google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

(มีคลิป) “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงพื้นที่ช่วย “จักรพล  ตั้งสุทธิธรรม” หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กราบขอพรอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ มอบนโยบายกาดหลวงเชียงใหม่

“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงพื้นที่ช่วย “จักรพล ตั้งสุทธิธรรม” หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กราบขอพรอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ มอบนโยบายกาดหลวงเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2566 เวลา 08.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อกราบสักการะอนุสาวรีย์สามกษัตริย์พร้อมช่วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย หาเสียงที่บริเวณตลาดต้นลำไยตลาดวโรสเมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางกองเชียร์มารอต้อนรับจำนวนมากนายสมชาย ได้เดินทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพร้อมฝากพรรคเพื่อไทยไว้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่ โดยใช้เวลาเดินทักทายร่วม 1 ชั่วโมง โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

นายสมชาย ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับชาวเชียงใหม่ มีความผูกพันกันมากแต่ไหน พรรคเพื่อไทยมาจากพรรคไทยรักไทยที่นายกฯทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคมา และพี่น้องชาวเชียงใหม่ ก็เป็นกลุ่มแรกที่ช่วยดูแลพรรคไทยรักไทยเสมอมาโดยตลอด ซึ่งในวันนี้ได้เข้ามากราบ สักการะขอพร ที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอท่านประทานพรให้พรรคเพื่อไทยทที่คิดดีทำดี และพร้อมที่จะเข้ามากอบกู้ประเทศ พร้อมพัฒนา ประเทศให้เดินหน้าต่อไป ให้แลนด์สไลด์ทั่วประเทศ เพื่อมีกำลังเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งผลโพลต่างๆนั้น ผมก็ได้เดินทางไปทั่วประเทศ รู้สึกว่าพี่น้องประชาชนให้การ สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งการแข่งขันมันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรค ก็มีการแข่งขันมีการนำเสนอนโยบายต่างๆ เราก็ให้ความเคารพ ในเจตนาของแต่ละพรรค แต่เรามั่นใจใน นโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทยที่ได้ นำเผยแพร่สู่พี่น้องประชาชนว่า “เราทำได้ ทำได้จริงๆ” เราเคยมีประสบการณ์การทำงาน ในด้านนี้มาแล้ว ซึ่งบุคลากรของทางพรรคเพื่อไทย เราเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ซึ่งแคนดีเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ แพทองธาร ชินวัตร / เศรษฐา ทวีสิน / ชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ซึ่งภายหลังจากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์พร้อมด้วยผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ได้ลงพื้นที่ โดยการขึ้นรถ พร้อมประกาศนโยบายไปตามคูเมืองเชียงใหม่ และได้เข้าไปหาเสียง ที่ตลาดต้นลำไย และ ตลาดวโรรส อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทั้ง 2 แห่ง

“ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะได้กลับมารับใช้บ้านเมือง รับใช้ประชาชน เราไม่ได้มาแสวงหาอำนาจ แต่เรามองเห็นว่า ที่ผ่านมาประเทศชาติมีปัญหาเยอะมาก บ้านเมืองไม่ได้พัฒนาหลายๆอย่าง ก่อนที่จะมาเลือกตั้งคราวนี้ เราทำงานมาเป็นปี เพื่อจะจัดแจงเรื่องนโยบายทำอย่างไรที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชนได้ซึ่งเราออกมาหลายอย่างเช่นเงินกระเป๋าดิจิตอล เรียนจบปริญญาตรีจะได้เงินเดือน 2 หมื่น 5 พันบาท ค่าแรงงานขั้นต่ำจะไปถึง 600 บาท เงินที่จะเพิ่มเติมให้ครอบครัวให้งบ 2 หมื่นบาทต่อเดือน เยอะแยะมากมายที่จะทำ รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องการเกณฑ์ทหารก็จะทำหมด วันนี้จึงมาพบปะพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่เพื่อรวมกันช่วยพรรคเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยจะกลับมาช่วยพี่น้องประชาชนนายสมชายกล่าว”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

(มีคลิป) “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงพื้นที่ช่วย “จักรพล  ตั้งสุทธิธรรม” หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กราบขอพรอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ มอบนโยบายกาดหลวงเชียงใหม่

“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงพื้นที่ช่วย “จักรพล ตั้งสุทธิธรรม” หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กราบขอพรอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ มอบนโยบายกาดหลวงเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2566 เวลา 08.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อกราบสักการะอนุสาวรีย์สามกษัตริย์พร้อมช่วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย หาเสียงที่บริเวณตลาดต้นลำไยตลาดวโรสเมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางกองเชียร์มารอต้อนรับจำนวนมากนายสมชาย ได้เดินทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพร้อมฝากพรรคเพื่อไทยไว้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่ โดยใช้เวลาเดินทักทายร่วม 1 ชั่วโมง โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

นายสมชาย ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับชาวเชียงใหม่ มีความผูกพันกันมากแต่ไหน พรรคเพื่อไทยมาจากพรรคไทยรักไทยที่นายกฯทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคมา และพี่น้องชาวเชียงใหม่ ก็เป็นกลุ่มแรกที่ช่วยดูแลพรรคไทยรักไทยเสมอมาโดยตลอด ซึ่งในวันนี้ได้เข้ามากราบ สักการะขอพร ที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอท่านประทานพรให้พรรคเพื่อไทยทที่คิดดีทำดี และพร้อมที่จะเข้ามากอบกู้ประเทศ พร้อมพัฒนา ประเทศให้เดินหน้าต่อไป ให้แลนด์สไลด์ทั่วประเทศ เพื่อมีกำลังเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล ดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งผลโพลต่างๆนั้น ผมก็ได้เดินทางไปทั่วประเทศ รู้สึกว่าพี่น้องประชาชนให้การ สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งการแข่งขันมันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรค ก็มีการแข่งขันมีการนำเสนอนโยบายต่างๆ เราก็ให้ความเคารพ ในเจตนาของแต่ละพรรค แต่เรามั่นใจใน นโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทยที่ได้ นำเผยแพร่สู่พี่น้องประชาชนว่า “เราทำได้ ทำได้จริงๆ” เราเคยมีประสบการณ์การทำงาน ในด้านนี้มาแล้ว ซึ่งบุคลากรของทางพรรคเพื่อไทย เราเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ซึ่งแคนดีเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ แพทองธาร ชินวัตร / เศรษฐา ทวีสิน / ชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ซึ่งภายหลังจากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์พร้อมด้วยผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ได้ลงพื้นที่ โดยการขึ้นรถ พร้อมประกาศนโยบายไปตามคูเมืองเชียงใหม่ และได้เข้าไปหาเสียง ที่ตลาดต้นลำไย และ ตลาดวโรรส อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทั้ง 2 แห่ง

“ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะได้กลับมารับใช้บ้านเมือง รับใช้ประชาชน เราไม่ได้มาแสวงหาอำนาจ แต่เรามองเห็นว่า ที่ผ่านมาประเทศชาติมีปัญหาเยอะมาก บ้านเมืองไม่ได้พัฒนาหลายๆอย่าง ก่อนที่จะมาเลือกตั้งคราวนี้ เราทำงานมาเป็นปี เพื่อจะจัดแจงเรื่องนโยบายทำอย่างไรที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชนได้ซึ่งเราออกมาหลายอย่างเช่นเงินกระเป๋าดิจิตอล เรียนจบปริญญาตรีจะได้เงินเดือน 2 หมื่น 5 พันบาท ค่าแรงงานขั้นต่ำจะไปถึง 600 บาท เงินที่จะเพิ่มเติมให้ครอบครัวให้งบ 2 หมื่นบาทต่อเดือน เยอะแยะมากมายที่จะทำ รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องการเกณฑ์ทหารก็จะทำหมด วันนี้จึงมาพบปะพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่เพื่อรวมกันช่วยพรรคเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยจะกลับมาช่วยพี่น้องประชาชนนายสมชายกล่าว”.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ผู้สมัครว่าที่ ส.ส.แม่ฮ่องสอนเปิดเวทีปราศรัยเสนอนโยบายเพื่อเรียกคะแนนเสียง

ผู้สมัครว่าที่ ส.ส.แม่ฮ่องสอนเปิดเวทีปราศรัยเสนอนโยบายเพื่อเรียกคะแนนเสียง

ที่ลานหน้าเทศบาลตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจำลอง รุ่งเรือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคร่วมไทยสร้างชาติ เบอร์ 5 เขตเลือกตั้งที่ 1 (อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน) พร้อมทีมงานได้เปิดเวทีปราศรัยพร้อมเสนอนโยบายเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่อำเภอขุนยวม เขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้ที่สนใจต่างทยอยกันมาเข้าร่วมรับฟังอย่างคึกคักประมาณ 500 คนจนทำให้เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ บางส่วนก็ยืน-นั่งตามร่มไม้เนื่องจากอากาศยังร้อนอยู่
สำหรับนโยบายที่ผู้สมัครนำมาเสนอต่อผู้เข้าร่วมรับฟังมี 3 ประเด็น โดยประเด็นที่ 1 นายจำลอง รุ่งเรือง ได้กล่าวบนเวทีว่า หากตนได้รับการคัดเลือกเข้าไปเป็น ส.ส.แม่ฮ่องสอน ประเด็นแรกจะขอติดตามการขุดเจาะอุโมงค์จากอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ มายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งตนเคยเสนอมาแล้วครั้งหนึ่งใน 30 ปีที่ผ่านมา นายจำลอง ฯ ยังกล่าวถึงการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาการเดินทางตั้งหลายชั่วโมง ตลอดถึงการส่งต่อคนไข้หนัก ฯ หากเป็นไปได้ถ้าสามารถทำการขุดเจาะอุโมงค์จากอำเภอสะเมิง – ทะลุจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะใช้ระยะการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง การจัดส่งสินค้าก็จะรวดเร็วขึ้น ประเด็นที่ 2 ถ้ามีโอกาสได้เข้าทำหน้าที่ในสภา

จะเสนอแก้ไขกฎหมายป่าไม้ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมายป่าไม้ โดยเฉพาะการออกเอกสารทับที่ทำกินของชาวบ้าน ประเด็นที่ 3 จะติดตามแก้ไขปัญหาชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ปัจจุบันยังมีหมู่บ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ประมาณ 103 หมู่บ้าน
ส่วนทางด้านเรื่องปากเรื่องท้องของชาวบ้าน นายจำลอง รุ่งเรื่อง ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า หากตนได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาจะติดตามดูแลเป็นอย่างดีเกี่ยวกับราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรให้ได้ราคาดี สำหรับการลงสมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอนในครั้งนี้นายจำลองฯกล่าวว่าตนมั่นใจเต็มร้อยเนื่องจากได้รับกระแสตอบรับจากชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาสองปีตนได้ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้านมามาโดยคลอด

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / เกียรติยศ รักสัตย์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาพ – ข่าว

ตม.สุราษฎร์ธานีขยายผลฯ บุกรวบขบวนการขนต่างด้าวเถื่อน

ตม.สุราษฎร์ธานีขยายผลฯ บุกรวบขบวนการขนต่างด้าวเถื่อน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2566 จนท.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จับกุม นางภาลิณีย์ สิทธิพัฒนาวัชร์ อายุ 53 ปี สัญชาติไทย ข้อหา “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่ง พงส.สภ.พุนพิน ดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น จากการขยายผลการกระทำความผิดทราบว่า นางภาลิณีย์ฯ ร่วมกระทำความผิดกับ นายไท หงส์ถิรกร อายุ 48 ปี สัญชาติไทย โดยพบหลักฐานความเชื่อมโยงการติดต่อทางโทรศัพท์ เส้นทางการเงิน ประกอบกับคำให้การรับสารภาพของ นางภาลิณีย์ฯ ทางจนท.ตม.สุราษฎร์ธานีฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.145/2566 ลงวันที่ 10 เม.ย.2566
ต่อมาวันที่ 28 เม.ย.2566 เวลาประมาณ 06.40 น. เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.6, ตม.จว.สมุทรสาคร และ สภ.พุนพิน

ได้สืบทราบว่านายไท หงส์ถิรกร ผู้ถูกออกหมายจับ ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 80/569 ม.6 ต.นาดี อ.เมือง จว.สมุทรสาคร จึงได้ขออนุมัติขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร และเข้าทำการตรวจค้นฯ ผลการตรวจค้น พบนายไท หงส์ถิรกร ผู้ต้องหาตามหมายจับและยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ศาลออกหมายจับและยังไม่ได้ถูกจับกุม รับสารภาพว่าเป็นเครือข่ายในการขนแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฏหมายร่วมกับนางภาลิณีย์ สิทธิพัฒนาวัชร์ ซึ่งถูกจับกุมตัวไปแล้ว ทาง จนท.ชุดจับกุม จึงจับกุมตัวนายไทฯ พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.145/2566 ลงวันที่ 10 เม.ย.2566 ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง สภ.พุนพิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สิงห์เวียงพิงค์ สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง

สิงห์เวียงพิงค์ สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง

เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 นิสิตสาขาวิชารัฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ จัดกิจกรรมสิงห์เวียงพิงค์ สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง สระเกล้าดำหัวคณะผู้บริหารและคณาจารย์ มจร. วิทยาเขตเชียงใหม่ เนื่องในวาระดิถีป๋าเพณีปี๋ใหม่เมือง ล้านนา (สิงห์เวียงพิงค์ สืบสานประเพณีปีใหม่เมือง) โดยมี พระครูสิริบรมธาตุพิทักษ์, ผศ.ดร. รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี กิจกรรมนี้ถือเป็นการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อครูบา อาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้และเป็นการขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ต่อครูบาอาจารย์ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

ทรงวุฒิ ทับทอง / ณัฐพล แสนเมืองมา

เครือซีพี ยึดมั่นตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ 100% ปราศจากการรุกป่า ไม่เผาตอซัง

เครือซีพี ยึดมั่นตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ 100% ปราศจากการรุกป่า ไม่เผาตอซัง

เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือ ใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (corn traceability) ตั้งแต่ปี 2560 ยืนยันได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จัดหา 100% ในกิจการประเทศไทยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่า ตลอดจนขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูกรายย่อย ปลูกจิตสำนึกการไม่เผาหลังเก็บเกี่ยว และหาแนวทางเพื่อร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 สร้างหลักประกันการจัดหาข้าวโพดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในฐานะเป็นผู้จัดหาสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหลักทางการเกษตรของเครือซีพี กล่าวว่า ซีพีให้ความสำคัญกับการสร้างห่วงโซ่การผลิตอาหารที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นในการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรอย่างรับผิดชอบสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าจากแหล่งปลูกที่ถูกกฎหมาย ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่เผา สนับสนุนการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” ทั้งนี้ เครือซีพีได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Corn Traceability) ขึ้นมาใช้ในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกิจการประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา และได้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับไปใช้ในการจัดซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรในประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาว และเวียดนามตั้งแต่ปี 2563 อีกด้วย

“บริษัทไม่สนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่อาจส่งผลต่อการเกิดไฟป่า และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสริมการเผา และได้ริเริ่มสร้างต้นแบบระบบการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างจริงจัง และใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมติดตามแปลงปลูกเพื่อร่วมจัดการปัญหาได้อย่างถูกต้อง” นายไพศาล กล่าว

บริษัทฯ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมในการติดตามแปลงเพาะปลูก และวิเคราะห์จุดที่ยังพบการเผาหลังเก็บเกี่ยวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเลิกการเผาตอซังหลังเก็บเกี่ยว เพื่อสร้างหลักประกันว่าบริษัทฯ จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาจากแหล่งปลูกที่ปราศจากการเผา ปัจจุบัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ใช้ในกิจการประเทศไทย 100% สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า และหลีกเลี่ยงการเผา รวมทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Traceability) ที่เชื่อมโยงข้อมูลผลผลิตข้าวโพดตั้งแต่แปลงเพาะปลูกถึงโรงงานอาหารสัตว์ และจัดทำแอปพลิเคชั่น ฟ.ฟาร์ม (For Farm) ขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรไทยในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนและพื้นที่ปลูก

เครือซีพียังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดรายย่อย โดยดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกร ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีในการเพาะปลูกที่ดีปลอดการเผา และมีรายได้ที่มั่นคงจากผลผลิตที่มากขึ้นควบคู่กับค่าใช้จ่ายที่ลดลง

ด้านนายสุเมธ ภิญโญสนิท ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กล่าวว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่มีนโยบายในการส่งเสริมหรือสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ป่าและป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่งเสริมให้มีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก

ตั้งแต่ปี 2551 บริษัทฯ ได้ประกาศอย่างชัดเจนและดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดกับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศโดยมีข้อกำหนดยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯทันที หากพบว่ามีส่วนร่วมหรือส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าวในทุกกรณี พร้อมกับดำเนินโครงการฟาร์มโปรครบวงจร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย สนับสนุนการสร้างและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพให้พื้นที่ในการปลูกข้าวโพดหรือพืชอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ห้ามมีการเผาตอซังโดยเด็ดขาด แนะนำให้ใช้วิธีไถกลบแทน พร้อมทั้งร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญศึกษาวิจัยหาแนวทางเพิ่มมูลค่าตอซัง เพื่อร่วมแก้วิกฤตปัญหาหมอกควันไฟป่า และการบุกรุกป่า อย่างเป็นระบบและยั่งยืน.

ทรงวุฒิ ทับทอง

คลิป : ซีพียืนยันการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ

เครือซีพี ยึดมั่นตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ 100% ปราศจากการรุกป่า ไม่เผาตอซัง

เครือซีพี ยึดมั่นตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ 100% ปราศจากการรุกป่า ไม่เผาตอซัง

เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือ ใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (corn traceability) ตั้งแต่ปี 2560 ยืนยันได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จัดหา 100% ในกิจการประเทศไทยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่า ตลอดจนขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูกรายย่อย ปลูกจิตสำนึกการไม่เผาหลังเก็บเกี่ยว และหาแนวทางเพื่อร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 สร้างหลักประกันการจัดหาข้าวโพดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในฐานะเป็นผู้จัดหาสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหลักทางการเกษตรของเครือซีพี กล่าวว่า ซีพีให้ความสำคัญกับการสร้างห่วงโซ่การผลิตอาหารที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นในการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรอย่างรับผิดชอบสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าจากแหล่งปลูกที่ถูกกฎหมาย ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่เผา สนับสนุนการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” ทั้งนี้ เครือซีพีได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Corn Traceability) ขึ้นมาใช้ในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกิจการประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา และได้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับไปใช้ในการจัดซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรในประเทศเมียนมาร์ สปป.ลาว และเวียดนามตั้งแต่ปี 2563 อีกด้วย

“บริษัทไม่สนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่อาจส่งผลต่อการเกิดไฟป่า และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสริมการเผา และได้ริเริ่มสร้างต้นแบบระบบการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างจริงจัง และใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมติดตามแปลงปลูกเพื่อร่วมจัดการปัญหาได้อย่างถูกต้อง” นายไพศาล กล่าว

บริษัทฯ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมในการติดตามแปลงเพาะปลูก และวิเคราะห์จุดที่ยังพบการเผาหลังเก็บเกี่ยวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเลิกการเผาตอซังหลังเก็บเกี่ยว เพื่อสร้างหลักประกันว่าบริษัทฯ จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาจากแหล่งปลูกที่ปราศจากการเผา ปัจจุบัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ใช้ในกิจการประเทศไทย 100% สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า และหลีกเลี่ยงการเผา รวมทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Traceability) ที่เชื่อมโยงข้อมูลผลผลิตข้าวโพดตั้งแต่แปลงเพาะปลูกถึงโรงงานอาหารสัตว์ และจัดทำแอปพลิเคชั่น ฟ.ฟาร์ม (For Farm) ขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรไทยในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนและพื้นที่ปลูก

เครือซีพียังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดรายย่อย โดยดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกร ส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีในการเพาะปลูกที่ดีปลอดการเผา และมีรายได้ที่มั่นคงจากผลผลิตที่มากขึ้นควบคู่กับค่าใช้จ่ายที่ลดลง

ด้านนายสุเมธ ภิญโญสนิท ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กล่าวว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่มีนโยบายในการส่งเสริมหรือสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ป่าและป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่งเสริมให้มีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก

ตั้งแต่ปี 2551 บริษัทฯ ได้ประกาศอย่างชัดเจนและดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดกับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศโดยมีข้อกำหนดยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯทันที หากพบว่ามีส่วนร่วมหรือส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าวในทุกกรณี พร้อมกับดำเนินโครงการฟาร์มโปรครบวงจร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย สนับสนุนการสร้างและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพให้พื้นที่ในการปลูกข้าวโพดหรือพืชอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ห้ามมีการเผาตอซังโดยเด็ดขาด แนะนำให้ใช้วิธีไถกลบแทน พร้อมทั้งร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญศึกษาวิจัยหาแนวทางเพิ่มมูลค่าตอซัง เพื่อร่วมแก้วิกฤตปัญหาหมอกควันไฟป่า และการบุกรุกป่า อย่างเป็นระบบและยั่งยืน.

ทรงวุฒิ ทับทอง

คลิป : ซีพียืนยันการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com