหลือนำภรรยาของเจ้าของบ้าน นำส่งรพ.ลานสักเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากอยู่ในสภาวะตกใจ อิดโรยเป็นลมทั้งยืน

เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง พบข้าวของภายในบ้าน หลายอย่างถูกไฟไหม้จนหมดเกลี้ยง เนื่องจากไฟได้ไหม้ลุกโหมอย่างแรง จนเอาไม่อยู่ พร้อมกับพรุ้งนี้เช้าทางเจ้าของบ้านจะประเมินค่าเสียหายภายในบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องจะมาช่วยเหลือเจ้าของบ้านในเบื้องต้น

จากการสอบถามนายสำเนา อินสละ อายุ 68 ปี ได้เปิดเผยว่า ตนเองกับภรรยาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ขณะนั้นช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ตนเองได้ใช้ให้หลานมาเปลี่ยนถังแก๊สหุงต้มที่บ้านหลังเกิดเหตุให้ คาดว่าหลานน่าจะขันหัวแก๊สไม่แน่น หลังจากนั้นตนเองไปดูพร้อมกับไปขันใหม่ให้แน่น แล้วก็มาลองเปิดถังแก๊ส แล้วสักพักก็บึ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนเองก็ได้ใช้ผ้าชุบน้ำมาโป๊ะถังแก๊สที่ไฟกำลังลุกไหม้ แต่เอาไม่อยู่ ไฟได้ไหม้ลามอย่างรวดเร็ว ตนเองพร้อมภรรยาได้วิ่งหนีออกมาจากที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งจนท.ว่าไฟไหม้บ้านดังกล่าว

สำเนา ทองศรี รายงาน

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com