ปทุมธานี ตร.น้ำใจงามช่วยคนเจ็บขับจยย.ตกท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง

ปทุมธานี ตร.น้ำใจงามช่วยคนเจ็บขับจยย.ตกท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง

วันที่ 22 มี.ค.66 ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกลงไปในท่อระบายน้ำที่กำลังก่อสร้างและได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่องทางคู่ขนานหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้าง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถกู้ชีพบัวเพชร เจ้าหน้าที่อาสาหง
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย1รายทราบชื่อนายวสาร มีแก้ว อายุ 59ปี นอนอยู่ในท่อระบายน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีกำลังช่วยเหลืออยู่ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟหมายเลขทะเบียน พกษ87กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในท่อระบายน้ำด้วย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันช่วยเหลือผู้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากท่อระบายน้ำและนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต

จากการสอบจากการสอบถามส.ต.อ.ณัฐวุฒิ เพชรคุ้ม ผบ.หมู่งานกองกำกับการศูนย์ข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ บอกว่าตนเองกำลังขับรถจักรยานยนต์ไปทำงาน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงได้เข้าไปช่วยเหลือและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวงและกู้ภัยให้มาช่วยนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

สญชัย คล้ายแก้ว/รายงาน

นครราชสีมา กองบิน 1 โคราช ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้านเครื่องบินเสียงดังรบกวน

วันที่ 22 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาอากาศเอกอนุรักษ์ รมณารักษ์ ผู้อำนวยการกองฝึก ร่วมผสม ฝ่าย ไทย มอบหมายให้คณะทำงานได้กี่การพลเรือนออกเยี่ยมเยียนพร้อมทำความเข้าใจพร้อมทั้งมอบยาสามัญประจำบ้านให้กับชุมชน กับประชาชนในพื้นที่ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่รอบสนามบินกองบิน 1 เพราะช่วงนี้มีการฝึกกองกำลังฝึกร่วมผสมโค๊ปไทเกอร์ 2023 ระหว่างประเทศไทย สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา รวม 3 ชาติ โดยจะใช้เครื่องบิน F-16 และ F15 ขึ้นบิน จนทำให้เกิดเสียงดังรบกวน

 

ทั้งนี้การฝึกร่วมประสมโค๊ปไทเกอร์ 2023 เป็นการฝึกเพื่อเป็นการพัฒนาความสามารถของหน่วยบินและหน่วยต่อสู้อากาศยาน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเริ่มทำการฝึกตั้งแต่ 13 ถึง 31 มีนาคม 2566 ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจและรับทราบถึงวัตถุประสงค์ พร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้าน

ภาพข่าว / อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำ จ.นครราชสีมา

กองทัพบกเพื่อประชาชน SMILE ARMY คอนเสิร์ตรักไทยหัวใจ 4 ภาคที่ร้อยเอ็ด

วันที่ 21 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดกิจกรรมการแสดงดนตรีกองทัพบกเพื่อประชาชน smile army กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ศูนย์สงครามพิเศษ (คอนเสิร์ตรักไทยหัวใจ 4 ภาค) ณ เวทีลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี พลตรี จักรพันธ์ ขันมั่น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 พลตำรวจตรีกิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมชมและเชียร์ให้กำลังใจ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และได้รับความสนใจจาก FC มิตรรักแฟนเพลง เป็นจำนวนมาก

 

พลตรี จักรพันธ์ ขันมั่น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 เปิดเผยว่า กิจกรรมการแสดงคอนเสิร์ต รักไทย หัวใจ 4 ภาค เกิดขึ้นจากดำริของผู้บัญชาการทหารบกที่กำหนดให้จัดกิจกรรมแสดงดนตรีในพื้นที่ค่ายทหารกองทัพ ภาคที่ 1-4 เพื่อเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติให้แก่กำลังพล ครอบครัว และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหน่วยทหาร ให้ได้มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รวมถึงสร้างการรับรู้บทบาทหน้าที่ของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ตลอดจนสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ เรื่องสิทธิประโยชน์ที่ได้รับเมื่อเข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยแสดงดนตรีประกอบรีวิว รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ร่วมกิจกรรมได้รับทราบ พร้อมสอดแทรกอุดมการณ์ความรักชาติ โดยมุ่งหวังให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป เกิดความตระหนักและสำนึกในการรักชาติ รักแผ่นดิน เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในกองทัพบกที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องประเทศชาติและอยู่เคียงข้างประชาชน

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขอชื่นชมในแนวคิดของผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้ใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง สร้างสรรค์สังคมไทย ส่งความสุข ให้กำลังใจ สร้างความรัก ความสามัคคี

สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/088-573-0542/ ข่าว

นครราชสีมา กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 เปิดกิจกรรม Media Day เรียนรู้การเป็นนักบินประจำปี 2566

วันที่ 21 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารสนับสนุนการบินและพื้นที่ลานจอด กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา นาวาอากาศเอก อนุรักษ์ รมณารักษ์ ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายไทย พร้อมด้วย Colonel Maxmillion Goh ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสาธารณรัฐสิงคโปร์ และ Colonel Paul Davidson ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก ร่วมกันเปิดกิจกรรม Media Day ของการฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) ของการฝึกผสมโคปไทเกอร์ ประจำปี 2566 (Cope Tiger 2023) ซึ่งมีการฝึกระหว่างวันที่ 20 – 30 มีนาคม 2566 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา กองบิน 2 สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก จังหวัดลพบุรี และกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี โดยมีกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกผสมทั้ง 3 ชาติ โดยกิจกรรม Media Day มีนักเรียนในพื้นที่การฝึกมาร่วมกิจกรรม จำนวน 5 โรงเรียนดังนี้ 1.โรงเรียนเสนานุเคราะห์ 2.โรงเรียนวัดสระแก้ว 3.โรงเรียนบ้านหนองพลวง 4.โรงเรียนบ้านช่องโค และ5.โรงเรียนบ้านหนองหมาก ซึ่งมีการจัดนิทรรศการ การฉายภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับภารกิจต่างๆของกองทัพอากาศ พร้อมนำชมอากาศยานที่มาร่วมฝึกในครั้งนี้และยังมีการตอบคำถามชิงรางวัล

การฝึกผสมโคปไทเกอร์ (Multi-Lateral Exercise Cope Tiger) ถือได้ว่าเป็นการฝึกผสมทางอากาศที่มีการสนธิกำลังทางอากาศใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการนำกำลังทางอากาศ จาก 3 ชาติ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐสิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการฝึก โดยพัฒนารูปแบบการฝึกให้เข้ากับสถานการณ์การสู้รบในปัจจุบัน ได้แก่ การสมมติสถานการณ์เสมือนจริง ทั้งด้านการควบคุมและสั่งการ การฝึกยุทธวิธีการรบระหว่างเครื่องบินรบต่างแบบ การฝึกโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นดินที่มีการต่อต้านจากอาวุธของหน่วยต่อสู้อากาศยานภาคพื้น การฝึกด้านการข่าวกรองยุทธวิธี โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ และการให้การสนับสนุนของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยบิน หน่วยต่อสู้อากาศยานที่เข้าร่วมการฝึก และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศผสม อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย

สำหรับการฝึกผสมโคปไทเกอร์ 2023 ในครั้งนี้ เป็นการฝึกครั้งที่ 27 โดยมีนาวาอากาศเอก อนุรักษ์ รมณารักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมโคปไทเกอร์ 2023 ฝ่ายไทย Colonel Maxmillion Goh เป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสาธารณรัฐสิงคโปร์ และ Colonel Paul Davidson เป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก และในการฝึกฯ ครั้งนี้ นอกจากกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอากาศแล้ว ยังมีกำลังพลจากกองทัพบก กองทัพเรือ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่จาก บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการฝึกฯ ซึ่งเป็นจัดการฝึกอย่างเต็มรูปแบบหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายลง แสดงถึงความพร้อมด้านความร่วมมือด้านความมั่นคงภาคส่วนกำลังรบทางอากาศในกลุ่มมิตรประเทศของไทย

ภาพข่าว / อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำ จ.นครราชสีมา

ตม.ปากน้ำ จับกุมขบวนการพาต่างด้าวมาลักลอบทำงาน

พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ
พ.ต.ท.จิรัฏฐวัฒน์ กาญจนวรางกูร รองผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.นัฐพล ชมศิริ สว.ตม.จว.สมุทรปราการ สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตม.จว.สมุทรปราการ ออกสืบสวนติดตามจับกุมขบวนการลักลอบพาคนงานต่างด้าวเข้าในราชอาณาจักรและทำงาน จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องสงสัย ใช้รถยนต์ กระบะยี่ห้อ อีซูซุ เป็นพาหนะ เดินทางไปจันทบุรี และ จะลักลอบพาคนต่างด้าวมาส่งยังที่พักบริเวณถนนกิ่งแก้วเพื่อส่งต่อให้ทำงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

 

 

 

 

และเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 20 มี.ค.2566 รถกระบะคันดังกล่าวได้วิ่งจอดรอบริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 25 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตุและพบว่า นายอิศเรศ คนไทย กำลังเปิดประตูและมีคนกำลังลงจากรถลักษณะคล้ายคนต่างด้าว จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ พบว่ามีคนต่างด้าวเมียนมา 3 คน นั่งอยู่หลังคนขับ ไม่มีหนังสือเดินทางและรับว่าหลบหนีเข้าเมือง มีนางบวร คนไทยภรรยา นายอิศเรศ นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ นายอิศเวศ ยอมรับว่าร่วมกับภรรยานางบวร พาคนต่างด้าวทั้ง 3 คน มาจากจันทบุรีโดยคิดค่าใช้จ่าย 3000 บาท โดยส่งเข้าที่ที่กิ่งแก้วและจะพาไปทำงานต่อไป จึงแจ้งข้อหา นายอิศเรศ และนางบวรภรรยา ข้อหา ให้การช่วยเหลือตนต่างด้าว ฯ และ อยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด ส่วนคนต่างด้าวทั้ง 3 คน ข้อหา เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่ง สภ.บางแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

*** ก๊วก สมุทรปราการ ***

ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว สำนักงานพัฒนาภาค 3 จิตอาสา บูรณาการร่วม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายปกครอง สำรวจช่วยเหลือประชาชนประสบเหตุวาตภัยพายุพัดถล่ม 700 หลังคา เมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อม รถตรวจการณ์อเนกประสงค์ จำนวน 2 คัน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนฝนตกหนัก มีลมกรรโชกแรง และลูกเห็บตก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ร่วมกับ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, มณฑลทหารบกที่ 33 และเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม พบว่าบ้านเรือนประชาชนและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายกว่า 700 หลังคาเรือน พร้อมทั้งมอบน้ำดื่ม บก.ทท. จำนวน 700 ขวด

และในส่วนของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เมื่อได้รับการร้องขอ ต่อไป ในพื้นที่ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 บูรณาการร่วม จิตอาสาภัยพิบัติเชียงใหม่ ประชาชน เร่งช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติวาตภัย ลูกเห็บตกหลายพื้นที่ในเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดชุดบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 ชุด ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 33 , จิตอาสาภัยพิบัติจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชน หมู่ที่ 3 บ้านไร่ และ บ้านริมเหมือง หมู่ที่ 6 ตำบลฟ้าฮ่าม ทำการตัดต้นไม้ที่โค่นทับบ้านเรือนของประชาชน ทำการขนย้ายกิ่งไม้ และเศษไม้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง และลูกเห็บตก หลายพื้นที่ใน จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน

การช่วยเหลือในเบื้องต้นนี้เพื่อให้การเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ณ บ้านไร่ หมู่ 3 และ บ้านริมเหมือง หมู่ที่ 6 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

จิตอาสา พร้อมชุดบรรเทาสาธารณภัยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำรวจประเมินความเสียหาย ช่วยเหลือมอบสิ่งของให้ราษฎรอำเภอปัว หลังพายุฝนพัดถล่มหลายหมู่บ้าน

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 จิตอาสา 904 และชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เข้าดำเนินการสำรวจ และประเมินความเสียหาย ในพื้นที่ อำเภอปัว ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง และฝนฟ้าคะนอง พบบ้านเรือนของราษฎรได้รับเสียหาย จำนวน 2 หลัง และได้นำเครื่องอุปโภค บริโภค น้ำดื่มตรากองทัพไทย มอบให้ผู้ได้รับผลกระทบ

ในส่วนของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้เตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์เมื่อได้รับการร้องขอต่อไป ณ บ้านป่าตอง หมู่ 8 และ บ้านป่าตองพัฒนา หมู่ 9 ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ทุกข์ของประชาชน คือภารกิจของทหารไทยที่จะปัดเป่าให้หายไป ทหารไทยหัวใจคือประชาชน

จากเหตุการณ์ เมื่อ 18 มีนาคม 2566 เวลา 15.30 น. ได้เกิดเหตุพายุฝนและลมกรรโชกแรง ในหลายพื้นที่ ของจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดผลกระทบ บ้านเรือน ร้านค้า รวมถึงต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า เกิดความเดือดร้อน กับประชาชนหลายพื้นที่

พลตรี สันติ สุขป้อม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 33 มอบหมายให้ พันเอก ธีระ ผดุงสุนทร รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ตรวจพื้นที่ประสบภัย ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าฮ่าม และได้สั่งการให้ ชุดเตรียมพร้อมของ กองพันมณฑลทหารบกที่ 33 จัดจิตอาสาภัยพิบัติจำนวน 25 นาย ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณสุสานวัดขะจาว ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเหตุต้นไม้ล้มจำนวนมาก ล้มทับเสาไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับหลายพื้นที่ ตำบลฟ้าฮ่ามและการจราจรติดขัดต้นไม้ล้มทับเส้นทาง จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการ นำสิ่งกีดขวางออกจากเส้นทางถนนเป็นการด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโดยมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 1,000 ครัวเรือน

และเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 พลตรี สันติ สุขป้อม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33/ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 33 ได้กรุณาสั่งการให้ ชุดเตรียมพร้อมของ กองพันมณฑลทหารบกที่ 33 จัดจิตอาสาภัยพิบัติ 1 หมวดบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 50 นาย เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มณฑลทหารบกที่ 33 /ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 33 จัดฝ่ายเสนาธิการประสานงาน ร่วมวางแผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการเข้าช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

เวลาต่อมา นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมส่วนราชการบูรณาการวางแผนช่วยเหลือประชาชนตามจุดต่างๆของเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม และเวลา 15.30 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังให้การช่วยเหลือประชาชน และพบปะประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน

ตำรวจจิตอาสาเมืองเชียงใหม่ ทำความสะอาดพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุลมฝนลูกเห็บตก รอบพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 พันตำรวจเอก พงศธร เตมีศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ นำกำลังชุดจิตอาสา สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่, สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง, สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ และสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ทำภารกิจให้ความช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นตั้งแต่สนาม ฮ. ถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุลมฝนกรรโชกแรงและพายุลูกเห็บตก เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา