google.com, pub-2709829493138336, DIRECT, f08c47fec0942fa0

โจรใต้วางระเบิดนายอำเภอสุคิรินในพื้นที่ยี่งอ อส.เจ็บเล็กน้อย1นาย

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

โจรใต้วางระเบิดนายอำเภอสุคิรินในพื้นที่ยี่งอ อส.เจ็บเล็กน้อย1นาย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 64 พ.ต.ท.มานพ หนูหอม สารวัตรสอบสวน สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะหุ้มเกราะของนายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน ที่ริมถนนสายยี่งอ มะรือโบตก ช่วงบริเวณบ้านต้นตาล ม.2 ต.จอเบาะ ทำให้รถยนต์หุ้มเกราะได้รับความเสียหาย และ อส.ที่ทำหน้าที่คอฟเวอร์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วรงค์ เกิดสวัสดิ์ ผกก.สภ.ยี่งอ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบที่บริเวณเนินดินริมถนนถูกอนุภาพของระเบิด จนกองดินและต้นไม้ที่รกทึบเตียนโล่งในรัศมีกว้าง 2 เมตร ไปตกอยู่บนถนนและป่ารกทึบริมทาง โดยมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 20 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ได้ตกคลุกเคล้าไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนเจ็บ คือ อส.มะเซาตี นิมุ นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน ได้นำคนเจ็บส่งรักษาเร่งด่วนที่โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่บริเวณนิ้วชี้และนิ้วกลางด้านซ้าย ก่อนที่นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน ได้นำรถยนต์กระบะหุ้มเกราะ 4 ประตู สีบรอนส์ ทะเบียน 8 กช 4108 กทม.ไปยัง สภ.ยี่งอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณประตูหน้า ประตูหลัง และหลังคาด้านซ้ายมือของคนขับได้รับความเสียหายเป็นรูโหว่จำนวนหลายจุด

โดยนายอรุณ ศรีใส นายเภอสุคิริน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลัง อส.รวม 4 นาย โดยมี อส.อารงค์ ยะโก๊ะ เป็นพลขับ และมี อส.ชัยณรงค์ อนุรักษ์ อส.ศราวุธ เป็นแก้ว และ อส.มะเซาตี นั่งคอฟเวอร์ออกจากที่ว่าการ อ.สุคิริน เพื่อไปเยี่ยมบุตรในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อเสร็จภารกิจได้นั่งโดยสารรถยนต์เพื่อกลับที่ว่าการ อ.สุคิริน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดแบบเร่งด่วน ที่นำไปซุกไว้บริเวณกองเนินดินริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะที่ตนนั่งโดยสารมา และสะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกรถยนต์หุ้มเกราะได้รับความเสียหาย ส่วน อส.มะเซาตี ที่นั่งกระบะหลังถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณนิ้วได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยดังกล่าว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมกลุ่มนายอาดัม เจ๊ะเลาะ ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการณ์ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายอยู่ในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่กองกำลัง แต่บังเอิญนายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน ได้นั่งรถยนต์กระบะหุ้มเกราะขับผ่านมา จึงถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารดังกล่าว

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรอง covid 19 ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา และด่าน ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรอง covid 19 ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา และด่าน ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา

*******************

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (มค) ให้ผู้บังคับบัญชา ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันนี้ (31กค.64) เวลา 11.00 น. พล. ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจคัดกรองป้องกันการแพร่ระบาด โรคไวรัสโควิด 19 ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา พบ พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.ตม.จว.อยุธยา, พ.ต.ท.ภาคิน พงษ์กาญจนะ รอง ผกก.(ป) สภ.บางบาล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุด และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่น ได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ว.4 ร่วมบริเวณจุดตรวจฯ

เวลา 14.00 น. พล. ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้เดินทางตรวจเยี่ยมด่าน ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งมอบนโยบายและกำชับการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ ได้แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจาก ห้วงเวลานี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 เป็นจำนวนมาก และได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละ และอวยพรให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19

พร้อมกันนี้ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ณ โรงพยาบาลสนาม อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา

วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ โรงพยาบาลสนาม อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา

ที่มี นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา เป็นประธานกรรมการ ได้มอบหมายให้นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้แทนคณะกรรมการฯ มอบผ้าห่ม จำนวน 120 ผืน และพัดลมประจำเตียงผู้ป่วย จำนวน 20 เครื่อง เป็นเงิน 10,000 บาท

ให้กับโรงพยาบาลสนามอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมทั้ง ให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และประชาชน

ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

พังงา-โจรแสบแอบขโมยตัดปาล์มชาวบ้านไปขายเป็นประจำ กำนัน3ตำบลวางแผนตามรวบคาร้านรับซื้อปาล์ม

พังงา-โจรแสบแอบขโมยตัดปาล์มชาวบ้านไปขายเป็นประจำ กำนัน3ตำบลวางแผนตามรวบคาร้านรับซื้อปาล์ม

วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานรับซื้อปาล์มน้ำมันตำบลท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นายจำลอง เกยทอง กำนันตำบลโคกกลอย พร้อมด้วยนายยุทธนากร จ๋วนเจนกิจ กำนันตำบลหล่อยูง และนายณรงค์ แสงคง กำนันตำบลท่าอยู่ ได้ร่วมกันควบคุมตัวได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงศ์พัฒน์ โพติยะ อายุ 32 ปี ชาว อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร พร้อมด้วยของกลาง ผลปาล์มน้ำมันจำนวน 3 ทะลาย น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ SMASH สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ใบเสร็จรับเงินขายปาล์มน้ำมัน จำนวน 1 ใบ เงินสด จำนวน 440 บาท นำส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.โคกกลอย ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรมบรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์หรือพืชพันธ์(ผลปาล์มสด)โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด”เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและพาไปชี้จัดที่ขโมยตัดปาล์มในสวนของชาวบ้าน

นายจำลอง เกยทอง เปิดเผยว่า ในพื้นที่ตำบลโคกกลอย ตำบลหล่อยูง และตำบลท่าอยู่ อำเภอตะกั่วทุ่ง ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายแอบขโมยตัดปาล์มน้ำมันของชาวบ้านอยู่เป็นประจำ ทางตนเองจะได้วางแผนร่วมกับกำนันอีก 2 ตำบลออกสืบสวน ติดตามมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และในวันนี้ได้รับแจ้งว่าคนร้ายรายนี้ซึ่งเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ตำบลหล่อยูง ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนบรรทุกกระสอบปุ๋ย 2กระสอบ ตนจึงรีบประสานไปยังกำนันทั้ง2ตำบลให้แอบซุ่มดูตามลานรับซื้อปาล์มน้ำมัน ว่าคนร้ายจะน้ำปาล์มไปขายหรือไม่ และได้รับแจ้งจากนายณรงค์แสงคง กำนันตำบลท่าอยู่ว่าคนร้ายนำไปขายที่ลานรับซื้อปาล์มตำบลท่าอยู่จริง จึงรีบติดตามไปร่วมจับกุมได้พร้อมของกลาง ซึ่งคนร้ายได้ยอมรับว่าไปขโมยตัดปาล์มของชาวบ้านในตำบลโคกกลอยมาขายจริง พร้อมพาไปชี้จุดที่แอบเข้าไปใช้เคียวตัดผลปาล์ม ซึ่งคนร้ายมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและรับจ้างตัดผลปาล์มด้วย จึงมีความชำนาญในพื้นที่และก่อเหตุอยู่เป็นประจำ

ทางการไทยผลักดันชาวเมียนมากลับ 61 คน ด้านชายแดนแม่สายเชียงราย

ทางการไทยผลักดันชาวเมียนมากลับ 61 คน ด้านชายแดนแม่สายเชียงราย

////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.64 เวลา 09.30 น. นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้มอบหมายให้ นายสันติ อินทนิล หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ TBC ไทย-เมียนมา เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย

เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 ดำเนินการผลักดันผู้ต้องกักสัญชาติเมียนมา ออกนอกราชอาณาจักร จำนวน 61 คน แยกเป็น ชาย 30 คน และหญิง 31 คน ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตามกฎหมายข้อตกลงทั้ง 2 ประเทศ

/////////////////////////////////////////////////////////
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ ////// รายงาน //////////

ตราด ตรวจเข้มโรงงานอุตสาหกรรมพื้นที่ชายแดน

ข่าว-ตราด ตรวจเข้มโรงงานอุตสาหกรรมพื้นที่ชายแดน

ภาพ/ข่าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อําเภอคลองใหญ่ตรวจเข้มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อําเภอคลองใหญ่และพื้นที่ตําบลหาดเล็ก โดยโครงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนพื้นที่ชายแดน
นายจิตเวช แก้วน้อย นายอําเภอคลองใหญ่ ได้มอบหมายให้ นายนฤนัย เกษา ปลัดอําเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอําเภอคลองใหญ่ พร้อมด้วยปลัดอําเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 สถานีตํารวจภูธรคลองใหญ่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการอุตสาหกรรมจังหวัดตราด

โดยมีนายธนกร สงวนพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาและผังเมืองจังหวัดตราด เข้าร่วมลงพื้นที่ตรวจโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อําเภอคลองใหญ่และตําบลหาดเล็ก จํานวน 4 แห่ง พร้อมประชาสัมพันธ์และให้คําแนะนําในการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พร้อมตรวจสอบผู้ประกอบการร้านค้าเพื่อเป็นการวางมาตรการคุมเข้มผู้ประกอบการอย่างเข้มงวด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ประธานควบคุมโรคจังหวัดตราด และให้เป็นไปตามกฏหมายข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดตราด ตามที่คณะกรรมการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ชายแดน

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวผภูมิภาค จ.ตราด

นายอำเภอคลองใหญ่สั่งคุมเข้มชายแดนหาดเล็ก หลังรัฐบาลกัมพูชาประกาศล็อคดาวน์ 8 จังหวัด

ข่าว/นายอำเภอคลองใหญ่สั่งคุมเข้มชายแดนหาดเล็ก หลังรัฐบาลกัมพูชาประกาศล็อคดาวน์ 8 จังหวัด

ภาพ/ข่าว หลังรัฐบาลกัมพูชาประกาศล็อคดาวน์ 8 จังหวัด เป็นเวลา 14 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น ทำให้ภาคการขนส่งด้านชายแดนชะงัก ผู้สื่อข่าวเดินทางมาดูบรรยากาศบริเวณด่านชายแดนบ้านเล็กช่วงสายของวันนี้ พบว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่ รอคิวที่จะเดินทางข้ามไปส่งสินค้ากันเป็นจำนวนมาก แต่ต้องชะลอการเดินทางช้ากว่ากำหนด เนื่องจากทางกัมพูชามีการประกาศล็อคดาวน์ 8 จังหวัด และพื้นที่เกาะกง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับฝั่งบ้านหาดเล็ก เป็นหนึ่งพื้นที่ที่ถูกล็อคดาวน์ ทำให้ทางกัมพูชามีการตรวจการเข้าออกอย่างเข้มข้น
นายมงคล ดอกแก้ว คนขับรถบรรทุกขนส่งที่อยู่ระหว่างการเดินทางไปส่งสินค้ายังประเทศกัมพูชา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้การส่งสินค้าไปทางกัมพูชาค่อนข้างลำบาก เนื่องจากรรถติดยาว เนื่องจากผู้ที่เดินทางเข้าไปส่งสินค้าต้องตรวจโควิด 19 ทุกคน ทุกรอบ โดยเฉพาะขาเข้า จะอนุญาตให้เข้าไปได้เพียงคนเดียว และให้อยู่บนรถจนกว่าจะลงสินค้าเสร็จ ทำให้การขนส่งชะงัก ทั้งการเข้าออก และด้านการจราจรติดขัดอย่างมาก

ด้านนายจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอคลองใหญ่ เปิดเผยว่า เนื่องจากทางกัมพูชาได้มีมาตรการประกาศล็อคดาวน์ 8 จังหวัด เป็นเวลา 14 วัน จะอนุญาตให้เข้า ออกได้เฉพาะการส่งสินค้า สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่กรุงพนมเปญยังสามารถขึ้นเครื่องเดินทางกลับมาได้ เนื่องจากกรุงพนมเปญยังไม่ได้ประกาศปิด สำหรับฝั่งไทยเอง ได้เน้นย้ำไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายความมั่นคงให้เข้มงวดตามแนวชายแดนไม่ให้เดินทางข้ามไปข้ามมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ฝั่งเกาะกงค่อนข้างเยอะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดทั้งฝั่งไทย และฝั่งกัมพูชา โดยชายแดนฝั่งกัมพูชาตามประกาศจะเปิดวันที่ 12 สิงหาคม

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด

ปะทะวิสามัญขบวนลักลอบขนยาเสพติด

อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
ปะทะวิสามัญขบวนลักลอบขนยาเสพติด

31 กรกฏาคม2564
ตามนโยบายรัฐบาลทางพลตรีนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง สั่งการทุกฝ่ายในพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังตรวจพื้นที่ 24 ชั่วโมง ผลัดเปลี่ยนกำลัง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าออกพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด19และยาเสพติดตลอดแรงงานต่างด้าวทางพ.อ.เอกวุฒิ สุขรส ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3
ให้ทางกองบังคับควบคุมฯได้ปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นการปฏิบัติงานชายแดน ให้ร.อ.เจริญศักดิ์ บุตรวงศ์ หัวหน้าฝ่ายยุทธการกองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาค3 จัดชุดปฏิบัติงานเข้าลาดตระเวนชายแดนทุกช่องทางและทางร.อ เผด็จ ชัยฤทธิ์ ผบ ร้อย ทพ 3306 นำทีมในพื้นที่รับผิดชอบ

จึงจัด กำลังเพื่อทำการผลักดัน ในเวลา1700น วันที่30กรกฏาคม 2564 หลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จึงได้จัดกำลัง จาก ร้อย.ทพ.3306 จำนวน 1 ชป. ทำการ ลว.พิสูจน์ทราบ บริเวณ ช่องทางคอกวัวใหม่ บ้านนามะอื้น ต.แม่อาย อ.แม่อาย จว.ช.ม. ซึ่งในเวลา 1730 น ระหว่างทำการ ลาดตระเวนตรวจพบกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ประมาณ 4 – 5 คน พร้อมอาวุธไม่ทราบชนิด จนท.จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็น จนท. จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนท.และเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ผลการปฏิบัติ ฝ่ายเราปลอดภัย จากการตรวจสอบพบกลุ่มขบวนการเสียชีวิต 1 คน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก, ปลอกกระสุน AK-47 จำนวน 3 นัด และพบเป้กระสอบดัดแปลง จำนวน 2 เป้ ข้างในเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 100,000 เม็ด ปัจจุบันหน่วยได้จัดกองหนุนเข้าควบคุมบริเวณพื้นที่ และติดตามส่วนที่หนี คาดว่าจะหนีออกนอกประเทศเพราะพื้นที่ปะทะติดชายแดนห่างจากตะเข็บเพียง3กิโลเมตรเป็นประเทศพม่า แจ้งเหตุให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบพร้อมพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อายมาตรวจจุดเกิดเหตุพร้อมนำยาบ้าและอาวุธปืนไปดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว

นครนายก บริษัท ซุนเซ้งฟาร์ม จำกัด บริษัท ฮินโนเฟรช จำกัดและบริษัท ไอแคร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์

นครนายก บริษัท ซุนเซ้งฟาร์ม จำกัด บริษัท ฮินโนเฟรช จำกัดและบริษัท ไอแคร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์

บริษัท ซุนเซ้งฟาร์ม จำกัด บริษัท ฮินโนเฟรช จำกัดและบริษัท ไอแคร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยนายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมสามัคคีบ้านนา พร้อมครอบครัว มอบเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ฯ (Portable X-Ray) อุปกรณ์ทางการแพทย์ มูลค่า 2,900,000 บาท (สองล้านเก้าแสนบาท) รวมแผ่นรับแสงดิจิตอล ให้กับโรงพยาบาลบ้านนา โดยมีนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นางสุวัจจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครนายก นายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นางอรรัตน์ จันทร์เพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครนายก นายแพทย์สุวรรณ เพ็ชร์รุ่ง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครนายก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านนา นายจักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก

นายวิชัย บุญมี นายอำเภอเมืองนครนายก นางวจิราพร อมาตยกุล นายอำเภอบ้านนา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมพิธีรับมอบ ณ อาคารอึ้งฮวด โรงพยาบาลบ้านนา ทั้งนี้เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสนามต่อไป ด้านการสนับสนุนภาคประชาชนต่างนำน้ำดื่ม ผลไม้ ข้าวสารและของใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย มอบให้กับทางโรงพยาบาล ผ่านนายแพทย์สุวรรณ เพ็ชร์รุ่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านนา ส่วนการตรวจโรคโควิด-19 ภายในโรงพยาบาลบ้านนา ก็มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าตรวจโรคและฉีดวัคซีน กันอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกตลอดเวลา ก็ขอให้ทุกคนได้ดูแลตนเองสวมหน้ากาอนามัยและหมั่นล้างมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว

เนรมิต มงคลกิตติกานต์
รัชชานนท์ เนินใหม่
ข่าวจังหวัดนครนายก

รายงานประชาชน โดย ส.ว.พลเดช (ฉบับที่ 84) “ก้าวข้ามความแตกแยก ข้อเสนอจากงานวิจัย”

รายงานประชาชน โดย ส.ว.พลเดช (ฉบับที่ 84) “ก้าวข้ามความแตกแยก ข้อเสนอจากงานวิจัย”

เมื่อกลางปี 2563 คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้จัดตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งขึ้นมาทำการศึกษาพิจารณา “โครงการประมวลข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ปรองดองสมานฉันท์”

ประเด็นนี้ นอกจากมีสถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกทางสังคมอันเนื่องมาจากการต่อสู้ระหว่างขั้วการเมืองที่เป็นปัญหาเรื้อรังเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2549 แล้ว ยังเป็นประเด็นที่สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ในประเด็นที่ 2 “กลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย”

คณะกรรมาธิการฯเห็นพ้องกันว่า เพื่อให้การพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความต่อเนื่อง ยั่งยืน และเกิดเสถียรภาพทางการเมือง จึงมีความจำเป็นที่ต้องทำให้ประชาชนมีความรู้รัก-สามัคคี-ปรองดอง อยู่ร่วมกันโดยสันติ ยอมรับและเคารพในความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันโดยสุจริต

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป / 30 ก.ค. 2564

อ่านรายละเอียด

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com