“ศรัณย์วุฒิ” สมาชิกพรรค รทสช.คนใหม่ เสนอแก้ไข แช่แข็งหนี้ทั้งแผ่นดิน หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดฟ้อง หยุดยึดทรัพย์ เกษตรร่ำรวย อสม.ร่ำรวย นำเป็นนโยบายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ สู้กับพรรคเพื่อไทย ไล่บี้! “น.ค.1-น.ค.3 ปัญหาชาวท่าปลา” เอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินยังไม่ถูกนำเสนอเข้า ครม

“ศรัณย์วุฒิ” สมาชิกพรรค รทสช.คนใหม่ เสนอแก้ไข แช่แข็งหนี้ทั้งแผ่นดิน หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดฟ้อง หยุดยึดทรัพย์ เกษตรร่ำรวย อสม.ร่ำรวย นำเป็นนโยบายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ สู้กับพรรคเพื่อไทย ไล่บี้! “น.ค.1-น.ค.3 ปัญหาชาวท่าปลา” เอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินยังไม่ถูกนำเสนอเข้า ครม

“ศรัณย์วุฒิ” สมาชิกพรรค รทสช.คนใหม่ เสนอแก้ไข แช่แข็งหนี้ทั้งแผ่นดิน หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดฟ้อง หยุดยึดทรัพย์ เกษตรร่ำรวย อสม.ร่ำรวย นำเป็นนโยบายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ สู้กับพรรคเพื่อไทย ไล่บี้! “น.ค.1-น.ค.3 ปัญหาชาวท่าปลา” เอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินยังไม่ถูกนำเสนอเข้า ครม.

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 66 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตสส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดเผยหลังเดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ว่า ตนพร้อมด้วยลูกสาว น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ในระหว่างนี้ได้มีโอกาสพูดคุยสนทนากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ และผู้บริหารพรรค เนื่องจากมีอุดมการณ์ตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ คือ เน้นทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน สิ่งที่สำคัญคือต่อสู้กับประชาธิปไตยปล้นชาติ ประชาธิปไตยจอมปลอม

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ตนได้นำนโยบายที่คิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้วและได้หาเสียงกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ก่อนที่จะมีการประกาศยุบสภา นำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ และผู้บริหารพรรค อาทิ นโยบายแช่แข็งหนี้ทั้งแผ่นดิน หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดยึดทรัพย์ หยุดเครดิตบูโร 3-5 ปี เศรษฐกิจดีค่อยว่ากัน เติมเงิน 2 เด้ง ฟื้นชีวิต ฟื้นเศรษฐกิจ, เกษตรร่ำรวย ด้วยองค์ความรู้ รัฐต้องช่วย (เกษตรรวยแน่) อะไรที่จนปรับเปลี่ยน ช่วงแรกรัฐต้องอุ้ม สุดยอดสายพันธุ์สัตว์ แปรรูปสู่ตลาดโลกโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์จากโทรศัพท์มือถือเข้ามาช่วย น้ำร่ำรวยจากการขุดสระรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง ไม่ปล่อยทิ้งลงทะเล น้ำมันร่ำรวยวันนี้ประมงได้ใช้น้ำมันราคา 20 บาท แต่เกษตรจนๆใช้ราคาลิตรละกว่า 40 บาท หากให้เกษตรทั้งแผ่นดินได้ใช้ในราคาประมง เกษตรกรจะรัก พล.อ.ประยุทธ์ มากเลย สุดท้าย อสม.ร่ำรวย ผู้สูงอายุกว่าทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน อยากมาอยู่เมืองไทย จ้างคนดูแลเดือนละกว่า 100,000 บาท หากให้อสม.ไทยเข้ามาดูแล จะได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ทำให้ประเทศไทยมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านต่อปี โดยเลือกผู้สูงอายุที่นิสัยดีมีตังส์ อสม.ไทยมีจำนวนกว่า 1 ล้านคน แต่ผู้สูงอายุทั่วโลกมีมากกว่า 1,000 ล้านคน ประเทศไทยจึงเป็นเหมือนบ้านที่สองของผู้สูงอายุเหล่านี้

“ ตนได้พูดคุยกับ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้ อสม.ยกระดับการรักษาพยาบาลด้วยการอบรม 2 อาทิตย์ จะมีความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี รวมถึงการนวดผ่อนคลาย เรียนรู้ด้านภาษาต่างประเทศ อาหารสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรมของผู้สูงอายุชาวต่างชาติสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทยมหาศาล นายศรัณย์วุฒิ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสั้นๆว่า จะนำเรื่องที่เสนอมาไปพิจารณาเป็นนโยบายของพรรค

นอกจากนี้ ตนยังได้แจ้งปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของพี่น้องชาวอำเภอท่าปลายอมเสียสละที่ดินทำกินอันอุดมสมบูรณ์ เพื่อก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ให้ประชาชนทั้งประเทศได้มีไฟฟ้าใช้ จนถึงปัจจุบันเกือบ 60 ปีแล้ว ยังไม่ได้เอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะการปรับ น.ค.1-น.ค.3 เพื่อออกเป็นโฉนดที่ดินทำกิน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขั้นตอนเหลือเพียงแค่นำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาออกเป็นพระราชกฤษฎีกา พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ โดยมีนายจุติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมปรึกษาหารือถึงความคืบหน้าในเรื่องปัญหาดังกล่าวให้กับชาวอำเภอท่าปลา เพื่อนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนชาวอำเภอท่าปลา พร้อมแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เป็น คทช.ให้กับคนจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่นพื้นที่อำเภอลับแล พิชัยท่าปลาน้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก ทองแสนขันและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ต่อไป.

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.จันทบุรี และสมาคมฌาปนกิจ ประชุมใหญ่เลือกนายกสมาคมฯ แทนคนเก่าที่เกษียณอายุ และหมดวาระ 2 ปี

สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.จันทบุรี และสมาคมฌาปนกิจ ประชุมใหญ่เลือกนายกสมาคมฯ แทนคนเก่าที่เกษียณอายุ และหมดวาระ 2 ปี ได้กำนันต้น เขาคิชฌกูฏนั่งนายกสมาคมใหญ่ และ กำนันแดง วังแซ้ม นั่งนายกฌาปนกิจสงเคราะห์

บ่ายวันที่ ( 23 มี.ค.66 ) ที่ห้องประชุมบุษราคัม องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรี และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้จัดประชุมใหญ่ พร้อมกันทั้ง 2 สมาคม โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญในการเลือกนายกสมาคม ทั้ง 2 สมาคม แทนคนเก่าที่ครบวาระ 2 ปี โดยสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่มี กำนันสุเทพ มีกระโดน กำนันตำบลบ่อเวฬุ อ.ขลุง ครบวาระ และเกษียณอายุ 60 ปี จึงต้องมีการเลือกตั้ง นายกสมาคม

โดยที่ประชุมได้เสนอชื่อ นายภาณุ วิทูธีรศาสนต์ หรือกำนันต้น กำนัน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรี เป็นการเลือกตั้งแบบเปิดเผย ไร้คู่แข่ง ที่ประชุมโหวตยกมืออย่างท่วมท้น / ส่วนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เสนอชื่อ ว่าที่ร้อยตรี เลวิส กองมณี หรือกำนันแดง กำนัน ต.วังแซ้ม อ.มะขาม อดีตนายกสมาคมฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฌาปนกิจ ต่อ อีก 1 สมัย หลังครบวาระ และไม่มีคู่แข่งเช่นกัน

ซึ่งการเลือกตั้ง เสนอชื่อนายกสมาคมทั้ง 2 แห่งของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรีเป็นไปตามระเบียบวาระการประชุม บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส และเปิดเผย ทั้งนี้สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรีที่ได้นายภาณุ วิทูธีรศาสนต์ หรือกำนันต้น กำนัน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี มีคณะกรรมการรวม 35 ราย ส่วนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้ว่าที่ร้อยตรี เลวิส กองมณี หรือกำนันแดง กำนัน ต.วังแซ้ม อ.มะขาม อดีตนายกสมาคมฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฌาปนกิจ ต่อ อีก 1 สมัยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี เช่นกัน ปัจจุบันสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดจันทบุรีมีสมาชิกประมาณ 8,000 ราย กรณีสมาชิกเสียชีวิตทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์รายละ 240,000 บาท

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

ความเคลื่อนไหวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน หลังจากมีการประกาศยุบสภาลงในพระราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566

ความเคลื่อนไหวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน
หลังจากมีการประกาศยุบสภาลงในพระราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566

ทำให้บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองต่างมีความเคลื่อนไหว ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อแนะนำตัวเองทั้งป้ายเล็กป้ายใหญ่ตามถนนสายหลักและสายลองทั้งรูปเดี่ยวและรูปคู่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณัฐเศรษฐ์ ราชไชยยา ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน

กล่าวว่า การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำตัวของผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ทุกพรรคการเมือง ทางเราอนุโลมให้ติดตั้งตามถนนสายต่างๆเป็นจุดๆทั้งที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ,1095,1263,และสาย 105 อำเภอสบเมย – อำเภอท่าสองยาง แต่อย่าให้เบียดบังทัศนียภาพ หรือทางร่วมทางแยกเป็นปัญหาแก่การจราจร.

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / แม่ฮ่องสอน

ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ( อย่างไม่เป็นทางการ )

ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ( อย่างไม่เป็นทางการ ) รวม 6 เขตที่มีการเลือกตั้งจำนวนผู้มีสิทธิ์ 44,050 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 5,902 คน คิดเป็นร้อยละ 13.40

นางสาว ยุพ์จิรดา กุลรักษา ประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ( อย่างไม่เป็นทางการ ) ของการเลือกตั้งใน 6 เขตที่มีผู้สมัครเกิน 1 ราย ส่วนอีก 10 เขต มีผู้สมัครเพียงรายเดียวจึงไม่มีการเลือกตั้ง โดย 1.อำเภอเมืองจันทบุรีเขต 1 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 9,765 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 937 คน คิดเป็นร้อยละ 9.60 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้ หมายเลข 1 นายธีระ วงษ์เจริญ คะแนนรวม 548 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง) / หมายเลข 2 นายธนัท จันทร์เกตุ คะแนนรวม 340 คะแนน
2. อำเภอเมืองท่าใหม่เขต 2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 5,414 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 753 คน คิดเป็นร้อยละ 13.91 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้หมายเลข 1 นายณรงค์สิชณ์ สุทธาทิพย์ คะแนนรวม 657 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง) หมายเลข 2 นายกิตติรัตน์ เวชพิทักษ์ คะแนนรวม 55 คะแนน
3. อำเภอแก่งหางแมวเขต 2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 6,107 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,033 คน คิดเป็นร้อยละ 16.92 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้หมายเลข 1 นายอนงค์ สมคิด คะแนนรวม 610 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง)หมายเลข 2 นายโรจนะ สวัสดี คะแนนรวม 350 คะแนน
4. อำเภอโป่งน้ำร้อนเขต 1 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,910 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 975 คน คิดเป็นร้อยละ 12.34 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้หมายเลข 1 นายกวิน กอหญ้ากลาง คะแนนรวม 681 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง) หมายเลข 2 นายปัญญา หมูคำ คะแนนรวม 221 คะแนน
5. อำเภอสอยดาวเขต 1 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,579 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,224 คน คิดเป็นร้อยละ 16.15 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้ หมายเลข 1 นายบุญยัง วานคำ คะแนนรวม 432 คะแนน หมายเลข 2 นายสุพล ลิมป์รัชดาวงศ์ คะแนนรวม 683 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง)
6. อำเภอสอยดาวเขต 2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 7,278 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 980 คน คิดเป็นร้อยละ 13.46 โดยคะแนนของผู้สมัครแต่ละรายดังนี้หมายเลข 1 นายณรงค์ ศรีโสภา คะแนนรวม 171 คะแนน หมายเลข 2 นางสาวกนกวรรณ พิมพ์สงวน คะแนนรวม 662 คะแนน (ชนะการเลือกตั้ง) และหมายเลข 3 นายสมยงค์ ยินดี คะแนนรวม 83 คะแนน
รวมยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 6 เขต จำนวน 44,050 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 5,902 คน คิดเป็นร้อยละ 13.40

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

‘อุ๊งอิ๊ง’ ปราศรัยใหญ่เพื่อไทยชลบุรี

ชลบุรี-“อุ๊งอิ๊ง” นำทีมพรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศัยใหญ่ที่ชลบุรี อ้อนชาวเมืองชลฯ ร่วมแลนด์สไลด์เปลี่ยนชีวิตคนไทย ชาวบ้านร่วม 2 หมื่นร่วมฟังปราศัยคับคั่ง

วันที่ 18 มี.ค.66 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี พรรคเพื่อไทยได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ “ชลบุรี คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรีมีทั้งสิ้น 10 เขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรีครบทั้ง 10 เขต พร้อมทั้งได้มีการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหสุดชลบุรีอย่างยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย

เขต 1 สุภีพันธ์ุ หอมหวล
เขต 2 ฉัตรชัย อั้งลิ้ม
เขต 3 มานิตย์ ภาวสุทธิ์
เขต 4 สรวุฒิ เนื่องจำนงค์
เขต 5 อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์
เขต 6 สุกุมล คุณปลื้ม
เขต 7 สงกรานต์ ภาชนะ
เขต 8 ชวลิตร แสงอุทัย
เขต 9 แมน อินทร์พิทักษ์
เขต 10 พนธกร ใคร่ครวญ

นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าทีมพรรคเพื่อไทย จังหวัดชลบุรี ได้เปิดใจถึงการเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทย ว่า ปี 2548 ได้ร่วมทำงานกับพรรคไทยรักไทยสมัยนั้น ได้ ส.ส. รวมทั้งสิ้น 377 เขต เรามีทีมงานที่มีแต่ความจริงใจที่พร้อมจะมอบความจริงในการพัฒนาให้กับประชาชน เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราพูดจริง ทำจริง ทำได้จริง และเห็นผลงานจริง

อยากฝากให้พี่น้องพิจารณาผู้แทนที่มีความจริงใจ ไม่ใช่คนที่ไม่ยอมรับความจริง รู้ที่ไปแต่ลืมที่มา เพราะยังไงความจริงก็คือความจริง ลองคิดแล้วกันว่าคนที่ลืมผู้มีพระคุณคนที่ชักนำตนเองมาสู่วงการการเมืองท้องถิ่น แล้วมาสร้างเรื่องโกหกต่างๆ นานาว่าสามารถเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน ขอฝากพี่น้องร่วมกันแลนด์สไลด์ยกทั้งจังหวัด ให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ล้นหลามทั้ง 10 เขตด้วยการเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งประเทศ

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้ง จะได้ทำการสำรวจครอบครัวประชาชนทั่วประเทศที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่น ก็จะหาแนวทางเติมให้ และจะพิจารณาการเพิ่มเวลาท่องเที่ยวให้ชาวต่างชาติสามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี และงานสำคัญระดับชาติจะผลักดันจัดที่ชลบุรี ไทยมีเซอร์วิสที่ดี จึงควรเน้นในเรื่องนี้ โดยพี่น้องจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าอย่างแน่นอน ขอให้พี่น้องกำหนดชะตาชีวิตตัวเองเลือกพรรคที่จะเข้ามาช่วยเหลือให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึั้น ขอให้เลือกทั้งพรรคทั้งคน แล้วเราจะฝ่าวิกฤต ไปด้วยกัน

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองขออาสาเข้ามาทำงานให้ประชาชน ไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจคนเพียงกลุ่มเดียว เป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง ที่จะเอาความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง ความเท่าเทียม เสมอภาค คือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ถ้าสิทธิเสรีภาพถูกริดรอน เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยจะทวงคืนกลับมาให้ประชนชน

การเพิ่มรายได้คือเรื่องใหญ่ เกษตรกรไทยใน 4 ปี หลังจากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล รายได้จะเพิ่มขึ้น เราจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค และมีนโยบายเติมเงินดิจิตัลวอลเล็ตให้คนไทยอายุตั้งแต่16 ปีขึ้นไปทุกคนให้ใช้ภายใน 6 เดือนในพื้นที่ 4 กม.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่น หากได้ ส.ส.เกิน 310 เขต พรรคเพื่อไทยจะได้จัดตั้งรัฐบาล และหากพี่น้องชลบุรีเลือกทั้งพรรคและคนทั้ง 10 เขต ไม่ใช่แค่คุณปลื้มอย่างเดียว ผมก็ปลื้ม พรรคเพื่อไทยก็ปลื้มด้วย ขอฝากผู้สมัครทั้ง 10 คน เพื่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

“อุ๊งอิ๊ง” นำพรรคเพื่อไทย ปราศรัยใหญ่ท่ามกลางชาวชลบุรี ต้อนรับอบอุ่นหลายหมื่นคน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร “อุ๊งอิ๊ง” นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสนธยา คุณปลื้ม นางสาวสุกุมล คุณปลื้ม และผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ทั้งหมด 10 เขต เปิดตัวผู้สมัคร สส. พร้อมร่วมกันปราศรัยใหญ่ โดยมีประชาชนชาวชลบุรีเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยหลายหมื่นคน ต่างพากันตอบรับครอบครัวเพื่อไทย

อุ๊งอิ๊ง บอกว่าตนเองมาชลบุรี ครั้งนี้ตั้งแต่ครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว คุณหมอยังให้เดินพบหาประชาชนได้ แต่ขอให้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนั้น ในการร่วมปราศศัยครั้งนี้ ยังได้ขอให้พี่น้องชาวชลบุรี ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทั้ง 10 เขต อีกด้วย

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกร จ.จันทบุรี

บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรีไม่คึกคัก เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิ์ในช่วงเวลา 8 โมงเข้า ถึง 5 โมงเย็น นายธวัชขัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีลงตรวจเยี่ยมอำนวยความสะดวกที่หน่วยเลือกตั้ง พร้อมเชิญชวนสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรีไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด

ซึ่งจันทบุรีมีจำนวนผู้มีสิธิ์ 44050 ราย แบ่งเป็น 6 เขตเลือกตั้งและมีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งจังหวัด 34 หน่วยเลือกตั้ง

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

ร้อยเอ็ด ตรวจความพร้อมหน่วยเลือกตั้ง ผู้แทนเกษตรกร519 หน่วยเลือกอำเภอละ1คนรวม20คน

วันที่ 19 มี.ค. 66 เวลา 07.00 น นางสาวชมพูนุช ญาณะนันท์ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะเลขานุการคณะ นำคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร และการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งบรรยากาศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกษตรกรต่างทยอยออกไปใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก

โดยคณะได้ลงพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ในการติดตามการเตรียมความพร้อมของสถานที่ หีบบัตร และอุปกรณ์เลือกตั้ง ซึ่งภาพรวมถือว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็น สามารถเปิดหีบลงคะแนนเสียงได้ตามเวลาที่กำหนด คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ประมาณ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็น ซึ่งอำเภอศรีสมเด็จ มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 17 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้ลงสมัค 4 ท่าน ได้แก่ หมายเลข 1 นายสัน หารสุโพธิ์ หมายเลข 2 นายพรชัย ธราวุธ หมายเลข 3 นายอุดม เอ็นคะวัน และหมายเลข 4 นางสาวณัฐกานต์ สาไชยยันต์

ทั้งนี้จังหวัดร้อยเอ็ด มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 519 หน่วย เกษตรกรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 597,156 คน และมีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด ครบทั้ง 20 อำเภอ จำนวนทั้งสิ้น 53 คน แยกเป็นชาย 43 คนหญิง 10 คน โดย 1 อำเภอจะมีผู้แทนเกษตรกรได้เพียง 1 คน และจะเปิดหีบเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน หรือเกษตรกรสามารถตรวจสอบสิทธิ์และหน่วยเลือกตั้งได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ

สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/088-573-0542/ ข่าว

มุกดาหาร ธนาธรช่วยหาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล เขต 1

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2566 ที่ตลาดราตรี อ.เมืองมุกดาหาร ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมช่วยหาเสียงกับ สุพจน์ สุอริยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 1 จ.มุกดาหาร ร่วมเดินตลาดพร้อมแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์นโยบายและแนะนำตัวผู้สมัครของพรรคก้าวไกล โดยได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากทั้งผู้ค้าและประชาชน ที่ให้ความสนใจเข้ามาพูดคุยและถ่ายรูปร่วมกันอย่างเป็นกันเอง

โดยในการเดินหาเสียงครั้งนี้ ยังมีการนำเอา “แผงหวยนโยบาย” ที่ทำเสมือนแผงหวยจริง โดยในแต่ละใบจะมีการเขียนนโยบายของพรรคก้าวไกลลงไปแทนตัวเลข เป็นรูปแบบของแผ่นพับประชาสัมพันธ์นโยบายที่สร้างสีสันให้กับการหาเสียงได้เป็นอย่างดี

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร /รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177

วันนอร์เปิดเวทีคู่ขนานกับจุรินทร์ที่โก-ลก แย่งชิงมวลชน ปชป.ชูไม่แก้ ม.112 ส่วนประชาชาติเย้ยยากที่จะทวงแชมป์ เพราะลูกพรรคคนเดิมย้ายไปพรรคอื่นหมดแล้ว

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

วันนอร์เปิดเวทีคู่ขนานกับจุรินทร์ที่โก-ลก แย่งชิงมวลชน ปชป.ชูไม่แก้ ม.112 ส่วนประชาชาติเย้ยยากที่จะทวงแชมป์ เพราะลูกพรรคคนเดิมย้ายไปพรรคอื่นหมดแล้ว

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 มี.ค. 66 ที่ห้องประชุมโรงเรียนเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พรรคประชาชาติภายใต้การนำของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ ได้ควงนายอารีเพ็ญ อุตรสินทธ์ นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ รอง หน.พรรคประชาติ อดีต ส.ส.หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาติ ได้เปิดเวทีปราศรัยกับกลุ่มสตรีที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ ตากใบ จำนวน 400 คน ซึ่งอยู่ในเขต 2 พร้อมได้แนะนำตัว นายเจ๊ะซู ตาเหย็บ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และนายมูหามะรอมือลี อาแซ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 ชูนโยบายเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบแลนด์สไลด์ 15 คน ใน 3 จชต.และ อ.จะแนะ ของ จ.สงขลา รับรอง 1 ใน 3 เป็นรัฐมนตรี สามารถเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชน ยกตัวอย่าง ส.ส.ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเป็นคนภาคอีสาน เมื่อก่อนเคยได้รับสมญาว่าอีสานกันดาร แต่เดี๋ยวนี้อีสานเขียวขจี คนใต้ต้องไปทำงานถางป่าทำสวนที่ภาคอีสาน แต่ถ้าเลือกพรรคประชาชาติ ภาคใต้ก็จะมีการพัฒนา ไม่เช่นนั้นภาคใต้เราก็จะเหมือนเดิม มี ส.ส.ไม่มากเพียงพอก็ไม่สามารถที่จะผลัดดันปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้
ส่วนทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดปราศรัยครั้งใหญ่ที่สนามหญ้าเทียม L SOCCER PARK อ.สุไหงโก-ลก ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค เปิดปราศรัยใหญ่ โดยชูนโยบายสร้างสันติภาพสู่สันติสุขชายแดนใต้ พร้อมได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส จังหวัดนราธิวาสทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายวัสสันต์ ดือเระ เขต 2 นายเมธี อรุณ เขต 3 นายสุลัยมาน มะโซ๊ะ เขต 4 นายไซดี เจ๊ะหามะ และเขต 5 นายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง โดยมีพลังมวลชนจำนวนกว่า 7,000 คน เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างสนุกสนาน จากคำพูดของนายจุรินทร์ หน.พรรคประชาธิปัตย์ ที่แหลมคนกรีดเข้าไปในหัวใจ เฉดเช่นนายชวน หลีกภัย อดีต หน.พรรคประชาธิปัตย์ครั้นในอดีต
ซึ่งบางช่วงบางตอนได้กล่าวว่า ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาลหรือจะไม่ แต่ทางพรรคมีจุดยืนที่สำคัญก็คือ 1. พรรคประชาธิปัตย์จะยืนหยัดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นี่คือทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าในอนาคตจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประชาธิปัตย์ก็ไม่ขัดข้องเพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่ประชาธิปัตย์มีข้อแม้ 2 ข้อ คือ 1.ต้องไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2 และ 2. ต้องไม่ยกเลิกมาตรา 112

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ส่วนในวันนี้ที่มีพรรคประชาธิปัตย์มาเปิดเวทีคู่ขนานปราศรัยใหญ่เพื่อทวงคืนที่นั่งในอดีตที่ผ่านมา เคยเป็นแชมป์มาตลอด และการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคประชาชาติได้มากกว่า ซึ่งเรามองที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเก่า สส.เก่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้ว ซึ่งปกติแล้วที่เหลือแชมป์ก็คือพรรคประชาชาติ เราจะต้องรักษาให้ได้ และที่สำคัญคือเขตเลือกตั้งที่เกิดใหม่พรรคประชาชาติก็มีความมั่นใจ เพราะเนื่องจากกระแสของพรรคประชาชาติโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ร้อยละ 62 ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองไหนที่กระแสขึ้นมากขนาดนี้ ขนาดที่พรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่รุ่งเรืองนั้น กระแสของพรรคก็ไม่ถึงร้อยละ 50 ดังนั้นในช่วงโค้งสุดท้ายเราจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าไม่ใช่เลือกพรรคประชาชาติตามความนิยม แต่การเลือกพรรคประชาชาติเป็นการเปลี่ยนอนาคตให้ดีขึ้น
ซึ่งการเปิดเวทีปราศรัยคู่ขนานในครั้งนี้ เป็นการแย่งชิงมวลชนของทั้ง 2 พรรค โดยถือว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคเจ้าถิ่น ที่หัวหน้าพรรคและสมาชิกในพรรคส่วนใหญ่เป็นคนใต้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ มีว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.เท่านั้นเป็นคนในพื้นที่ ส่วนหัวหน้าพรรคและผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นคนภาคอื่น นอกจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคเป็นคนใต้ ที่ถือว่าได้รับความนิยมถกถอยน้อยกว่านายชวน หลีกภัย อดีต หน.พรรคประชาธิปัตย์ และคงอีกไม่นานค่านิยมชมชอบของมวลชนจะเลือก ว่าที่ผู้สมัครพรรคใดเข้าไปนั่งในสภาได้มากกว่ากัน เดือนพฤษภาคม 66 นี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
///////////////////////// 18 มีนาคม 2566