google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

สุราษฎร์ธานี // อดีตกำนันควัก .357 กระหน่ำยิงคนดูแลสวนปาล์ม ดับ 1 เจ็บ 1 .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 13.10 น. ร.ต.อ.อภิรักษ์ รักษายศ พนักงานสอบสวน สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่บ้านบางปาน หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี รอยต่อกับ จ.กระบี่ เบื้องต้นทราบมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกิจ ประยูรบุตร ผกก.สภ.ชัยบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยชัยบุรี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยในสวนปาล์มพบศพนายรัฐธี ชัยศรีรักษ์ อายุ 44 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .357 ที่หัวไหล่ขวา และชายโครงด้านขวา รวม 3 แผลและมีผู้บาดเจ็บชื่อนายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี ผู้บาดเจ็บชื่อ นายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี อายุ 26 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่สะโพก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และอีก 1 คนเป็นผู้ชายวิ่งหลบหนีไปได้

สำหรับมือปืนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ไทรทอง เป็นอดีตกำนัน ต.ไทรทอง และเป็นผู้แจ้งตำรวจทราบเหตุ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นของนายอาวุธที่ยกให้ลูกชาย จำนวน 23 ไร่ภายหลังลูกชายนำไปเข้าธนาคารและถูกยึดทรัพย์ โดยมีเจ้าของรายใหม่ซื้อต่อมาจากบังคับคดี ก่อนเกิดเหตุนายอาวุธได้เข้าไปดูสวนปาล์มและพบมีกลุ่มวัยรุ่น 3 คนใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ เข้ามาตัดผลปาล์มอยู่จึงได้เข้าไปพูดคุยเนื่องจากทราบว่าคนกลุ่มนี้เคยเข้ามาขโมยผลปาล์มอย่างน้อย 2-3 ครั้ง แต่คนร้ายอ้างว่าเจ้าของสวนคนใหม่ให้มาตัดปาล์ม และกลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังติดต่อเจ้าของรายใหม่เพื่อสอบสวนตามที่กลุ่มผู้เสียชีวิตอ้างหรือไม่ และจะเร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

สุราษฎร์ธานี // อดีตกำนันควัก .357 กระหน่ำยิงคนดูแลสวนปาล์ม ดับ 1 เจ็บ 1 .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 13.10 น. ร.ต.อ.อภิรักษ์ รักษายศ พนักงานสอบสวน สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่บ้านบางปาน หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี รอยต่อกับ จ.กระบี่ เบื้องต้นทราบมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกิจ ประยูรบุตร ผกก.สภ.ชัยบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยชัยบุรี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยในสวนปาล์มพบศพนายรัฐธี ชัยศรีรักษ์ อายุ 44 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .357 ที่หัวไหล่ขวา และชายโครงด้านขวา รวม 3 แผลและมีผู้บาดเจ็บชื่อนายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี ผู้บาดเจ็บชื่อ นายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี อายุ 26 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่สะโพก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และอีก 1 คนเป็นผู้ชายวิ่งหลบหนีไปได้

สำหรับมือปืนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ไทรทอง เป็นอดีตกำนัน ต.ไทรทอง และเป็นผู้แจ้งตำรวจทราบเหตุ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นของนายอาวุธที่ยกให้ลูกชาย จำนวน 23 ไร่ภายหลังลูกชายนำไปเข้าธนาคารและถูกยึดทรัพย์ โดยมีเจ้าของรายใหม่ซื้อต่อมาจากบังคับคดี ก่อนเกิดเหตุนายอาวุธได้เข้าไปดูสวนปาล์มและพบมีกลุ่มวัยรุ่น 3 คนใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ เข้ามาตัดผลปาล์มอยู่จึงได้เข้าไปพูดคุยเนื่องจากทราบว่าคนกลุ่มนี้เคยเข้ามาขโมยผลปาล์มอย่างน้อย 2-3 ครั้ง แต่คนร้ายอ้างว่าเจ้าของสวนคนใหม่ให้มาตัดปาล์ม และกลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังติดต่อเจ้าของรายใหม่เพื่อสอบสวนตามที่กลุ่มผู้เสียชีวิตอ้างหรือไม่ และจะเร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

สุราษฎร์ธานี // อดีตกำนันควัก .357 กระหน่ำยิงคนดูแลสวนปาล์ม ดับ 1 เจ็บ 1 .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 13.10 น. ร.ต.อ.อภิรักษ์ รักษายศ พนักงานสอบสวน สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่บ้านบางปาน หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี รอยต่อกับ จ.กระบี่ เบื้องต้นทราบมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกิจ ประยูรบุตร ผกก.สภ.ชัยบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยชัยบุรี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยในสวนปาล์มพบศพนายรัฐธี ชัยศรีรักษ์ อายุ 44 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .357 ที่หัวไหล่ขวา และชายโครงด้านขวา รวม 3 แผลและมีผู้บาดเจ็บชื่อนายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี ผู้บาดเจ็บชื่อ นายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี อายุ 26 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่สะโพก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และอีก 1 คนเป็นผู้ชายวิ่งหลบหนีไปได้

สำหรับมือปืนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ไทรทอง เป็นอดีตกำนัน ต.ไทรทอง และเป็นผู้แจ้งตำรวจทราบเหตุ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นของนายอาวุธที่ยกให้ลูกชาย จำนวน 23 ไร่ภายหลังลูกชายนำไปเข้าธนาคารและถูกยึดทรัพย์ โดยมีเจ้าของรายใหม่ซื้อต่อมาจากบังคับคดี ก่อนเกิดเหตุนายอาวุธได้เข้าไปดูสวนปาล์มและพบมีกลุ่มวัยรุ่น 3 คนใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ เข้ามาตัดผลปาล์มอยู่จึงได้เข้าไปพูดคุยเนื่องจากทราบว่าคนกลุ่มนี้เคยเข้ามาขโมยผลปาล์มอย่างน้อย 2-3 ครั้ง แต่คนร้ายอ้างว่าเจ้าของสวนคนใหม่ให้มาตัดปาล์ม และกลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังติดต่อเจ้าของรายใหม่เพื่อสอบสวนตามที่กลุ่มผู้เสียชีวิตอ้างหรือไม่ และจะเร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

สุราษฎร์ธานี // อดีตกำนันควัก .357 กระหน่ำยิงคนดูแลสวนปาล์ม ดับ 1 เจ็บ 1 .

รายงาน : พจน์ คำจันทร์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 13.10 น. ร.ต.อ.อภิรักษ์ รักษายศ พนักงานสอบสวน สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่บ้านบางปาน หมู่ 1 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี รอยต่อกับ จ.กระบี่ เบื้องต้นทราบมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกิจ ประยูรบุตร ผกก.สภ.ชัยบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยชัยบุรี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยในสวนปาล์มพบศพนายรัฐธี ชัยศรีรักษ์ อายุ 44 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .357 ที่หัวไหล่ขวา และชายโครงด้านขวา รวม 3 แผลและมีผู้บาดเจ็บชื่อนายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี ผู้บาดเจ็บชื่อ นายกิตติศักดิ์ ทวีแก้ว อายุ 26 ปี อายุ 26 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่สะโพก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และอีก 1 คนเป็นผู้ชายวิ่งหลบหนีไปได้

สำหรับมือปืนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอาวุธ รุ่มจิตร์ อายุ 65 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ไทรทอง เป็นอดีตกำนัน ต.ไทรทอง และเป็นผู้แจ้งตำรวจทราบเหตุ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นของนายอาวุธที่ยกให้ลูกชาย จำนวน 23 ไร่ภายหลังลูกชายนำไปเข้าธนาคารและถูกยึดทรัพย์ โดยมีเจ้าของรายใหม่ซื้อต่อมาจากบังคับคดี ก่อนเกิดเหตุนายอาวุธได้เข้าไปดูสวนปาล์มและพบมีกลุ่มวัยรุ่น 3 คนใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ เข้ามาตัดผลปาล์มอยู่จึงได้เข้าไปพูดคุยเนื่องจากทราบว่าคนกลุ่มนี้เคยเข้ามาขโมยผลปาล์มอย่างน้อย 2-3 ครั้ง แต่คนร้ายอ้างว่าเจ้าของสวนคนใหม่ให้มาตัดปาล์ม และกลุ่มคนร้ายจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังติดต่อเจ้าของรายใหม่เพื่อสอบสวนตามที่กลุ่มผู้เสียชีวิตอ้างหรือไม่ และจะเร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .

นครนายก (คลิปเหตุการณ์) สาวสติแตกคว้ามีดฟันหัวยายหวิดดับ!!

สาวสติแตกเก็บกดมานานนั่งอยู่หน้าบ้านเห็นยายวัย 84 ปี เดินผ่านหน้าบ้านคว้ามีดด้ามยาวฟันที่หน้าผากบาดแผลฉกรรณ์

เมื่อเวลา 10.00 น. ของเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 มีเหตุทำร้ายร่างกายในพื้นที่ บ้านเลขที่ 2 หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นครนายก ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือนางละไม สุคนที อายุ 84 ปี มีบาดแผลจากการถูกฟันที่กลางหน้าผากยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ส่วนผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันกับคนเจ็บชื่อนางจุ๋ม อายุ 35 ปี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการเกลี้ยกล่อมและควบคุมตัวไปยัง ก่อนนำตัว รพ.นครนายก เพื่อรักษาอาการ

จากการสอบถาม นางสาวนิราพร ทองแบบ อายุ25 ปี หลานสะใภ้เล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุได้มี 2 ยายเดินคู่กันมาโดยที่ไม่ได้ระวังอะไรและผู้ก่อเหตุจะนอนเล่นอยู่ที่เปลทุกวันแต่วันเกิดเหตุได้มาดักซุ่มรออยู่ที่ใต้ต้นไม้พอยายเดินผ่านเค้าก็คว้ามีดด้ามยาวที่ถางหญ้าฟันเข้าที่หน้าผากของยายเข้าอย่างจังโดยที่ไม่มีสาเหตุมาก่อนว่าเกิดจากอะไร พอฟันเสร็จก็บอกอีกว่ามึงเดินมาทางนี้ทำไมและก็เดินกลับเข้าบ้านไปนอนที่เปลอย่างเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนคนสติแตกมากกว่าเพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกทำร้ายร่าวกายแบบไม่มีอาวุธมีด ตบตีจิกหัวกับคนที่เดินผ่านบ้าน

ล่าสุดอาการของยายดีขึ้นแล้วพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนคนที่ก่อเหตุก็ยังถูกคุมตัวและให้การรักษาในเรื่องของสภาพจิตใจ ก็อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลเรื่องนี้เร่งด่วนเพราะถ้าเกิดหมอสรุปว่าบ้านยายของตนคนเจ็บตัวฟรี อีกอย่างตนมีลูกน้อยวันใดวันหนึ่งลูกของหนูเดินผ่านหน้าเค้าจะไม่เอามีดมาไล่ฟันอีกหรอ

ด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนก้าวร้าวอะไรขนาดนั้น อย่างดีก็แค่ด่า วันนั้นที่มีดมันก็ไม่ใช่มีดของเค้า เค้าคงจะไปเก็บที่ไหนมา แต่ที่นี้เหมือนแกเป็นโรคประสาทหรือสติไม่ค่อยดี ถ้าใครไม่ยุ่งกับเขาเขาก็จะไม่ยุ่งกับใครทั้งนั้น ลักษณะเกิดเหตุเหมือนกับสองคนนี้เขามีอะไรกันมาก่อนหรือหรือไม่แน่ใจเพราะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นคงอาจจะเคยว่ากันมาก่อนเหมือนเกียจกันคือกูเกลียดมึงอ่ะพอผ่านหน้าบ้านก็เลยฟันหน้าเอาซะเลยจึงเป็นเหตุดังกล่าว

สมบัติ เนินใหม่//รัขชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

นครนายก คนร้ายลักรถจยย.ช่วงเมื่อคืนฝนตก เช้าโพสต์ขายในเฟสบุ๊คเจ้าของหลอกขอซื้อจับตัวได้ที่โลตัสบ้านนา

คนร้ายเข้าไปลักรถจักรยานยนต์ที่บ้านเมื่อคืนช่วงฝนตกเช้ามาถอดป้ายทะเบียนโพสต์ขายในเฟสบุ๊คเจ้าของหลอกติดต่อขอซื้อขายนัดรับรถที่โลตัสบ้านนาก่อนญาติๆร่วมจับตัวส่งโรงพักบ้านนา

เมื่อเวลา 22.15 น. ของวันที่ 30 กันยายน 2566 ได้มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ รุ่นปลาวาฬ 125 ไอสีน้ำเงินดำ ทะเบียน 1 กง 1162 นครนายก ที่บ้านพักนางสาวพลอยแสง กาลสุข อายุ 31 ปี ในบ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 2 ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เมื่อช่วงกลางคืนฝนตกหนัก มาทราบรถจักรยานยนต์หายในเวลาต่อมาจึงได้ไปถามสามีและญาติๆมีใครได้นำรถออกไปใช้หรือไม่ ทุกคนแจ้งว่าไม่ได้นำรถจักรยานยนต์ไปจึงได้ไปแจ้งความรถหายที่สถานีตำรวจแก่งคอย พอช่วงเช้าได้มีคนร้ายได้โพสต์เฟสบุ๊คประกาศขายรถจักยานยนต์ฮอนด้า รุ่นปลาวาฬ 125 ไอสีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ในกลุ่มเฟสบุ๊คขายรถจักยานยนต์ ตนจึงได้ติดต่อสอบถามขอดูรถจักรยานยนต์ จึงได้นัดซื้อขายกันในราคา 15000 บาท และนัดส่งรถจักยานยนต์ที่ห้างโลตัสบ้านนาในเวลา 12.00 น.ของวันที่ 1 ตุลาคม 2566 โดยตนพร้อมญาติๆได้มาดักรอดูอยู่ก่อนแล้วพอถึงเวลานัดหมายคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ที่ลักไปเข้ามาที่ลานจอดรถของห้างโลตัสบ้านนา พวกญาติๆจึงเข้าล้อมจับตัวคนร้ายไว้ได้

ทราบชื่อต่อมานายสุทิน ทำทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 8 ตำบลเขาเพิ่ม อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จึงได้โทรแจ้งศูนย์วิทยุสถานีตำรวจบ้านนามาควบคุมตัวคนร้ายไว้และประสานสถานีตำรวจแก่งคอยมารับตัวไปดำเนินต่อไป

สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ปราจีนบุรี หญิงสาวผูกคอตายเพราะคิดว่าวิญญาณพี่ชายอยู่ในตัว

เกิดเหตุสลดเช้าวันหวยออก เมื่อหญิงสาวคิดว่าวิญญาณพี่ชายที่ตายแล้วมาอาศัยอยู่ในตัว เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้พี่สาวดูแลแม่ ก่อนหนีมาผูกคอเสียชีวิตในกระท่อมท้ายหมู่บ้าน

เมื่อช่วงสายวันนี้ ร.ต.อ.ชัยยง อำพันเสน ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งมีเหตุหญิงสวผูกคอเสียชีวิตในกระท่อมที่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน หมู่ 9 บ้านคลองชัน ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร่วม 2 กิโลเมตร หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์ จก รพ.กบินทร์บุรี ร่วมชันสูตร
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้ตายนุ่งกางเกงขาสั้นสวมเสื้อยืดแขนกุดสีดำใช้เชือกผูกแขวนคอห้อยอยู่กับขื่อหลังคากระท่อม ขาลอยอยู่เหนือพื้น ทราบชื่อ นางสาวอัมพวัน เหมพรหม หรือ อ๋อ อายุ 40 ปี เสียชีวิตมาแล้วมากกว่า สามชั่วโมง

จากการสอบถามนางสาว อ้อม พี่สาว เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ น้องสาสวมาพูดคุยกับตนและได้เยนจดหมายทิ้งไว้ว่าในดูแลแม่ให้ด๊ ตนก็เอะใจคิดเหมือนกันว่า หรือจะต้องมาทำงานศพให้น้องอีก แต่ก็ไม่คิดว่าจะจริง แต่สุดท้ายน้องก็มาผูกคอตาย สาเหตุตนคิดว่าน่าจะเครียดหรือเป็นเรื่องส่วนตัว

ในขณะที่นายวศิน ชัยภูมิ เล่าว่า ชาวบ้านว่าคนตายเป็นโรคประสาทพูดคนเดียว ก็ใช่แต่บางครั้งแกก็มาบอกว่าวิญญาณพี่ชายที่ตายไปแล้วมาอยู่กับแกที่แกพูดคนเดียวก็คงคิดว่าคุยกับพี่ชาย

อุทัยธานี คลิปกระชากสร้อยทองพร้อมพระเหลี่ยมทองมูลค่านับแสนกลางเมืองอุทัยฯ หลังสาวขี่ จยย.กลับจากส่งไปโรงเรียนชุดสืบสวน จ.อุทัย ฯ ตามรวบ จ.สมุทรสาคร

เมื่อเวลา 15.30น.วันที่ 29 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน.ภ.จว.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี 1 หมาย 1 ราย นายสุเมธี ตุลาทอง บ้าน 53/11 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยจักรยานยายนต์ยี่ห้อ yamaha รุ่น nmax สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

จากกรณี เมื่อ วันที่ 27 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 09.10 น.เจ้าหน้าที่สายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เมืองอุทัยธานี รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงสาวขับขี่ จยย มาบนถนนสาย 333 ได้มีคนร้าย ขับขี่ จยย.ประกบตามหลังมา ถูกคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ หน้าร้านไก่ย่างมะลิวัลย์ถนนสาย 333 อำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานีทรัพย์สินที่ได้ เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองจำนวน 1 องค์ โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ yamaha รุ่น nmax สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสวมหมวกกันน็อค สีดำใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้าเสื้อด้านในสีน้ำตาลหลบหนีใช้เส้นทางจากที่เกิดเหตุไปทางสายอุทัย-โกรกพระ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกับการสืบสวนจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี ร่วมกันสืบสวนติดตามคนร้าย และได้ตามกล้องวงจรปิดที่ต่าง ๆ จนทราบว่าคนร้ายคือนายนายสุเมธี ตุลาทอง บ้านเดิมอยู่ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี และได้ย้ายไปอยู่ ที่ บ้าน 53/11 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าทีตำรวจชุดสืบสวน ภจ.ว.อุทัยธานี ได้ขอหมายศาล จ.220/2566 ลงวันที่ 11 กันยายน จับกุมตัวนายนายสุเมธี ตุลาทอง ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี ได้ที่ อ้อมน้อย

ที่เกิดเหตุพบ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ยืนอยู่ ด้วยความตระหนกตกใจ ก่อนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นไวมาก ตอนนั้นตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 กง 5999 อุทัยธานี เพื่อไปส่งลูกเรียนพิเศษ จากนั้นก็ขี่ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแล้วมายังจุดที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีคนร้ายชายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็กซ์ สีแดงสด ไม่ทราบป้ายทะเบียน โดยได้ขี่มาใกล้ๆ ตน ซึ่งตอนนั้นตนก็คิดว่าจะเลี้ยวไปซอยเดียวกัน ก่อนคนร้ายจะเอื้อมมือมากระชากสร้อยคอทองคำที่ตนสวมใส่น้ำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ออกจากคอไปอย่างแรง จนคอมีรอยช้ำ ก่อนขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

พร้อมให้ปากคำเพื่อเป็นหลักฐานไว้ กับร้อยเวร สภ.เมืองอุทัยธานี และเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท นั้นมูลค่าประมาณ 64,000 บาท บวกกับพระที่เลียมทองอีก 1 บาท มูลค่าประมาณ 32,300 บาท ส่วนพระเครื่องที่หายไปนั้นมีมูลค่าสูงมาก เพราะเป็นพระเกจิชื่อดังที่นำมาห้อยคอบูชามานานแล้ว ทำให้รวมมูลค่าทรัพย์สินในครั้งนี้จำนวน 1 แสนกว่าบาท ส่วนรูปพรรณสันฐานคนร้ายนั้น จำได้เพียงแค่เป็นผู้ชาย มีรูปร่างอ้วนท้วม ไม่สวมหมวกกันน็อก แต่เห็นใบหน้าไม่ชัดเจน สวมเสื้อสีฟ้าแขนยาวดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับคนก่อเหตุได้แล้ว

สำเนา ทองศรี รายงาน 098-7817019

กาฬสินธุ์ สลด!!หนุ่มทาสยาบ้าคลั่งควงมีดฟันคอพี่สาวดับอนาถ ฉุนขอเงินไม่ได้

สลดหนุ่มทาสยาวัย 39 ปี ชาวตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์เกิดคลุ้มคลั่งควงมีดดาบยาวเกือบเมตรฟัน คอพี่สาวดับอนาถคาบ้านพัก ฉุนขอเงินไม่ได้และเข้าใจว่าพี่สาวเอายาบ้าไปซ่อนไม่ให้เสพ ตำรวจตามรวบทันควัน พบประวัติป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติดยาบ้า

เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 29 กันยายน 2566 ร.ต.อ.ฤทธิ์ เสียงล้ำ ร้อยเวร สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 249 ม. 2 บ้านโคกศรี ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังนายชาณญ์ บุตรวงศ์ นายอำเภอห้วยผึ้ง พ.ต.อ.สีหชาติ พรจรรยา ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ยงยุทธ ภูตาลพบ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยผึ้ง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่งคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ห้วยผึ้ง เจ้าหน้าที่กอ.รมน.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง

โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จากการตรวจสอบภายในบ้านมีร่องรอยการต่อสู้ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจาย บริเวณหน้าห้องน้ำภายในบ้าน พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส. จุฬารักษ์ คงคูณ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ตรวจสอบตามร่างกายมีร่องรอยถูกมีดฟันที่บริเวณต้นคอด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และบริเวณน่องขวา โดยมีจอบวางอยู่บนลำตัว นอกจากนี้ยังพบมีดดาบยามเกือบ 1 เมตรวางอยู่โคนต้นเสาในบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
สอบสวนเบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเทิดเกียรติ คงคูณ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.2 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้หลังก่อเหตุมีชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไว้ได้ที่บ้านพักที่อยู่ใกล้กัน

 

จากการสอบถามนางสาวสรุตา กุลชโมริน อายุ 24 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายเทิดเกรียติ ได้เข้ามาถามหายาบ้ากับพี่สาว และพยายามขอเงินไปซื้อยาบ้า แต่ น.ส.จุฬารักษ์ ผู้เสียชีวิต ตอบปฏิเสธ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่มีเงินให้ พร้อมกับต่อว่า จึงเกิดมีปากเสียทะเลาะกัน ก่อนที่นายเทิดเกียรติไม่พอใจและถืออาวุธมีดดาบยาวเข้าไปทำร้าย โดยฟันที่คอและน่องเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านนางวิลาวัลย์ ศรีลำดวน อายุ 59 ปี น้าผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงเช้าหลานวิ่งไปบอกว่า น.ส. จุฬารักษ์ ถูกน้องชายฆ่าตาย ตนจึงรีบวิ่งมาดูและพยายามจะช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่น.ส. จุฬารักษ์ได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ส่วนนายเทิดเกียรติ น้องชายผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุก็นำมีดล้างคราบเลือด ซึ่งช่วงนั้นก็พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายคนอาการหลอน และขู่ฆ่าใครที่เข้ามายุ่ง ก่อนจะเดินไปหลบที่บ้านพักของตนเองที่อยู่ใกล้กัน กระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวไป

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่านายเทิดเกียรติมีประวัติเคยรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวช มีประวัติการใช้สารเสพติด ยาบ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด พร้อมส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยผึ้ง เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

จ.อุตรดิตถ์ สลด!! สาวใหญ่ใช้ไม้ทุบบุพการี ดับจมกองเลือด

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 20.30 น. พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จว.อุตรดิตถ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ

พบ นางประทุม สุขเกษม อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จว.อุตรดิตถ์ (มารดาของผู้ต้องหา) นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือบุตรสาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินออกไปที่ถนนหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม จึงออกไปติดตาม และ พบ น.ส.สุวิศิษฎ์ สุขเกษม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จว.อุตรดิตถ์ เดินอยู่บนถนนหน้าบ้าน (เป็นผู้ป่วยจิตเวช) จึงควบคุมตัวและสอบถาม น.ส.สุวิศิษฎ์ฯ แล้วรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ทะเลาะกับมารดา และใช้มือบีบคอมารดา และลากมารดาลงจากเตียงไปที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นใช้ไม้ท่อนที่กลึงสำหรับนั่ง ทุบมารดา 3 ครั้ง จนมารดาเสียชีวิต และวางไม้ท่อนไว้ข้างศพมารดา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.สุวิศิษฎ์ สุขเกษม ผู้ต้องหาทราบว่า “ฆ่าบุพการีตายโดยเจตนา” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี แพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพผู้ตาย และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุไว้แล้ว

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com