google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

กมธ.ศาสนาฯ จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” หวังส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย

กมธ.ศาสนาฯ จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” หวังส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย

.
วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม และคณะทำงานคนดี รักษ์โลก จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” ครั้งที่ 1 โดยมี นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วม
.
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดโครงการเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรม ภายใต้หลักคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ กตัญญู วินัย สุจริต พอเพียง และจิตอาสา โดยเฉพาะเรื่อง “ความมีวินัย และความซื่อสัตย์สุจริต” สนับสนุนและส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกาลังกายเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมและสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านคุณธรรมจริยธรรม

ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน และภาคประชาสังคมอันจะนำไปสู่การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์อันเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติต่อไป ทั้งนี้ ภายในกิจกรรมได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาให้คำแนะนำในการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย นายไกรสีห์ กรรณสูต ประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง นายวิฑูรย์ สนุกแสน นายอาคม สิงห์ผาสุข และนายวัจน์จรณ มณีแสง
.
โอกาสนี้ นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา คนที่สี่ มอบถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะกีฬาเพื่อสุขภาพที่มีผู้แทนจากชุมชนและโรงเรียนต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม และจัดส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ได้แก่ กีฬาเปตอง กีฬาวอลเลย์บอล และกีฬาวิ่ง

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

กมธ.ศาสนาฯ จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” หวังส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย

กมธ.ศาสนาฯ จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” หวังส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย

.
วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม และคณะทำงานคนดี รักษ์โลก จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสุขภาพ” ครั้งที่ 1 โดยมี นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วม
.
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดโครงการเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรม ภายใต้หลักคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ กตัญญู วินัย สุจริต พอเพียง และจิตอาสา โดยเฉพาะเรื่อง “ความมีวินัย และความซื่อสัตย์สุจริต” สนับสนุนและส่งเสริมให้คนในชุมชนทุกช่วงวัยได้เล่นกีฬาและออกกาลังกายเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมและสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านคุณธรรมจริยธรรม

ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน และภาคประชาสังคมอันจะนำไปสู่การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์อันเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติต่อไป ทั้งนี้ ภายในกิจกรรมได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาให้คำแนะนำในการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย นายไกรสีห์ กรรณสูต ประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง นายวิฑูรย์ สนุกแสน นายอาคม สิงห์ผาสุข และนายวัจน์จรณ มณีแสง
.
โอกาสนี้ นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา คนที่สี่ มอบถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะกีฬาเพื่อสุขภาพที่มีผู้แทนจากชุมชนและโรงเรียนต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรม และจัดส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ได้แก่ กีฬาเปตอง กีฬาวอลเลย์บอล และกีฬาวิ่ง

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตฯ เยี่ยมคารวะสมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตฯ เยี่ยมคารวะสมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

วันที่ 29 กันยายน 2565 เวลา 17.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม โรงแรมพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นำโดย พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการ เยี่ยมคารวะสมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการป้องกัน

ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบของราชอาณาจักรกัมพูชา และได้กล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ของราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมี นายสาย ซอมออล (H.E. Mr. Say Sam Al) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

กมธ.ศาสนาฯ สานพลังชุนชน จัดกิจกรรม “ชุมชน สุขภาพดี” สร้างความรู้ด้านสุขภาพให้พึ่งพาตนเองได้

กมธ.ศาสนาฯ สานพลังชุนชน จัดกิจกรรม “ชุมชน สุขภาพดี” สร้างความรู้ด้านสุขภาพให้พึ่งพาตนเองได้

.
วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ โครงการฟอร์เรสพาร์ค อาคารจัสมิส วิลล่า เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม และคณะทำงานคนดี สุขภาพดี จัดกิจกรรม “ชุมชน สุขภาพดี” ครั้งที่ 3 โดยมี นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา ประธานอนุกรรมาธิการฯ เป็นประธานในพิธี นายแพทย์ฆนัท ครุฑกูล ประธานคณะทำงานคนดี สุขภาพดี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการ ชาวชุมชนเขตคลองสามวา และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
.
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ได้มีการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ชุมชน และบรรยายให้ความรู้หัวข้อ “สานพลังชุมชนสุขภาพดีกับหลักคุณธรรม 5 ประการ” และทำกิจกรรมร่วมกับคนในชุมชน โดยแบ่งฐานกิจกรรมให้ความรู้ ประกอบด้วย 1.ฐานความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย 2.ความรู้ด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและการกู้ชีพ CPR 3.ความรู้ด้านโภชนาการเพื่อนสุขภาพ 4.ความรู้ด้านการใช้ยาและเภสัชกรรมชุมชน

.
การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมภายใต้หลักคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ กตัญญู วินัย สุจริต พอเพียง และจิตอาสา ควบคู่ไปกับการสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชนไทยในทุกช่วงวัยและเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชน มีองค์ความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนไทยมีความรู้ด้านสุขภาพและมีความสามารถพึ่งพาตนเองได้ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านคุณธรรมจริยธรรม ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน และภาคประชาสังคม

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ช่างทำบ้านถูกไฟดูด ดับ 1 เจ็บ 2

ช่างทำบ้านถูกไฟดูด ดับ 1 เจ็บ 2
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 กันยายน 2565 ร.ต.ท.พลวัฒน์ สิริสุขรดาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกไฟดูด ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 2989/9 หมู่ 3 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมชมรมบันไดบุญเพื่อเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ที่กำลังทำด้านในใหม่ ที่บริเวณหน้าบ้านพบนายชนาธิป จินดาหลวง อายุ 68 ปี ยังมีอาการชาที่แขนอยู่ มีแผลที่หน้าแข้งขวา ใกล้กันพบผู้ถูกไฟดูดอีก 1 ราย มีเพียงอาการชา ภายในบ้านพบร่างนายวิชัย ดวนใหญ่ อายุ 60 ปี นอนหงายตัวแข็งอยู่กับพื้น ที่นิ้วเท้าขวาไหม้จนดำ
จากการสอบถามนายชนาธิป เล่าว่า ผู้ตายเดินเท้าเปล่าเข้าไปเสียบปลั๊ก แต่ยังไม่ได้ทำงาน ไฟน่าจะลงดิน ทำให้ผู้ตายโดนไฟดูดล้มลงไปนอนกับพื้น ตนก็เลยวิ่งเข้าไปจะช่วย แต่ตนก็โดนไฟดูดด้วย
นายองอาจ เล่าว่า ตนก็ไม่รู้ผู้ตายเป็นอะไรเห็นล้มลงไปนอนกับพื้น ลุงน้อย(นายชนาธิป) ก็วิ่งเข้าไปช่วยผู้ตายแต่ลุงอยู่ก็ล้ม ตนก็เลยวิ่งเข้าไปจะช่วยลุงน้อย แต่ลุงน้อย ให้ตนไปชักปลั๊กไฟ ตนก็เลยไปชักปลั๊กไฟออก ก่อนจะเดินไปดูผู้ตายพบว่ามือหงิกงอ ซีดหมดแล้ว จึงรีบโทรแจ้ง 1669

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ตายได้เดินเข้าไปเสียบปลั๊ก เพื่อทำงาน ด้วยความที่ว่าผู้ตายไม่ได้ใส่รองเท้า และไฟน่าจะลงพื้น จึงทำให้ผู้ตายโดนไฟดูดจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนเจ็บอีก 2 คน พอเห็นว่าผู้ตายล้ม จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยจนโดนไฟดูดไปด้วย แต่โชคดีที่มีคนเดินเข้าไปดึงชักปลั๊กออกก่อน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***

ช่างทำบ้านถูกไฟดูด ดับ 1 เจ็บ 2

ช่างทำบ้านถูกไฟดูด ดับ 1 เจ็บ 2
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 กันยายน 2565 ร.ต.ท.พลวัฒน์ สิริสุขรดาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกไฟดูด ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 2989/9 หมู่ 3 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมชมรมบันไดบุญเพื่อเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ที่กำลังทำด้านในใหม่ ที่บริเวณหน้าบ้านพบนายชนาธิป จินดาหลวง อายุ 68 ปี ยังมีอาการชาที่แขนอยู่ มีแผลที่หน้าแข้งขวา ใกล้กันพบผู้ถูกไฟดูดอีก 1 ราย มีเพียงอาการชา ภายในบ้านพบร่างนายวิชัย ดวนใหญ่ อายุ 60 ปี นอนหงายตัวแข็งอยู่กับพื้น ที่นิ้วเท้าขวาไหม้จนดำ
จากการสอบถามนายชนาธิป เล่าว่า ผู้ตายเดินเท้าเปล่าเข้าไปเสียบปลั๊ก แต่ยังไม่ได้ทำงาน ไฟน่าจะลงดิน ทำให้ผู้ตายโดนไฟดูดล้มลงไปนอนกับพื้น ตนก็เลยวิ่งเข้าไปจะช่วย แต่ตนก็โดนไฟดูดด้วย
นายองอาจ เล่าว่า ตนก็ไม่รู้ผู้ตายเป็นอะไรเห็นล้มลงไปนอนกับพื้น ลุงน้อย(นายชนาธิป) ก็วิ่งเข้าไปช่วยผู้ตายแต่ลุงอยู่ก็ล้ม ตนก็เลยวิ่งเข้าไปจะช่วยลุงน้อย แต่ลุงน้อย ให้ตนไปชักปลั๊กไฟ ตนก็เลยไปชักปลั๊กไฟออก ก่อนจะเดินไปดูผู้ตายพบว่ามือหงิกงอ ซีดหมดแล้ว จึงรีบโทรแจ้ง 1669

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ตายได้เดินเข้าไปเสียบปลั๊ก เพื่อทำงาน ด้วยความที่ว่าผู้ตายไม่ได้ใส่รองเท้า และไฟน่าจะลงพื้น จึงทำให้ผู้ตายโดนไฟดูดจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนเจ็บอีก 2 คน พอเห็นว่าผู้ตายล้ม จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยจนโดนไฟดูดไปด้วย แต่โชคดีที่มีคนเดินเข้าไปดึงชักปลั๊กออกก่อน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***

วัดสันมะเกี๋ยง ทำกิจกรรมสงฆ์ ค่าไฟสูง

วัดสันมะเกี๋ยง ทำกิจกรรมสงฆ์ ค่าไฟสูง

วัดสันมะเกี๋ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ติดหนี้ค่าไฟฟ้า กว่า 4 หมื่น พระสงฆ์ปฏิบัติกิจกรรมสงฆ์ ช่วงเข้าพรรษา การพัฒนาบูรณะสร้างวัด ที่สำคัญพระสงฆ์ในวัดมีจำนวนมากถึง 30 รูป ทำกิจกรรมต่างๆในวัดมากทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงมาก ได้น้อมนำโอวาทธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำบุญ “ท่านใดถวายปัจจัยชำระหนี้แทนสงฆ์ ชีวิตจะดีขึ้น โรคภัยจะหายขาด หนี้สินจะหมดไป จนกลายเป็นคนมีเงิน อย่างน่าอัศจรรย์” ท่านผู้มีจิตกุศลร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาได้ ก่อนที่วัดจะถูกตัดไฟ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากลูกศิษย์ของวัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฏร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ทางวัดได้ค้างชำระค่าไฟฟ้า จำนวน 2 เดือน คือเดือนสิงหาคม และเดือนกันยายน 2565 ติดหนี้ค่าไฟที่ทางวัดสันมะเกี๋ยงจะต้องจ่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น จำนวน 46,946.14 บาท

ทางวัดสันมะเกี๋ยง จึงแจ้งให้ศรัทธาประชาชน ลูกศิษย์ลูกหา ที่มีความประสงค์จะถวายปัจจัยเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาเพื่อให้วัดเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่อไป สามารถร่วมทำบุญมอบปัจจัยให้กับทางวัดสันมะเกี๋ยงได้ตามกำลังศรัทธา ก่อนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดไฟในเร็วๆนี้

ลูกศิษย์ของวัดสันมะเกี๋ยง บอกอีกว่า ขอยกโอวาทธรรมของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้โอวาทไว้ว่า “บุญถวายค่าน้ำ-ค่าไฟ บุญชำระหนี้สงฆ์ คนที่หมั่นชำระหนี้แทนสงฆ์ตลอดเวลานั้น ให้สังเกตุดูก็ได้ว่า ชีวิตจะเริ่มดีขึ้น โรคเวรโรคกรรมจะเริ่มหายขาด เงินทองที่เคยติดขัด หนี้สินที่เคยมีมากมาย จะค่อยๆลดลงไป จนกลายเป็นคนมีเงินอย่างน่าอัศจรรย์ ชำระหนี้สงฆ์ช่วยกันชำระให้ครบถ้วน”

สำหรับศรัทธาประชาชน ลูกศิษย์ลูกหา ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ บัญชี : ธนากรุงไทย ชื่อบัญชี : ค่าน้ำ-ค่าไฟ วัดสันมะเกี๋ยง เลขที่บัญชี : 553-0-40724-2 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 089-5584332 เจ้าอาวาส ขออานิสงค์ ในการเพิ่มเติมแสงสว่างในพระพุทธศาสนา ให้ท่านเจริญรุ่งเรืองด้วย หน้าที่การงาน การเงิน รวย รวย รวย.

ทรงวุฒิ ทับทอง

สุราษฎร์ธานี // ม.ราชภัฏสุราษฎร์ฯ ร่วมภาคีเครือข่ายการศึกษาพิเศษ ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ ภาคใต้

รายงาน : กนกรัตน์ ศรียาภัย

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ผศ.ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ดร.พลกฤต แสงอาวุธ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและเครือข่ายศิษย์เก่า ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการภาคใต้ กับเครือข่ายการศึกษาพิเศษ โดยมีนางวีระดี กองแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราชและ นางจิตรา เรือนมณี รองผู้อำนวยการโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ จังหวัด สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ลงนามในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมเฟื่องฟ้า 4 ชั้น 4 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ผศ.ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในการดำเนินงานว่าด้วยการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ ภาคใต้ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมีนโยบายในการบูรณาการองค์ความรู้สู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นโดยกำหนดพันธ์กิจในการประสานความร่วมมือและช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างมหาวิทยาลัยชุมชนองค์กรทางการศึกษาต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายการศึกษาพิเศษ เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์คุณภาพเยาวชนผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน โดยเชื่อว่าการดำเนินงานการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ ภาคใต้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมโยงต่อการพัฒนาเครือข่ายการศึกษาพิเศษ เพิ่มศักยภาพบุคลากร และเยาวชนเกิดคุณภาพ ต่อไป

ด้าน ดร.พลกฤต แสงอาวุธ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและเครือข่ายศิษย์เก่า กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงการให้ความช่วยเหลือผู้พิการโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ ประกอบกับมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการออกประกาศสภามหาวิทยาลัย เรื่องการรับสมัครนักศึกษาพิการ ประจำปีการศึกษา 2566 มากถึง 74 คน แยกตามคณะ และสาขาที่พร้อมรับนักศึกษา โดยน้อมนำพระบรมราโชบาย ด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการให้การศึกษาสร้างผู้เรียนให้สมบูรณ์ พร้อมด้วยคุณลักษณะ 4ประการ ได้แก่ มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง มีอาชีพมีงานทำ และเป็นพลเมืองดีมีระเบียบวินัย สู่การปฏิบัติโดย การสร้างนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี คือ การประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาชุมชนท้องถิ่น

ที่มา : สื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

อดิสรณ์ เนาวโคอักษร /ข่าว
สมยศ นุ่นจำนงค์ /ถ่ายภาพ
เทพรวี ทวีเฉลิมดิษฐ์ / ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี มอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

“นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี มอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี”

วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 10.00 น. แพทย์หญิงสุวรรณา ไชยชุมศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานมอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี นายสมยศ วิชากร นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พร้อมภริยา นายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการในพื้นที่ และประชาชนผู้แทนรับมอบถุงยังชีพฯ ก่อนหน้านั้นเป็นการแสดงมุทิตาจิตจากนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ มอบดอกไม้ในโอกาสที่แพทย์หญิงสุวรรณา ไชยชุมศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี และนายสมยศ วิชากร นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ครบวาระในการดำรงตำแหน่งนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี และเกษียณอายุราชการของนายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ณ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี มอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

“นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี มอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี”

วันที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 10.00 น. แพทย์หญิงสุวรรณา ไชยชุมศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานมอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่ตำบลท่าอิฐ พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี นายสมยศ วิชากร นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พร้อมภริยา นายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการในพื้นที่ และประชาชนผู้แทนรับมอบถุงยังชีพฯ ก่อนหน้านั้นเป็นการแสดงมุทิตาจิตจากนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ มอบดอกไม้ในโอกาสที่แพทย์หญิงสุวรรณา ไชยชุมศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี และนายสมยศ วิชากร นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ครบวาระในการดำรงตำแหน่งนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี และเกษียณอายุราชการของนายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ณ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com