นครนายก – กล้องวงจรปิด สี่แยกวัดใจกระบะชนท้ายรถขนวัวเจ็บสาหัส

นครนายก – กล้องวงจรปิด สี่แยกวัดใจกระบะชนท้ายรถขนวัวเจ็บสาหัส

นครนายก – กล้องวงจรปิด สี่แยกวัดใจกระบะชนท้ายรถขนวัวเจ็บสาหัส

อุบัติเหตุซ้ำซาก ปัญหาที่แก้ไม่เคยจบ สี่แยกวัดใจสะพานกำนันชรา เกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนรถบรรทุกวัว เสียหลักพลิกตะแครงข้าง วัวตกลงจากรถได้บาดเจ็บสาหัสลุกเดินไม่ได้

เมื่อเวลา 09.32 น.ของวันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่แยกกำนันชรา ตำบลวังกระโจม อำเภอเมืองนครนายก เกิดเหตุรถกระบะนิสสัน นาวารา สีขาวหมายเลขทะเบียน 2ฒอ 5052 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนท้าย กระบะรถนิสสัน สีบอร์นทองดัดแปลงกระบะเป็นคอกขนย้ายวัว หมายเลขทะเบียน บบ 3311 สระแก้ว กลางสี่แยก เป็นเหตุให้รถกระบะขนวัวพลิกตะแครงข้าง วัวที่บรรทุกมาตกจากรถ 5 ตัว มี 3 ตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถลุกเดินได้ ส่วนสภาพรถกระบะนิสสัน นาวารา สภาพหน้ารถพังเสียหาย กันชนหลุด
นางสาวนา อินทรศร เจ้าของรถกระบะสีขาว บอกว่า ตนและสามีกำลังขับรถเข้าตลาดตัวเมืองนครนายก เมื่อมาถึงแยกตนเห็นรถบรรทุกวัวขับมาจากทางฝั่งขวาด้วยความเร็วพอสมควร เมื่อมาเจอกันตรงกลางแยกรถกระบะคันสีขาวได้เบรกรถก่อนจึงได้ชนที่ท้ายกระบะรถบรรทุกวัว

นายณรงค์ ประทาย อายุ 62 ปี คนขับรถบรรทุกวัว บอกว่า ตนขับรถมาจากจังหวัดปราจีนบุรีเอาวัวไปส่งฟาร์มที่จังหวัดลพบุรี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นทางแยก ตอนนั้นตนขับรถไม่เร็ว แต่รถกระบะคู่กรณีไม่เบรกให้ตนเลย ซึ่งตนรู้ว่าตรงนี้เป็นทางร่วมทางแยกตนก็ระวัง แต่เมื่อมาถึงแยกกระชั้นชิดตนไม่สามารถควบคุมรถได้ จนกระทั้งถูกรถกระบะคู่กรณีชนท้ายรถ ทำให้วัวที่ตนขนมาบาดเจ็บลุกขึ้นไม่ได้

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

นครนายก กล้องวงจรปิด สี่แยกวัดใจกระบะชนท้ายรถขนวัวเจ็บสาหัส

อุบัติเหตุซ้ำซาก ปัญหาที่แก้ไม่เคยจบ สี่แยกวัดใจสะพานกำนันชรา เกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนรถบรรทุกวัว เสียหลักพลิกตะแครงข้าง วัวตกลงจากรถได้บาดเจ็บสาหัสลุกเดินไม่ได้

เมื่อเวลา 09.32 น.ของวันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่แยกกำนันชรา ตำบลวังกระโจม อำเภอเมืองนครนายก เกิดเหตุรถกระบะนิสสัน นาวารา สีขาวหมายเลขทะเบียน 2ฒอ 5052 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนท้าย กระบะรถนิสสัน สีบอร์นทองดัดแปลงกระบะเป็นคอกขนย้ายวัว หมายเลขทะเบียน บบ 3311 สระแก้ว กลางสี่แยก เป็นเหตุให้รถกระบะขนวัวพลิกตะแครงข้าง วัวที่บรรทุกมาตกจากรถ 5 ตัว มี 3 ตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถลุกเดินได้ ส่วนสภาพรถกระบะนิสสัน นาวารา สภาพหน้ารถพังเสียหาย กันชนหลุด

 

นางสาวนา อินทรศร เจ้าของรถกระบะสีขาว บอกว่า ตนและสามีกำลังขับรถเข้าตลาดตัวเมืองนครนายก เมื่อมาถึงแยกตนเห็นรถบรรทุกวัวขับมาจากทางฝั่งขวาด้วยความเร็วพอสมควร เมื่อมาเจอกันตรงกลางแยกรถกระบะคันสีขาวได้เบรกรถก่อนจึงได้ชนที่ท้ายกระบะรถบรรทุกวัว

 

นายณรงค์ ประทาย อายุ 62 ปี คนขับรถบรรทุกวัว บอกว่า ตนขับรถมาจากจังหวัดปราจีนบุรีเอาวัวไปส่งฟาร์มที่จังหวัดลพบุรี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นทางแยก ตอนนั้นตนขับรถไม่เร็ว แต่รถกระบะคู่กรณีไม่เบรกให้ตนเลย ซึ่งตนรู้ว่าตรงนี้เป็นทางร่วมทางแยกตนก็ระวัง แต่เมื่อมาถึงแยกกระชั้นชิดตนไม่สามารถควบคุมรถได้ จนกระทั้งถูกรถกระบะคู่กรณีชนท้ายรถ ทำให้วัวที่ตนขนมาบาดเจ็บลุกขึ้นไม่ได้

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ยะลาโดนฤทธิ์พายุฝนถล่มบ้านเรือนเสียหาย ต้นสนกว่า 40 ปีหักโค่น โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต

ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เกิดเหตุพายุฝน ฤดูร้อนพัดถล่มบ้านและต้นสนกว่า 40 ปีหักโค่นขวางถนน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

วันนี้ (21มี.ค.) ที่หน้ากองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายธงชัย เทพรอด ปลัดเทศบาลเมืองเบตง รักษาราชการแทน นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เร่งประสานพนักงานการไฟฟ้า อำเภอเบตง จังหวัดยะลาให้เร่งระดมพนักงาน ออกไปยกและตัดกระแสไฟฟ้า หลังจากถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทำให้ไฟฟ้าดับช่วงถนนสุขยางค์ ขาเข้าตัวเมืองเบตง ในขณะเดียวกันได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง สำรวจอาคารที่ทำการ กองบรรเทาสาธรณภัยฯและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความ เพื่อบรรเทาสาธารณภัยเฉพาะหน้า ก่อนที่จะนำวัสดุไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย ในภายหลัง
เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสีย บอกว่า ขณะเกิดเหตุ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับพายุพัดอย่างแรง ในขณะเดียวกันพายุได้พัดต้นสน อายุกว่า 40 ปี หักโค่นล้มลงกลางถนนพอดี เจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธรณภัยฯ ตชด. 445 ตำรวจ สภ.เบตง เร่งช่วยกันตัดต้นสน ออกจากถนน ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักเข้าเมืองเบตง โชคดีขณะต้นสนหักโค่นไม่มีรถผ่านไปมาทำให้ไม่ใครได้รับบาดเจ็บ

จากความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีบ้านได้รับความเสียหายเบื้องต้นในเขตเทศบาลเมืองเบตง จำนวน 1 หลัง แต่ไม่ได้รับรายว่ามีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในเบื้องต้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งสำรวจความเสียของบ้านที่ได้รับความเสียหายและเร่งตัดต้นไม้ออกจากถนนเป็นการเร่งด่วนเพื่อรถจะได้สัญจรไปมาได้สะดวก

ข่าว…เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
โทร.064-126-5593

อุทัยธานี จนท.ลาดตระเวนดับคาป่า ขณะปฏิบัติหน้าที่

อุทัยธานี จนท.ลาดตระเวนดับคาป่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ เลือดออกปาก ออกจมูก และทวารหนัก จนหมดสติญาติๆมารอรับศพ กว่าจะนำผู้เสียชีวิตลงมาได้ด้วยความยากลำบากเนื่องจากต้องใช้กำลังคนขึ้นเขาป่าสูงชันกว่า 4 กิโลเมตร ใช้เวลา5-6 ชั่วโมง หามร่างผู้เสียชีวิตลงมาได้

เมื่อเวลา 17.30.น.ของวันที่ 18 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หมู่ 1 ต.คอกควาย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฉุกเฉิน อาสากู้ภัย อำเภอบ้านไร่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์หลายกำลัง ร่วมลาดตระเวนนำผู้เสียชีวิตลงมาจากบนเขาปันโส ซึ่งห่างจากจุดหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส ประมาณ 4 กิโลเมตร กว่าจะนำผู้เสียชีวิตลงมาได้ใช้เวลา5-6 ชั่วโมง ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นทางเขาสูงชัน

สืบเนื่องจากช่วงเช้าเวลา 06.40 น.ทางเจ้าหน้าที่เขตป่าได้รับแจ้งจากหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส ว่ามีนายมนูญ เล้าการนา พนักงานราชการ ตำแหน่งพิทักษ์ป่าซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนประจำชุด ได้ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างลาดตระเวนพร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน รวมผู้ตายเป็น 5 คน ได้ปฏิบัติลาดตระเวนโดยรวม 5 วัน ระหว่างลาดตระเวนวันที่ 3 ซึ่งยังไม่ถึงกำหนด5 วัน ผู้ตายได้มีอาการป่วยหนักในตอนเช้า โดยมีเลือดออกปาก ออกจมูก และทวารหนัก จึงได้ประสานกำลังไปขอกำลังเสริมจากชุดอาสากู้ภัย อ.บ้านไร่เพื่อร่วมกันปฏิบัติงานในครั้งนี้ในช่วงเวลา 11.40.น.เพื่อรวมตัวกันพร้อมลาดตระเวนขึ้นไปบนเขาสูงชัน พร้อมกับสำรวจพื้นที่จอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อขอรับการสนับสนุนอากาศยาน ผลปรากฏว่าไม่มีพื้นที่ ที่เหมาะสมในการลงจอดหรือหย่อนตัว เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ภูเขามีความลาดชันสูงมีไม้ใหญ่ปกคลุม ระหว่างช่วงนำกำลังเข้าไปรับตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานว่านายมนูญ เล้าการนา ได้มีอาการเกร็งหน้าท้อง และถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ในเวลาต่อมาได้มีอาการภาวะหัวใจหยุดเต้น จึงได้ทำการช่วยเหลือ(CPR)จนกระทั่งเวลาต่อมาไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ตายได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังไปรับศพผู้ตายถึงบนเขาสูงชัน ไปกลับ 8 กิโลเมตร โดยมีการเปลี่ยนกันหามผู้ตายลงมา

ล่าสุดได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.ณัฐกิติ์ นิธิฉัตรเจริญคุณ ร้อยเวร สภ.บ้านไร่ ได้ลงมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสภาพศพของผู้ตายเบื้องต้น พร้อมกับส่งไปชันสูตรที่รพ.บ้านไร่ เบื้องต้นสภาพศพผู้ตายไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตในครั้งนี้

เบื้องต้น นางวีรยา โอชะกุล ผอ.ส่วนอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า จ.นครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่พร้อมช่วยเหลือครอบครัวของผู้ตาย เนื่องจากเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และทางหน่วยงานเรา จะช่วยในเรื่องของการจัดงานศพ พร้อมกับหาสวัสดิการที่ผู้ตายจะได้รับอย่างเต็มที่ และเข้าช่วยเหลือลูกที่ยังเล็กๆของผู้ตายดังกล่าว

จากการสอบถามนายมนัส เล้าการนา อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่171 ม.3 ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตายชื่อนายมนูญ เล้าการนา อายุ 47 ปี เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ เพื่อมารอรับศพผู้ตาย ได้สอบถามญาติชื่อนางนรากร อายุ 46 ปี ได้กล่าวว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไปรับพ่อของผู้ตายที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าผู้ตายไม่สบายและเสียชีวิตลงขณะปฏิบัติหน้าที่ ด้วยเลือดออกปาก ออกจมูก และทวารหนัก ตนซึ่งเป็นญาติผู้ตายจึงห่วงพ่อของผู้ตายซึ่งมีอายุมากแล้ว จึงได้ประสานเรียกญาติๆเพื่อมารอรับศพของผู้ตาย เนื่องจากทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ ทางญาติจะนำศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่วัดในเขตอำเภอลานสักต่อไป

สำเนา ทองศรี รายงาน 0987817019

รถพ่วง 18 ล้อเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนกับรถเก๋ง

รถพ่วง 18 ล้อเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนกับรถเก๋ง
รถพ่วง 18 ล้อเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนกับรถเก๋งรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 17 มีนาคม 2566 ร.ต.อ.ปณิธาน แก้วน้ำ

รอง.สว.สอบสวน สภ.กองก๋อย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพลิกคว่ำบนถนนสาย 108 แม่สะเรียง – เชียงใหม่ บ้านแม่ลายเหนือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บขอให้ไปทำการสอบสวนด่วน
เมื่อรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกำลังอีกจำนวนหนึ่งเมื่อไปถึงพบรถพ่วง18ล้อบรรทุกข้าวโพด ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-8480 เชียงใหม่ เสียหลักในลักษณะพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถเก๋งที่ขับสวนทางมาทำให้คนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ชีพรีบนำส่งโรงพยาบาลแม่สะเรียงเป็นการด่วน
จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่ารถบรรทุกข้าวโพดได้ขับมาจากทางแม่สะเรียงมุ่งหน้าไปเชียงใหม่พอมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักได้พุ่งข้ามเลนขณะเดียวกันได้มีรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งสวนทางมามุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่สะเรียงรถบรรทุกได้ชนกับรถเก๋งครุ๊ดไปกับถนนได้รับความเสียหายและทำให้คนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บสาหัสส่วนรถบรรทุกชนติดกับเสาไฟฟ้าอีกทอดหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อขับรถด้วยความประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและข้าวของเสียหาย.

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ /เกียรติยศ รักสัตย์ ทีมข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน Cr.สภ.กองก๋อย

แม่จัน สลด!! รถกระบะสายตรวจประสบอุบัติเหตุชนประสานงานรถบรรทุกเสาไฟฟ้า ตร.เสียชีวิต 3 นาย

แม่จัน สลด!! รถกระบะสายตรวจประสบอุบัติเหตุชนประสานงานรถบรรทุกเสาไฟฟ้า
ตร.เสียชีวิต 3 นาย

//////////////////////////
เมื่อเวลา 19.15 น.ของวันที่ 15 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายเชียงราย-เชียงแสน ในเขตพื้นที่หมู่บ้านบ่อก้าง ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ สภ.แม่สาย พร้อมกู้ภัย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นถนน 4 ช่องจราจรขาขึ้นจะไปทาง อ.เชียงแสน ซึ่งรถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูของทางราชการตำรวจสังกัด สภ.แม่จัน ชนกับรถรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าของเอกชนรายหนึ่งซึ่งมีพ่วงท้ายที่บรรทุกเสาไฟฟ้าขนาดยาวมาด้วยหลายต้น เสียหลักพุ่งลงไปชนต้นไม้ข้างทางอยู่บริเวณในพงหญ้าสภาพรถเสียหายยับเยิน จากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะของ สภ.แม่จัน พบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตติดอยู่ในรถ 3 นาย 1.ด.ต.เรืองฤทธิ์ ธุวะคำ 2. ด.ต.จงกล ส่วน ด.ต.พิชยพล จันทร์ต๊ะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่ง

โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค อ.เมืองเชียงราย แต่เนื่องจากมีบาดแผลที่สาหัสจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาส่วนรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าคู่กรณีของเอกชนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตสังกัดสายตรวจประจำด่านตรวจ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน และก่อนเกิดเหตุได้นำผู้ต้องหาไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหลังจากนั้นได้เดินทางจะกลับด่านตรวจ ต.ท่าข้าวเปลือก แต่มาประสบอุบัติเหตุเกิดเหตุสลดขึ้นในครั้ง

////////////////////////////////////////////
ต้อม มหาสิงห์ /// แม่จันนิวส์ออนไลน์ ///

แม่จัน สลด!! จนท.ตร.ขับรถประสบอุบัติเหตุ บ้านบ่อก้าง เสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 3 นาย

แม่จัน สลด!! จนท.ตร.ขับรถประสบอุบัติเหตุ บ้านบ่อก้าง เสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 3 นาย

//////////////////////////

เมื่อเวลา 19.15 น.ของวันที่ 15 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายเชียงราย-เชียงแสน พื้นที่หมู่บ้านบ่อก้าง ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงไปตรวจสอบพบเป็นถนน 4 ช่องจราจรขาขึ้นจะไปทาง อ.เชียงแสน โดยรถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูของทางราชการตำรวจสังกัด สภ.แม่จัน สภาพพุ่งลงไปอยู่บริเวณในพงหญ้าและต้นไม้ข้างทางโดยที่ด้านบนของรถถูกชนจนเสียหายยับเยิน ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าของเอกชนรายหนึ่งซึ่งมีพ่วงท้ายที่บรรทุกเสาไฟฟ้าขนาดยาวมาด้วยหลายต้น สภาพที่เสาไฟต้นหนึ่งหักครึ่งรถจอดขวางถนนกีดขวางผู้สัญจรผ่านไปมาให้ใช้ถนน 2 ช่องจราจรขาล่องเพื่อขนสวนทางกันเป็นการชั่วคราว
จากการตรวจสอบในรถยนต์กระบะของ สภ.แม่จัน พบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถจำนวน 3 นาย โดยเป็นพลขับและตำรวจที่นั่งโดยสารข้างคนขับชื่อว่า ดต.เรืองฤทธิ์ ธุวะคำ และ ดต.จงกล ศรีกันทะ ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุและที่เบาะด้านหลังรถมี ดต.พิชยพล จันทร์ต๊ะ นั่งโดยสารอยู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงได้ประสานรถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค อ.เมืองเชียงราย

แต่เนื่องจากบาดแผลสาหัสจึงเสียชีวิตตามมาอีกนาย ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 3 นาย ส่วนรถยนต์บรรทุกเสาไฟฟ้าของเอกชนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย สังกัดสายตรวจประจำอยู่ด่านตรวจ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน และก่อนเกิดเหตุได้นำผู้ต้องหาไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหลังจากนั้นได้เดินทางจะกลับไปประจำหน้าที่ที่ด่านตรวจตามปกติ แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าที่อยู่ตรงส่วนพ่วงจนทำให้ด้านบนของรถเสียหายยับเยินและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในรถเสียชีวิตทั้งหมด ทั้งนี้ที่เกิดเหตุพบว่าส่วนบรรทุกเสาไฟฟ้ามีสภาพเกือบขวางถนนและมีเสาไฟฟ้าที่ถูกชนตกกระจัดกระจาย คาดว่าก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกเสาไฟฟ้าได้ขับเลี้ยวจะออกจากผิวจราจรแต่ส่วนท้ายที่เป็นเสาไฟฟ้ายังยื่นอยู่กลางถนนทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับตามท้ายมาชนเข้าอย่ารุนแรงดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป.

////////////////////////

ต้อม มหาสิงห์ แม่จันนิวส์ออนไลน์ / 089-507-8383

พะเยา กระบะชนท้าย จยย.2ผัวเมีย ผัวดับคาที่ เมียสาหัส

พะเยา กระบะชนท้าย จยย.2ผัวเมีย ผัวดับคาที่ เมียสาหัส (ปัณณวิชญ์ อยู่ดี-พะเยา)

วันที่ 15 มี.ค 66 เวลา20.00น.ร.ต.อ จักราธร ตันบุราวร รอง สว.(สอบสวน)สภ. เมืองพะเยารับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์บริเวณ ถนนแม่นาเรือ-แม่ใจ บ้านห้วยเคียน หมู่ 10 ตำบลท่าจำปี อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา หลังรับแจ้ง รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์นิติเวช รพ.พะเยา เจ้าหน้า ที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลท่าจำปี

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กรต 102 พะเยา สภาพพังยับทั้งคันใกล้กันพบร่างนายทัน ศิริเมือง อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 57 หมู่ 11 ตำบลท่าจำปี อ.เมือง จ.พะเยา นอนเสียชีวิตคาที่และนางอำพร ศิริเมือง อายุ 58 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลพะเยา

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุทราบว่าทั้งสองผัวเมียได้ขับรถกลับมาจากโรงพยาบาลพะเยาเพื่อจะกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกรถกระบะเฉี่ยวชน ท้ายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และชันสูตรศพ พบรถกระบะห้อนิสสัน ทะเบียน บบ253 พะเยา จอดข้างทางในสภาพหน้ารถกระจังหน้า แตกหักเสียหายหล่นในที่เกิดเหตุ
มีนายเอนก เมืองมา คนขับ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ และกล่าวว่าตนเองได้ขับรถมาจากบ้านจำป่าหวาย เพื่อจะมาหาเพื่อนที่ตำบลท่าจำปีเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณถนนดังกล่าวแสงสว่างรถมองเห็นรถวิ่งบนถนนจึงทำให้ชนรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุดังกล่าว

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและบันทึกหลักฐานที่เกิดเหตุ พร้อมกับเชิญตัว คนขับรถกระบะไปสอบสวน ในเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้แก่ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย

พะเยา น้องไข่มุก ท้อง6เดือนถูกรถกระบะชนท้ายพร้อมแฟนเพื่อน เจ็บ3 ชนแล้วหนีจนแท้งลูก ร้องสื่อเป็นสื่อกลาง ถึงคนขับมารับผิดชอบด้วย

พะเยา น้องไข่มุก ท้อง6เดือนถูกรถกระบะชนท้ายพร้อมแฟนเพื่อน เจ็บ3 ชนแล้วหนีจนแท้งลูก ร้องสื่อเป็นสื่อกลาง ถึงคนขับมารับผิดชอบด้วย

วันที่ 14 มี.ค 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากทางญาติของ น้องไข่มุก สาวท้อง6เดือน ที่ถูกรถยนต์กระบะสีดำมีคอกเหล็กชนท้ายรถจักรยานยนต์ขณะกลับออกมาจากการเที่ยวชมที่
อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ต.ท่าจำปี อ. เมือง จ.พะเยา ซึ่งตนเองซ้อนนั่งกลางโดยแฟนเป็นคนขับและเพื่อนซ้อนท้ายสุด จนได้รับบาดเจ็บทั้ง3คน และตนเองกำลัง ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ได้รับบาดเจ็บจนลูกในท้องแท็งค์ หลุดออก แพทย์ให้นอนรักษาตัว ใน รพ.พะเยา 2คืน หลังเกิดเหตุอยากให้คนขับกระบะให้กลับรับผิดชอบด้วย เพราะรถ จักรยานยนต์ของตนเองเสียหาย อีกทั้งแฟนและเพื่อนต่างบาดเจ็บด้วยการทั้ง 3 คนอีกทั้งยังเสียลูกไปอีก ทำให้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้เมื่อวันที่11 มี.ค. 56 เวลาประมาณ 18.00 น. ร.ต.อ. ดนุพล เชื้อเมืองพาน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพะเยา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถเฉี่ยวชนกันบริเวณถนนสายบ้านตุ้มเหนือ-อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ต.ท่าจำปี อ. เมือง จ.พะเยา วันเกิดเหตุพร้อมหน่วยชุดกู้ภัยเทศบาลตำบล ทำการช่วยเหลือ อุบัติเหตุนำส่งโรงพยาบาลพะเยา ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กซ 7509 พะเยา และมี นายภานุวัฒน์ ทาทาน อายุ 16 ปี ที่อยู่ 473 ถ.พหลโยธิน ต.แม่ต่ำ อ.เมือง จ.พะเยา เป็นผู้ขับขี่ มีน.ส.ชุติมา เครือจักร อายุ 18 ปี ที่อยู่ 55/1 ม.9 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา และน.ส.วีรยา เรือนแก้ว อายุ 17 ปี ที่อยู่ 5/1 หมู่18 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา รวม3คน นอนบาดเจ็บข้างถนนทางชุดกู้ภัย ทต.ท่าจำปี รีบนำส่ง รพ.พะเยา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถที่เชี่ยวชนหลบหนีเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไม่ทราบทะเบียนมีกรงเหล็กด้านหลัง

หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพะเยา พร้อมด้วยนายนพดล สารเก่ง กำนันตำบลท่าจำปี
ได้ติดตามกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆทั้งและนอกเขตพื้นที่ตำบลท่าจำปีและตำบลบ้านต้ำเพื่อติดตามแกะรอยหารถกระบะคันดังกล่าวที่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แล้วหลายจุด

ด้านนายภานุวัฒน์ ทาทาน อายุ 16 ปี และ น.ส.ชุติมา เครือจักร อายุ 18 ปี สองสามีภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยที่นางสาวชุติมาตั้งท้องได้ 6 เดือนกว่าและได้แท้งลูกในขณะเกิดอุบัติเหตุเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุว่าตนเองและสามีพากันไปเที่ยวพักผ่อนที่อ่าง เก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ตำบลท่าจำปี อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ในช่วงเวลา 14.00 น.

และได้ออกจากอ่างเวลา 16.30 น.หลังจากได้ขับรถออกมาไม่ไกลจากอ่างตรงบริเวณทางโค้งได้มีรถกระบะสีดำ มีลูกกรงเหล็กอยู่ด้านหลังชนด้านท้ายชนรถตัวเองตกลงร่องข้างทางและได้รับบาดเจ็บจนน.ส.ชุติมา แท้งลูก และรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปผ่านมากว่า 5 วันรถกระบะคันดังกล่าวยังไม่มารับผิดชอบจึงมาร้องกับสื่อให้เป็นสื่อกลางเพื่อติดตามหาผู้ที่กระทำผิดให้มารับผิดชอบ ได้แสดงตัวมารับผิดชอบด้วย

ด้านนายนพดล สารเก่ง กำนันตำบลท่าจำปี กล่าวว่าอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ได้จัดทำแพให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวพักผ่อนและได้มีมาตรการในการป้องกันการก่อเหตุร้ายและการทะเลาะวิวาทสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุทางท้องที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพะเยาเพื่อติดตามหาผู้กระทำความผิด เพื่อมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วย

สัมภาษณ์นายภานุวัฒน์ ทาทาน อายุ 16 ปี

สัมภาษณ์น.ส.ชุติมา (ไข่มุก) เครือจักร อายุ 18 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนแท้งลูก ที่กำลังตั้งครรภ์ได้6เดือน

สัมภาษณ์นายนพดล สารเก่ง กำนันตำบลท่าจำปี

ตราด สาวใหญ่วัย 53 ปี ขับกระบะแคปหลับในชนหลักกิโลเมตรที่ 463 หลักกิโลกระเด็นบาดเจ็บ 3 ราย ติดภายใน

ตราด สาวใหญ่วัย 53 ปี ขับกระบะแคปหลับในชนหลักกิโลเมตรที่ 463 หลักกิโลกระเด็นบาดเจ็บ 3 ราย ติดภายใน

.เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 มีนาคม 2566 พ.ต.ท.สมจริง สาโถน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรไม้รูดได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์ชนหลักกิโลเมตรที่ถนนสาย 3 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 463 หน้าวัดห้วงโสม ต.ไม้รูดอ.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือเขตคลองใหญ่และไม้รูด รุดไปตรวจสอบ
.มาถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะแคป โตโยต้า วีโก้ บรอน์ทอง เสียหลักตกร่องน้ำข้างถนนติดกับหลักกิโลเมตรสภาพด้านหน้าพังเสียหาย สิ่งของท้ายรถกระเด็นตกเกื่อนถนน ภายในรถยนต์กระบะแคปมีคนนั่งมาด้วยทั้งหมด 3 คน ทั้งคนขับด้วยภายในพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถ 3 ราย ทราบชื่อว่า นางฐิตาภา เจริญสุข อายุ 53 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกและขาซ้าย นางสุดารัตน์ บัวพุ่ม บาดเจ็บที่ต้นคอและแขนซ้ายและนางสาคร พุทธเกษร บาดเจ็บที่ต้นคอ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลคลองใหญ่เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมด้วยรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยนําส่งและประสานรถพยาบาลรับส่งรักษาที่โรงพยาบาลคลองใหญ่อีกหนึ่งคันและนําส่งทั้งหมด 3 ราย

.
สอบถามเพื่อนและทางญาติบอกว่า ก่อนเกิดเหตุนางฐิตาภา เจริญสุข คนขับรถยนต์กระบะแคปได้ขับรถยนต์มาจากตัวเมืองตราดและกำลังจะกลับบ้านที่อําเภอคลองใหญ่โดยมีเพื่อนนั่งกระบะแคปมาด้วย กันเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้หลับในเสียหลักพุ่งชนหลักกิโลเมตรอย่างจังทั้งหลักกิโลเมตรและรถยนต์กระเด็นกว่า 30 เมตร จนเกิดเป็นอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้น พ.ต.ท.สมจริง สาโถน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรไม้รูดได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายเพราะว่ามีของหลวงได้รับความเสียหายจํานวน 1 หลัก ต่อไป

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด