google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

กาฬสินธุ์ สลด!!หนุ่มทาสยาบ้าคลั่งควงมีดฟันคอพี่สาวดับอนาถ ฉุนขอเงินไม่ได้

สลดหนุ่มทาสยาวัย 39 ปี ชาวตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์เกิดคลุ้มคลั่งควงมีดดาบยาวเกือบเมตรฟัน คอพี่สาวดับอนาถคาบ้านพัก ฉุนขอเงินไม่ได้และเข้าใจว่าพี่สาวเอายาบ้าไปซ่อนไม่ให้เสพ ตำรวจตามรวบทันควัน พบประวัติป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติดยาบ้า

เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 29 กันยายน 2566 ร.ต.อ.ฤทธิ์ เสียงล้ำ ร้อยเวร สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 249 ม. 2 บ้านโคกศรี ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังนายชาณญ์ บุตรวงศ์ นายอำเภอห้วยผึ้ง พ.ต.อ.สีหชาติ พรจรรยา ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ยงยุทธ ภูตาลพบ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยผึ้ง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่งคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ห้วยผึ้ง เจ้าหน้าที่กอ.รมน.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง

โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จากการตรวจสอบภายในบ้านมีร่องรอยการต่อสู้ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจาย บริเวณหน้าห้องน้ำภายในบ้าน พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส. จุฬารักษ์ คงคูณ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ตรวจสอบตามร่างกายมีร่องรอยถูกมีดฟันที่บริเวณต้นคอด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และบริเวณน่องขวา โดยมีจอบวางอยู่บนลำตัว นอกจากนี้ยังพบมีดดาบยามเกือบ 1 เมตรวางอยู่โคนต้นเสาในบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
สอบสวนเบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเทิดเกียรติ คงคูณ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.2 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้หลังก่อเหตุมีชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไว้ได้ที่บ้านพักที่อยู่ใกล้กัน

 

จากการสอบถามนางสาวสรุตา กุลชโมริน อายุ 24 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายเทิดเกรียติ ได้เข้ามาถามหายาบ้ากับพี่สาว และพยายามขอเงินไปซื้อยาบ้า แต่ น.ส.จุฬารักษ์ ผู้เสียชีวิต ตอบปฏิเสธ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่มีเงินให้ พร้อมกับต่อว่า จึงเกิดมีปากเสียทะเลาะกัน ก่อนที่นายเทิดเกียรติไม่พอใจและถืออาวุธมีดดาบยาวเข้าไปทำร้าย โดยฟันที่คอและน่องเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านนางวิลาวัลย์ ศรีลำดวน อายุ 59 ปี น้าผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงเช้าหลานวิ่งไปบอกว่า น.ส. จุฬารักษ์ ถูกน้องชายฆ่าตาย ตนจึงรีบวิ่งมาดูและพยายามจะช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่น.ส. จุฬารักษ์ได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ส่วนนายเทิดเกียรติ น้องชายผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุก็นำมีดล้างคราบเลือด ซึ่งช่วงนั้นก็พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายคนอาการหลอน และขู่ฆ่าใครที่เข้ามายุ่ง ก่อนจะเดินไปหลบที่บ้านพักของตนเองที่อยู่ใกล้กัน กระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวไป

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่านายเทิดเกียรติมีประวัติเคยรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวช มีประวัติการใช้สารเสพติด ยาบ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด พร้อมส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยผึ้ง เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

เชียงราย จับสิบเอก ผอ.กองคลังอบต.จากลพบุรีซิ่งเก๋งขนยาบ้า 2 ล้านเม็ด จนท.สกัดจับก่อนพ้นเชียงรายสารภาพทำแล้ว 12 ครั้ง!!

วันนี้ (28 ก.ย.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว.เชียงราย,สภ.พาน จ.เชียงราย,บก.สส.ภ.5,ทหารศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ศป.บส.ชน.),ศปก.ทบ.,ศรภ.,และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำเจ้าหน้าที่ขยายผลคดียาเสพติด หลังจากในเดือน ก.ย.นี้ ศอ.ศป.ปส.ชน.สืบทราบว่าได้มีหญิงสาวเป็นกลุ่มชาติพันธุ์คนหนึ่งไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งแต่กลับมีเงินซื้อที่ดินเพื่อเปิดโกดังรับจอดรถในพื้นที่ ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา และมีพฤติกรรมน่าสงสัยเพราะมีรั้วรอบขอบชิดและคลุมแสลม จากนั้นมีรถที่ขับมาจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ขับเข้าออกเฉพาะช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน และหลายคันใช้ป้ายทะเบียนรถปลอมหรือสวมทะเบียน

ต่อมาวันที่ 27 ก.ย.66 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว เป็นรถเช่าป้ายทะเบียน จ.สระบุรี ขับเข้าไปในโกดังนานประมาณ 5 นาที จากนั้นขับอ้อมด่านตรวจกิ่วทัพยั้งบนถนนพหลโยธิน ต.แม่จัน อ.แม่จัน อย่างมีพิรุธก่อนจะขับไปตามทางเลี่ยงเมืองและวกกลับสู่ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทาง อ.พาน เขตติดต่อกับ อ.แม่ใจ จ.พะเยา เพื่อจะเข้าสู่ชั้นในของประเทศวางกำลังสกัดกั้นเอาไว้ที่ด่านตรวจปูแกง ต.แม่เย็น อ.พาน และรถคันดังกล่าวขับไปถึงได้เรียกตรวจสอบพบมี ส.อ.ศุภากร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี รับราชการเป็นรักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ขับมาตามลำพังขณะที่ยังสวมเครื่องแบบข้าราชการชุดภาคสนามและห้อยเสื้อข้าราชการสีกากีไว้ในรถ เมื่อตรวจภายในรถพบกระสอบฟางบางใบอยู่ในถุงพลาสติกสีดำและบางใบไม่มีถุงคุลมวางอยู่ตามจุดต่างๆ เช่น เบาะหลัง ที่วางเท้า กระโปรงหลังรถ ฯลฯ รวมจำนวน 10 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดประเภท (ยาบ้า)ใบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดจำนวน 2 ล้านเม็ด จึงได้จับกุมตัว ส.อ.ศุภากร เอาไว้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า “เป็นข้าราชการของรัฐมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างจากหญิงสาวคนหนึ่งให้ขับรถขนยาเสพติดมาแล้ว 12 ครั้ง ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปส่งที่ภาคกลางแลกกับเงินค่าจ้างครั้งละ 150,000 บาท โดยได้รับค่ามัดจำก่อน 25,000 บาท ครั้งนี้ได้ไปเช่ารถยนต์เก๋งแล้วขับไปถึง อ.แม่จัน จากนั้นได้มีชายหญิง 2 คน ไปรับรถแล้วนำมาส่งคืนก่อนให้ตนขับไปกลับไปยังภาคกลางตนจึงขับรถเลี่ยงด่านตรวจกิ่วทัพยั้งและวกกลับสู่ถนนพหลโยธินเพื่อมุ่งหน้าจะไปทาง จ.พะเยา โดยไม่มีรถนำขบวนหรือติดตามแต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ที่ด่านตรวจปูแกงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลตามกฎหมายต่อไป

ต้อม มหาสิงห์ ข่าวแม่จันนิวส์ออนไลน์ รายงาน

ทหาร ฉก.ทัพเจ้าตาก ปะทะกลุ่มขบวนการยาเสพติด ยึดไอซ์ 225 กก. ด้านชายแดนแม่สาย

เหตุเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ยิงปะทะกลุ่มขบวนการยาเสพติด ยึดยาไอซ์ 225 กก. ด้านชายแดน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 เวลา 00.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้จัดชุดกำลังเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนบริเวณพื้นที่ บ้านป่าแดง ม.5 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในขณะนั้นได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 7 คน แบกเป้สัมภาระเข้ามายังพื้นที่เฝ้าระวัง จึงได้ส่งสัญญาณแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิด ยิงใส่ฝ่ายเรา จึงได้เกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ผลการปะทะ ฝ่ายเราปลอดภัย จึงได้ประสานเพื่อขอกำลังเพิ่มเติม จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบพบสามารถยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 9 เป้ๆ ละ 25 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 225 กิโลกรัม

ต่อมาในตอนเช้าของวันที่ 24 ก.ย. 66 เวลา 09.45 น. ทางด้าน พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ลงพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุยิงปะทะและยึดยาเสพติดได้ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ากลุ่มขบวนการได้ลักลอบลำเลียงข้ามแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นแม่น้ำที่แบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และหลังจากการตรวจสอบของกลางและเส้นทางลำเลียงตามแนวตะเข็บชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จึงนำของกลางทั้งหมดส่งให้ สภ.เกาะช้าง เขตพื้นที่ อ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ – ข่าวจาก – ฉก.ทัพเจ้าตาก
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ รายงาน

ตร.แม่สรวยเชียงราย สกัดจับยาบ้า 50,000 เม็ด ผู้ต้องหาชาวเขา 1 ราย

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ. แม่สรวย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นยาเสพติดตำรวจภาค 5 ประสานการปฏิบัติกับ ชุดสืบสวนภาค 5 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ชุดสืบสวน สภ.แม่สรวย ได้รับรายงานจากสายลับจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพแอบลักลอบลำเลียงผ่านเส้นทางพื้นที่ อ.แม่สรวย จึงได้วางกำลังเพื่อสกัดกั้นจับกุม

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 19.50 น. ร.ต.อ.ศุภวิชญ์ เวชพสษฐ์ รอง สวป. สภ.แม่สรวย หัวหน้าชุดประจำด่านตรวจ ท่าก๊อแม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจท่าก๊อ ในขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้ส่งสัญญาณเพื่อขออนุญาตตรวจค้น รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ขค 6306 เชียงราย ซึ่งเป็นรถเป้าหมายตามที่สายลับแจ้งมาเพื่อหวังเงินรางวัลสินบนนำจับ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องยนต์ที่จะขับแหกด่านเพื่อหลบหนีทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อุปกรณ์พิเศษในการสกัดล้อยางรถยนต์คันดังกล่าว แล้วรีบขับขี่รถยนต์ออกไล่ติดตามรถต้องสงสัยไปได้ ประมาณ 800 เมตร เห็นรถเป้าหมายไถลเสียหลักลงข้างทางบริเวณบนถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 118 เชียงราย-เชียงใหม่ เขตบ้านป่าเหียง ม.14 ต.ท่าก๊อ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบนายแสน คำมุ้ย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม. 9 ต.ห้วยชมภู ต.แม่สรวย อ.เมือง จ.เชียงราย นั่งอยู่บริเวณตรงเบาะผู้โดยสารด้านซ้าย ส่วนคนขับขี่สามารถวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางหายไปในความมืด ทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายวีรพันธ์ พรางไพรงาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย จากการตรวจค้นอย่างละเอียดภายในรถยนต์กระบะ พบยาเสพติดให้โทษ ประเภท1 (ยาบ้า) จำนวน 50,000 เม็ด ยาเสพติดให้ชนิดกลมแบนด้านหนึ่งประทับด้วยตัวอักษร WY มีฉลากกระดาษไข่ห่อหุ้มปั๊ม ดาว 666 โดยซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายหลังสีดำวางอยู่ที่พักเท้าหลังเบาะนั่งฝั่งคนขับขี่ และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีดำ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีขาว 1 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO สีน้ำเงิน-ดำ 1 เครื่อง บัตรประจำตัวประชาชนของนายวีรพันธ์ พรางไพรงาม อาวุธมีดขนาดความยาวรวมด้าม 54 ซม. จำนวน 1 เล่ม ของกลางทั้งหมดตรวจค้นได้ภายในรถของกลาง

จากการสอบปากคำ นายแสนฯ ให้การว่า ตนเองได้ไปรับยาเสพติดล็อตนี้จากชาวเขาเผ่าลาหู่ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 40 ปี ชาวเขาเผ่าลาหู่ ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ที่บริเวณหมู่บ้านเมืองงาม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แล้วจึงได้จ้างวาน นายวีรพันธ์ฯ (หรือนายปีป่า )ให้ขับขี่รถเพื่อนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ โดยจะให้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 60,000 บาท หลังจากที่ส่งยาเสพติดเสร็จเรียบร้อยก่อน แต่มาถูกทางเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมได้เสียก่อน ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้กระจายในกลุ่มประชาชนโดยมีอาวุธ(มีด),พาอาวุธ(มีด)ไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันควร” ผู้ต้องหารับทราบในข้อกล่าวหาสิทธิของตนเป็นอย่างดีโดยตลอดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.แม่สรวย และติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ – ข่าวจาก – ตร.-แม่สรวย
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ รายงาน

ร้อยเอ็ด โผล่อีกแล้ว!! หนุ่มเมายาบ้าคลั่งอาละวาท ปกครองเข้าระงับเหตุ

วันพุธที่ 20 กันยายน พศ.2566 นายกิตติศักดิ์ พลศรีเมือง กำนันตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ดไดรับ แจ้งเหตุมีชายคุ้มคลั่งอาระวาทจึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท. ประวิทย์ จิตราษฎร์ ส.ว.ญ.สภ.ต.โคกสว่าง เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้เดินทางพร้อมชุดผูุ้นำท้องถิ่นฝ่ายปกครองผูุ้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบไปที่ เกิดเหตุ ณ บ้าน เลขที่ 9 หมู่ 1 บ้านโคกสว่างตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด พบชายกำลังอาละวาดผู้คนภายไนหมูุ่บ้านที่สัญจรผ่านไปมาทำไห้ชาวบ้านต้องผวากลัวจะถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ใช้วิธีในการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้เมายาอยู่ในอาการสงบสติอารมณ์ โดยใช้เวลาเกลี่ยกล่อมอยู่ประมาณ 30 นาทีหนุ่มคลั่งยาจึงได้สงบสติอารมณ์ทราบชื่อว่านายน้อย(นามสมมุติ)บ้านโคกสว่าง ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

จากการสอบถาม ผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นน้อยๆเริ่มมีอาการ 2-3 วันแล้วชอบปาสิ่งของส่งเสียงโวยวายด่าคนที่ผ่านไปผ่านมาและผู้อยู่ภายในหมูุ่บ้านจนมาถึงวันนี้อาการได้กำเริบมากขึ้นทำไห้ได้น้อยคิดว่าจะมีบุคคลอื่นมาทำร้ายตัวเองจึงได้พยายามถือไม้หรือมีดเป็นอาวุธคอยปกป้องตัวเองคิดว่าจะมีคนมาฆ่าหรือทำร้าย ทำให้ชาวบ้านผู้พบเห็นเกิดความหวาดกลัวจึงได้แจ้งไปอย่างท่านกำนันตำบลโคกสว่างพร้อมชุดผู้นำชุมชนให้ออกมาระงับเหตุการณ์ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายจะเกิดขึ้น หลังจากที่ผู้เมายาสงบสติอารมณ์ดีแล้วด้านนายกิตติศักดิ์ พลศรีเมืองกำนันตำบลโคกสว่างจึงได้ประสานงานไปยังโรงพยาบาลหนองพอกเพื่อให้มารับผู้ป่วยและนำไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอหนองพอกจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป

สามารถ จำปาหวาย/ข่าว-ภาพ ร้อยเอ็ด 0650934465

ศรีสะเกษ หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิง 6 นัดญาติหนุ่มพนักงานขายน้ำอัดลมยี่ห้อดังสาหัส

ศรีสะเกษ หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิง 6 นัดญาติหนุ่มพนักงานขายน้ำอัดลมยี่ห้อดังสาหัส ขณะที่แม่ยายใจเด็ดกระโดดขวางหลานชายไม่ให้ยิงลูกเขยที่โดนยิงฟุบในบ้าน

เมื่อเวลา 20.35 น.วันที่ 19 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดปราบปราม สภ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีชาวบ้านพากันมามุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานได้นำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ขณะที่มือปืนรายนี้ถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านโพนค้อและชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ที่บริเวณประตูกระจกบ้านที่เกิดเหตุมีรอยกระสุนปืน จำนวน 2 นัด ทำให้กระจกแตกเป็นรู บริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด กระจายเกลื่อนพื้น ส่วนปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานแล้ว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุทิน อายุ 41 ปี เป็นพนักงานขายน้ำอัดลมชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง และเป็นลูกเขยของนางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายวีระภาพ หรือทีม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 ของสถาบันอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ
นางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการที่ยังไม่หายจากความตื่นเต้นตกใจว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงนายวีระภาพ ซึ่งเป็นหลานชายของตน ได้ตะโกนร้องเรียกนายสุทิน ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ขณะนั้นนายสุทินกำลังนั่งอยู่กับ น.ส.พัชราภรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา และกำลังนั่งทำขนมเพื่อเอาไปขาย แต่ว่านายสุทินไม่ได้เดินออกไป ปรากฏว่านายวีระภาพซึ่งขณะนั้นกำลังมีอาการหลอนยา เนื่องจากสูบกัญชาอย่างหนักเป็นประจำทุกวัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงจากหน้าบ้านเข้ามาใส่นายสุทิน จำนวน 6 นัด โดยกระสุนปืนยิงถูกนายสุทินบริเวณหลังด้านขวา 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด นายสุทินได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปด้านหลังบ้านและล้มลง ตนเห็นเช่นนั้นจึงได้วิ่งเข้าไปขวางกั้นร่างของนายสุทินที่ล้มฟุบอยู่กับพื้นบ้านเอาไว้ และร้องห้ามไม่ให้นายวีระภาพใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาอีก ขณะนั้นนายวีระภาพก็จะปีนหน้าต่างเข้ามายิงอีก แต่ว่ามีญาติพี่น้องมาช่วยกันห้ามเอาไว้ และผู้ใหญ่บ้านได้มายึดเอาปืนไว้ ญาติพี่น้องได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งได้แจ้งให้รถกู้ภัยมารีบนำตัวของนายสุทินที่ถูกยิง 3 นัด ส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งอาการล่าสุดจากการที่ตนได้โทรศัพท์สอบถาม น.ส.พัชราภรณ์ ลูกสาวของตนที่ไปกับรถกู้ภัยแล้ว แจ้งว่า นายสุทินอาการสาหัส แพทย์กำลังทำการผ่าตัด เพื่อทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว

นายวีระภาพ มือปืนรายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนคุยกับนายสุทินเรื่องที่นายสุทินอยากซื้อปืน โดยนายสุทิน บอกกับตนว่าต้องการซื้อปืนขนาด .22 ซึ่งตนก็บอกไปว่าปืนอะไรก็ยิงคนตายเหมือนกัน และตนคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน ตนจึงได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 ที่พกติดตัวอยู่ ซึ่งซื้อมาจากเฟสบุ๊คในราคา 10,000 บาทเศษ กระหน่ำยิง 6 นัด เข้าไปใส่นายสุทิน และกระสุนปืนถูกนายสุทิน 3 นัด ตนยอมรับว่าตนสูบกัญชาหนักมาก และมีอาการหลอนกัญชา และคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน จึงได้ใช้ปืนของตัวเองยิงใส่นายสุทินก่อน

ทางด้าน นางสถาพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ของนายวีระภาพ มือปืนโหดรายนี้ กล่าวว่า นายสุทินซึ่งเป็นหลานเขยของตน จะรักนายวีระภาพลูกชายของตนมาก และมักจะพากันไปตกปลาเป็นประจำ แต่ว่านายวีระภาพจะสูบกัญชาหนักมาก เคยนำตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยาที่ จ.อุบลราชธานี แต่ว่าอาการติดยายังไม่หายขาด โดยขณะเกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาเห็นตอนช่วงที่นายวีระภาพลูกชายของตนใช้อาวุธปืนยิงใส่นายสุทินหลานเขยของตนจนล้มฟุบจมกองเลือดแล้ว ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอาการหลอนยาเสพติดของนายวีระภาพลูกชายของตนที่กลัวว่านายสุทินจะมาฆ่านั่นเอง

ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและจะได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายวีระภาพ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งได้ให้การรับสารภาพแล้ว ส่วนจะตั้งข้อหาใดบ้างนั้น ตนจะต้องสรุปรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแล้วจึงจะตั้งข้อกล่าวหากับนายวีระภาพต่อไป

ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

ตม.เชียงใหม่ รวบหนุ่มโปแลนด์ตามหมายแดงตำรวจสากล พบพัวพันคดียาเสพติด

ตม.เชียงใหม่ รวบหนุ่มโปแลนด์ตามหมายแดงตำรวจสากล พบพัวพันคดียาเสพติด

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.สรร พูลศิริ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ตรวจเข้มพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และ
พ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงภายในพื้นที่ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 ตม.จว.เชียงใหม่ ได้รับประสานจาก กก.2 บก.สส.สตม. ว่ามีผู้ต้องหาชาวโปแลนด์ หนีหมายจับของสาธารณรัฐโปแลนด์ และมากบดานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี จนกระทั่ง วันที่ 18 กันยายน 2566 ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ได้สืบทราบว่าหนุ่มโปแลนด์รายดังกล่าวกบดาน ณ บ้านพักในอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัว และนำส่ง กก.3 บก.สส.สตม. ผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าว ได้กระทำความผิดในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดที่สาธารณรัฐโปแลนด์ และได้หนีมาซ่อนตัว ณ ประเทศไทย ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรด้วยเหตุผล ครอบครัวผู้มีสัญชาติไทย(ภรรยาไทย)ต่อมาได้ถูก ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่
ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ร้อยเอ็ด หนุ่มคลั่งยาอาละวาด ชาวบ้านผวาแจ้งผู้นำท้องที่เข้าระงับเหตุพร้อมตำรวจ ส.ภตำบลโคกสว่าง

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ 2566 เวลา 11.00 น. พ.ต.ต.สุรินทร์ ธิรินทอง สวป. สภ.โคกสว่างได้รับแจ้งว่ามี ชายคุ้มคลั่งยาจึงได้รายงานพ.ต.ท.ประวิทย์ จิตรราษฎรสวญ.สภ.ต.โคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ดทราบพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่เกิดเหตุ เลขที่ 57 หมู่ 7 บ้านศรีสว่าง ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ทราบชื่อนายวัน(นามสมมุติ) กำลังอาวาทผู้คน

โดยมี นายกิตติพงษ์ พลศรีเมืองกำนันตำบลโคกสว่างพร้อมด้วย นายขวัญชัย นทีพัทธาทร นายสมาน ชมภูทิพย์ นายมนตรี ดลชม ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบช่วยกันเพื่อมิให้เกิด เหตุร้ายเพราะมีอาการข่มขู่ทำร้ายคนในครอบครัวและผู้ที่พบเห็นแม้กระทั่งผู้นำชุมชนเจ้าหน้าที่ได้เข้าเกลี้ยกล่อมพร้อมกำนัน และควบคุมตัวได้ด้วยความสำเร็จ และนำตัวส่งโรงบาลเพื่อทำการบำบัดรักษาต่อไป

สามารถ จำปาหวาย/ข่าว-ภาพ ร้อยเอ็ด 0650934465

ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีนำหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าจากผลการปะทะเดือดของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ บริเวณ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

จากเหตุการณ์ที่นครพนม ยิงปะทะเดือด กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กับขบวนการกองทัพมดแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติ ติดอาวุธครบมือ ยิงปะทะเปิดทางหนีหลังลำเลียงนำเข้ายาบ้าผ่านชายแดน อำเภอบ้านแพง ก่อนหลบหนี ตรวจยึดได้ 258,000เม็ด ตรวจสอบมีบัญชีออเดอร์ระบุปลายทางตีตลาดทั่วอีสาน

ทางด้านพันเอก สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 เป็นผู้แทน พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ในการปราบปรามยาเสพติดติดตามแนวชายแดน แถลงผลงานในการปราบปรามยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 258,000 เม็ด ตรวจสอบเป็นยาบ้าห่อด้วยแพคเกจพลาสติกกันชื้น จำนวน 129 มัด โดยได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ และเหตุการณ์ จาก ร้อยโท วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2108 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กรณีนำชุดปฏิบัติการยิงปะทะกองทัพมดแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติ ติดอาวุธครบมือ ยิงปะทะเปิดทางหนีหลังลำเลียงนำเข้ายาบ้าผ่านชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารพรานยิงตอบโต้นานเกือบ 5 นาที ก่อนหลบหนีไป แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงเข้าเคลียพื้นที่ตรวจยึดยาบ้าดังกล่าว บริเวณพื้นที่ทุ่งนา บ้านแพงใต้ หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ถือว่าท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ท่ามกลางนโยบายปราบยาเสพติดของรัฐบาล โดยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้พบปะให้กำลังใจ กำลังป้องกันชายแดนของหน่วย พร้อมกับมอบนโยบาย โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังในการเผชิญเหตุต่างๆ และได้เน้นย้ำคุมเข้มการปฏิบัติงานเพื่อ “หยุดยาเสพติดไว้ที่ชายแดน” ป้องกันสิ่งผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนไทย-ลาว ในพื้นที่รับผิดชอบ และได้เดินทางมาตรวจภูมิประเทศ เพื่อพิสูจน์ทราบพื้นที่ปฏิบัติการของหน่วยและรับฟังข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติงาน จุดเพ่งเล็ง ,จุดเสี่ยง ,จุดล่อแหลม ที่หน่วยได้สามารถตรวจยึดจับกุม และสกัดกั้นขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยไว้ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นพื้นที่จริง พร้อมทั้งได้ให้คำแนะนำในยุทธวิธีการสกัดกั้นยาเสพติด คุมเข้มพื้นที่รับผิดชอบ ตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารบก โดยเฉพาะการป้องกันยาเสพติด ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดนและการช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บังคับบัญชาและประชาชนในพื้นที่ ในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยสืบไป

จากข้อมูลการจับกุมเป็นยาบ้าเกรดต่ำราคาถูกเม็ดละ 50-100 บาท กำลังแพร่ระบาด ทำการตลาดขายในพื้นที่อีสาน ลูกค้า กรรมกร กลุ่มแรงงานรับจ้าง และกลุ่มเยาวชน นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลบัญชีออเดอร์เป็นภาษาลาวระบุปลายทางทั่วอีสาน โดยการตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจาก สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว พร้อมลำเลียงเข้ามาชายแดนไทยแบบกองทัพมดในพื้นที่ชายแดน อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ขบวนการค้ายาบ้าอาศัยช่วงจังหวะพายุฝนตกหนัก และน้ำโขงเพิ่มสูง ลักลอบขนส่งยาเสพติดนำเข้ามาทางเรือหางยาวแบบกองทัพมด ปัจจุบันถือว่าอันตรายสูงสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดมีการติดอาวุธครบมือพร้อมปะทะต่อสู้ จึงต้องเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเข้มงวด ป้องกันการสูญเสีย ถือเป็นพฤติกรรมที่เย้ยกฎหมาย ท้าทายรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยจากข้อมูลการจับกุมในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีการตรวจยึดยาบ้าในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มากกว่า 3 ล้านเม็ด

เชียงราย หนุ่มใหญ่ชาวเขาติดยาบ้า ชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอิเลฟเว่น ตร.แม่สรวยติดตามจับกุมทันควัน

เมื่อวันนี้ 13 ก.ย. 66 เวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่พนักงานวิทยุ สภ.แม่สรวย ได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายฉกรรจ์สวมหมวกกันน็อคอำพรางใบหน้า เข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อ โดยถือขวานเป็นอาวุธอยู่ในมือพร้อมข่มขู่พนักงานของร้าน แล้วปีนข้ามไปยังจุดชำระเงินก่อนที่ไปหยิบเอาเงินสด จำนวน 29,500 บาท ที่พนักงานเก็บไว้ในตู้ด้านหลังจุดชำระเงินแล้ววิ่งหลบหนีไปออกไปจากร้านสดวกชื้อก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้ บริเวณเซเว่นอิเลฟเว่น สาขา ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จึงได้แจ้งยัง ร.ต.อ.ประยัน แก้วผัด รอง สว.สอบสวน สภ.แม่สรวย และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น

ต่อมาทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่สรวย ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลวาวีพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายเหตุชิงทรัพย์มาดำเนินคดี จากการสืบสวนสอบสวน สอบปากคำข้อมูลจากพนักงานเซเว่นที่ทำหน้าที่ในช่วงเกิดเหตุ และจากกล้องวงจรปิดของทางร้าน พบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 02.00 น. ของคืนเดียวกัน ได้มีลูกค้าทำทีเข้ามาขอแลกธนบัตรที่ร้านสะดวกซื้อท่าทางมีพิรุธ ซึ่งได้มองดูจุดที่เก็บเงินของทางร้านอยู่ตลอดเวลา คาดว่าอาจจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาสังเกตการณ์ก่อนที่จะกลับมาลงมือ จากการสืบสวนและหลักฐานตามกล้องวงจรปิดพบว่าชายฉกรรจ์คนดังกล่าวคือ นายวีระชัย แซ่ลี้ อายุ 49 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 844 ม.1 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่สรวย จึงได้วางแผนไปซุ่มสังเกตการณ์ที่บริเวณหน้าบ้านของนายวีระชัยฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. พบว่านายวีระชัยฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนกำลังจะเข้าบ้านพักจึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบธนบัตรของกลางจำนวนหนึ่งซึ่งได้มิจากการก่อเหตุชิงทรัพย์มาจากร้านสดวกชื้อเซเว่นอิเลฟเว่น สาขา ต.วาวี และยังพบของกลางยาบ้า 20 เม็ด

ซึ่งนายวีระชัยฯ ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้จริง และได้นำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเพื่อเสพ พร้อมทั้งได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดตรวจยึดเสื้อผ้าและอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาในคดี 1. ชิงทรัพย์ 2.ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย 3.เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ” แล้วจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนังงานสอบสวน สภ.แม่สรวย เพื่อดำเนินคดี และขยายผลทำการล่อชื้อจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยที่ขายให้แก่ผู้ต้องหารายนี้

ภาพ-ข่าวจาก – ตร.สภ.แม่สรวยเชียงราย
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ รายงาน

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com